ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๔๐๓ - ความงาม ความสุขที่ปิดทับ...?





หากพูดถึงเรื่องความงาม คาดเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่ ก็ใครเล่าจะชอบสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความงาม คนทั้งหลายย่อมชอบในความงามด้วยกันทั้งนั้น ความงามนี้ อาจจะเป็นความงามของธรรมชาติรอบ ๆ ตัวก็ได้ หรือเป็นความงามของการใช้ชีวิตคู่ หรือมีความรู้สึกดี ประทับใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็สามารถเรียกสิ่งนั้นได้ว่า มีความงามในสายตาของเรา

บางครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่า ทุกคนปรารถนาสิ่งสวยงามเหมือนกันหมด ถ้าอย่างนั้นความงามที่ทุกคนต้องการมันจะเรียกว่าเป็นความงามในระดับสากลได้หรือเปล่า เพราะเป็นสิ่งที่สามารถรับรู้ เข้าใจได้ มีความปรารถนาตรงกันไม่ว่าชาติใดภาษาใด ก็ย่อมถูกเรียกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของสากล

เคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมผู้ชายเราต้องมองผู้หญิงและมองหาความงาม ผ่านรูปร่าง หน้าตา(ผู้หญิงก็อาจจะมองผู้ชายที่หน้าตา รูปร่าง เป็นลำดับแรกก่อนเช่นกัน) มันคล้ายกับว่า เราต่างถูกโปรแกรมให้มีความรู้สึกแบบนั้น แล้วอะไรเป็นตัวกระตุ้นและสอนให้เราคิดอย่างนั้น คำตอบมันอาจจะเป็นวิวัฒนาการทางธรรมชาติ ที่ทำให้เราต้องรู้สึก และมีอารมณ์เอนเอียงไปทางกามเมถุนและการแสวงหาคู่ครอง เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่า

“มรดกทางพันธุกรรมและการวิวัฒนาการ”


ธรรมชาติไม่อาจจะปล่อยให้มนุษย์หรือสัตว์ ต้องอับจนหนทางสูญพันธุ์ไปโดยง่าย มันจะต้องรักษาสิ่งที่เรียกว่าการสืบต่อเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุดเอาไว้ เพราะธรรมชาตินั้นลงทุนลงแรงกับสิ่งมีชีวิตไปไม่น้อย มันจึงต้องมีเครื่องมือบางอย่าง เอาไว้เป็นหลักประกันว่า สัตว์ทั้งหลายจะไม่สูญพันธุ์ เหตุเพราะเหตุผลง่าย ๆ คือ ขี้เกียจ หรือมีความทุกข์ในการผสมพันธุ์ ธรรมชาติจึงรังสรรค์สิ่งตอบแทนเล็กน้อย นั่นคือ อารมณ์แห่งความสุขในขณะผสมพันธุ์ มันเป็นลักษณะเดียวกันทั้งคนและสัตว์ ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของธรรมชาติ ที่ปิดบังซ่อนความทุกข์มหาศาลไว้ภายหลัง ชนิดที่แนบเนียนและไร้ที่ติ ความสำเร็จนี้เห็นได้อย่างชัดเจนคือ การกำเนิดสิ่งมีชีวิตมากมายหลายสายพันธุ์บนโลก โดยอาศัยปัจจัยทางพื้นฐานอย่างเดียวกัน สิ่งหลอกล่อคล้าย ๆ กัน ธรรมชาติดำเนินเกมแห่งชีวิตนี้ไปอย่างเงียบ ๆ ช้า ๆ มนุษย์และสัตว์เดรัจฉาน เป็นผู้เดินตามเกมนั้นโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าในปัจจุบัน โลกของเราจะก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปมากเพียงใดก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าโลกที่มันพัฒนาไปเช่นนี้ บางครั้งอาจจะเป็นความจงใจของธรรมชาติ ที่ต้องการคัดสายพันธุ์แบบใหม่ สิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวไม่ได้ก็จะค่อย ๆ สูญพันธุ์ไป เพราะมนุษย์เริ่มเข้ายึดพื้นที่ของสัตว์ที่อยู่แหล่งกำเนิดเดิม แต่ถึงอย่างนั้นธรรมชาติแห่งการแสวงหาคู่ของมนุษย์ก็ยังไม่ถูกทำลาย และนับวันก็ยิ่งซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกอะไรที่ประชากรของโลกจะเพิ่มมากขึ้นทุกวินาที

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา สัตว์ทั้งหลายรวมทั้งมนุษย์อาจจะมองเห็นความงามบางสิ่งบางอย่าง จากเพศที่อยู่ตรงข้ามและการโหยหาการดำรงเผ่าพันธุ์ ลักษณะนี้เป็นลักษณะที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษของเรามาเนิ่นนาน

แต่หากเราลองคิดอีกที ในมุมกลับกัน หากเราสามารถดิ้นหลุดพ้นจากกรอบของการครอบงำจากอำนาจความอยากพื้นฐานที่มีผลมาจากวิวัฒนาการได้ ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร

ความสุขขั้นพื้นฐานที่ธรรมชาติรังสรรค์มันจะยังมีอยู่ไหม หรือว่าเราอาจจะค้นพบความสุขแบบใหม่ ซึ่งมีน้อยคนจะสามารถสัมผัสได้


มันคล้าย ๆ กับปูนาตัวหนึ่งพยายามยกกำแพงบ้านที่ล้มทับตัวของมันอยู่ กำแพงทั้งใหญ่และหนักอึ้ง เกินกว่ากำลังของปูตัวนั้น มีอะไรบางอย่างกระซิบบอกมันว่า

“ปูน้อย แกไม่มีทางยกกำแพงใหญ่ขนาดนั้นได้หรอก แกต้องขุดรูสิ ขุดหาทางออกไป...”

ปูนาก็ขุดรูไป ขุดไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่พบทางออก เพราะมันไม่รู้ทิศทาง ขุดไปขุดมา ก็วนกลับมาทางเดิม วันหนึ่งมันก็ขุดไปเจอปูนาด้วยกัน ซึ่งเป็นเพศตรงข้าม แล้วก็ได้แต่งงานกัน จนออกลูกหลานมามากมาย และก่อนปูตัวนั้นจะตาย ได้สั่งเสียบอกกับลูกหลานของมันว่า

“ลูก ๆ หลาน ๆ ของฉัน พวกเราถูกขังไว้ใต้กำแพง พวกเจ้าจงหาทางออกไป... ” ลูกหลานปู มันไม่เคยเห็นโลกภายนอก ไม่เคยเห็นกำแพง มันก็จินตนาการไม่ออก ทำได้เพียงทำตามคำสั่งสอนของพ่อแม่คือ ขุด ๆ แล้วก็เป็นอยู่อย่างนั้นหลายชั่วอายุปู จนกระทั่งเรื่องราวของโลกภายนอกและกำแพงที่ปิดทับจางหายไปตามกาลเวลา บรรดาปูก็สืบสายพันธุ์อยู่ใต้ดินเป็นอยู่อย่างนั้น จนคิดว่าโลกของมันมีเพียงเท่านั้น ความสุขและความงดงามที่พวกปูนารุ่นหลานได้รับได้ เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งที่อยู่ภายใต้กรอบของกำแพงที่ปิดทับ แผ่นนั้น...นั่นเอง

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.sciencephoto.comมากมาย ครับ

สารบัญ




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2555 10:19:07 น. 10 comments
Counter : 643 Pageviews.

 
สวัสดีครับ ทักทาย







โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:12:01:01 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะ
หลายๆคนติดกับความงาม ...หากหมั่นเจริญอสุภะกรรมฐาน ก็จะเห็นว่าความงามนั้นไม่เที่ยง...
Have a nice day ka!


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:02:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส
สิ่งแรกที่ทำให้คนมองคือความงาม
แต่ความงามนั้นไม่มั่นคง อีกหน่อยก็คงร่วงโรยไปตามวัยนะคะ

อาทิตย์นี้มาเที่ยวบางแสน

มีเต้าส่วนปาท่องโก๋หน้า ม.บูรพามาฝาก เคยทานไหมคะ



โดย: pantawan วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:23:13:43 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ

แล้วเราก็ค้นหาความงามกันต่อไป
เพื่อจะพบความไม่งามตามความเป็นจริง

แต่ที่สุดแล้ว
ทั้งงามและไม่งาม
ก็ไม่จริงเลยแม้แต่ิอย่างเดียว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:5:56:27 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ : )


โดย: เจ้าหญิงแห่งความเหงา วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:49:26 น.  

 
สวัสดีค่ะ ว่าจัแวะมาหลายรอบแล้ว
เพิ่งได้มา อิอิ


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:18:59 น.  

 
จงงดงาม..ที่ใจ..ใช่หน้าตา
ผู้เกิดมา..เป็นคน..อันวนวุ่น
งามในศีล..ในธรรม..ไว้ค้ำจุน
ไว้ให้คุณ..อยู่ได้..ในสังคม
ทุกศาสนา..สอนให้..ใจงดงาม
ทั้งพุทธคริสต์..อิสลาม..อยู่ร่วมได้
ผู้คิดต่าง..อย่างหนา..น่าเสียดาย
ใช้ความตาย..แก้ปัญหา..เข่นฆ่ากัน


โดย: เฒ่าจอย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:3:14:13 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:01:20 น.  

 
ทักทายค่ะคุณอัสติสะ

เข้ามาอ่านเรื่อง..ความงาม และ ..นิทานของปูนาค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:42:40 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:10:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.