ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๐๙๐-ให้คุณค่า…อย่างรู้ค่า



ปีที่ผ่านมาข้าพเจ้าซื้อทองคำเส้นแรกของชีวิต ช่วงนั้นทองคำรูปพรรณกำลังขึ้นราคา แต่ก็ต้องซื้อเพราะคิดว่า ทองคำน่าจะเป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษของข้าพเจ้าได้ดีที่สุด โดยปกติแล้ว ข้าพเจ้าไม่ชอบใส่เครื่องประดับทุกชนิด ยกเว้นนาฬิกา แม้แต่สร้อยพระก็ใส่ได้ไม่เกิน ๔ – ๕ เดือน และต้องเลิกใส่เพราะรู้สึกอึดอัดมากกว่าที่จะให้ท่านคุ้มครอง

อีกเหตุผลหนึ่งคือการศึกษาและปฏิบัติธรรมมาได้ระยะหนึ่ง จึงได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พระแท้จริงอยู่ที่ไหน อะไรคือพุทธแท้และอะไรคือพุทธเทียม แล้วจึงวางใจ น้อมนำพระพุทธเจ้า คำสั่งสอนของพระองค์มาใส่ไว้ในจิตใจ และระลึกถึงพระพุทธองค์อยู่เสมอ ทุก ๆ วัน ทุก ๆ ลมหายใจ จนในที่สุดก็รู้ว่า พระเครื่อง ของขลัง ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับข้าพเจ้าอีกต่อไป จึงได้ถอดเก็บไว้และไม่ได้ใส่อีกเลย จนถึงปัจจุบัน

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นวัตถุนั้น มันมีค่ามีราคาเพราะอะไร เพราะว่าเราไปใส่ใจให้ความสำคัญกับมันใช่หรือไม่ อย่างเช่น เพชรกับก้อนหิน ทั้งสองอย่างเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นสสารที่มีคุณสมบัติเป็นของแข็งเหมือนกัน แต่คนให้ความสำคัญกับเพชรมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่สวยงาม หาได้ยาก และมีความทนทาน แข็งแกร่งมากกว่าหินหลายพันเท่า

แต่หากพิจารณาต่อไปว่า ถ้าโลกนี้มีเพชรอยู่จำนวนมากมาย แต่ก้อนหินมีจำนวนน้อยกว่าและหาได้ยากกว่า คนก็คงชื่นชมและให้ราคาก้อนหินมากกว่าเพชรจริงมั้ย…

เราต่างคิดว่าตัวเองเป็นผู้ฉลาด เป็นผู้ที่ครองครองโลกทั้งหมด แต่สุดท้ายจุดจบของมนุษย์ก็ต้องประสบหายนะจากความโลภ ความแก่งแย่งชิงดีกันอย่างแน่นอน

ถ้าหากเราเอาก้อนกรวดผสมกับเพชร เม็ดขนาดเท่าๆ กัน จากนั้นก็นำไปเทลงบนพื้นดิน หาแม่ไก่สักตัวมาทดสอบดูว่า ก้อนหินกับเพชรที่เีจียระไนแล้ว มันจะเลือกอะไร

ข้าพเจ้าเชื่อว่า ตามสัญชาติญาณของสัตว์ประเภทไก่ มันจะเลือกกลืนก้อนกรวด และเขี่ยเพชรที่มนุษย์ชื่นชมนั้นทิ้งไป เหตุผลคือก้อนกรวดนั้นมีประโยชน์ในการบดอาหาร ในกระเพาะของไก่ แต่เพชรมีลักษณะแหลมคม เป็นอันตรายต่อกระเพราะของมันมากกว่าจะมีประโยชน์

คุณอาจจะมองและดูถูกว่า ไก่ตัวนี้โง่จริงหนอ ขนาดเพชรมีราคาหลักแสน มันยังเขี่ยทิ้ง ช่างไม่รู้คุณค่าอะไรเลย

แต่ข้าพเจ้าคิดว่า แม่ไก่มันมีสัญชาติญาณของการเอาชีวิตรอด มันรู้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อชีวิตของมัน มันสามารถแยกแยะได้โดยไม่ลังเล แม้วัตถุนั้นจะมีค่ามากแค่ไหน ผิดกับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ให้ค่าให้ราคา แก่งแย่ง ฆ่ากันตาย เพียงเพราะต้องการสิ่งที่สัตว์เดรัจฉานนั้นเขี่ยทิ้ง

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะหันกลับมามอง และพิจารณากันใหม่ ให้เห็นคุณค่าของตัวเราเอง นั่นคือ จิตใจที่ดีงาม การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เมตตาต่อกัน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ สำหรับสัตว์ที่เรียกตัวเองว่า ‘มนุษย์’ หาใช่วัตถุที่เราทั้งหลายสร้างราคาหลอกกันขึ้นมา แล้วแก่งแย่ง ชิง รบรากัน เพื่อครอบครองสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสาร สุดท้ายผู้ที่มีความโลภมาก ๆ ก็จะไม่ต่างอะไรกับแม่ไก่ ที่เขี่ยก้อนหินทิ้งและกลืนกินเพชรแทน หวังเพื่อว่ามันจะช่วยบดอาหารได้ดีกว่าก้อนกรวด ในที่สุดกระเพาะของมันต้องฉีกขาด เพราะฤทธิ์ความแหลมคมของเพชรนั่นเอง





Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2551 20:25:12 น. 3 comments
Counter : 676 Pageviews.

 
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:18:20 น.  

 
อ่านเเล้วก็ได้ข้อคิดที่ดีๆมากมาย

เพชรเเละก้อนหิน มนุษย์ให้ความสนใจไม่ใช่เพราะหายากมากกว่าก้อนหิน หรือถ้าก้อนหินมาน้อยคนอาจไปสนใจก้อนหิน

มนุษย์มีสัญชาติญาณเเยกความสำคัญ เพชรเมื่อเจรนัยออกมาจะได้เเววหักเเต่ละมุมที่สวยงดงามซึ่งผิดเเปลกจากก้อนหิน

เราไปใส่ใจให้ความสำคัญ เเก่งเเย่งเพื่อได้มาเป็นเจ้าของ เธอมีฉันต้องมี ถ้าสละได้ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนขนขวาย ก็จะมีความสุขโดยไม่ต้องให้ใครเดือดร้อน


โดย: * ยูกะ * (YUCCA ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:39:38 น.  

 
ก้อนหินที่ลายสวยๆ
สำหรับผม
ผมว่าสวยกว่าความแวววาวของเพชรนะครับ



โดย: กะก๋า ฮา 3 สายสะพาย (กะว่าก๋า ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:01:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.