ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๐๗๓-ผีเสื้อ…กับความงาม




แสงแดดอ่อน ๆ ยามเย็น สาดส่องผ่านปุยเมฆมากระทบ ทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม ในช่วงปลายฤดูฝนปีหนึ่ง อุณหภูมิของอากาศกำลังลดลง พร้อม ๆ กับ พระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าเร็วกว่าปกติ เป็นสัญญาณที่บอกถึงฤดูหนาวกำลังเข้ามาแทนที่

เวลาช่วงกลางวันนั้นเริ่มสั้นลง สลับกับกลางคืนที่ยาวนานขึ้น นี้คงเป็นการสอนของธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้รู้ว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้ แน่นอน ยืนยาวไปได้ เมื่อมีร้อน ก็มีหนาว มีสุข มีทุกข์ มีกลางวัน กลางคืน สลับกันไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ผีเสื้อตัวน้อย ๆ กำลังโบยบินดูดดื่มน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ดอกแล้วดอกเล่า มันชื่นชมกับน้ำหวาน ไม่ต่างอะไรกับคนเราที่ติดข้องอยู่กับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ปีกที่มีสีสันสวยงาม ดูสะดุดตา เป็นการบรรจงสร้างสรรค์ของธรรมชาติ ให้มาหลอกล่อคู่ตรงข้ามให้มาติดกับได้อย่างไม่ยากเย็น

“นั่นไง ตัวนั้นแหละ…” เด็กน้อยผู้ถือตาข่ายวงใหญ่พูดขึ้น
“ไม่เอา ๆ ตัวนี้สวยกว่า” เด็กอีกคนหนึ่งซึ่งตัวเล็กกว่าคัดค้าน
“พี่ว่าเราจับทั้งสองตัวเลยดีมั้ย…”
“ดีครับพี่่…ไปกันเลย”

ความงามนั้นเป็นที่ต้องตาสะดุดใจแก่ผู้พบเห็นเสมอ มันอันตรายมากแค่ไหน เคยรู้กันบ้างไหม มีผีเสื้อสีสวยมากมายเท่าไหร่ ที่ต้องจบวงจรชีวิตลง และต้องย้ายซากตัวเองไปอยู่ในกรอบรูป ถูกประดับติดอยู่กับหมู่บ้านเมืองของมนุษย์

ผู้หญิงที่สวยงามก็ไม่แตกต่างอะไรกับผีเสื้อตัวนั้น ที่ผู้ชายหลายต่อหลายคนต่างจ้องหา อยากเป็นเจ้าของหัวใจและร่างกาย ซึ่งบางครั้งมันก็มาพร้อมกับอันตรายที่คาดไม่ถึงอย่างที่กล่าวมา…

หากเราย้อนมองดูและคิดกันสักนิด เราจะหาประโยชน์อะไรได้บ้างจากความงามนั้น แน่นอนว่าเราไม่อาจจะฝืนธรรมชาติที่ต้องการให้มนุษย์ดำรงเผ่าพันธุ์ และติดข้องอยู่ในสัมผัสที่ชอบใจทั้งหลายได้

แต่หากความสวยงามนั้นมันไม่ได้อยู่ในขอบเขตแห่งศีลธรรม อันตรายมันจะตามมาหาตัวเราได้ง่าย ๆ มีหลายต่อหลายคนที่จบชีวิตลงเพราะความงามเป็นเหตุ การแย่งคู่รัก ความหึงหวง ความอิจฉา ริษยาต่อกัน
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะต้องทำความรู้จักความสวยงามให้มากขึ้น รู้จักใช้ความสวยให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ต่อตนเองและส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อแต่งตัวอวดโฉมกัน

ไม่อย่างนั้นแล้ว สุดท้ายก็จะมีจุดจบ เหมือนกับผีเสื้อที่เด็กสองคนนั้นจับไปประดับฝาผนังบ้าน… (อย่างนั้น)




Create Date : 03 ตุลาคม 2551
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 8:10:47 น. 4 comments
Counter : 2364 Pageviews.

 
โบราณว่า

ชายเหมือนข้าวสาร เก็บไว้ได้นานกว่าจะอับเฉา

หญิงเหมือนข้าวสุก เก็บไว้ได้เพียงไม่นานรอวันเน่าเสีย

หากเพื่อนหญิงผ่านมาอ่านบทความนี้ คงต้องเก็บไปคิดพิจารณาเป็นพิเศษ

สำหรับชายก็คงต้องพึงระวังไม่ให้หลงใหลในความงามของอิสสตรีมากเกินไป

ขอบคุณมากครับ ให้แง่คิดดีจริงๆ


โดย: ตั้งสติ วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:10:46:52 น.  

 
ในฐานนะที่เป็นญ.จริงๆก็อยากให้ช.มองความสวยงามที่เห็นภายนอก ชื่นชมเพียงเพราะนี่คือความสวยงามไม่อยากให้หลงไหลเพราะสิ่งต่างต่างเหล่านั้น ความงดงามรูปลักษณ์ไม่คงที่แปรเปลี่ยนไปตามวันและเวลา แต่เพราะความสวยงามนี่แหละทำให้ใครหลงผิด เมามัว ดาบสองคม/เหรียญสองด้าน .. ความงดงามของญ.และช.มันมีมากกว่าการสัมผัสได้ด้วยตา อยู่ที่คนเราจะมองมุมไหน ซึ่งแตกต่างกันและเชื่อว่าทุกคนก็มีความงดงามที่มีคุณค่า


โดย: Nissan_n วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:11:56:36 น.  

 
ลงชื่อ ครับ

ที่กล่าวมาเป็นจริงทุกอย่างครับ


โดย: penguinsound วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:12:28:41 น.  

 
ความสวยจะทำให้เราอยากกอดใครสักคน
แต่ความดีงามจะทำให้เราอยากกอดผู้หญิงคนนั้น
ไปตลอดชีวิต



โดย: กะว่าก๋๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:7:57:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.