|
๑๔๔-โรงงาน Recycle
คุณคงเคยกินน้ำอัดลมที่บรรจอยู่ในขวดแก้วกันใช่ไหม และเคยคิดไหมว่าเมื่อเราทิ้งขวดแก้วใบนั้นแล้ว มันต้องเดินทางไปที่ไหนอีก แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คุณคิดได้ก็คือ การนำไป recycle เพื่อลดจำนวนขยะนั่นเอง ใช่ไหม
แต่พวกเราเคยคิดกันบ้างไหมว่า ชีวิตของเราก็ไม่ต่างอะไรกับขวดน้ำอัดลมใบนั้น เมื่อตอนเราเกิด หรืออยู่ในวัยเด็ก โลกทั้งโลกยังสดใสบริสุทธิ์ไม่ต่างอะไรกับขวดน้ำที่บรรจุน้ำอัดลมพร้อมดื่ม แต่เมื่อเติบโตขึ้นมา ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านชีวิต การเรียนรู้โลก การทำงาน การแต่งงาน ฯลฯ ก็ทำให้ขวดแก้วที่ความบริสุทธิ์ ต้องสกปรกหมองลงทุกที หากยิ่งมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำอกุศลด้วยแล้ว ขวดแก้วนี้ก็จะหมอง สกปรกมากขึ้น โดยอกุศลที่ทำให้ขวดแก้วใบนี้หมองส่วนมากก็มาจาก โลภะ โทสะ โมหะ นั่นเองเป็นการสำคัญ
และวันหนึ่งขวดแก้วนั้นก็ต้องถูกทอดทิ้งลง เพราะมันหมดค่าหมดความหมาย น้ำอัดลมที่เคยเป็นเหมือนเพื่อนสนิทไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไป ขวดแก้วถูกปล่อยทิ้งลงในถังขยะ ถูกความสกปรกจากสิ่งแวดล้อมปกคลุม ทำให้มันแทบจำตัวเองไม่ได้
การที่จะทำให้ขวดแก้วใบนั้นกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า recycle เป็นกระบวนการที่ออกทารุณสักหน่อยสำหรับขวดแก้ว เพราะมันต้องผ่านน้ำร้อน ผ่านน้ำเย็น ผ่านการอบ ผ่านการหลอม ผ่านการฆ่าเชื้อใหม่ จนกว่าจะทำให้ขวดแก้วใบนั้นกลับมาบริสุทธิ์เหมือนเดิม
มาถึงตอนนี้คุณอาจจะพอนึกออกบ้าง ว่าทำไมข้าพเจ้าจึงเปรียบชีวิตเราเหมือนกับขวดแก้วน้ำอัดลม
ทุกครั้งที่จิตเราประกอบด้วยอารมณ์ของอกุศลกรรม(ขอมองในแง่อกุศลก่อน) จิตมันจะบันทึกหรือจดจำความรู้สึกทางอารมณ์นั้นไว้ เหมือนกับขวดแก้วที่ตกลงไปในถังขยะ ทิ้งไปนานวันก็จะสกปรก เช่นเดียวกับขยะที่อยู่ในถังใบนั้น การที่จะสลายอกุศลกรรมเพื่อให้จิตนี้กลับมาบริสุทธิ์เช่นเดิมก็ต้องผ่านโรงงานแห่งหนึ่ง มีชื่อเรียกทางพุทธศาสนาว่า นรก ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการ recycle จิตของเหล่าสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์ ด้วยวิธีการทารุณอย่างแสนสาหัส ด้วยความร้อน และการลงทัณฑ์ที่หนักเบาตามปริมาณของอกุศลกรรมนั้น ๆ เพื่อรักษาสมดุลให้จิตของสัตว์นั้น ให้สามารถเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสารนี้ได้อีกต่อไป เป็นดุลของธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีสอนหรือมีการเสนอเป็นตัวอย่างในชีวิตประจำวัน
ดังนั้นหากแต่เราขาดการพิจารณา และไม่อาจน้อมใจเข้าหาธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ เราก็จะต้องเป็นขวดที่ต้องผ่านการ recycle ต่อไปอีก อย่างไม่มีวันจบสิ้น...
Create Date : 03 เมษายน 2552 |
Last Update : 3 เมษายน 2552 8:04:57 น. |
|
12 comments
|
Counter : 594 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:8:11:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:10:30:21 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:11:45:39 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:12:17:53 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:13:20:12 น. |
|
|
|
โดย: พี่ Beee เองจ้า (Beee_bu ) วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:13:50:41 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:20:03:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:8:11:58 น. |
|
|
|
โดย: yoja วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:13:16:50 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 เมษายน 2552 เวลา:21:59:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 เมษายน 2552 เวลา:7:51:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:8:06:25 น. |
|
|
|
| |
|
|
เห็นด้วยกับบทความวันนี้เลยครับ
นึกถึงคำำว่า ๐"วัฏฏะสงสาร" ขึ้นมาในทันใด