ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๙๐ - การเผชิญหน้า (ตอนที่ ๑)




ชายนักเดินทางยังคงเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะถึงจุดหมายปลายทางเมื่อไหร่ ทุกครั้งที่เขาเร่งการเดินทางก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนยิ่งเหนื่อยล้ามากขึ้น เขาตัดสินใจหยุดพักอีกครั้งที่ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ด้วยความร่มรื่นของเงาไม้นั้นทำให้เขาอยากนอนหลับ ณ ที่แห่งนี้ไปนาน ๆ แต่ในขณะที่เขากำลังจะเอนตัวลงนอน ก็พลันมองไปเห็นนกป่าสองตัว เกาะเคียงคู่สนทนากันตามประสานก น่าประหลาดใจที่ถ้อยเสียงของนกสองตัวนั้นพูดกัน มันมีสำเนียงเสียงของภาษามนุษย์ปนอยู่ด้วย ชายนักเดินทางพยายามตั้งใจฟังนกสองตัวนั้นสนทนากัน

“นี่เธอ ดูมนุษย์หน้าตาซื่อ ๆ รูปร่างโทรม ๆ อยู่ใต้ตนไม้ที่เราเกาะนี่ซิ” นกตัวเมียซึ่งมีขนาดของลำตัวเล็กกว่าพูดขึ้น
“ทำไมเหรอ มนุษย์ผู้นี้มีอะไรที่ประหลาดนัก เขาอาจจะเดินทางมาอย่างเหนื่อยล้าก็เป็นไปได้ ” นกตัวผู้พูด
“แหม เธอนี่ก็...ชายป่าแทบนี้ เป็นป่าดิบ นอกจากสัตว์ป่าอย่างพวกเราแล้ว ก็ไม่มีมนุษย์ที่ไหนจะผ่าน หรืออาศัยอยู่ได้นะ ฉันว่าเขาแปลกมากที่สามารถผ่านมาถึงที่นี่ได้ ”

“อืม นั่นสิเนอะ ที่แห่งนี้เป็นที่ที่มนุษย์ไม่ควรจะอยู่ได้นาน เรามาพนันกันไหมว่าชายคนนี้ จะพักอยู่พ้นคืนนี้ไปหรือเปล่า ” นกตัวผู้ท้าพนัน

“ฉันว่าไม่พ้นคืนพรุ่งนี้ เป็นแน่...” นกตัวเมียพูด
“ฉันว่าเขาไม่น่านจะผ่านคืนนี้ไปได้ด้วยซ้ำ...คริก ๆ ๆ ” นกตัวผู้มั่นใจ แล้วนกทั้งสองตัวก็พากันหัวเราะคิกคัก ตามสำเนียงภาษานก แล้วก็บินจากไป

ชายนักเดินทางรู้สึกหวิวใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ยินเสียงของนกสนทนากัน นี่มันอะไรกัน ในป่าดิบลึกขนาดนี้ ย่อมมีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นได้เสมอ นกสองตัวนั้น รู้ภาษามนุษย์หรือเขาเหนื่อยเพลียมากเกินไป จนฟังอะไรเพี้ยนไปหมด หากทว่านกสองตัวนั้นพูดเป็นความจริง สถานที่แห่งนี้คงไม่เป็นที่ที่ปลอดภัยนัก เคยได้ยินมาว่าคนที่กำลังใกล้ตาย หรือมีภัยมักมีลางบอกเหตุ หรือ สามารถมองเห็นหรือได้ยินในสิ่งที่มนุษย์คนอื่นสัมผัสไม่ได้

แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเขาได้ผ่านเรื่องราว เฉียดตายมาอย่างมากมาย อีกทั้งก็เคยตายแล้วฟื้นมาแล้วด้วย ดังนั้นความตายอีกครั้งเบื้องหน้าจึงดูไม่ค่อยน่ากลัวสำหรับเขาเท่าไหร่

แสงอาทิตย์พลันลับหายไปจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ความมืดคลืบคลานเข้ามาปกคลุมผืนป่าแทน มีเสียงของสัตว์กลางคืนร้องดังแว่วเป็นระยะฟังดูแล้วน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง อากาศรอบ ๆ เริ่มร้อนและอบอ้าวมาก แม้เพียงสายลมเพียงน้อยนิด ก็ไม่มีพัดมาให้สัมผัสกาย

เสียงของสัตว์กลางคืนร้องโหยหวน กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งดั่งใกล้เข้ามา ในเวลานี้เขาไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าเสียงนั้นเป็นของสัตว์ประเภทใดกันแน่ อาจจะเป็นเสียงของสัตว์ที่กำลังถูกล่าก็เป็นไปได้

ชายนักเดินทางซึ่งเตรียมรับกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอยู่แล้ว เขาเรียนรู้ว่าบนต้นไม้นั้น เป็นที่ที่ปลอดภัยระดับหนึ่ง เขาจึงปีนขึ้นมาสังเกตุการณ์ตั่งแต่ตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ไม่นานนักเจ้าของเสียงกรีดร้องก็ค่อย ๆ เงียบลง พร้อม ๆ กับบรรยากาศที่เงียบอีกครั้ง

ชายนักเดินทางมองหา ต้นเหตุของเสียงอย่างจดจ่อ เมฆก้อนดำที่บดบังดวงจันทร์ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป ทำให้แสงจันทร์ทอแสงออกมาให้เห็นผืนป่าในช่วงกลางคืนได้บ้าง ในขณะนั้นเองชายนักเดินทางก็พลันสังเกตุเห็นดวงไฟสีแดงสองดวง กำลังเคลื่อนไหวไปมาไม่ห่างจากต้นไม้ที่เขาอาศัยอยู่นัก มันคล้ายกับดวงตาของสัตว์ที่กระหายเลือด เขาไม่เคยเห็นดวงตาของสัตว์ที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ต้นไม้รอบ ๆ ดวงตานั้นไหวเอน ชี้ให้เห็นขนาดของสัตว์ตัวนั้นว่ามีกำลังมากเพียงใด

แสงจันทร์สะท้อนผิวหนังของสัตว์ประหลาดตัวนั้นเป็นมันวาว ชี้ให้เห็นว่าผิวหนังของมันประกอบไปด้วยเกร็ดของสัตว์เลื้อยคลาน มีลำตัวเป็นงูขนาดใหญ่เท่ากับต้นตาลขนาดสองต้นรวมกัน ความยาวนั้นไม่น่าต่ำกว่าหนึ่งร้อยเมตร ชายนักเดินทางเห็นดังนั้นถึงกับขนพองสยองเกล้า ตั่งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นงูที่มีขนาดลำตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ลมหายใจของเขาแทบจะหยุดการเคลื่อนไหวทันที เมื่อรู้ว่ามันกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ต้นไม้ที่เขาปีนอยู่



หัวของเจ้าสัตว์เลื้อยคลานนั้นมีขนาดใหญ่กว่าลำตัวเพียงเล็กน้อย ในท้องบวมเป่ง บกบอกถึงอาหารที่มันเพิ่งกินเข้าไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ดวงตาที่แดงก่ำนั้น มันมีอำนาจมากพอที่จะสะกดสัตว์ทั้งหลาย ให้หยุดเคลื่อนไหวเมื่อต้องประเชิญหน้ากับมันโดยตรง

"ท่าทางเจ้าสัตว์นี้คงกินอาหารไม่เลือกแน่" ชายนักเดินทางคิด เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนไหวใด ๆ เพราะหากประสาทการรับรู้ของสัตว์นั่น กระทบการเคลื่อนไหวของเขาเมื่อไหร่ มีหวังต้องลงไปอยู่ในท้องของมันแน่ ๆ

ชายนักเดินทางหวนนึกคำพูดของอาจารย์ถึงอันตรายในป่าใหญ่ สัตว์นักล่ามักมีสัญชาติญาณในการหาเหยื่อสูง ยิ่งสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ อาจจะได้กลิ่น และรับรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อแม้อยู่ห่างไกลหลายกิโลเมตรได้ หากเป็นอย่างนั้นเจ้างูยักษ์ตัวนี้ มันคงรับรู้การมาของเขาแล้วเป็นแน่

อ่านต่อตอนที่ ๒ ครับ




Create Date : 01 มีนาคม 2554
Last Update : 1 มีนาคม 2554 8:59:26 น. 3 comments
Counter : 1946 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ คุณอัสติสะ
...
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 1 มีนาคม 2554 เวลา:10:26:31 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ


ชายนักเดินทาง
ยังเดินทาง
ตอ่ไป








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:5:59:14 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:5:37:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.