"เพราะมีท้องฟ้า นกถึงมีปีก...ปราศจากท้องฟ้า ปีกของนกจะมีความหมายอะไร......*

ไกลห่าง,,,,

ฝนเพิ่งหยุดไม่นาน น้ำจากหลังคายังหยดเปาะแปะ
เอาเพลงมาลงบล็อก
ฟัง.....

...

ใจกระเจิงกระจาย
กู่ขาน ไร้เสียง
ร่อนคว้าง โซเซ

ถึงรังนอน
สายน้ำจากฝักบัว
ราดรด

ละลายน้ำตา

กลั้นสะอื้น
มิให้เล็ดลอด
มากับเสียงน้ำซู่

โหยไห้
ร้าวรอน..
ในความคำนึง

....................
ขออภัยค่ะต้องลบเพลงออกจากบล็อก ตาม กม.ลิขสิทธิ์



Create Date : 05 กันยายน 2550
Last Update : 2 มีนาคม 2551 13:34:47 น. 18 comments
Counter : 497 Pageviews.  

 



คุณน้ำอารมณ์ไหนเนี่ย
เอาเพลงแขกมาให้ฟัง
อิอิอิ


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:15:39:27 น.  

 
เอ....กวีวันนี้ช่างเหงาเปล่าดาย

หัวใจนกน้อย...มิได้อาบฉาบแสงตะวันหรือไฉนกันเล่า

เสียงกู่กล่าวขานจึงเหงา เศร้า ซึม

หรือห้วงคำนึง....เจ็บร้าว เลือนลาง

เหนื่อยไหมก๊าบ.....อย่าโหมงานหนักจนหัวใจห่อเหี่ยวเน้อพี่นกฯ

เดี๋ยวจแก่ก่อนวัย....ขืนเข้าไว้..ท่องให้จำ ยังไงเราก็สาวเสมอ...นะจ๊ะ...นะจ๊ะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:11:11:45 น.  

 
สวัสดีจ้ะนกแสงตะวัน (บาดเจ็บ)

นกบาดเจ็บบิน
เพราะหลงฟ้าที่ไหนหรือเปล่า ?

เพิ่งอ่านเรื่องทวาร 6 ศาตร์แห่งการรู้เท่าทันตัวเอง ของทันตแพทย์ สม สุจิรา ท่านพูดถึงเรื่องความบาดเจ็บที่เกิดจากกาย นั้นเจ็บแป๊บเดียวก็หาย เหมือนมีดบาด บาดเนื้อไม่นานก็หาย

แต่ภาพบางภาพบาดตาก็กลายเป็นภาพบาดใจที่เจ็บนาน นึกถึงเมื่อไรก็เจ็บเมื่อนั้น

เหมือนคำพูดที่บาดหู เมื่อนึกถึงเมื่อไรก็เจ็บปวดเมื่อนั้น

ซึ่งความจริงเจ็บครั้งแรกทีเดียว แต่เรานำกลับมากรอกลับ ดูซ้ำ ฟังซ้ำ รู้สึกซ้ำก็เลยรู้สึกเศร้า

เช่นเดียวกับที่รู้สึกว่าถูกลืมนั่นแหละ

การลืมของคนอื่นที่ลืมเรานั้น ไม่ทำให้เราเจ็บปวดเท่าไร แต่เจ็บปวดตรงที่เก็บมาคิดย้ำวนเวียนว่า เป็นเหตุเพราะอะไรนะจึงลืมฉันได้ และทำไมต้องลืมฉันด้วย

และประการสำคัญเพราะเราไม่อยากให้เขาลืมนั่นแหละจึงรู้สึกเจ็บปวดและเศร้า

ขอให้หายเร็วๆ (ถึงไม่ขอก็ต้องหายอยู่แล้ว เชื่อเถอะ !)

ขอยกถ้อยคำของศรีบูรพา เรื่องสงครามชีวิตที่เกียวกับนกๆเจ็บๆสักหน่อย (จะเกี่ยวกันไม่เนี่ยะ)

"ถ้าฉันเป็นนก ฉันจะบินติดตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง ถึงแม้ว่าในระหว่างนั้น ฉันจะต้องธนูเสียบอก ฉันก็จะบินมาตกตรงหน้าเธอ เพื่อให้แม่ยอดรักได้เช็ดเลือดและน้ำตา แล้วฉันก็จะหลับตาลงอย่างเป็นสุข"

แล้วชาลี อินทรวิจิตรก็เอามแต่งเพลง "อาลัยรัก" ตอนจบที่ว่า...


....แม้มีปีก โผบินได้เหมือนนก...

...อกจะต้องธนู เจ็บปวดนัก...

...ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก...

ให้ยอดรักเช็ดเลือดและน้ำตา....


ขอให้หายเร็วๆ (ถึงไม่ขอก็ต้องหายอยู่แล้ว เชื่อเถอะ !)


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:11:51:20 น.  

 
แวะมาเยี่ยมวันอาทิตย์ค่ะพี่นกฯ

ตัวเจ็บ...ใจแกร่ง
พักเดียว...กายกลับ

ใจบาดเจ็บ...กายทรุดโทรม
อย่าให้ใจบาดเจ็บนานนะคะ...
เพราะแม้ว่ามันจะหายดี...แต่มีริ้วรอบยในหัวใจ

สะเทือนร้าวคราไหน...รอยแผลข้างในจะริกๆร้าว.....

มนุษย์เราถูกสร้างมาให้ลืมบางสิ่ง...และจดจำบางสิ่ง
ทั้งเรื่องที่ควรลืม และเรื่องที่ควรจำ

เพราะนั่นคือการลงโทษของกรรม...เป็นพรสวรรค์ที่ฟ้าดินส่งมาให้เป็นของขวัญการเกิดของมนุษย์แต่ละผู้......

ซุกปีกโอบอกให้อบอุ่นนะคะ....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:12:29:14 น.  

 
ขอบคุณมิ่งมิตรทุกท่านค่ะ

สระบัวแดง เป็นความฝันค่ะคุณอุ้ม เท่าที่ชีวิตเหลืออยู่ไม่รู้ว่าจะมีเป็นของตัวเองได้หรือเปล่า

คุณปลายแปรงที่รัก คงจริงอย่างพี่โดมว่าเรื่องทวาร 6

แต่การทุกข์ครั้งนี้ เป็นทุกข์เพราะตกหลุมพรางของความรู้สึกตัวเอง
ก้าวข้ามไม่พ้น
ได้แต่ฟูมฟาย

ครั้นผ่านช่วงนั้นมาแล้ว ก็ดีขึ้น

ขอบคุณมากมาย สำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจากพี่โดม จากเพื่อนอุ้มและจากน้องสาวปลายแปรง

วันนี้ไปทำงานวันแรก
หลังจากปีนป่ายพ้นหลุมพลางของความรัก..
ปีกที่หักเริ่มแข็งแกร่ง
ใจที่ล้าเริ่มมีเรี่ยวแรง
ความหวัง..
จอดรออยู่ป้ายหน้าแล้ว












โดย: นกแสงตะวัน IP: 125.26.187.190 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:20:29:06 น.  

 
ฝอยฝน
หล่นโปรย
ใจโหยหาใจ...


โดย: pu_chiangdao วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:9:19:51 น.  

 
หลุมพรางแห่งรัก...
ขุดล่อรักลงหลุม...
เราแผ้วถาง...แล้วใครลงมือขุด

หรือเราขุด...แผ้วทางวางล่อตน
ในก้นหลุม...ชื้น...อับ...ตีบตัน
เงยหน้าขึ้นเหนือหัวนั่น...แสงสว่าง

เลือกได้จักป่ายปีน...หรือจมดิ่งอยู่ห้วงเหว

เจ้านกแห่งแสงตะวัน...เจ้านั้นต้องกางปีกอาบแสง
หลุมพรางมืดอับ....ปีกเจ้าเปียกลู่
สลัดขน สะบัดปีกโผผินกินแสงตะวันเถิดเจ้า......


บินได้...บินให้แกร่ง
หลุมพรางลึกมากเท่าใด เรายิ่งต้องใช้พลังบินมากกว่าร้อยเท่า...แล้วเราจะแกร่งกล้า

พี่นกแสงตะวันนั้นทำได้...แน่นอนค่ะ !!!!

กลับมาสู่แสงตะวันกันเถิดพี่ !!!!


โดย: ปลายแปรง วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:15:07:49 น.  

 
ทำงานอย่างมีความสุขนะคะคุณน้ำ
รักษาสุขภาพด้วยนะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:15:44:56 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่นกแสงตะวัน..
สบายดีนะคะ น้องดอกหญ้าฯแวะมาทักทายค่ะ...

เพลงเพราะดีคะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ..



โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:0:45:02 น.  

 
วันนี้....พี่นกฯยิ้มหรือยังหนอ...

ปลายแปรงยิ้มเผื่อแล้วนะ...อย่าลืมยิ้มตามด้วยล่ะ...

ดูแล "ใจ" ตัวเองนะคะ.....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:8:37:51 น.  

 


...........ไกลห่าง


ใกล้กัน ไฉนจะเข้าใจในคำว่าคิดถึง ...


โดย: .ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:22:04:12 น.  

 
หวัดดีนก

ไม่ได้แวะมาหานานกว่าสัปดาห์ เดือน พ.ย. มาเดินดอยสุเทพกันไหม เดินเท้า

วันที่ 4 พ.ย. นะเจ้า แล้วจะนำข่าวมาบอกอีกที เป็นงานของชมรมเพื่อดอยสุเทพ

ดอยกลางเมืองเชียงใหม่ ปอดแห่งสุดท้ายที่ชมรมเพื่อดอยเชียงใหม่ อยากจะเรียกร้องให้ผู้คนช่วยกันดูแล หลังจากที่ถูกรุกรานจากเหลือพทื้นที่ป่าเพียงน้อยนิด

สนใจเขียนมาบอกนะเจ้า เพื่อน ๆ คนอื่นที่สนใจก็ได้เช่นกัน รายละเอียดจะแจ้งมาอีกที


โดย: แพรจารุ วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:06:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณเพื่อนมิตรและพี่สาวทีแสนดี-พี่ยาย ค่ะ
เพิ่งกลับจากเยือน ลาวใต้(แขวงจำปาสัก)
ไปตามหา..ไปค้นหา..ไปเยียวยา...ฯลฯ

กลับถึงบ้านตะกี้เองค่ะ
ดีใจและขอบคุณทุกท่าน

ขอบคุณกำลังใจจากคุณอุ้ม

กลับมาพร้อมรอยยิ้มค่ะปลายแปรง

ขอบคุณคำกวีจากpu_chiangdao ค่ะ

ดอกหญ้าเมืองเลย
พี่นกแสงตะวันก็ฟังไม่รู้ภาษาแต่รู้อารมณ์จ๊ะ

"ใกล้กัน ไฉนจะเข้าใจในคำว่าคิดถึง ..."
คงจะจริงค่ะใบไม้ดนตรี


กิจกรรมของพี่ยายน่าสนใจแต่โอกาสได้ไปคงน้อยนิด

ขอนอนก่อน แปดโมงครึ่งต้องไปประชุมงานสร้างสุขภาคอีสานที่ขอนแก่นค่ะ



โดย: นกแสงตะวัน IP: 125.26.183.241 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:0:51:21 น.  

 
ดีใจกับรอยยิ้มค่า.....

ยิ้มข้างในใจด้วยนะคะ.....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:7:52:09 น.  

 
มาเยี่ยมค่า...

นกแสงตะวันหายเหงา หายเศ้ราหรือยังเอ่ย...


โดย: ปลายแปรง วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:15:21:00 น.  

 


เอาแกรนมาโตมาฝาก
ยิ้มหน่อยก๊าพี่นกฯ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:9:51:48 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่นก แสงตะวัน
-----------------------------------
ไม่ทราบว่าพี่นก ไม่ซาเบย เอ้ย! ไม่สบาย

ณ บัดนี้ พี่นกอยู่ ณ ม่องได๋ของประเทศขอนแก่นคะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:15:57:51 น.  

 
ขอบคุณมากมาย
ในความห่วงใย
ที่ส่งมาซ้ำ ๆ ๆ

ค่ำคืน..
ที่สายฝนกระหน่ำ
และฟ้าครวญ

นกแสงตะวันซุกปีกนอน
หลับปุ๋ยๆจ้าปลายแปรง

ขอบคุณสำหรับ "แกรนมาโต"ค่ะ
ดูเผินๆนึกว่าเชื้อโรคที่นักเทคนิคการแพทย์เขาย้อมสี
. . . . . .

สาวขอนแก่นฯ คะ
วันที่ 26-27 กันยา
เอื้อยนกฯจะย้ายรังไปอยู่แถว รร.โฆษะจ๊ะ





โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:0:13:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นกแสงตะวัน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นี่คือบล็อกของหญิงสามัญ

=ขอบคุณเพื่อนมิตรที่แสนดีทุกท่าน=

สโลแกน *คำของพี่ปอน ขอบคุณพี่ปอนค่ะ

ขอบคุณ ภาพในกล่องคอมเมนท์ จากคุณ Pongyuan
..
+-+น้ำค้างหยาด หยดค้าง..กิ่งใบ+-+
+-+- วลีงาม -+-+
New Comments
[Add นกแสงตะวัน's blog to your web]