|
เมืองเล็กสงบงาม...นาม-`๏-เชียงคาน-`๏-
-`๏-เชียงคาน-`๏->>>>>>>>>แล้วมันอยู่ไหนล่ะ? #1 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6209161/E6209161.html
อะแอ้ม อะแอ้ม....ด้วยอยากไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว.......พอถึงช่วงว่างๆ ทีไร แผนการเที่ยวก็ออกมา แต่เชียงคานไม่เคยประสพความสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว สำหรับผม
ไม่เข้ารอบเลยล่ะ..ว่างั้น
เอาละช่วงเวลานี้ทุกอย่างลงตัว หาข้อมูลอยู่สองวัน ทั้งอ่านกระทู้, จองตั๋วรถทัวร์ โทรไปของ บขส. VIP 24 ที่นั่งแต่ว่าเต็ม หาข้อมูลได้ของชุมแพทัวร์ เจ้านึง แต่ลงแค่ จ.เลย (คนแนะนำเยอะ บอกว่ารถฯ สภาพดี) อีกเจ้าแอร์เมืองเลยทัวร์ ถึงเชียงคานเลย ไม่ต้องต่อรถ (ข้อมูลบอกว่า รถสภาพไม่ค่อย โอฯ นัก ขึ้นอยู่กับ บางคันบางเจ้าของ)
ด้วยความที่ไปคนเดียวแล้วไม่อยากต่อรถให้วุ่นวาย เอาแอร์เมืองเลยละกัน.. คงไม่โชคร้ายหรอกน่าเรา
โทรไปจองที่หมอชิต2 ปลายสายส่งเสียงแข็งๆ มา ว่ายังว่างอยู่ ดีแฮะ ไม่ต้องลุ้น เขาบอกว่าให้มารับตั๋วก่อนรถออก ชม.นึง ถ้าไม่มาก็โทรแจ้งด้วยนะ จะได้ขายให้คนอื่นไป
แล้วก็มาถึงเรื่องที่พัก จิ้มแป้นพิมพ์คำว่าเชียงคานใน BP เจ้าเก่า ก็เจอข้อมูลหรือกระทู้ไม่มากนัก คนคงไปไม่เยอะมากแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรมารีวิวก็ได้กระมัง แต่ไปเจอกระทู้ของคุณกระเต็น, คุณอาร์ตตะลอน, คุณโอโย่โย ได้ประโยชน์สำหรับผมมาก หลายเสียงเล่า Home Stay คุณยายศรีพรรณ เอาไว้ บางท่านเคยพัก บางท่านไม่ทันได้พักเพราะว่ามาเจอ มารู้จักเอาวันสุดท้าย ก่อนกลับ
เลย Print รูปคุณยายไป ส่วนเบอร์โทรยังอ่านไม่เจอ (หา) ลองเสี่ยงหลังมือ ไปหาท่านกระเต็น โชคดีได้เบอร์โทรบ้านคุณยายก่อนไป แบบเฉียดฉิว
เอาไว้หาไม่เจอจริงๆ ค่อย โทรเข้าไป ผมกะไว้งั้น.....................
***ณ วันนี้ มีเพื่อนนักเดินทาง ที่ไปพักช่วงเดียวกับผม ปลื้มมาก ทำเว็ปให้คุณยายแล้ว แบบว่าคุณยายยังไม่รู้ตัวนะครับ ชื่อว่า //www.sripanhomestay.com/ ครับ เข้าชมได้แล้วจ้า
จบเรื่อง จบราว เดินทางไปซะที เรื่องเตรียมของเดินทาง ช่วงนั้นที่ทำงานก็เลี้ยงกันละเกิน.....กินงานโน้น งานนี้ ไม่มีเวลาแพ๊คของ นึกอะไรได้เอาใส่รถไว้ก่อน แล้วไปยัดใส่เป้เอาวันเดินทางละกัน
เอารถไปฝากไว้บ้านคุณแม่ แถวซังฮี้ กินข้าวเย็นเรียบร้อย นั่งแท็กซี่ไปหมอชิต2 ขอบอกว่านั่งรถทัวร์ที่หมอชิต 2 ครั้งแระนะเนี่ย ส่วนใหญ่จะนั่งลงสายใต้ซะมากกว่า
โอ๊ะโอ๋......หมอชิต 2 ไหงคนบานนนนนตะไท เลย พับผ่า... หาช่องแอร์เมืองเลยไม่เจอซะที ถามเค้าดีกว่า อยู่ช่องที่ 7 ชั้น 3 ครับ
รถออกเลทไปนิดหน่อย ไม่เป็นไร แต่ก็ไม่ได้สะบายตัวนัก เรื่องที่นั่งกับแอร์ที่เย็นเหมือนกับจะแช่แข็งผม อีกอย่างของแจกน้อยไป
มานึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่สยามเฟริส์หรือ 999 นี่ ที่แจกโน่น แจกนี่ จนขนลงไปกินได้อีกสองมื้อเลย
โม้มาเยอะแล้ว ไปเที่ยวกันดีกว่าครับ
ตัดภาพมาที่เช้าตรู่เลยละกัน รู้สึกว่ารถจะจอดส่งคนที่วังสะพุง กะเลยด้วย เพราะมีคนขึ้นรถมาอีกนิดหน่อย เรามาถึงเชียงคานตอนก่อนตีห้าเล็กน้อยครับ
มืดตื๊อเลย..............
จะไปไหนดีเนี่ย บอกพี่สกายแล็ปว่า เพ่ เพ่ ไปส่งที่ตลาดละกัน จะไปหากาแฟ ปาท่องโก๋ทาน ฆ่าเวลา//กาแฟ
พี่ขับ แป๊ปเดียวถึง ........จัดไป 20 บาทจ้า รู้งี้ตรูเดินมาก็ได้ฟระ....ใกล้หน่อยเดียว
นั่งปล่อยอารมณ์สไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ ครึ่งชั่วโมง มองคุณป้าชงกาแฟ มองตลาดสดที่คนหนาตัวพอสมควร แต่ก็ดูไม่วุ่นวายอะไร ดูเชื่องช้า แต่ก็สวยงามครับ
นั่งจนตีห้าครึ่ง เบื่อแล้ว ออกเดินไปที่ถนนริมโขงดีกว่า เผื่อจะมีที่นั่งรอ แต่คิดผิดแฮะ....มืดอยู่เลย ผมเดินเข้าไปที่ซ. 9 ซึ่งตรงกับตลาดสด ลงไป
เอาไงดี ถอยไปตลาดต่อดีป่ะ เถียงอยูในใจ ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวเสียฟอร์ม แม่ค้าจำได้จะแอบขำเรา
พระเจ้าช่วย................สงสัยเห็นใจผมมั๊ง ส่งม้าหินขัด ชุดใหญ่มาให้ แต่ตั้งอยู่ที่บ้านหัวมุมซอยเก้าพอดี ขอบคุณเจ้าของบ้านหลังนั้นนะครับ
ผมนั่งซบหน้า อยู่ทีเป้พักนึง ไม่ได้เศร้านะครับ ง่วง จ้า ง่วงงงงงง
สำหรับเรื่องราวต่อไปเป็นอย่างไร ขอเชิญ Copy Address ข้างล่างนี้ไปดูต่อครับ -`๏-เชียงคาน-`๏->>>>>>>>>แล้วมันอยู่ไหนล่ะ? #1 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6209161/E6209161.html
############################################################################################
เมืองเล็ก...สงบงาม...นาม-`๏-เชียงคาน-`๏- #2 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6215969/E6215969.html
สำหรับตอนที่สอง ผมได้ไปเยี่ยมตาชอบและยายทอง สองตายายที่รักและดูแลกัน
ตราบที่ชีวิตจะหาไม่
คุณยายทองที่ผมไปเยี่ยมครับ
ผมถ่ายหลบๆ มาแค่ใบเดียว หลังจากนั้นไปยืนข้างๆ คุณยาย จับไหล่แก
คุณตาบอกผมว่าคุณยายทอง ไม่รับรู้อะไรแล้วมานานแล้ว
ทุกวันนี้ก็ไม่ได้พาคุณยายทองออกมาข้างนอก เว้นแต่เวลาไม่สบายมากเท่านั้น
เพราะตาไม่ค่อยมีแรง...............
***(เครดิต)ข้อมูลมาจากคนค้นคน
นับถอยหลังไปอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์ วันซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงความรักที่ใครหลายคนให้ความสำคัญกับวันนี้
ไม่ว่าใครจะนิยามความรักว่าเป็นของคู่กัน ความเหมือน ความพอดี ความลงตัว หากแต่นิยามความรักของตาลอบที่มีต่อยายทองนั้น กลับมองว่าวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงนั้นไม่เคยมีความหมายต่อตาและยายเลย เพราะชีวิตรักที่ตาและยายได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่า 50 ปี นั้นไม่เคยมีวันไหนที่ความรักของตาที่มีต่อยาย และยายมีต่อตานั้นลดน้อยลงไปตามกาลเวลาเลย
หากแต่ความรักของทั้งคู่กลับเพิ่มพูนขึ้นสวนทางกับสังขารที่เริ่มจะโรยรา "สำหรับตาวันนี้มันก็เป็นแค่วันธรรมดาๆวันหนึ่ง ไม่มีความหมายอะไรเลย ดอกกุหลาบมันจะสู้สิ่งที่เราทำดีให้กันทุกวันได้ยังไง มันเทียบกันไม่ได้หรอก ตาไม่เห็นว่ามันจะสำคัญกับชีวิตตรงไหนเพราะถึงไม่มีวันนี้ ยังไงตาก็ยังรักยายเท่ากันทุกวัน อมร สีสุภเนตร หรือที่ชาวบ้านในอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย รู้จักกันในนามของ ตาลอบ ส่วนภรรยาคู่ทุกคู่ยากชาวบ้านเรียกขานกันว่า ยายทอง พื้นเพเดิมยายทองเป็นคนอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ส่วนตาลอบเป็นคนเชียงคาน จังหวัดเลย ปัจจุบันสองตายายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเล็กๆสภาพเก่าๆหลังหนึ่งตามลำพังสองคนโดยมีลูกๆคอยดูแลอยู่ห่างๆ
เมื่อมองเข้าไปในบ้านจะสังเกตุเห็นว่าบ้านของตาเสมือนเป็นโรงพยาบาลขนาดย่อมๆ เพราะอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในการดูแลยายนั้น ตาได้ดัดแปลงให้เหมือนกับทางโรงพยาบาล ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ดูแลยายได้อย่างเต็มที่ ย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วตาลอบซึ่งเป็นช่างตัดผมหนุ่มฐานะยากจนได้พบรักกับยายทอง แม่ค้าขายอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาวงามประจำหมู่บ้านในงานรำวงสร้างโบสถ์ที่วัดป่ากลาง อำเภอเชียงคาน หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมา 5-6 ปีจนมั่นใจในความรักที่มีให้ต่อกัน ชายหนุ่มจึงเอ่ยปากขอหญิงสาวที่เขารักแต่งงาน เป็นงานแต่งงานที่เรียบง่าย ไม่มีพิธีกรรมใหญ่โตอะไร ไม่มีเงินสินสอดทองหมั้นมากมาย หากแต่มีเพียงคำมั่นสัญญาที่ชายหนุ่มมอบไว้ให้กับหญิงสาวที่เขารักว่า จะครองรักและดูแลกันตลอดไป ทั้งในยามทุกข์และยามสุขจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตจะเดินทางมาถึง
เวลาผ่านมา 50 ปี ทั้งคู่ครองรักกันจนกระทั่งแก่เฒ่า และตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรักของคนทั้งคู่ที่มีให้กับกันก็มากพอและสม่ำเสมอพอที่จะทำให้ชีวิตรักของคนคู่นี้กลายเป็นตำนานรักแท้ที่น่าจดจำ แต่จะเป็นเพราะสวรรค์บัญชาหรือฟ้ากำหนด จู่ๆปี 2538 ยายทองก็ล้มป่วยลงด้วยการเป็นอัมพฤกษ์ทางด้านซ้าย ซึ่งก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา อาการของยายทองก็กำเริบทรุดหนักลงไปอีก จากอัมพฤกษ์กลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถพูดคุยกับตาลอบได้อีก นอกจากส่งเสียงร้องไห้ซึ่งบางครั้งก็มีแต่เสียงร้อง บางครั้งก็มีแต่น้ำตา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสื่อสารเพียงอย่างเดียวที่ตาลอบรับรู้และเข้าใจเสมอว่ายายต้องการอะไร ยายเขาร้องไห้ เพราะว่าเขาอยากจะพูดกับเรา แต่เขาพูดไม่ได้ เขาจึงบอกเราด้วยการร้องไห้ออกมา พอตาได้ยินเสียงไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตาก็จะเดินไปพูดกับเขา หรือไม่ก็ต้องส่งสียงตอบกลับไป ส่วนใหญ่ตาจะบอกเขาว่า อย่าร้องเลย เราอยู่ตรงนี้แล้ว บางทีก็บอกยายว่า เราจะอยู่กับเธอ จะดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน ที่บอกอย่างนี้เพื่อให้ยายรู้ว่าตาอยู่ใกล้เขาไม่ได้หนีไปไหน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า น้อยครั้งนักที่เราจะได้เห็นภาพฝ่ายชายดูแล ปรนนิบัติฝ่ายหญิง หากแต่สิ่งที่ตาทำนั้นได้พิสูจน์ให้โลกรู้ว่าความรักของตาที่มีต่อยายนั้นเป็นตำนานความรักอันยิ่งใหญ่ที่ใครๆต่างก็แสวงหา ตาอยากใช้ชีวิตอยู่กับยายจนวินาทีสุดท้าย เราจะต้องไม่ทอดทิ้งกัน เราต้องมั่นคงต่อกัน ตาสัญญากับยายว่าจะดูแลยายให้ดีที่สุดจนวินาทีสุดท้าย
ตาตั้งใจรักษายายให้ดีที่สุด ตาทุ่มเทชีวิตให้ยายทั้งหมดเลยเพราะว่ายายมีความหมายกับตาสุดชีวิตเลย ทุกวันนี้ตายังมีความหวังอยู่ว่ายายจะอาการดีขึ้นและกลับมาพูดกับตาได้เหมือนเคย เราต้องอยู่แบบมีความหวัง เพราะความหวังนี่แหละที่จะทำให้เรามีกำลังใจดูแลยายต่อไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง หากก่อนที่จะจากกันไปในชาตินี้ใจลึกๆตาลอบก็อยากให้ปาฎิหารย์นั้นมีจริง เพราะอยากให้ยายฟื้นขึ้นมาอีกซักครั้ง เพื่อที่จะถามข้อข้องใจที่ชายคนหนึ่งเก็บไว้มาหลายปีว่าที่ผ่านมาเขาทำดีพอที่สามีคนหนึ่งจะทำให้ภรรยาที่เขารักที่สุดได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าบั้นปลายชีวิตอันแสนสุขจะถูกพรากไป และแทนที่ด้วยความทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยของอีกฝ่ายหนึ่ง
คำมั่นสัญญาทุกคำที่ตาลอบเคยมอบไว้ให้กับยายทองก็ยังไม่มีคำใดหรือตัวอักษรตัวใดเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ยายทองล้มป่วย แทบจะทุกนาทีของชีวิตตาลอบได้มอบให้กับการเฝ้าดูแลประคบประหงมยายทองอย่างใกล้ชิด ไม่เว้นแต่ยามหลับหรือยามตื่น ตาดูแลยายไม่เคยห่าง ตาต้องดูแลทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่อง อาบน้ำ เช็ดตัว ไปจนถึงเรื่องการเช็ดอึ เช็ดฉี่ อาหารการกิน อาการเจ็บป่วยต่างๆเราต้องคอยสังเกตุตลอดเวลา เวลาทำอะไรตาก็จะนึกถึงยายก่อนเสมอ
ถ้ายายยังไม่นอนตาก็ยังไม่นอน หรือถ้ายายยังไม่ได้กินข้าวตาก็จะยังไม่กิน เพราะต้องป้อนยายก่อน การดูแลปรนนิบัติยาย ตาลอบจะทำเพียงคนดียวทุกครั้ง และตาจะใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยป็นอย่างดี แม้แต่แพมเพอร์สตาก็จะไม่ใส่ให้ยายเพราะเกรงว่าจะอับชื้นและทำให้เป็นแผลกดทับได้ ตาจึงไม่เคยเบื่อกับการที่ต้องคอยเช็ดอึ เช็ดฉี่อยู่ตลอดทั้งวัน เสิ้อผ้าของยายตาก็จะไม่ซักผงซักฟอกเพราะกลัวยายจะแพ้และเป็นผื่น ฯลฯ ทุกวันนี้ตากลัวว่ายายจะทิ้งตาไปไม่อยากให้ยายตายเลย อยากให้อยู่เป็นเพื่อนกัน อยู่เป็นคู่รักกันตลอดไป ตาไม่เคยคิดอย่างคนอื่นเลยว่าตายไปภาระจะได้หมดลง ไม่คิดเลย
ภาพที่ชาวเชียงคานเห็นจนชินตาคือภาพชายชราวัย 73 ปี ปั่นรถจักรยานที่มีเตียงพยาบาลพ่วงติดอยู่ด้านหน้า โดยมียายนอนลืมตาแน่นิ่งอยู่บนเตียงเคลื่อนที่ไปตามถนนหนทางต่างๆ รถคันนี้เป็นรถที่ตาลอบประดิษฐ์ขึ้นมาเองกับมือเพราะถ้าจะซื้อเตียงแบบโรงพยาบาลนั้นก็เกินกำลังที่ตาจะมีได้ ด้วยความที่ตาเคยมีความรู้ทางช่างจึงต่อเตียงพยาบาลขึ้นมาและดัดแปลงต่อเติมให้เตียงนั้นเคลื่อนที่ได้ และมีหลังคาคอยคุ้มแดดคุ้มฝนและมีมุ้งคอยกันยุงและแมลงต่างๆ ที่ตาทำเช่นนี้หวังเพื่อให้ยายอยู่ใกล้กับตาตลอดเวลาเพราะเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมาตาจะได้ช่วยเหลือยายได้ทัน
ดังนั้นเวลาตาจะไปไหนก็จะพายายไปด้วยเสมอ ใครที่เห็นรถของตาต่างก็อดไม่ได้ที่จะไม่เหลียวหลัง และต่างก็ตั้งข้อสงสัยไปต่างๆนานา บ้างก็นึกว่าเป็นรถซาเล้ง รถขายของ รถเก็บของเก่า บ้างก็ว่ารถขนศพ แต่ถึงอย่างไรตาลอบก็ไม่สนใจคำครหาเหล่านั้นเพราะสิ่งสำคัญที่ตาพายายออกมาอย่างนี้ก็เพื่อให้ยายออกมารับอากาศข้างนอก ให้ยายได้รับการทักทาย พูดคุยจากผู้คนต่างๆเพื่อกระตุ้นให้ยายรู้สึกตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ตายังรู้ใจยายดีว่ายายชอบให้ตาพาเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ตาจึงมักปั่นเตียงเคลื่อนที่คู่ใจคันนี้พายายไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆที่มีความสำคัญๆในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสถานที่พบรักกัน สถานที่ๆทำมาหากินด้วยกัน ทั้งนี้ตาทำเพื่อพายายไประลึกถึงความหลังอันงดงามเพื่อกระตุ้นความจำ
ความรู้สึกของยายและอย่างน้อยความหลังเหล่านี้เสมือนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงความเศร้าหมองของชะตากรรมที่ทั้งคู่ต้องเผชิญอยู่ได้ไม่มากก็น้อย บ่อยครั้งเวลายายมีอาการป่วยมาก ตาต้องพายายไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงคาน โดยมากตาจะปั่นเตียงพยาบาลเคลื่อนที่พายายไปที่โรงพาบาล ทันทีที่ไปถึงจะเป็นอันรู้กันกับเจ้าหน้าที่ว่าเตียงประดิษฐ์ของตาคันนี้สามารถใช้แทนเตียงของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี และเมื่อพยาบาลเห็นคนไข้รายนี้ทีไรก็อุ่นใจได้ว่าไม่ต้องมาดูแลยายทองอะไรมากนัก เพราะตาลอบจะเป็นคนดูแลยายเองทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องให้พยาบาลเข้ามายุ่งเลย
เพราะตาลอบคิดว่าเจ้าหน้าที่คงจะดูแลไม่ดีเท่ากับตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นเพราะตาลอบทำด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตาลอบได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าสัญญาที่ชายหนุ่มมอบไว้กับหญิงสาวอันเป็นที่รักเมื่อ กว่าปีที่แล้วนั้น ไม่ใช่แค่ลมปาก หรือถ้อยคำหวานหู ตามแรงปราถนา หากแต่เป็นถ้อยคำที่ออกมาจากความรู้สึกข้างในหัวใจ ที่มีที่ว่างให้เพียงแค่หญิงสาวที่เขารักเพียงคนเดียว คำมั่นสัญญาที่ตาลอบมอบให้จึงเป็นพันธะสัญญาที่ถูกจารึกลงบนหินผา ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ไม่มีวันลบเลือนและยังทำอย่างซื่อตรงสม่ำเสมอ ไม่ต่างอะไรกับการขึ้นลงของดวงตะวัน ที่จะเป็นอยู่เช่นนั้นชั่วนิรันดร์
ออกอากาศ วันอังคาร ที่ 13,20 กุมภาพันธ์ 2550 ทาง โมเดิร์นไนน์ทีวี
ขอเชิญชมรายละเอียดเต็มๆ ได้ที่ลิงค์ เมืองเล็ก...สงบงาม...นาม-`๏-เชียงคาน-`๏- #2 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6215969/E6215969.html
############################################################################################
ปล่อยเวลาให้เดินช้าๆ ที่>>>>>>>>>-`๏-เชียงคาน-`๏- #3 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6225592/E6225592.html#1
มาประทับใจกับคุณยายศรีพรรณ เจ้าของ Home Stay ที่เพิ่งเริ่มทำมาได้ครบสองปีเมื่อมกราคา 51 นี่เอง
ด้วยความที่คุนยายคุยเก่ง, อัธยาศัยดี แถมทำกับข้าวอร่อยอีกต่างหาก
ศรีพรรณโฮมสเตย์ ของแกถึงเป็นที่คุ้นหู คุ้นตา แก่นักเดินทางอย่างยิ่ง บางคนจองที่พักไว้แล้ว ยังแวะไปคุย, จิบกาแฟ, ทานอาหาร ด้วยเลยครับ
ศรีพรรณโฮมสเตย์ โทร 042-821-797 150 บาท/ คน / คืน (รวมอาหารเช้า) //www.sripanhomestay.com
แล้วก็เจอเพื่อนสมาชิก Pantip.com ห้องราชดำเนิน มาพักช่วงเดียวกันด้วย เลยโชคดีได้ติดรถยนต์ไปเที่ยวถึงท่าลี่, พระใหญ่ ฯลฯ
ปล่อยเวลาให้เดินช้าๆ ที่>>>>>>>>>-`๏-เชียงคาน-`๏- #3 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6225592/E6225592.html#1
############################################################################################
-`๏-เชียงคาน-`๏-โห...ตั้ง 5 คืน ไปทำอะไรมาเนี่ย? 55 55555 #4 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6228647/E6228647.html คำถามประมาณเนี๊ยะ.....ได้รับเยอะเลย..เหมือนเราไม่ค่อยปกติ ทั้งเพื่อนฝูงทั้งที่ทำงานแล้วก็ในเน็ต
แหมก็มันได้จังหวะโอกาสอันดี และก็ด้วยเหตุผมต่างๆ ของผม เช่น ยังไม่เคยไป, ลางานนิดหน่อย, ใช้เงินไม่มากนัก, น้องพันไมล์ไปทัวร์เหนือพอดี, อยากไปก่อนที่มัน (อาจ) จะเจริญจนหมดเสน่ห์ , อยากถ่ายรูปแบบครั่นเนื้อครั่นตัว ฯลฯ
แหะๆๆ ๆ ๆ พยามอ้างให้ดูดีเข้า
และทุกอย่างก็มาลงตัวที่เชียงคาน.........ถ้ามีใครถามกลับมาว่าแล้วไม่ไปปายเหรอ...ไปช่วงเทศกาลไม่หนุกหรอก ผมคิดอย่างนั้น
อีกอย่าง 2 ปีที่ผ่านมา ไปมา 5 ครั้งแล้ว เบื่อๆ เผือๆ แต่ปายยังไม่หมดเสน่ห์สำหรับผมนะ หากมีโอกาสอันดีงามอีก ก็คงไป แต่ต้องไม่ใช่ช่วงเทศกาล หุ หุหุ
แล้วมาตอบคำถาม เรื่องไปค้างเมืองเล็กๆ อย่างเชียงคาน เมืองเดียว แล้วก็พักที่เดียวก็นะ...ใจจริงน่ะ อยากซึมซับ บรรยากาศ สงบๆ เอาไว้ ให้ร่างกายมันรับ แล้วซึมเข้าไปในตัว อีกเรื่องนึงก็คือ เป็นคนชอบสงบ ไม่ต้องมีแสง สี ก็ได้ แต่ขอให้มีบรรยากาศดีๆ ธรรมชาติ วัฒนธรรมสวยงาม แค่นี้พอ
เคยแบ็คแพ็ค ไปสิบสองปันนา ผ่าน ลาว โดยรถโดยสารกับเพื่อนในเน็ตที่มารู้จักกันตอนขึ้นรถทัวร์ไปเชียงของ ตั้งสองอาทิตย์ ช่วงนั้นโรคซาร์ระบาดอยู่ด้วย แต่ตั้งใจแล้ว ก็จะไป 55 55555
นอกเรื่องมาเยอะ.........ก็ชอบอยู่นานๆ น่ะครับ
แต่........................................................................................................จริง จริง แล้วน่ะ
หาตั๋วรถทัวร์กลับไม่ได้อ่ะ
จบข่าว
ข้อมูลที่ผมหาไปและถูกถามบ่อยครับ
ที่พัก : ศรีพรรณโฮมสเตย์ โทร 042-821-797 150 บาท/ คน / คืน (รวมอาหารเช้า) //www.sripanhomestay.com/ เว๊ป จัดทำโดย นักท่องเที่ยวคนนึง ที่ไปพักพร้อมผมพอดี แล้วแกประทับใจอย่างมาก ทำให้ คุณยายฯ ก็เพิ่งรู้ จากผมที่โทรไปบอก และอีกอย่างที่บ้านคุณยายก็ไม่ได้มีเน็ตหรือคอมแต่อย่างใด กรุณาเข้าใจ และอย่าแจ้งลบเลย คนที่ทำให้เพราะเขาประทับใจ อีกทั้งคุณยายก็อายุ 72 ปีแล้ว มีแขกเข้าพักบ้าง ดีกว่าอยู่คนเดียวเหงาๆ ครับ
รถทัวร์ : แอร์เมืองเลย 02-936-0142, 02-936-1978 ราคา 494 บาท ถึงเชียงคาน ชุมแพทัวร์ 02-936-3842 ราคา........(ไม่ทราบ) ถึงแค่ จ.เลย ต้องต่อรถอีก บขส. 999 โทร 02-936-2841, 02-936-2852-66 ต่อ 448, 611 ราคา 700 กว่าบาท
ที่เที่ยว : ด่านไทย-ลาว (เชียงคาน), สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ท่าลี่, พระเจดีย์ทันใจ, พระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำโขง, วัดต่างๆ ที่เชียงคาน, พระใหญ่, พระบาทภูควายเงิน, ภูท่อก, ฯลฯ
เทศกาล : ที่เชียงคานจะมีสงกรานต์และออกพรรษาครับ คุณยายฯ บอก
ของฝาก : ผ้าห่มนวม ทำจากฝ้าย 100 % ของเมืองเลยแท้ๆ ในที่นี้ขอแนะนำร้านนิยมไทย***ครับ, มะพร้ามแก้ว*** โอท๊อปแก่งคุดคู้ ควรเลือกที่ทำจากมะพร้าวอ่อนหรือมะพร้าวกระทิ,
ของกินของอร่อย : ก๋วยเตี๋ยว ซ.10 (ถนนเส้นนอก)***, แหนมทอด/ยำแหนม ป้าแห่ว ใกล้ ซ.7***, ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นร้านแสงทอง**, ซาลาเปาปุยฝ้าย**, ร้านก๋วยเต๋ยว/สุกี้ ริมน้ำโขง ประมาณ ซ.15-16***, ไอสครีมลุงเอิบ ***, กาแฟ โอเล่**, กาแฟ นาทีทอง***, ทานอาหารบ้านคุณยายศรีพรรณ*** ถึงแม้ไม่ได้พัก 55 55555
กล้อง : นิค่อน แล็นส์แทมร่อน (ตัวเดียวทั่วไทย)
ขาตั้งกล้อง : ชอบสองขาของตัวเองมากกว่า เพราะแบกไปทีไร ก็ไม่เคยกาง
การย่อภาพ : ใช้ Acdsee ก่อน แล้วใช้ Paint มาย่อ ง่ายสำหรับผม ที่ไม่ใช้ PS เพราะยากไปสำหรับผม
สิ่งที่ควรทำ : ถ่ายรูป, ส่งโปสการ์ด, ใส่บาตร, ขี่จักรยานเที่ยว, เดินเที่ยวตลาดเช้า, พักโฮมสเตย์, แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ใหญ่ที่นั่น, ไปเยี่ยมตาลอบและยายทองกัน, สาวๆ ไปกินกาแฟสุดหล่อ นามโอเล่, ผู้ชายแวะกินกาแฟร้านนาทีทอง, ช่างภาพ ก็แวะไปคุยกับลุงไพโรจน์ ที่ แกลลอรี่ด้านหน้าตลาดสด, ตัดผมหรือเปลี่ยนทรงผมใหม่ ที่ร้านน้องเมย์ (ตรงข้ามบ้านยายฯ).........ฯลฯ
-`๏-เชียงคาน-`๏-โห...ตั้ง 5 คืน ไปทำอะไรมาเนี่ย? 55 55555 #4 //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6228647/E6228647.html
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมอีกครั้งนะครับ
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 14 มีนาคม 2551 21:50:57 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1493 Pageviews. |
|
|
|
โดย: คนชุมแสง วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:18:46 น. |
|
|
|
โดย: largeface วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:44:52 น. |
|
|
|
โดย: เซกิ (เซกิ ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:33:55 น. |
|
|
|
โดย: arm IP: 58.10.126.53 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:26:43 น. |
|
|
|
โดย: cakenumnim IP: 203.144.220.241 วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:10:38:11 น. |
|
|
|
โดย: แอน IP: 117.47.30.20 วันที่: 10 มิถุนายน 2552 เวลา:16:22:13 น. |
|
|
|
| |
|
|