คนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา
Group Blog
 
All Blogs
 
เพราะรัก

สายฝนพร่างพรายจากบนฟากฟ้าลงสู่พื้นดิน
ผู้คนที่ไม่มีร่ม รีบวิ่งหลบฝนกันชุลมุน
เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าวันนี้ฝนจะตก
เพราะว่าเป็นฤดูหนาวแล้ว
ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่วิ่งมาหลบฝนในร้านกาแฟชื่อดังแห่งหนึ่ง
ร้านตบแต่งเป็นสีขาวสะอาดตา กลิ่นกาแฟหอมๆโชยมายามเมื่อก้าวเท้าเข้าไป

"ร้าน... สวัสดีค่ะ"

เสียงพนักงานของร้านกล่าวทักทายลูกค้ารายใหม่ ซึ่งก็คือฉันนั่นเอง
ฉันมองไปรอบๆร้าน เพื่อหามุมสงบๆนั่ง
แล้วฉันก็มองเห็นที่นั่งยาวติดกระจก ซึ่งหันหน้าออกไปทางถนน

"คาปูชิโน่ร้อนที่ 1 ค่ะ"
"รับขนมเพิ่มไหมคะ"
"ไม่ค่ะ"

ฉันเดินไปสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร์ เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย ฉันเดินไปยังที่นั่งที่เล็งไว้
ฉันค่อยๆละเมียดจิบกาแฟทีละนิด เนื่องจากมันร้อนมาก

"อ่า ค่อยอุ่นขึ้นมาหน่อย"

เมื่อมองออกไปที่ถนน ฝนยังคงตกหนัก
และดูเหมือนว่าจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าทางว่าจะหยุดตกยาก
ในร้านเปิดเพลงได้เข้ากับบรรยากาศในขณะนี้มาก
ฉันนั่งฟังเพลงที่ร้านเปิดไปเรื่อยๆ จนฉันมาสะดุดท่อนนี้

(เธอจะมีใจหรือเปล่า เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ แต่ไม่อยากถาม กลัวรับมันไม่ไหว)

น้ำตาของฉันเริ่มเอ่อขึ้นมาที่เบ้าตา
ภาพวันเก่าๆ ของฉันกับเขาคนนั้นผุดขึ้นมา
มันเป็นภาพตั้งแต่วันแรกที่ฉันพบเขา

"วันนี้อาจารย์ จะให้นักศึกษาจับกลุ่มกันก่อนนะ แล้วเขียนรายชื่อมาส่งด้วย"
สิ้นเสียงของอาจารย์ พวกนักศึกษาพากันหากลุ่มกันอย่างวุ่นวาย
วุ่นวายกันสักพัก และพวกเราก็ได้กลุ่มกันสักที
ซึ่ง "เขา" ก็อยู่ในกลุ่มของฉันด้วย

"รินๆ กลับบ้านยังไง" เสียงชายหนุ่มเพื่อนใหม่ถามฉัน ซึ่งชายหนุ่มคนนี้แหล่ะ เป็นคนที่ฉันกำลังคิดถึงเขาอยู่ในตอนนี้
"รินกลับรถเมล์ ฝั่งหน้ามหาลัยน่ะจ้ะ ธีร์ล่ะ"
"เหรอ ธีร์ก็กลับรถเมล์ฝั่งหน้ามหาลัยเหมือนกัน งั้นเราเดินไปด้วยกันไหม"
"อืม ไปสิ"

เราสองคนเดินกันไปคุยกันไป อย่างสนุกสนาน
ธีร์ยืนรอรถเมล์เป็นเพื่อนฉัน รอจนกว่ารถเมล์สายที่ฉันนั่งกลับบ้านจะมา
ธีร์เป็นคนคุยสนุก ขี้เล่น ใครที่อยู่ด้วยแล้ว ก็รู้สึกมีความสุข
ทุกครั้งที่มาเรียน ธีร์จะเทคแคร์ฉันอย่างนี้เสมอ
ยิ่งนานวัน เราก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น สนิทสนมกันมากขึ้น
เรานัดดูหนังกันสองคน ไปกินข้าวกันสองคน
ถึงวันเกิดของแต่ละคน ก็จะมีการให้ของขวัญกัน

ความรู้สึกของฉันมันเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เปลี่ยนไปโดยที่ฉันก็ไม่รู้ตัว ว่าฉันจะชอบผู้ชายคนนี้ได้มากขนาดนี้
ตั้งแต่ฉันอกหัก ฉันก็ไม่เคยเปิดรับใครมาก่อน
เขาเป็นผู้ชายที่เข้ามาไขกุญแจที่ประตูหัวใจของฉันได้
แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉันกันแน่

เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว ฉันโทรไปหาเขา และ
คำพูดคำนึงได้ออกจากปากฉัน

"ธีร์... เรามาลองคบกันไหม"

กว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากฉันได้ ฉันต้องทนเก็บมันไว้ถึง 1 ปีเต็มๆ
บอกตรงๆ ฉันกลัวมาก
กลัวว่าถ้าเขาไม่ได้คิดกับฉันมากกว่าเพื่อน แล้วเขาจะเหินห่าง
และฉันก็ได้ยินเสียงตอบรับจากปากเขามาว่า

"รินจะทนธีร์ได้หรอ ธีร์ไม่อยากทำให้ใครร้องไห้บ่อยๆ ถ้ารินชอบในสิ่งที่ธีร์เป็น อยากจะลองคบกันดูก็ได้"

แต่หลังจากวันนั้น ฉันกับเขาก็ไม่ค่อยได้เจอกัน
และไม่ค่อยจะได้พูดคุยกันเลย
ทั้งทาง msn และทางโทรศัพท์
ฉันชวนเขาไปดูหนัง เขาก็ปฏิเสธ หาข้ออ้างไปเรื่อย

จากวันนั้นที่ฉันบอกเขา เขาก็ทำตัวห่างเหินเรื่อยมา
จนวันนึงฉันทนไม่ไหว ฉันจึงได้เริ่มต้นบทสนทนากับเขาทาง msn

"ตกลงว่า ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน"
"ก็เพื่อนกัน" นี่คือคำพูดที่ธีร์ตอบฉัน

แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า ทำไมต้องทำตัวเหินห่าง
ฉันพยายามถามเค้ามากมาย
ว่าทำไมถึงต้องทำตัวเหินห่างกันขนาดนี้
ทำไมถึงต้องคอยหนีหน้า
ถ้าเป็นเพื่อนกันอยู่ทำไม ถึงทำตัวไม่เหมือนเมื่อก่อน
แต่ไม่มีคำตอบใดๆจากเขาเลยสักคำ

และหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้
วันที่ฉันนั่งกินกาแฟอยู่ ณ ตอนนี้
เราทั้งคู่ ไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
ฉันก็ยังคงเก็บคำถาม ที่อยากได้คำตอบจากเขาไว้ในใจจนถึงวันนี้
ฉันไม่นึกเลยว่า แค่คำคำเดียวที่ฉันขอเขา
จะทำให้เรา ไม่เหลือแม้กระทั่งคำว่าเพื่อน

แต่แล้วฉันก็ต้องตื่นจากภวังค์ความคิดเรื่องวันเก่าๆ
ตอนนี้มองออกไปที่ถนน ผู้คนเริ่มเดินกันหนาตามากขึ้น
เพราะฝนที่ตกหนักเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ได้หยุดตกแล้ว
ฉันจึงลุกออกจากโต๊ะ และเดินไปที่ประตู เพื่อออกจากร้านกาแฟ

ตอนนี้น้ำตาฉันหยุดไหลแล้ว คงเหลือไว้แต่คราบน้ำตา
และภาพความทรงจำเก่าๆ ที่มันติดอยู่ในหัว
ฉันเดินไปเรื่อยๆ จนเดินผ่านสวนสาธารณะ
ฉันหยุดพักที่เก้าอี้ริมสระน้ำ มองไปรอบๆ
มองดูผู้คนที่มาออกกำลัง มาจีบกัน มาเดินเล่นกันเป็นคู่ๆ

และแล้วฉันก็เห็นบุคคลที่ฉันอยากเจอมากที่สุดในตอนนี้
คนที่ฉันอยากจะคุยกับเขามากที่สุด คนที่ฉันคิดถึงมากเหลือเกิน
ฉันรีบลุกขึ้น และก้าวขาออกเดิน จากเดินเป็นวิ่ง
เพราะกลัวว่าเขาจะหายไปจากตรงนั้น

แต่ขาฉัน และความคิดทุกอย่างก็ต้องสะดุดลง
เพราะภาพที่ฉันเห็นตรงหน้าคือ
ผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่ง
เดินจับมือกัน หัวเราะกันอย่างมีความสุข
ความรู้สึกเสียใจ และเสียความรู้สึกเข้ามาแทนที่ความดีใจเมื่อครู่
เกิดคำถามในใจฉันขึ้นอีกแล้ว ว่า
ทำไมนะ ทำไมเขาถึงไม่บอกฉันตรงๆ ว่าเขาชอบคนอื่น
อย่างน้อย ฉันก็จะได้เข้าใจ และได้ไม่ต้องคิดมากจนถึงทุกวันนี้

ธีร์รู้ไหมมันทรมานมากแค่ไหนกับการรอคอยอะไรสักอย่าง ที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่
ฉันอยากจะถามเขาออกไปแบบนี้ที่สุดในตอนนี้ แทนทุกๆคำถามที่เคยอยากได้คำตอบ
แต่ฉันก็ไม่สามารถแม้แต่จะก้าวออกจากจุดที่ฉันยืนได้
ขาสองข้างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง หมดกำลังกาย และกำลังใจ
ฉันจึงต้องตัดสินใจปล่อยให้ธีร์ และผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป

ขอให้มีความสุข และรักกันนานๆนะ ธีร์ ลาก่อน
แต่อยากให้รู้ไว้ว่า ถ้าวันใดที่ธีร์เจ็บมา
ฉันก็พร้อมที่จะรับธีร์เข้ามาในใจฉันเสมอ
แต่ฉันก็เพียงได้แต่คิด มิอาจจะพูดไปให้เขาได้ยิน


Create Date : 21 ธันวาคม 2550
Last Update : 21 ธันวาคม 2550 22:28:44 น. 1 comments
Counter : 131 Pageviews.

 


โดย: wbj วันที่: 9 มกราคม 2551 เวลา:12:32:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MysteryGirl
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add MysteryGirl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.