Group Blog
 
All blogs
 
ตอนที่ 4 ไปเกียวโตกันเถอะ

30 มีนาคม 2552

เราออกจาก Sakura Hostle Asakusa ตั้งแต่ 6 โมงเช้า
ลากกระเป๋าแต๊กๆ มานั่ง Tsukuba Express 200 เยน มาลงที่ Akihabara stn.
แล้วนั่ง JR Yamanote สายเก่งมาลงที่ Tokyo stn.
ไปติดต่อจองที่นั่งเพื่อไป Kyoto (ไม่ต้องเสียค่าจอง เพราะใช้ JR pass)
(เวลาจะจองที่นั่งต้องไปที่ห้องที่มีสัญลักษณ์คนนั่ง สีเขียวๆ ของ JR)
เจ้าหน้าที่จะถามเราว่าจะไปรอบไหน สายอะไร
เราก็ตอบไปว่านั่งสาย Hikari (ขึ้น Nozomi ที่ใช้เวลาน้อยสุดไม่ได้ เพราะ JR Pass ไม่ได้รวมอยู่)
(จะขึ้นสาย Kodama ก็ช้าเกิน)
แล้วเค้าก็บอกว่าตั๋วจองหมด ให้นั่งตู้ที่ไม่ได้จอง
บอกรอบเวลาที่ขึ้นเรียบร้อย
เราก็พุ่งไปที่ร้านขายข้าวกล่อง หรือที่เรียกว่า "เอกิเบนโตะ" ข้าวกล่องรถไฟ
เราซื้อแบบเน้นปริมาณ 880 เยน



ตอนขึ้นรถไฟก็ดูให้ดีว่าใช่สายที่เราจะขึ้นหรือเปล่า ไม่แน่ใจก็ถามเจ้าหน้าที่ได้
ดูตู้ที่เขียนว่า non-reserve แล้วก็ขึ้นไปนั่งเลย



ระยะทาง 500 กว่ากิโลเมตรจากโตเกียว
เพียง  2 ชม. กว่าๆ เท่านั้น ชิงกันเซนสาย Higari ก็พาเรามาถึงเกียวโตตอนประมาณ 10 โมงกว่าๆ
ถึงสถานีเกียวโต ก็พุ่งไปที่ห้องล๊อกเกอร์หยอดเพรียญเพื่อฝากกระเป๋าก่อน
ปรากฎว่าตู้ใบใหญ่เต็มหมดเลย ทำให้เพื่อนอีก 2 คนที่ไปด้วยกัน ต้องฝากกระเป๋าอีกแบบ
คล้ายๆ กับรับฝากกระเป๋าบ้านเรา แต่ต้องเสียเงิน และต้องมารับของก่อน 2 ทุ่ม
ส่วนกระเป๋าของเราใบเล็กหน่อย ฝากในล๊อกเกอร์ได้ เสียไป 300 เยน



ก่อนเอากระเป๋าไปฝาก เราแวะที่ห้อง Tourist Information ก่อน
ขอแผนที่รถบัสและซื้อตั๋ว Bus 1 day pass มาด้วย (500 เยน)
ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีเวลาอยู่เกียวโต 1 จะเที่ยวที่ไหนได้บ้าง
เค้าก็วงๆ มาให้ในแผนที่เลย
แต่จริงๆ แล้วเราก็ทำการบ้านไปล่วงหน้าว่าควรไปที่ไหน
แต่ถามเพื่อให้ชัวร์



ออกมาหน้าสถานีก็เจอกับเจ้าหนูอะตอม
แล้วก็หาป้ายรถบัสหน้าสถานีนั่นเลย มีหลายป้ายมากๆ
เสียดายมัวแต่ห่วงเที่ยวเลยไม่ได้ถ่ายรูปป้ายรถบัสมาเลย
เพียงแค่มีแผนที่รถบัส ไปไหนก็สบาย ดูง่ายมากๆ ไม่มีทางหลง
ดูที่เที่ยวที่จะไป กับป้ายที่จะลง รถบางคันก็มีภาษาอังกฤษบอกด้วย
บัตรรถบัส เมื่อใช้ครั้งแรก พอจะลงจากรถให้เสียบที่ช่องด้านหน้าคนขับ
มันจะขึ้นวันที่มาให้ พอขึ้นคันต่อๆ ไป ก็แค่โชว์บัตรโดยหันด้านวันที่ออกให้คนขับดู

รถบัสของเกียวโต เจ๋งมากๆ
เวลารถหยุด ตัวรถจะเลื่อนลง เป็นระบบไฮโดรลิกมั้งนะ
เพื่อให้คนก้าวขึ้นลงสะดวก ไม่ต้องก้าวยาวๆ เหมือนบ้านเรา
ถ้าติดไฟแดง ก็ดับเครื่องอีกตะหาก (ไม่รู้ว่าดับเครื่องรึปล่าว เพราะเสียงมันเงียบมากอ่ะ)
เราลุกให้คุณยายนั่ง ตอนแรกแกทำหน้าประหลาดใจ
แล้วก็โค้งขอบคุณเราใหญ่ จนเราแปลกใจว่าคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยลุกให้คนชรานั่งกันรึ
คงไม่มั้ง เพราะเห็นก็มีป้ายให้คนชรา คนพิการ คนท้อง ผู้ใหญ่อุ้มเด็กนั่งด้วย
(ไม่ค่อยมีคนลุกให้เด็กนั่งเหมือนกัน แล้วเด็กก็ไม่นั่งกันด้วย)



ที่แรกที่ไปคือวัดทอง (Kinkaguji Temple) หรือวัดอิกคิว ค่าเข้า 400 เยน
สีทองอร่ามงามแต๊ๆ เจอคนไทยเยอะเหมือนกัน
มีผู้หญิงใส่ชุดกิโมโนมาเดิน คนขอถ่ายรูปกันเต็ม
มาวัดนี้เสร็จเครื่องรางไป 2 ชิ้น



เดินๆ มาเจอกับกองเหรียญ ต้องอฐิษฐานอะไรก็ไม่รู้
แต่คาดว่าคงต้องโยนเหรียญให้ลงขัน
น้องนักเขียน (ณาขิ) ที่ไปด้วยกันโยนลงด้วย แต่เป็นแบบลงพื้นก่อนแล้วกระเด้งลงขันนะ ฮ่าฮ่า




จากนั้นเดินเรื่อยๆ ไปวัดเรียวอันจิ (Ryoanji Temple) ค่าเข้า 500 เยน
วัดนิกายเซน มีสวนหินอันลือลั่นนั่นแล
เค้าว่ากันว่ามีหิน 15 ก้อนแต่นับยังไงก็ไม่ถึง 15
ลองนับดูมันก็ไม่ถึง เพราะมันบังกันอยู่ ไม่ว่าจะไปมุมไหน
ถ่ายรูปก็ไม่ได้มุมสักที มีแต่คนอ่ะ



เดินย้อนขึ้นมาป้ายนึง เพื่อนั่งรถบัสไป ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ค่าเข้า 600 เยน
ปราสาทนกไนติงเกล เวลาเดินข้างในจะมีกลไก เสียงจะดังเหมือนเสียงนกร้อง
ก็เพราะดี แต่อดแปลกใจไม่ได้ว่าคนสมัยก่อนเค้าไม่หนวกหูกันเหรอ
แต่คงไม่มั้ง เพราะทำเป็นเสียงนกที่เพราะที่สุดนี่เนอะ

ขึ้นรถบัสไปที่วัดคิโยมิสึต่อ
พอไปถึงวัดนี้ต้องเดินขึ้นเนิน ขึ้นไปถึง 17.35 น. เค้าปิดให้เข้าแล้ว
ช้าไป 5 นาที
เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่ เพราะวัดนี้เปิดเช้า
เลยถ่ายรูปบรรยากาศมาอย่างเดียว



เจอกลุ่มใส่ชุดกิโมโน
ทำให้เข้าใจว่าทำไมในการ์ตูนญี่ปุ่น เวลานางเอกใส่กิโมโนออกมา
พระเอกจะต้องตะลึงด้วย มันก็น่าตะลึงจริงๆ แหละ
ถ่ายมาได้แต่ด้านหลัง สวยดีนะ



ร้านขายของฝาก มีพวงลูกอมแขวนอยู่ สีสวยดี



ร้านขายขนมของฝาก เอาหุ่นน่ารัก ผงกหัวหงึกๆ เรียกลูกค้า



ตู้กดน้ำอัตโนมัติ มีทุกมุมจริงๆ นะ
ถ่ายมาเหมือนของแปลก 555



อ่า...ขาดไม่ได้เลยนะเนี่ย
กองทัพของกิน ตึง ตึง ตึง
ไล่จากซ้ายไปขวา และบนลงล่าง
ไอศกรีมชาเขียวผสมวานิลา : กลมกล่อม ไม่หวานเลี่ยน โคนกรอบไม่เปื่อย 250 เยน กินที่วัดทอง
อุด้งเต้าหู้ : ร้านหยอดเหรียญข้างทาง ระหว่างเดินไปวัดเรียวอันจิ 250 เยน กับชาเขียวร้อนๆ อุ่นขึ้นมาทันที
ดังโงะ : ไม้ละ 100 เยน อร่อยกว่าเมืองไทย แปลกดีแป้งปิ้งราดน้ำจิ้มกลิ่นโชยุหน่อยๆ คลุกกับน้ำตาลทรายแดงละเอียด อืมมมม
ชูครีม : อันใหญ่เบิ้ม 300 เยน เนื้อแป้งกรอบนิดๆ กับไส้ครีมกลิ่นวานิลา มีเม็ดวานิลาด้วย หอมมากๆ

เทีี่ยวเสร็จมาเอากระเป๋าที่สถานีตอน 1 ทุ่ม
รีบหาที่พักเดินไปประมาณ 25 นาที
เรารีบออกมาใหม่ คราวนี้ฉายเดี่ยวเพราะนัดเพื่อนที่อยู่ที่นี่ไว้ ขี้เกียจเดินเลยนั่งรถไฟใต้ดิน
โผล่ขึ้นมาแทบกรี๊ด ดั๊นขึ้นมาด้านหลังสถานีเกียวโต เดินวนอยู่ 15 นาที
นัดเพื่อนไว้ด้านหน้าดันโผล่ด้านหลังสถานี กรรมจริงๆ



เมนู Dinner สุดไฮโซ
ข้าวหน้าปลาไหล : จานนี้ไฮไลท์ เพื่อนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นเจอกันตอนเย็น พาไปกิน เห็นมาชามเบิ่ม ต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน ตักส่วนแรกใส่ชามเล็กมากินธรรมดาก่อน จากนั้นเอาวาซาบิกับผักคลุกลงไป ตักออกมากินเป็นส่วนที่ 2 และส่วนสุดท้ายเอาน้ำชาราดลงไป อืมอร่อยมากกกกกกกกกกกก ชุดนี้ 2000 เยน แฮ่...คุณแม่เพื่อนเลี้ยง ขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ

วันนี้พักที่ Guesthouse Yahata คืนละ 2,500 เยน (ที่พักทั้งหมดจะรีวิวให้ดูทีหลังนะ)

วันนี้ใช้ไปทั้งหมด 8,257 เยน


ตอนต่อไป ชมซากุระที่เกียวโต แล้วต่อโอซาก้า



Create Date : 11 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2552 9:50:53 น. 19 comments
Counter : 4325 Pageviews.

 
เจิมมมมมมมมมมมมม


โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:17:31:08 น.  

 
ว้าววว บล๊อกนี้มีของน่ากินหลายเยย

ง่า...ปลาไหล กิงมะเป็นนะ

ชอบๆๆ หลังสาวๆใส่ชุดกิโมโน ดูมีชีวิตชีวาจังเลย

ชอบดูช่วงต้นคออ้ะ อิอิ เซ๊กซี่ดีเนอะ แบบคอกิโมโนถ่วงๆลงมาหน่อย

พวงท๊อฟฟี่ก็สวยยยย

แซลลี่ปกติมะชอบแกงกะหรี่นิ กินเป็นที่เดียวเลย ข้าวแกงกะหรี่นายโย่ง เยาวราช

แต่ข้าวมันไก่ ซัดมาแล้วทุกเจ้าเลย อิอิ

เตี๋ยวหมูต้มยำ กะยังมะเคย ช่วงหลังกลับมาอยู่บ้านแล้ว มะก่อนอยู่อพาร์ตเม้นต์หลังใบหยก 2

หม่ำเยอะจัง


โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:17:35:42 น.  

 
แซลลี่ : วันนึงกินแค่นี้เอง แต่เดินน่ะเยอะมากกก เผาพลาญหมด คิดดูเดินขึ้นเนินชันๆ กินชูครีมชิ้นเดียว


โดย: oanotai วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:17:43:14 น.  

 
ถ่ายภาพสวยคะ

เนื้อเรื่องน่าติดตามคร่า

รอตอนต่อไปนะคะ (o^^o)Y


โดย: rat29 IP: 125.24.75.8 วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:7:49:16 น.  

 
คุณ rat29 : ดีใจจังมีคนติดตาม ขอบคุณค่า ตอนนี้กำลังคัดภาพอยู่ค่ะ เยอะจัด


โดย: oanotai วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:8:57:00 น.  

 
สวีสดีค่า ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายกันนะคะ ตอนนี้ก็อกำลังบ้าญี่ปุ่นได้ที่เหมือนกัน อ่านไกด์บุ๊คไปหลายเล่มแล้วค่ะ ดีใจจังมาเข้าบล็อคของจขบ(ว่าแต่ชื่ออะไรค่ะ ชื่อแก้วนะคะ) ได้ข้อมูลไปกระตุ้นต่อมอยากเที่ยวอีกๆ (อปสรรคมีแค่เรื่องตังนี่หละ)

แอบดูในบล็อคเห็นว่าทำงานภาพประกอบเหมือนกันอยู่สนพแจ่มใสเหรอคะ แล้วจะติดตามผลงานนะคะ ของแก้วส่วนใหญ่จะเป็นงานวาดภาพประกอบนิทานค่ะ เป็นสพพ.เล็กๆชื่อสานอักษรค่ะ เพิ่งจะมีผลงานออกมาค่ะ

จขบทำตุ๊กตาน่าร้ากมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะชุดแก็งหมาค่ะ


โดย: readinglover วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:16:32:35 น.  

 
ชอบพวงลูกอมจัง
สีสดใสน่าฟันผุจัง


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:12:31:07 น.  

 

[widget.sanook.com - *More Feel*]

สุขสันต์วันสงกรานต์จ้า

แซลลี่รอดู จาดูๆๆๆ ของกิน เดี่ยวเปิดกรุ๊ปใหม่เลยมา ของกินล้วนๆ

ง่ะ เกาเหลาลูกชิ้นไม่ใส่ผัก ลูกชิ้นเปล่ากะน้ำซุปเลยอ้ะจิ 555+

แซลลี่ติดอ้ะ ใส่พริกแบบเผ็ดพอปามานนะ




โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:17:33:16 น.  

 



โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:17:35:19 น.  

 
ดีใจด้วย ในที่สุดความฝันก็เป็นจริงซักที เรายังไม่กล้าแบกเป้ไปเองอ่ะ กลัวหลง พูดญี่ปุ่นก็ไม่ได้ --"


โดย: ink IP: 124.121.243.87 วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:17:50:38 น.  

 
มาตามไปเที่ยวต่อค่ะ สนุกดีจัง ชุดกิโมโน น่ารักจริง ๆ เนอะ
แอบชอบตรงเสี่ยงอธิษฐานโยนเงินลงขันค่ะ
แหม.. แต่ใบเล็กติ๊ดด เดียวเอง
ลงได้นี่สงสัยมีกรี๊ดด แน่ 555

ปล. นอกจากซายากะ ฟี่เพิ่งซื้อสามใบเถามาลองอ่าน ส่วน มิเกะเนะโกะนี่น้องสาวซื้อมาหลายเล่ม แต่ยังไม่ได้อ่านซะทีค่ะ
เป็นพวกเห็นหนังสือ พุ่งเข้าใส่ ซื้อมาเยอะ อ่านไม่ทัน 55

เล่นน้ำสงกรานต์ให้สนุกนะคะ
แต่ เดินทางไปไหนมาไหนระวังนิดนึงด้วยค่ะ


โดย: Paulo วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:22:02:28 น.  

 
โอย พลาดไปหลายตอนเยย มะส่งตะแล๊บแก๊บไปบอกเลยน้าาาาาาาา ^__^

ชอบอ่ะชอบๆๆ ถ้าได้ไปนะ คงซื้อเบนโตะไปนั่งกินบนรถไฟมั่งแหละ เป็นประเพณีที่ต้องทำเนาะ ... แต่จนถึงตอนนี้เอ๋น้อยก็ยังมะได้ไปเยย ญี่ปุ่นน่ะ ชาตินี้จะได้ไปไหมนี่...หรือขอเวลาอีกก 3 ปี เก็บกะตังเหมือนตัวเองก่อนก็เวิร์กนะ เริ่มวันนี้เลย ...

ถ้าอยู่กรุงเทพฯก็ระวังตัวนะ ดูแลตัวเองด้วย ... ช่วงนี้สถานการณ์มันแซดเหลือเกิน


โดย: adaytrip วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:23:29:03 น.  

 
readinglover : เพราะอ่านไกด์บุ๊คนี่แหละค่า ต่อมอยากไปเลยแตกโผละ

ดอกฝิ่นในสายลมหนาว : ถ่ายมาอย่างเดียว แต่ไม่ซื้อค่ะ กินทางสายตาแทน

แซลลี่ : ใจเย๊นๆ เพราะของกินเยอะมั่ก มาก คิดดูตอนถ่ายภาพของกินอ่ะ ในกล้องจะมีโหมดถ่ายภาพดอกไม้ แต่เราเปลี่ยนเป็นโหมดของกินซะงั้น

ส้มแช่อิ่ม : สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ

ink : จริงๆ แล้วพวกเราตกลงจะไปด้วยกันใช่มั้ย เมื่อตอนอยู่ ม.6 น่ะ 555

Paul : เหรียญของเค้าก็เบานะคะ โยนไม่ถึงอีกต่างหาก

adaytrip : ไปถึงที่แล้วก็ต้องลองเนอะ ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้อง ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ฮา






โดย: oanotai วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:10:54:27 น.  

 
อยากกินไอติมชาเขียวอ้ะ


โดย: Pong IP: 125.24.233.215 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:22:28:50 น.  

 
ก็ไปเที่ยว "เกียวโต" เหรอครับ
ดีกว่า ดีกว่า
ถ้าคนต่างชาติมาญี่ปุ่น อยากให้ขึ้น "ชิงกันเซน" แน่ๆ
เราภูมิใจ "ชิงกันเซน" มาก
"Hikari" "Nozomi" "Kodama" "เอกิเบนโตะ"
รู้จักมากๆ นะครับ (เราเรียกย่อว่า "เอกิเบน" ครับ)
"ล๊อกเกอร์" 555


โดย: กูจิ (international ) วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:8:45:04 น.  

 
"บัส 1 day pass (500 เยน)" ... ดีนะ
ถ้าเราไปเที่ยวเกียวโต ต้องซื้อ!!
(ช่วงนี้ถ้ามีเวลากับเงิน จะไปเมืองไทยเลย 55)
"อะตอม" "มีหลายป้ายมากๆ" "รถบัสของเกียวโต" "ไฮโดรลิก" ...ไม่รู้เลยครับ 55
"คนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยลุกให้..."
อืมม... ไม่ค่อยเห็นด้วยที่โตเกียวครับ ไม่ดีนะ


โดย: กูจิ (international ) วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:9:37:28 น.  

 
คุณกูจิ : เป็นแค่ข้อสงสัยค่ะ เรื่องลุกที่นั่ง เพราะเห็นเด็กๆ ไม่นั่งกัน
หรือเป็นการฝึกความแข็งแรงหรือเปล่าค่ะ
ที่เมืองไทย ถ้ามีเด็กขึ้นมาจะหาที่นั่งกันทันที ทำให้สงสัยน่ะค่ะ

ถ้ามเที่ยวเมืองไทย ถ้าพอจะแนะนำอะไรให้ได้จะแนะนำค่ะ



โดย: oanotai วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:17:43:58 น.  

 
ทำไมเด็กๆ ญี่ปุ่นไม่นั่งกัน??
อืมม..............
ไม่รู้เลยครับ จริงๆ
ทำไมไม่นั่ง?? ไม่ใช่เหมือนเด็กๆ 55

ขอบคุณมากสำหรับ "แนะนำ" ครับคุณ oanotai
คราวหน้าจะไปเที่ยวเมืองไทย...
อืมม.. สิ้นปี? (ยังไม่รู้เลยครับ)
ถ้ามีอะไร จะบอกนะครับ

วัดทอง(Kinkaguji) คือ "The ประเทศญี่ปุ่น" นะครับ

ในรูป "เหรียญ" มีป้าย เขียนว่า "白蛇の塚"
ความหมายคือ "หลุมศพงูขาว" ครับ

ไม่รู้เลย "วัดเรียวอันจิ" ครับ
วัด "นิกายเซน"

"ปราสาทนิโจ" ดังมากๆ
คนญี่ปุ่นรู้สึกเสียงนั้นว่า "สบาย" ครับ

"วัดคิโยมิสึ" ดังมากๆ เลย
เราต้องไปให้ได้ครับ

"ตู้กดน้ำอัตโนมัติ" 555

"ข้าวหน้าปลาไหล" คือ "Hitsumabushi (ひつまぶし)" ครับ

//www.youtube.com/watch?v=vJ_EO6-lwwY

อร่อยมากๆ (ไม่เคยกินเลย!! 55)


โดย: กูจิ (international ) วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:20:10:31 น.  

 
แค่ 2 ชั่วโมงเองเหรอ ระยะทางตั้ง 500 กิโล

แล้วนะเนี่ย เพราะบ้านเราไม่มีทางไปได้ขนาดนี้หรอก

แหมนึกถึงพระเอกการ์ตูนเชียว




โดย: karuya IP: 10.105.1.174, 10.96.253.226, 58.137.129.220 วันที่: 3 กันยายน 2553 เวลา:13:26:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

oanotai
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพและงานเขียนที่ปรากฏในเวบไซด์แห่งนี้
เป็นลิขสิทธิ์แต่ผู้เดียวของ oanotai
ห้ามมิให้กระทำการดัดแปลง แก้ไข และลอกเลียนแบบ
หรือนำไปแอบอ้างเป็นผลงานของตน
ตลอดจนนำออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือ
นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ






Friends' blogs
[Add oanotai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.