|
บทที่ 23 วารี
23 วารี
เพลงประจำตอน Waterway~MIO
ราพลังก้าลืมตาขึ้น ก่อนจะกวาดมองไปรอบด้านอย่างงุนงง
นางอยู่ในรถม้า หญิงคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่รอบด้านอย่างเบียดเสียดช่วยกันประคองนางไว้ เสียงฝนยังดังอื้ออึงอยู่รอบด้าน เม็ดฝนบางหยดรั่วลงมาตามรูบนหลังคา
ที่นี่ที่ไหน หญิงสาวตั้งคำถาม
บนเขา พวกเราต้องหนีน้ำขึ้นบนเขา หญิงคนหนึ่งตอบ แต่รถม้าจอดนิ่งอยู่อย่างนี้มานานแล้ว ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ราพลังก้าลุกจากที่นั่ง แล้วก็พยายามหาทางไปให้ถึงประตู
ข้าต้องออกไปดู
อย่าเลย! ถึงออกไปเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ปล่อยให้พวกผู้ชายจัดการไปเถอะ หญิงอีกคนรีบห้าม ได้ยินท่านอัศวินบอกว่าเจ้ากำลังท้องไม่ใช่หรือ เจ้านั่งพักไปก่อนดีกว่า
ไม่ได้! อาจมีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าทำได้เพื่อที่จะช่วยเขา! ข้าต้องออกไป! ราพลังก้ายืนกรานเสียงแข็ง ได้โปรดหลีกทางด้วย!
หญิงคนอื่นๆ ในรถม้าพยายามห่อตัวจนนางฝ่าไปถึงประตูได้ ราพลังก้าเปิดประตูแล้วก็ผงะเมื่อฝนเม็ดแรงสาดเข้ามาเต็มๆ กระนั้นนางยังก้าวออกไปข้างนอก แล้วก็ปิดประตูลง
เบื้องหน้ามีรถม้าจอดอยู่เป็นแถวยาวบนทางลูกรังในป่าซึ่งเริ่มกลายเป็นโคลนเลน พวกผู้ชายมุงดูบางสิ่งอยู่หน้าขบวนรถม้า หญิงสาวจึงตรงไปหาพวกเขา
เบื้องหน้าทุกคนคือลำธารที่เชี่ยวกรากจนไม่อาจข้าม สะพานไม้ที่เคยทอดเหนือลำธารนั้นถูกฤทธิ์พายุทำให้ผุแตกจนไม่อาจเดินข้ามไปได้อีกแล้ว อย่าว่าจะให้รถม้าวิ่งผ่านเลย
ท่านราพลังก้า กลับเข้าไปก่อนเถอะขอรับ ชายสวมเกราะคนหนึ่งในกลุ่มนั้นรีบหันมาบอกทันทีที่เห็นนาง ท่านมาโอฝากให้ข้าดูแลความปลอดภัยของท่าน ออกมาข้างนอกในเวลาฝนตกอย่างนี้อันตรายมากนะขอรับ
แล้วพวกเราจะข้ามไปได้อย่างไร แม่น้ำเชี่ยวกรากอย่างนี้ หญิงสาวแย้ง
พวกเรากำลังพยายามหาทางอยู่ขอรับ กลับเข้าไปก่อนเถอะ
ข้าเป็นเรย์วาเทล! ราพลังก้าพูดเสียงแข็ง อาจมีสิ่งที่ข้าทำได้ก็ได้!
แต่ว่า...ถึงท่านจะเป็นเรย์วาเทล การทำให้ลำธารทั้งสายสงบก็ต้องใช้อำนาจมากขนาดเป็นเรย์วาเทลระดับสูงเท่านั้น แล้วตอนนี้...ท่านก็ตั้งครรภ์อยู่ด้วย
แล้วอย่างไร หญิงสาวกลับเอ่ยอย่างสงบ เจ้าจะใช้กำลังบังคับให้ข้ากลับเข้าไปเพื่อรอจนกว่าเขื่อนจะแตกอย่างนั้นหรือ
อัศวินชะงักไป
ราพลังก้าเพียงก้าวไปที่ริมตลิ่ง ห่างจากบริเวณที่พวกชาวบ้านกำลังปรึกษาหาทางและพยายามใช้ไม้ซ่อมแซมสะพาน นางสูดลมหายใจลึกขณะทบทวนทำนองที่วาบขึ้นในใจ
ท่านอินเฟล...มอบพลังให้ข้าด้วย
ข้าคือดาวแห่งความหวังของผู้คน วารีวนสะท้อนในหัวใจ ประดุจความโศกศัลย์ไม่มีวันเสื่อมคลาย ประดุจความตรมตรอมไม่สลายหาย เพียงท่อนแรกใจของหญิงสาวก็ร่วงวูบ นางทำมิได้ นางทราบว่าเสียงแผ่วเบาที่ดังสู้ลมฝนไม่ได้นั้นไร้อำนาจใดๆ ฝนเม็ดใหญ่ยังคงตกกระหน่ำ วารียังคงเชี่ยวกรากไม่ฟังคำสั่ง
ข้าคือดาวแห่งความหวังของชนผอง ร่ำร้องครวญความระทมในหัวใจ ประดุจฟองน้ำพรายผุดเริงรำเรื่อยไป คือวารีที่ไหลหลั่งเหมือนน้ำตานอง น้ำตาเริ่มปรากฏในดวงตาของนางจริงๆ ทว่าน้ำรอบด้านกลับไม่เกิดความเปลี่ยนแปลง นางทราบว่าเมื่อขับขานเพลงบทนี้ นางต้องนึกถึงน้ำที่ต้องการควบคุมประดุจน้ำตาของตน ก่อนจะบังคับให้ฝนหยุดตกหรือกระแสน้ำสงบได้
นางไม่อาจสัมผัสถึงพลัง นางยังไม่อาจเปิดใจ นางยังไม่อาจรวบรวมหัวใจของคนอื่นๆ มาเป็นอำนาจของนางได้ ทั้งๆ ที่รอบด้านก็มีผู้คนมากมายแท้ๆ
แต่แล้ว ราพลังก้าก็ได้ยินเสียงเล็กๆ อีกเสียง
แต่ถ้าทุกความหวังแห่งผู้คนเป็นจริง ข้าคงสัมผัสโลกนิรันดร์แห่งความสุขล้ำ จงเชื่อมั่นในตนเองและท่องไปในโลกมืดนั้น โอบกอดปรารถนาของผู้คนให้ได้ทั้งมวล เพื่อโลกและเรา นางหันไปข้างหลัง เห็นเด็กสาวผู้ขับร้องบทเพลงตำนานแห่งราพลังก้าก้าวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของอีกฝ่ายขับขานบทเพลงแห่งวารีเช่นกัน
ราพลังก้าสูดลมหายใจลึก รับเสียงเพลงของอีกฝ่ายด้วยความยินดี นางรู้สึกได้เหมือนบางสิ่งปรากฏในใจของตน สิ่งที่มิได้ยิ่งใหญ่แต่เป็นเหมือนเมล็ดพืชเล็กๆ ที่แตกรากจากเปลือกห่อหุ้มและพยายามหาผืนดินที่จะหยั่งรากลงไป
คิดถึงภาพแห่งสวรรค์ แดนอันเรืองรองด้วยแสง หากข้าคือธานีอันศักดิ์สิทธิ์ คือพฤกษาแห่งความหวัง เหตุใดพวกเขาจึงมิอาจเห็น
ข้าจักสงบเสียงน้ำตกซาดซ่า สัมผัสความสุขของผู้คนและแสงแดดอันอ่อนโยน ...แม้จะในสวรรค์อันเล็กนิดเพียงนี้ เด็กสาวเรย์วาเทลสืบทอดเสียงร้องของนาง ทั้งสองขับขานโดยไม่เห็นภาพของชาวบ้านที่ค่อยๆ ลงจากรถม้าหรือเกวียนของตนมาดูเหตุการณ์ ทว่าราพลังก้ารู้สึกได้ ความทรงจำหรือความรู้สึกนึกคิดใดๆ ตามแต่จะเรียกเป็นเหมือนหยดน้ำที่หล่อเลี้ยงเมล็ดพืชในใจของนาง มอบความอบอุ่นตื้นตันให้เหมือนครั้งที่นางมองลงมาจากยอดพฤกษาอิมแพลนต้า และแลเห็นฝูงชนที่โอบกอดโคนต้นของมัน
ข้าสัมผัสได้ถึงความเป็นมนุษย์อันอ่อนโยน และเสียงกระซิบอันเปี่ยมสุขของผู้คนที่สำคัญยิ่งต่อข้า ข้าอยากทำให้ความปรารถนาทั้งมวลผลิบานที่นี่ ในสรวงสวรรค์แห่งนี้ ใช่แล้ว นางสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของการเป็นมนุษย์จริงๆ ชาวบ้านที่นี่ให้ความช่วยเหลือกันในยามอพยพ ใครไม่มีรถม้าหรือเกวียนก็มีผู้อาสาจะให้ติดไป สุนัขแม่ลูกอ่อนที่มิได้มีใครเลี้ยงดูยังมีบ้านที่พร้อมจะแบ่งปันชายคาให้มัน มีนมอุ่นและอาหารให้พวกมันได้ดื่มกิน ยามนี้ก็มีคนนำพวกมันขึ้นรถมาด้วยเพื่อมิให้ต้องจมน้ำตายหากเขื่อนแตก
ภาพของโลกที่นางเคยเห็นว่าครอบคลุมด้วยสีดำค่อยๆ เจือจางรางเลือน เมล็ดพืชในใจนางเริ่มชูยอดแตกกิ่งก้านสาขา หากเป็นเช่นนี้...
ข้าจักอวยพรให้โลกใบนี้และท่านอย่างยินดี
ผองชนเล่นกับวารีในโลกนี้อย่างเป็นสุข ทุกคนเริงรำกันในโลกนี้ ทว่าภาพที่ข้าเอ่ยมีเพียงในความทรงจำ สรวงสวรรค์อันเป็นนิรันดร์ไม่อาจมีจริง น้ำตามิอาจกลายเป็นสายฝนแห่งความสุขที่พร่างพรมสู่ผู้คนได้ ข้าคิดว่าสวรรค์ดำรงอยู่ในท่านและใจของท่าน ข้าปรารถนาจะเอ่ยถ้อยคำนั้นเพื่อโลกนี้และท่าน เสียงของราพลังก้าสอดประสานกับเสียงของเด็กสาว ในท่อนแยกของบทเพลงเดียวกัน ท่อนอันผสมผสานทั้งความงดงามและอัปลักษณ์ของโลกไว้ เช่นเดียวกับวารีซึ่งทั้งมอบชีวิตและคร่าชีวิต เช่นเดียวกับทุกสรรพสิ่งและมนุษย์
ความหวังเอย แสงเอย จิตใจอันเมตตาเอย ผู้คนอันเป็นที่รักเอย ข้าปรารถนาจะสร้างสวรรค์ด้วยกันกับเหล่าบุตรแห่งเทพเจ้า ......ความสิ้นหวังเอย ความมืดเอย จิตใจอันชั่วร้ายเอย ผู้คนอันเป็นที่ชิงชังเอย ล้วนจำเป็นต่อเหล่าบุตรแห่งเทพเจ้า
ความหวังเอย แสงเอย จิตใจอันเมตตาเอย ผู้คนอันเป็นที่รักเอย ข้าสั่นไหวไปพร้อมกับโลกทั้งใบ ......ความสิ้นหวังเอย ความมืดเอย จิตใจอันชั่วร้ายเอย ผู้คนอันเป็นที่ชิงชังเอย ข้าจักยอมรับทุกสิ่ง
ข้าจักสร้างโลกใบใหม่ จักสร้างโลกแห่งความหวัง สร้างความสุข สร้างสวรรค์อันเรืองรองเพื่อโลกใบนี้ ......ข้าจักสร้างโลกใบใหม่ จักสร้างโลกแห่งความหวัง สร้างความสุข สร้างสวรรค์อันเรืองรองเพื่อโลกใบนี้
เราจะสร้างสวรรค์ของเราด้วยกัน ข้าสรรค์สร้างเพื่อโลกใบนี้ เพื่อท่าน และเพื่อตัวข้าเอง ฝนหยดสุดท้ายตกต้องใบไม้พร้อมกับเสียงขับร้องถ้อยสุดท้ายที่ค่อยๆ แผ่วเบาลง
ลำน้ำไหลเอื่อย ไม่เหลือความดุร้ายเชี่ยวกรากในครู่ก่อนหน้า ยามนี้มันกลับเป็นเหมือนลำธารอันน่าแหวกว่ายใต้แสงแดดสว่างแห่งคิมหันต์ รุ้งกินน้ำปรากฏบนเวิ้งฟ้า
ผู้คนโห่ร้องและปรบมือ ราวกับเพิ่งชมการแสดงอันตระการตาที่สุดจบลง
ราพลังก้าสบตากับเด็กสาวผู้มอบพลังให้ตน ทั้งสองเพียงยิ้มให้กันแทนคำขอบคุณ หญิงสาวรู้ว่าเด็กสาวผู้นี้จะเป็นเรย์วาเทลที่ดี นางปรารถนาจะช่วยผู้คน แต่นางก็ตระหนักถึงความชั่วร้ายที่มีอยู่ในโลกโดยไม่อาจเปลี่ยนแปลงเช่นกัน สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับราพลังก้าจะไม่ซ้ำรอยต่อนาง
ท่านราพลังก้า อัศวินเรียกอีกครั้งอย่างนอบน้อม ขอบคุณมากขอรับ แต่เราคงต้องรีบเดินทางเดี๋ยวนี้ เราไม่ทราบว่าพวกท่านมาโอจะปราบอสูรทันเวลาหรือเขื่อนจะแตกหรือไม่ ขอท่านกลับขึ้นรถม้าด้วย
หญิงสาวกลับสั่นศีรษะ
ทุกคนรีบไปก่อน ข้าจะไปช่วยมาโอ
แต่ว่า...ท่านตัวคนเดียวจะย้อนไปอย่างไร!
แทนคำตอบ ราพลังก้ากลับเหยียบย่างบนพื้นน้ำในลำธารและร้องเพลงอีกครั้ง
กระแสวารีพวยพุ่งอยู่ใต้เท้าของนางเป็นเกลียว นำนางทวนกระแสขึ้นไปสู่ต้นสายน้ำผ่านสายตาทุกผู้คน
สู่ที่ที่มาโอของนางรออยู่
--------------------------------------------------------------------------
Create Date : 03 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 21:44:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 250 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|