ทุกเรื่องควรรู้ของเครือข่ายสังคมใหม่ "Socl" จากไมโครซอฟท์

ในที่สุดก็เเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสำหรับเครือข่ายสังคมแนวใหม่ "Socl" จากไมโครซอฟท์ งานนี้ไมโครซอฟท์ไม่หวังชนช้างเฟซบุ๊ก แต่หวังเปิดทางให้ชาวออนไลน์แชร์คอนเทนต์ในเรื่องที่สนใจและซึ่งผู้ชมจะได้เห็นคอนเทนต์ทั้งภาพ ข้อความ และวิดีโอในรูปแบบสมุดภาพที่ชมได้ต่อเนื่องไม่รู้จบ

       Socl (อ่านว่า"โซเชียล") เป็นเครือข่ายสังคมที่เปิดให้ทุกคนร่วมใช้งานได้แล้ว ความสามารถเด่นคือการเปิดให้ผูใช้ค้นหาเรื่องหรือ topic ของสิ่งน่าสนใจเพื่อเปิดชมในรูปแบบสมุดภาพหรือ scrapbook ได้แบบต่อเนื่องและเพลิดเพลิน โดยการเปิดให้บริการครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดหลังจากไมโครซอฟท์เริ่มทดสอบบริการเมื่อเดือนพฤศภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ไมโครซอฟท์จำกัดบริการไว้เฉพาะพนักงาน นักเรียนนักศึกษา และผู้ใช้บางกลุ่มที่ได้รับคำเชิญเพื่อทดลองใช้บริการเท่านั้น

วันนี้บริการ Socl จะเปิดกว้างให้ผู้ใช้ทั่วโลกที่มีบัญชีบริการไมโครซอฟท์และเฟซบุ๊กทุกรายสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงเชื่อมบัญชีเข้ากับ Socl ก็สามารถแชร์คอนเทนต์ทั้งภาพถ่าย วิดีโอ ลิงก์ และข้อความไว้บน Socl โดยทุกคนสามารถพิมพ์แสดงความเห็นท้ายโพสต์ได้ พร้อมกับโพสต์คอนเทนต์อื่นเพิ่มเติมได้

       การโพสต์คอนเทนต์เพิ่มเติมนี้ถูกเรียกว่า ‘riffs’ คุณสมบัตินี้จะทำให้เรื่องราวความสนใจของชาวไอทีทั่วโลกได้รับการต่อยอดในหลายมุมมอง ขณะเดียวกันยังเป็นช่องทางให้ผู้สนใจในเรื่องเดียวกันสามารถสื่อสารกันได้แบบเสมือนผ่าน Socl จากทุกมุมโลก

       Socl นั้นแบ่งบริการออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ส่วน Post ที่ผู้ใช้จะสามารถอ่านโพสต์คอนเทนต์ใหม่ที่ถูกสุ่มขึ้นจากทั่วโลก จุดนี้ ผู้ใช้สามารถติดตามเทรนด์ความสนใจของคนทั่วโลกที่ส่วน Interests ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมกลุ่มคนทั่วโลกที่โพสต์คอนเทนต์ตามหัวข้อน่าสนใจ ในส่วนนี้ ผู้ใช้ Socl จะสามารถสื่อสารกับบุคคลที่สนใจในกลุ่มเรื่องเดียวกันได้ตามต้องการ

       ส่วนที่ 3 คือ People ส่วนนี้ผู้ใช้ Socl จะได้เห็นสมาชิกผู้ใช้งาน Socl จากทั่วมุมโลก ในส่วนนี้ผู้สนใจสามารถเลือกคลิกติดตามหรือ Follow ผู้ใช้รายใดก็ได้ โดยภาพสมาชิกที่ปรากฏในเพจนี้จะไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ที่มีจำนวน Follower มากมาย แต่ผู้ใช้ที่มีผู้ติดตามเพียงหลัก 10 ก็มีโอกาสปรากฏโฉมในส่วนนี้

       ผู้ใช้ Socl ทุกคนจะสามารถติดตามประวัติการโพสต์ของตัวเองได้ที่ส่วน Me ซึ่งจะแสดงความเคลื่อนไหวทุกอย่างที่เกิดขึ้นบน Socl ทั้งประวัติการโพสต์, สรุปจำนวนผู้คลิกติดตามหรือ follow, ชมวิดีโอที่เพิ่งสร้างขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าใน Socl ได้ทั้งหมด

       ส่วนที่ 5 คือ Parties แหล่งรวมวิดีโอซึ่ง Socl การันตีว่าผู้ใช้สามารถชมพร้อมกับสมาชิกรายอื่นได้แบบเรียลไทม์ แม้จะไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จอเดียวกัน

       Socl เป็นผลงานการพัฒนาของส่วนงานวิจัยของไมโครซอฟท์นามว่า Microsoft Research FUSE Labs ซึ่งพัฒนา Socl มาเพื่อทดสอบการให้บริการ social search หรือการค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายสังคม สิ่งที่ Socl ทำในวันนี้คือการอาสาเป็นสถานที่นัดพบของผู้คนทั่วโลกซึ่งสามารถสื่อสารกันผ่านเรื่องราวน่าสนใจที่ถูกแชร์ไว้ ซึ่งมีโพสต์ภาพ ลิงก์เว็บไซต์ และคำบรรยายเป็นสื่อกลางการสื่อสารได้อย่างลงตัว

       เบื้องต้น Socl ถูกวิจารณ์ว่าการจัดเรียงคอนเทนต์แบบสมุดภาพหรือ scrapbook ทำให้ Socl ดูเหมือนว่ากำลังยึดรูปแบบอินเทอร์เฟสแบบ LiveTile บน Windows 8 และ Windows Phone 8 โดยมองแล้วคล้ายกับ Pinterest มากกว่า Facebook ซึ่งผู้ใช้ Socl จะสามารถเลื่อนหน้าจอเพื่อชมคอนเทนต์ที่ต้องการได้แบบไม่สิ้นสุด

       อีกจุดที่ทำให้ Socl แตกต่างจากเฟซบุ๊ก คือ Socl จะไม่มีบริการโพสต์ข้อความส่วนตัวระหว่างสมาชิก และผู้ใช้จะไม่สามารถโพสต์ภาพส่วนตัวจากคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แต่จะสามารถเสิร์ชภาพหรือลิงก์จากระบบ (ให้บริการโดย Bing) เท่านั้น แล้วจึงสามารถคลิกเลือกเพื่อวางภาพนั้นในกรอบที่ Socl เตรียมไว้ จุดนี้ผู้ใช้ที่มีเว็บบล็อกส่วนตัวจะได้ประโยชน์มากในการประชาสัมพันธ์ให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก ผ่านการนำภาพสวยงามน่าสนใจมารวมไว้เป็นกลุ่ม ซึ่งผู้สนใจที่อยู่ต่างประเทศ จะสามารถคลิกที่ภาพเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ได้

       อย่างไรก็ตาม ระบบ Socl จะแสดงข้อความโพสต์โดยการสุ่ม ซึ่งแม้ Socl จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถจัดหมวดหมู่โพสต์ที่สนใจด้วยการติดป้ายหรือ tag แต่พบว่าบางกรณีไม่สามารถทำให้ผู้ใช้พบคอนเทนต์ทีต้องการแบบเจาะจง

นอกจากนี้ ระบบ Socl ยังใช้ปุ่มรูป imoticon รูปยิ้ม :-) ซึ่งจะปรากฏข้อความว่า "This makes me smile" เพื่อให้ผู้ใช้กดแสดงความชื่นชอบคอนเทนต์นั้นแทนการกด Like ในเฟซบุ๊ก

       ทั้งหมดนี้ เชื่อว่า Socl จะมีพัฒนาการอีกมากเมื่อให้บริการเต็มที่ในช่วงปีหน้า ส่วนหนึ่งเพราะคอนเทนต์ในระบบยังไม่หลากหลาย และยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งไม่แน่ Socl อาจได้รับความนิยมในฐานะเครือข่ายสังคมอุดมความรู้ ซึ่งสามารถเทียบชั้นได้กับเฟซบุ๊กก็ได้ในอนาคต

* manager.co.th  *




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2555    
Last Update : 12 ธันวาคม 2555 9:09:41 น.
Counter : 657 Pageviews.  

ทดสอบ“บริโอ้ อเมซ”ตื่นเต้น...รถดีก็ทำได้

หลังจากไปลองขับ “บริโอ้ อเมซ” ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สนามแข่งแก่งกระจานเซอร์กิต ซึ่งครานั้นอีโคคาร์รุ่นที่สองของฮอนด้า ยังถูกพรางหน้าปิดตาด้วยสติกเกอร์ 3M ม้วนละ 9 หมื่นบาทรอบคัน พร้อมกับปล่อยข้อมูลทางเทคนิคให้ผู้สื่อข่าวได้รับรู้เพียงเล็กน้อย

….เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ “ฮอนด้า ออโตโมบิล” จัดทริปทดสอบ “บริโอ้ อเมซ” (Brio Amaze) ขับกันขำๆระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร โดยยกขบวนนักข่าวไปลองกันแถวๆอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ก่อนการลองขับ “สมภพ ปฏิภานธาดา” ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด คุยให้ฟังว่า “บริโอ้ อเมซ” สร้างปรากฏการณ์อันน่า“ตื่นเต้น”ให้ฮอนด้า 3 ประการ คือหนึ่งเรื่องของตัวรถที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างวิศวกรชาวไทยกับญี่ปุ่น ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศไทย

       โดยรวบรวมความต้องการของลูกค้าคนไทยและชาวเอเชีย พร้อมช่วยกันคิดช่วยกันออกแบบ หาจุดลงตัวในการพัฒนาเก๋งเล็กตัวถังซีดานความยาวไม่เกิน 4 เมตร ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ประหยัดน้ำมัน...และผลก็ออกมาเป็น “บริโอ้ อเมซ” อย่างที่เห็น

       ประการที่สอง เหตุจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ส่งผลให้ทุกผู้ทุกฝ่ายในฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย อันหมายรวมถึงคนในโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ประสานใจเร่งวันผลิตจนสามารถเปิดตัวรถได้เร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 6 เดือน...และผลก็ได้โกยยอดกันสมใจ

       ประการสุดท้าย หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมแบ่งการทำตลาดเป็นสองเกรดคือ S กับ V โดย S เกียร์ธรรมดา ราคา 454,000 บาท เกียร์อัตโนมัติ ราคา 493,000 บาท ส่วนเกรด V เกียร์ธรรมดา 482,000 บาท เกียร์อัตโนมัติราคา521,000 บาท และจนถึงวันนี้“บริโอ้ อเมซ” ได้กระแสตอบรับดีเกินคาด...ผลคือยอดจองทะลุ 10,000 คันไปเรียบร้อย

...นั่นเป็น 3 ปรากฏการณ์ ที่ทำให้ฮอนด้าชื่นมื้นกันทั้งบริษัท ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานหนัก และดูประสานสามัคคีมากขึ้น หลังจากผ่านวิกฤตน้ำท่วมใหญ่มาด้วยกัน



       กลับมาในส่วนของตัวรถ “บริโอ้ อเมซ” ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ตื่นเต้นให้ผู้เขียนเช่นกัน เพราะทีมวิศวกรฮอนด้าได้พัฒนาและเก็บรายละเอียดดีขึ้นกว่า“บริโอ้ ตัวถังแฮทช์แบ็ก” ในหลายๆจุด

       เริ่มจากตัวถังซีดานที่มีความยาว 3,990 มม. หรือยาวกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก 380 มม. ส่วนความกว้าง 1,680 มม. และสูง 1,485มม.เท่ากัน ขณะที่ระยะฐานล้อ 2,405 มม.ยาวกว่าบริโอ้ 60 มม.

การตกแต่งภายในอารมณ์แทบไม่มีต่างจากบริโอ้ แฮทช์แบ็ก แต่จุดเด่นอยู่ตรงพื้นที่ผู้โดยสารด้านหลัง กว้างขวางนั่งสบายกว่าชัดเจน ขณะที่ตัวเบาะนั่งหนาและใหญ่กว่า เสียแต่ว่าพับราบลงมาแบบบริโอ้ แฮทช์แบ็กไม่ได้ ส่วนแผงประตูด้านในทั้ง 4 บานมีวัสดุปิดเรียบไม่เห็นเนื้อสีตัวถัง พร้อมออกแบบให้วางขวดน้ำขนาดใหญ่ได้อีกด้วย (หรือถ้านับที่วางแก้ว-ขวดน้ำรอบคันมีถึง 9 จุด)

นอกจากนี้“บริโอ้ อเมซ” ยังติดไล่ฝ้ากระจกหลังมาให้ ส่วนใบปัดน้ำฝนหลังคงไม่จำเป็น เพราะมีช่วงกระโปรงท้ายกันน้ำกระเด็นเอาไว้ตามโครงสร้างอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพื้นที่เก็บสัมภาระตรงนี้ยังจุถึง 400 ลิตร และฮอนด้าย้ำว่าสามารถรองรับถุงกอล์ฟได้ 2 ใบ

       ด้านสมรรถนะจากเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร i-VTEC SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ต้องยอมรับว่าตอบสนองการขับขี่ดีที่สุดในบรรดาอีโคคาร์ด้วยกันอยู่แล้ว



       โดยเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ยกชุดมาจากบริโอ้ แฮทช์แบ็ก ไม่ได้ปรับทั้งเรี่ยวแรงและอัตราทดเกียร์ แม้ตัวท็อปรุ่น V เกียร์อัตโนมัติน้ำหนักตัวจะมากกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก (รุ่นเดียวกัน)อยู่ 15 กิโลกรัม บวกกับรูปทรงที่ยืดยาวกว่า แต่การขับขี่รวมๆยังกระฉับกระเฉงพอสมควร

       ...จังหวะออกตัวไร้อาการอืดอาด จังหวะเร่งแซงพริ้วหายห่วง อย่างการขับในทริปนี้ใช้ถนนมิตรภาพเป็นหลัก พร้อมเพื่อนร่วมทางเต็มไปด้วยรถบรรทุก พละกำลังช่วงเร่งแซงนั้นมาแบบนุ่มเนียนต่อเนื่อง บดบี้คันเร่งลงไปนิด รถจะไปตัดเปลี่ยนเกียร์แถวๆ 4,000 รอบ เรียกว่าขับได้สบายไม่เครียด

       สำหรับรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.6 เมตร มากกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก 10 เซนติเมตร ซึ่งความต่างนี้มีผลน้อยในการใช้งานจริง ส่วนการควบคุมผ่านพวงมาลัยแรคแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เบามือในความเร็วต่ำ แต่เมื่อขับความเร็วสูง 120 กม./ชม. ยังนิ่งใช้ได้ ขณะที่การบังคับสั่งงานซ้าย-ขวา อาจมีระยะฟรีนิดๆและไม่แม่นยำเท่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก



       โครงสร้างการรองรับหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นคานแข็งทอร์ชันบีม ถ้าฟังจากคำอธิบายของวิศวกรผู้พัฒนาว่า ปรับให้หนึบกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก และใช้สปริงหลังที่แข็งกว่าเพื่อรองรับกับโครงสร้างและน้ำที่เพิ่มขึ้น ซึ่งครั้งแรกที่ได้ลองขับตัว“พรีโปรดักต์ชัน” ที่สนามแก่งกระจานเซอร์กิต ผู้เขียนรู้สึกจริงตามนั้น แต่พอมาขับตัวขายจริงในทริปทดสอบนี้กลับรู้สึกว่า ช่วงล่างนุ่มลงมาเล็กน้อย

       ในเรื่องช่วงล่าง วิศวกรคงปรับให้สมดุลกับโครงสร้างใหม่ของรถ แต่ในภาพรวมยังอิงการรองรับที่นุ่มสบายเอาไว้ บวกกับล้ออัลลอยด์ขนาด 14 นิ้ว ประกบยาง 175/65 R14 ความหนึบแน่นก็ทำได้ตามสภาพละครับ

       อย่างไรก็ตามการนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง ที่นอกจากจะยืดแข้งขาสบาย ระยะห่างช่วงหัวเหลือๆแล้ว การซับแรงสะเทือนจากพื้นยังทำได้ดี เมื่อรวมกับความรู้สึกว่ามีกระโปรงท้ายอยู่ด้านหลัง ยิ่งให้ความรู้สึกมั่นใจและหลับได้เต็มตากว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก เยอะ



       ...พูดถึงเรื่องความปลอดภัย ผู้เขียนว่าระบบเบรกของ“บริโอ้ อเมซ” เซ็ทมาหนึบแน่นตอบสนองยอดเยี่ยม ขณะเดียวกัน ฮอนด้าจัดระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และถุงลมนิรภัยคู่หน้า(คนขับ-ผู้โดยสาร) มาเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย

       ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมันจากการขับทางตรงบนถนนมิตรภาพ บนความเร็วนิ่งๆ100-120 กม./ชม. และมีช่วงเร่งไปเตะ 140 กม./ชม.บางครั้ง ยังเห็นตัวเลขหน้าจออัจฉริยะแสดงอยู่ 18 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...ด้วยรูปทรงตัวถังซีดาน ออกแบบสัดส่วนลงตัว ภายในเก็บงานละเอียด เรียกว่าดูถูกลูกค้าคนไทยน้อยลง ส่วนพื้นที่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังนั่งสบาย ขยับขยายได้จริง ช่วงล่างนุ่มกำลังเหมาะ สมรรถนะของเครื่องยนต์ระบส่งกำลัง ทำได้เนียนที่สุดในบรรดาอีโคคาร์ด้วยกัน....ด้วยราคาขายขนาดนี้พิสูจน์แล้วว่า ฮอนด้าถ้าจะทำรถออกมาให้ดี...ก็ยังทำได้!!!







* manager.co.th  *




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2555    
Last Update : 12 ธันวาคม 2555 9:07:23 น.
Counter : 1417 Pageviews.  

iTunes 12 Days of Gifts แอพแจ้งเตือนแจกของขวัญปีใหม่จากแอปเปิล!!

แอปเปิลเตรียมมอบสิทธิพิเศษช่วงปีใหม่ให้กับแฟนๆ อีกครั้ง ด้วยการแจกของขวัญเป็นบรรดาแอพพลิเคชั่น เพลง หนัง และอืนๆ อีกมากมาย แบบฟรีๆ ผ่านการแจ้งเตือนบน iTunes 12 Days of Gifts แอพ

ที่จะเริ่มแจกตั้งแต่ 26 ธ.ค. ไปอีก 12 วัน แต่ละวันจะมีของขวัญให้ดาวน์โหลดไม่ซ้ำอารมณ์ ระยะเวลาโหลดภายใน 24 ช.ม. ในแต่ละวัน แฟนๆ แอปเปิลที่รอโอกาสนี้ จำเป็นต้องดาวน์โหลด iTunes 12 Days of Gifts ไว้รอเลยแหละนะ !! >o<

Download

QRCode

[ App Store link ]

* mthai.com *




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2555    
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 9:31:36 น.
Counter : 1444 Pageviews.  

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เผยนวัตกรรมการออกแบบยานยนต์มาสด้าแห่งอนาคตครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิดการออกแบบ “โคโดะ ดีไซน์” จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว (KODO – Soul of Motion) ถ่ายทอดเส้นสายการออกแบบล่าสุดผ่านยนตรกรรมรถต้นแบบคันแรก “มาสด้า ชินาริ (Mazda SHINARI)” โคโดะ ดีไซน์ ได้รับการยอมรับในระดับโลก และจะถ่ายทอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวสู่รถเจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต ที่สำคัญด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่าง สกายแอคทีฟ (SKYACTIV) และโคโดะ ดีไซน์ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าอย่างยั่งยืน และเพื่อบรรลุเป้าหมายการขายระยะกลางของภูมิภาคอาเซียน ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 150,000 คัน ในอีก 4 ปีข้างหน้า

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 1

ภายใต้แนวคิด “ซูม-ซูม” มาสด้าได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุดมาใช้ในการผลิตรถยนต์ที่รูปลักษณ์สะกดทุกสายตา มีความสนุกเร้าใจในการขับขี่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเต็มเปี่ยมไปด้วยความปลอดภัย ซึ่งมาสด้าได้ผลิตรถยนต์ที่มีความสปอร์ตและหรูหรามาแล้วอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น MX-5, RX-8, มาสด้า2 มาสด้า3 และบีที-50 โปร ซึ่งความเชี่ยวชาญในเรื่องความสปอร์ต สามารถสัมผัสได้จากดีไซน์ของมาสด้าที่โดนใจผู้ชื่นชอบการขับขี่จากทั่วโลก ซึ่งแนวคิดการออกแบบที่สำคัญของมาสด้า สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากรถแต่ละรุ่นที่มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเฉพาะตัวสำหรับตลาดโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 2

มร. มาซาฮิโระ โมโร เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่รับผิดชอบดูแลการขายและการตลาดทั่วโลก กล่าวว่า มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งสำหรับตลาดในประเทศไทย จากยอดจำหน่ายเมื่อปีที่ผ่านมาสูงถึง 42,000 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 5.3% ซึ่งส่งผลให้มาสด้า ประเทศไทย ก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 6 ของประเทศที่มาสด้ากำลังทำตลาดอยู่ ที่สำคัญในปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 70,000 คัน และเชื่อว่ายอดขายจริงน่าจะสูงมากกว่านี้ ซึ่งจะทำให้มาสด้า ประเทศไทยก้าวใกล้ไปสู่ลำดับที่สูงขึ้น

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 3

เพื่อต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของประเทศไทยนี้ มาสด้าพร้อมเสริมกำลังเต็มที่เพื่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการจัดงาน “MAZDA DESIGN FORUM” ในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นของการสร้างมิติใหม่ของมาสด้า ประเทศไทย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัทผู้ผลิตและพัฒนารถยนต์ได้เปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังของการออกแบบและการพัฒนารถยนต์ ซึ่งไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งจะช่วยจุดประกายให้บุคลากรในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับปรัชญาในการออกแบบ มร. โมโร กล่าวเพิ่มเติม

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 4

นอกจากนี้ มาสด้าได้กำหนดแผนพัฒนาธุรกิจระยะกลาง สำหรับตลาดประเทศไทย รวมทั้งอาเซียน ซึ่งการถือกำเนิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) จะยิ่งมีส่วนช่วยทำให้ระบบเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยมาสด้ามีเป้าหมายสูงสุด คือ การเติบโตทางด้านยอดขายในภูมิภาคอาเซียน โดยเราตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 150,000 คัน ภายในปี 2559 และแน่นอนตลาดหลักที่สำคัญคือประเทศไทย และสิ่งที่จะทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จได้นั่นคือ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับจำนวนรุ่นรถยนต์ที่จำหน่ายในตลาด โดยจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการและความชอบของลูกค้าให้มากที่สุด  มร. โมโร กล่าวเสริม

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 5

มร. โมโร กล่าวเสริมว่า “มาสด้ามีแนวทางและจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน เราจะไม่ลงไปในสนามที่คนอื่นกำลังเล่นกัน แต่เราจะสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นอย่างชัดเจน จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นจุดแข็งของเรา โดยเฉพาะวันนี้ เราจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมการออกแบบแห่งอนาคตของมาสด้า กับยนตรกรรมต้นแบบ MAZDA SHINARI ที่เป็นหัวใจของการดีไซน์รูปแบบใหม่ โคโดะ – จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ด้วยการคัดสรรวัสดุอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มาสด้ามีความแตกต่าง ซึ่งถูกถ่ายทอดไปยังรถยนต์ Mazda CX-5 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งในตลาดโลก ที่สำคัญกำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า”

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 6

มร. อิคูโอะ มาเอดะ หัวหน้าทีมออกแบบ กล่าวว่า ปรัชญาการออกแบบรถยนต์ในอนาคตของมาสด้า จะเป็นการสะท้อนถึงพลังและความงดงาม ดังที่มนุษย์ได้เห็นจากการเคลื่อนไหวของสัตว์หรือมนุษย์  อันเป็นรูปแบบของฟอร์มที่ซ่อนอยู่ในสรีระทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว อย่างเช่น ช่วงขณะที่เสือชีตาห์กระโจนเข้าตะครุบเหยื่อ หรือนักดาบ “เคนโด้” ศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ในช่วงจังหวะที่ดาบถูกฟาดลงมา ช่วงเวลานั้นคือพลังอันมหาศาลจะถูกปลดปล่อยออกมาภายใต้ท่วงท่าที่แข็งแกร่งและมั่นคง เป็นความสมดุลระหว่างพละกำลังกับความงดงามอย่างเป็นธรรมชาติ คือความรู้สึกฉับพลันที่มุ่งมั่นและแน่วแน่ ให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างสัมผัสได้ถึง พลัง รู้สึกได้ถึงความเร็ว และประทับใจกับท่วงท่าอันงดงาม ทั้งหมดที่ผมเอ่ยถึงนี้ล้วนเป็นธรรมชาติที่น่าหลงใหล มาสด้าจึงได้จับเอาความน่าหลงใหลเหล่านี้มาใส่เป็นพลังขับเคลื่อนและเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกเข้าไป จนเกิดเป็นรูปฟอร์มแห่งการเคลื่อนไหว ภายใต้ชื่อ “โคโดะ - จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว” (KODO – Soul of Motion) ที่สำคัญการออกแบบ “โคโดะ” ได้ถูกกำหนดเป็นแนวทางการออกแบบใหม่ทั้งหมดของมาสด้านับจากนี้ไปและในอนาคต   เพื่อแสดงออกถึงการเคลื่อนอันทรงพลัง รวดเร็ว และปราดเปรียว  ให้เห็นถึงชีวิตหรือจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ ซึ่งธีมการออกแบบ “โคโดะ” (KODO) คือ ภาษาการออกแบบของมาสด้า ความเคลื่อนไหวอันทรงพลัง  
การออกแบบ “โคโดะ” คือ องค์ประกอบของ ความเร็ว พละกำลัง และเสน่ห์

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 7

ความเร็ว (SPEED): การขึ้นรูปของรถที่บอกได้ถึงความเร็ว สัญชาตญาณดิบที่จะควบมันไปข้างหน้าถูกกระตุ้นขึ้นเพียงแค่ได้เห็น เครื่องจักรที่บ่งบอกถึงความเร็วและพลัง

พละกำลัง (TENSE): การขึ้นรูปของรถที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของกำลังที่อัดแน่นในจังหวะที่กำลังจะเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมาย  เป็นการขึ้นรูปที่ปราณีตหมดจด ไม่วอกแวก ให้เห็นถึงสปิริตของชาวญี่ปุ่นที่เรียบง่าย

เสน่ห์ (ALLURED): คุณภาพที่สัมผัสได้ถึงความลุ่มลึกและความหรูหราเหนือระดับ  ส่งผ่านความประณีตของฝีมือมนุษย์ที่ชวนให้สัมผัส

เราได้ผสานคุณค่าทั้งสามนี้เอาไว้ใน “โคโดะ – จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว” (KODO – Soul of Motion)
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การวางยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อน และช่วยส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ ความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย จะช่วยให้รถยนต์มาสด้าสามารถครองใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน ด้วยการวางตำแหน่งของสินค้าที่แตกต่างและมีความชัดเจน เสริมด้วยกิจกรรมด้านการตลาดสไตล์ ซูม-ซูม เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์การใช้ชีวิตเป็นตัวของตัวเอง ผมเชื่อมั่นว่าเราประสบความสำเร็จในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าได้บรรลุตามแผนที่วางไว้แล้ว และนับจากนี้เรายังคงมุ่งมั่นทุ่มเทสร้างรากฐานให้แบรนด์มีความมั่นคงยิ่งขึ้นต่อไป

Mazda SHINARI ยานยนต์แห่งอนาคต รูปที่ 8

“ความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่มาสด้าจะสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่มากมายในระหว่างทาง ด้วยแรงกาย แรงใจ ความรักและหลงใหลในความเป็นมาสด้าของเราทุกคน ผมหวังว่า นวัตกรรมการออกแบบรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ท่านได้รับชมได้รับฟังในวันนี้ จะยังประโยชน์อย่างเต็มที่ต่อการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง” ยูกิ กล่าวเสริม

* mthai.com *




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2555    
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 9:29:24 น.
Counter : 1191 Pageviews.  

ปราสาท Castello di Sammezzano สุดอลังการแห่งสถาปัตยกรรม

travel mthai ชวนสัมผัสความงดงามสุดอลังการแห่งสถาปัตยกรรม ปราสาท Castello di Sammezzano ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเทือกเขา แห่ง Tuscany ทางตอนเหนือของ อิตาลี

สุดอลังการ ปราสาท Castello di Sammezzano

ปราสาท Castello di Sammezzano

ปราสาท Castello di Sammezzano นั้น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1605 เป็นผลงานสไตล์แขกมัวร์ และถูกบูรณะใหม่อีกครั้งในช่วงระหว่าง ปี ค.ศ. 1853 – 1889 ภายหลังสงคราม ปราสาท Castello di Sammezzano เคยให้บริการเป็นโรงแรมสุดหรู และปิดตัวลงในช่วงปลายยุค 90 ถูกทิ้งร่างเรื่อยมา จนกระทั่ง เดือนเมษายน ค.ศ. 2012 ได้มีการซ่อมแซมและเสริมสร้างเพื่อประกาศความงดงามของ ปราสาท Castello di Sammezzano ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนแห่งหนึ่ง

ปราสาท Castello di Sammezzano อิตาลี

ปราสาท Castello di Sammezzano อีกหนึ่งความงดงามแห่งอิตาลี

ข้อมูล : curious-places.blogspot.com เรียบเรียง : travel.mthai.com




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2555    
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 9:24:29 น.
Counter : 1040 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.