|
ทดสอบ Mitsubishi Triton Plus 2012 5 M/T กระบะทันสมัยสมรรถนะโดนใจ
เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในช่วงปี 2012 ที่ผ่านมากลุ่มรถยนต์กระบะถือเป็นรถยนต์ที่มีการแข่งขันกันสูงไม่น้อย ด้วยถึงเวลาการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่แนะนำสู่ตลาดจะเหลือเพียงบางค่ายเท่านั้นที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงใดๆ การไม่เปลี่ยนโฉมใหม่อาจจะเสียเปรียบ ยิ่งเมื่อกล่าวถึงแง่ของการขายที่ลูกค้า ก็ย่อมที่อยากจะได้อะไรใหม่ๆมาตอบโจทย์ ยิ่งรถยนต์ในบ้านเราราคาก็ไม่ได้ถูกแถมซื้อ 1 ครั้งใช้กันยาวๆ แต่ Mitsubishi ไม่ได้คิดแบบนั้น ซ้ำยังเดินหน้าในการทำตลาด Mitsubishi triton ในโฉมปี 2012 ที่ปรับโฉมเล็กๆ แต่เน้นเนื้อที่ให้ความประทับใจในการขับขี่ 
ภายนอกทันสมัยล้ำยุคเกินตัว ตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในช่วงราวๆปี 2006 เป็นต้นมารถยนต์ Mitsubishi Triton ใหม่ เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ให้ความแปลกใหม่ตลาด ยิ่งกับการถ่ายทอดตัวตนในความแตกต่างที่สืบทอดจาก Mitsubishi Strada ที่ขายมาหลายปี และครั้งนี้ก็ก้าวล้ำมากกว่าค่ายอื่น ที่ส่งรถรุ่นใหม่ออกมาทำตลาดในครั้งนั้น เรือนร่างล้ำสมัยสุดๆ จนนึกว่าหลุดออกมาจากโลกอนาคต สร้างความชัดเจนมากขึ้นกับกลุ่มลูกค้าจากภาพยนตร์โฆษณาที่ชัดเจน ดูเหมือนภาพลักษณ์ที่ว่านี้ก็ยังสามารถรักษามาได้จวบจนปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างในแบบที่ยังไม่มีใครเทียบชั้น ได้ จริงอยู่รุ่นใหม่ ต้องดีกว่าเดิม แต่ Mitsubishi Triton 2012 ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยลูกเล่นในเรือนร่างที่ปรับจากดูดีและหรูหราจากปีก่อน สู่ความเข้มข้นในคราบสปอร์ตปิคอัพล้ำสมัย และยังแนะนำสีใหม่ Quartz Brown จากรถนั่งของค่ายมาผสาน สร้างสงความลงตัวในแบบที่แตกต่างไม่น้อย  ในรุ่นใหม่ Mitsubishi Triton 2012 ยังกลับมาพร้อมความบึกบึกมากขึ้น จากการใช้โป่งล้อเสริมเข้ามาในสไตล์ทูโทน และไม่เพียงเท่านั้น มันก็ยังสร้างรายละเอียดที่น่าสนใจ ภายใต้การปรับในส่วนกระบะท้ายใหม่ให้ความสูงขึ้นอีก 57 ม.ม. ช่วยเสริมความบึกขึ้นอย่างชั้นเจนตั้งแต่รุ่น Plus ขึ้นไป เช่นเดียวกับการให้เส้นสายในการออกแบบ ฝาท้ายให้องค์รวมในรุ่น 4 ประตู ตอบโจทย์ความเป็นรถครอบครัวตามฉบับรถยนต์สปอร์ตทันสมัย ที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้ในตลาดรถปัจจุบัน ห้องโดยสารลุคสปอร์ต แต่งนิดกับออพชั่นจัดเต็ม ความทันสมัยที่แปลกตากว่าค่ายอื่นๆ กลายเป็นจุดเด่นที่กายภายนอก และดีเอ็นเอ นี้ส่งถึงจิตวิญญาณภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Triton 2012 ทื่ปรับแต่งด้วยรายละเอียดโทนสปอร์ตดำ เพิ่มอารมณ์ในความเป็นสปอร์ตของรถมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการให้รายละเอียดโทนสีเงินเสริมรายละเอียดทันสมัยไม่ทิ้งคราบความทันสมัยที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก  ในรุ่นใหม่ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาและน่าจะถูกใจใครที่ชอบความสุนทรีย์แบบจัดหนัก กับชุดเครื่องเสียงที่มาพร้อมจอขนาด 7 นิ้ว และยังสามารถเลือกออพชั่นระบบนาวิเกเตอร์หรือไม่ ก็รับสัญญาณภาพจากทีวีได้ เพียงซื้อออพชั่นเสริมอีกนิดหน่อย แต่ถ้าเดิมๆมันก็สามารถเล่นภาพยนตร์จากแผ่น DVD ได้ ที่เมื่อปรับบิดระดับเสียงเล็กน้อย มันก็ดังสนั่นสะใจ เพียงพอถ้าไม่เน้นรายละเอียดเยอะมากนัก แต่ถ้าใครชอบจัดเต็มก็เลี้ยวเข้าร้านเครื่องเสียงหาซับวูฟเฟอร์ดีๆสักตัว ก็เอาอยู่จนเพื่อนๆ คุณต้องออกปากชมอย่างแน่นอน ขุมพลังท้าให้ลอง 178 แรงม้า ที่มีดีเกินคาด ใครที่ขับรถกระบะ คงจะคิดว่าการมีรถยนต์กระบะที่มีสมรรถนะสูงจะมีแต่ในตัวท็อปเท่านั้น และสิ่งที่คุณคิดก็ผิดถนัดไป เมื่อตัดสินใจเลือกคบ Mitsubishi Triton 2012 ด้วยขุมพลังที่ปรับลดเหลือเพียง 2.5 ลิตรเท่านั้น แต่เมื่อซื้อรถตั้งแต่ขับสองยกสูง หรือรุ่น Plus ขึ้นไป มันก็พร้อมรบด้วยพละกำลัง 178 แรงม้า เครื่องยนต์ 2.5 VG Turbo DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรลล์ เป็นการพลิกโฉมหน้าตลาดรถยนต์กระบะประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่นาทีนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเหลียวมอง ด้วยราคาที่ไม่ได้แพงไปมากเกินความจำเป็นออพชั่นที่พอดีๆ แต่ที่หนุ่มๆ ชอบเป็นพิเศษก็จากเจ้าต้นกำลังที่อยู่ใต้ฝากระโปรงนี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่ามีดีที่สุด กำลังสูงสุด 178 แรงม้าที่ 4000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 2000-2850 รอบต่อนาที เป็นสิ่งยืนยันการก้าวล้ำพัฒนามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ค่ายรถยนต์รายนี้เคยเชื่อว่าเครื่องบล็อกใหญ่ขนาด 3.2 ลิตร จะครองใจผู้บริโภค แต่ขายไปๆมาๆ ก็พบสัจธรรมว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร น่าจะเหมาะกว่าจากความคุ้นเคยของคนไทยที่มีมาช้านาน 
แนวคิดการจับเครื่อง 2.5 เบ่งพลังมีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่การจับมันมาปั้นลงบอดี้ขับ 2 ยกสูง ก็ให้อารมณ์ที่ไม่เหมือนเพื่อน ซึ่งลูกค้าต้องเล่นรุ่นใหญ่ถึงจะสัมผัสกำลังระดับนี้ แต่ด้วยการตอบโจทย์ผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีดที่คุ้นเคยมันก็พร้อมโชว์สมรรถนะที่แกร่งกล้าทุกถนนที่ขับผ่าน การขับขี่เกียร์ธรรมดาใน Mitsubishi Triton 2012 หลายคนอาจจะคิดว่ากำลังที่เพิ่มย่อมหมายถึงการปรับสมรรถนะโดยเฉพาะคลัทช์ที่น่าจะต้องมีน้ำหนักกดเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ว่าเจ้ากระบะคันนี้ก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า มันนิ่มสบายคล้ายรถเก๋ง อาจจะมีความรู้สึกแปลกๆก็ตอนโยนด้ามเกียร์เข้าแต่ละตำแหน่งที่รู้สึกแข็งหน่อยๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ประเด็น สำคัญมากเมื่อนับว่ากำลังมันส์กับ 178 แรงม้าอยู่ แรงบิดที่สูงในเครื่องยนต์ 2.5 มากถึง 400 นิวตันเมตร อาจจะไม่มากนักจากสเป็คที่เอาไว้ท่องอวดกัน แต่เมื่อนั่งหลังพวงมาลัย ที่มาพร้อมเบาะสไตล์สปอร์ต นั่งกระชับพอดี แม้จะเป็นคนไซส์ใหญ่ แล้วเข้าคลัทช์สับเกียร์พร้อมเดินทางหลังบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ควรครางพร้อมพยศ Mitsubishi Triton 2012 ก็แทบจะกระโจนออกไปในท้องถนนทันทีที่เราพามันแล่นไปใน นทีแห่งการจราจร กำลังที่ไม่สูงจนเกินไปนัก ส่งเสียงฝีเท้าที่เอี๊ยดสะท้านพื้นผิวยางมะตอยหรือคนกรีต ทุกครั้งที่ตบคลัทช์กระตุกออกที่เกียร์ 1 ช่างไพเราะไม่ต่างอะไรจากวงซิมโฟนี่ออเคสตร้าชั้นเลิศสำหรับคนรักความแรงของเครื่องยนต์ แต่แน่นอนว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบเกียร์ธรรมดา ก็ยังมีทางเลือกกับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ให้ขับขี่กัน 
ตระเวนในเมืองเน้นประหยัด เรือนร่างที่เกิดมาเป็น 4 ประตู ไม่น่าแปลกใจมากมายอะไร ถ้าจะพบว่าคนที่ซื้อรถกระบะแบบนี้อาจจะใช้รถจนคุ้ม ทั้งคับท่องป่าคอนกรีตไปจนถึงการใช้เพื่อการเดินทางแล้วเราก็ จับ "เจ้าน้องตัน" ชื่อที่เรียกเหมือนเจ้าของชาเขียวค่ายหนึ่งหลังจากเบื่อเรียกว่าไทรทัน ออกควบในเขตเมือง การขับขี่ในดาวทาวน์ บางกอก ของเราอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆไม่นานนัก แต่ ด้วยทัศนวิสัยของรถที่สามรถมองได้ชัดเจนจากกระจกหน้าไม่หลอกตาท่านผู้ชม ก็สนองตอบในแง่ของการใช้งานจริง เช่นเดียวกับการให้ระยะที่พอเหมาะ จากชายขอบของฝากระโปรงหน้า ช่วยในการวัดระยะ แม้ต้องยอมรับว่าวงเลี้ยว 5.9 เมตร จะไม่เอื้ออำนวยนักในการขับขี่ ยิ่ง เจอ ถนนที่บีบแคบแบบเลี้ยวแถมความระทึกเล็กๆ ก็เป็นเองที่ยากพอสมควรในการใช้งานจริงในเมือง นี่ยังรวมถึงการขึ้นที่จอดรถบางแห่ง ที่อาจจะต้องเย่อกันสักหน่อย ยิ่งเมื่อคิดว่า รถคันนี้มาพร้อมความกว้าง 1,800 ม.ม. ยาว 5,285 ม.ม. และสูง 1,780 ม.ม. ซึ่งอาจจะเล็กกว่าคู่แข่ง แต่ก็เหมาะกับการใช้งานในเมืองมากกว่า ได้เวลาออกต่างจังหวัด สมรรนถะที่เลิศสุดขีด อันที่จริงแล้วการขับขี่ Mitsubishi ไทรทัน พลัส ใหม่นี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อย้อนหลับไปในช่วงปีที่แล้วเราก็ได้เคยลองขับแล้วในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ทีดีจนน่าประทับใจ ตั้งแต่ที่สัมผัสผ่านเส้นทางขุนเขาเมืองน่าน การกลับมาพบกันครั้งนี้ แม้จะเป็นขุมพลังบล็อกเดียวกัน แต่ระบบส่งกำลังที่ต่างกันก็สามารถรู้สึกได้ทันทีถึงสมรรถนะ ตั้งแต่เริ่มต้นของการขับขี่โดยเฉพาะบนเส้นทางถนนทางหลวง เกียร์ธรรมดาก็มีความทรงประสิทธิภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ถึงต้องยอมรับบ้างว่าในมิตซูบิชิ ไทรทัน พลัสใหม่นี้จะมาพร้อมระบบเกียร์ อัตโนมัติ 5 สปีด ที่คุ้นเคย ทำให้ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากมายจากเดิมนัก
ในระหว่างการเดินทางของเราที่เกียร์ 5 ได้ลองตรวจสอบการทำงานของรอบเครื่องยนต์ดู พบว่าที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ไทรทันใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1900 ร อบต่อนาที และ เมื่อเร่งฝีเท้าสู่ 120 ก.ม./ช.ม. มันก็ใช้รอบเครื่องเพียง 2250 รอบต่อนาทีเท่านั้น ถือว่าต่ำพอสมควร เมื่อคิดว่านี่คือเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร สมรรถนะเครื่องยนต์ที่เร่าร้อนจาก 178 แรงม้า ส่งให้ความรู้สึกทันทีเมื่อเร่งฝีเท้าในความเร็ว ยิ่งกับถนน 2 เลน ไทรทันก็เป็นม้าคึก พร้อมออกมาวาดลวดลายอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่หลายครั้งที่เราพบว่าการทำงานของเทอร์โบที่ต้องปั่นเร่งกำลังมากขึ้นในเครื่องยนต์บล็อกเล็ก ก็ทำให้ต้องใช้แรงอัดหรือ Boost ไม่น้อยและนำมาสู่การแล็ค หรือรอรอบของเทอร์โบนิดหน่อยแ ม้ครีบ VG Turbo สามารถแปรผันได้ช่วยให้มีอัตราเร่งดีมากยิ่งขึ้น แต่ก็เป็นบ้างในบางจังหวะที่อาจจะไม่ทันใจ แต่การเร่งถึง 2000 รอบต่อนาทีเพื่อเข้าสู่ช่วงแรงบิดสูงสุดก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก หากต้องการปั่นฝีเท้า ระบบกันสะเทือนถือเป็นอีกเรื่องที่โดดเด่นใน มิตซูบิชิไทรทัน ถึงจะยังมีจิตวิญญาณความเป็นกระบะอยู่มากจากระบบช่วงล่างที่ใช้แหนบทางด้านหลัง แต่ก็มีการปรับแต่งให้ความเป็นรถนั่งมากขึ้น ซึ่งอยู่ในเกณฑ์พอที่จะรับได้ในการขับขี่ สามารถเข้าโค้งแรงๆ ได้พอสมควร หรือแม้แต่การนั่งทางตอนหลังแถว 2 แต่หากเจอการกระแทกแรงๆ มันก็จะกระโดดเป็นม้าเช่นกัน แต่การเซทช่วงล่างที่คงความเป็นกระบะก็ให้สมรรถนะ ก็มีดีในเรื่องของการลุยในยามที่ต้องการออกนอกถนน 
ประหยัดรับได้ ถ้ามองเรื่องกำลัง หลังจากขับขี่มาตลอดช่วงการทดสอบในที่สุด เราก็มาถึงข้อสุดท้าย ที่ต้องตอบคาถามสำคัญ ในยุคน้ำมันแพง กับเรื่องความประหยัดที่อาจจะเป็นปัจจัย ซึ่งทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกคบมันหรือไม่ จริงอยู่ว่า เมื่อมันเป็นรถยนต์ที่มีกำลังมากกับราคาขนาดนี้ก็ทำให้ไทรทัน อาจจะถูกมองข้างเรื่องความประหยัดไป และความสนุกในการขับขี่ก็อาจกลายเป็นหายนะที่ทำให้คุณไม่สนุกกระเป๋ายามต้องพบหน้าเด็กปั้ม แต่แม้ 178 แรงม้า อาจจะฟังดูโหดร้ายกับเรื่องน้ำมัน ทว่าจากการขับขี่ทดสอบตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เรากลับพบว่าเจ้า Mitsubishi Triton ใหม่นี้มาพร้อมกับตัวเลขที่น่าประทับใจใช่น้อย จากการใช้งานจริง เดินทางในเมืองและนอกเมืองที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. โดยประมาณ ได้อัตราประหยัด 12.7 ก.ม./ลิตร จากค่าเฉลี่ยรวมในการขับขี่ Mitsubishi Triton 2012 อาจจะไม่ใช่รถที่หลายคนมองมากนัก เมื่อเทียบว่ามันมีคู่แข่งที่มีอะไรใหม่ๆมานำเสนอมากมายกว่าเดิมเยอะแยะมากหน้าหลายตา ทว่าหากไม่ได้มองเรื่องความต้องการที่อยากได้รถใหม่หมดจด แต่ต้องการรถใช้งานจริงที่เหมาะสม เจ้ากระบะคันนี้ก็ยังมีดีในตัวไม่น้อย แถมล่าสุดมันมาพร้อม โปรโมชั่น ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.79 % ด้วยล่ะ...หรือคิดง่ายๆว่าได้รุ่นใหญ่ในราคารุ่นเล็ก...คุ้มแน่นอน ผลการทดสอบ Mitsubishi Triton Plus 2012
การทำงานเครื่องยนต์ที่เกียร์ 5 ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน 1950 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน 2050 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 110 ก.ม./ ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน 2150 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ ช.ม. เครื่องยนต์ทำงาน 2250 รอบต่อนาที อัตราประหยัดเฉลี่ยรวมระหว่างการทดสอบ 12.7 ก.ม./ลิตร ความเร็วสูงสุดระหว่างการทดสอบ 177 ก.ม./ช.ม. * sanook.com *
| Create Date : 05 ตุลาคม 2555 | | |
| Last Update : 5 ตุลาคม 2555 20:17:19 น. |
| Counter : 11627 Pageviews. |
| |
|
| |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
