Group Blog
 
All blogs
 
โปรตีนถั่วเหลือง ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่

นพ.บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล

ในบรรดาสารสุขภาพจากต้นพืช สารที่ได้รับการวิจัยค้นคว้าในด้านคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเป็นระบบและมีหลักทางวิทยาศาสตร์ มี 5 ชนิดสำคัญ หนึ่ง คือโสม สอง คือหลิงจือ สาม คือแปะก๊วย สี่คือถั่วเหลือง และห้า คือชาเขียว

กว่า 30 ปีแล้วที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ค่อยเป็นมะเร็งเต้านมกัน และผู้ชายญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก น่าจะมีอะไรดีๆอยู่ในเต้าหู้ที่คนญี่ปุ่นกินเป็นอาหารประจำชาติ บางงานวิจัยถึงกับมีรายงานว่า ชายชราชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่เสียชีวิตไปด้วยโรคชรา เมื่อผ่าศพพิสูจน์ก็พบว่า ชายชราจำนวนไม่น้อยบังเกิดมีมะเร็งต่อมลูกหมากอยู่ในตัว แต่อาการไม่กำเริบจนคนเหล่านี้ตายไปอย่างธรรมชาติเสียด้วยซ้ำ นั่นอาจเป็นเพราะข้อดีจากอาหารที่พวกเขากินอยู่เป็นประจำ คือเต้าหู้หรือผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองนั่นเอง

ปี 1994 M.Messina และคณะได้รวบรวมไว้ใน Nutrition and Cancer 21, no. 2 เรื่อง Soy Intake and Cancer Risk: A Review of the in Vitro and in Vivo Data สรุปว่าชาวญี่ปุ่นกินผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองวันละประมาณ 3-4 ออนซ์ (เท่ากับ 100 กรัม) ขณะที่ชาวอเมริกันไม่กินเลย เรื่องที่น่าเศร้าก็คือผู้หญิงอเมริกันต้องตายด้วยมะเร็งเต้านมเป็น 4 เท่าของผู้หญิงญี่ปุ่น และผู้ชายชาวอเมริกันก็มีโอกาสตายด้วยมะเร็งต่อมลูกหมากเป็น 5 เท่าของชายชาวญี่ปุ่น

ถั่วเหลืองต้านมะเร็งได้อย่างไร สารผักหลายตัวในถั่วเหลืองคือคำตอบ

หนึ่งคือสารเจนิสเตอิน เป็นสารฟลาโวนอยด์ตัวสำคัญที่มีบทบาทยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ด้วยกลไกป้องกันการงอกของเส้นเลือดที่จะส่งอาหารเข้าไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง (Fotsis, T., et al. "Genistein, a Dietary Dirived Inhibitor of in Vitro Angiogenesis." Proceedings of the National Academy of Sciences 90 (April 1993): 2690-94)

สอง คือสารเดอิดเซอิน ซึ่งเป็นสารไอโซฟลาโวน ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนอีสโตรเจนและเทสโตสเตโรน แต่มีฤทธิ์เพียงครึ่งเดียวของฮอร์โมนทั้งสอง เมื่อกินเข้าไป ไอโซฟลาโวนจะเข้าไปจับกับเซลล์เป้าหมาย ได้แก่ เซลล์เต้านมหรือต่อมลูกหมาก จึงป้องกันเซลล์เหล่านี้ไม่ให้ถูกกระตุ้นโดยฮอร์โมนของตนเอง ซึ่งฤทธิ์แรงกว่า อันจะทำให้เกิดเป็นมะเร็ง ตรงนี้ภาษาทางวิชาการเรียกว่า มีฤทธิ์ยับยั้งโดยการแย่งจับจอง หรือ Competitive inhibitor ขณะเดียวกันการที่มันมีฤทธิ์น้อยๆ ก็ทำให้ร่างกายมีการหล่อเลี้ยงของฮอร์โมนเพศโดยไม่เกิดอาการพร่องฮอร์โมน

สาม คือถั่วเหลืองมีกรดฟัยติก เป็นสารแอนติออกซิแดนต์สำคัญ และเป็นสารยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอสซึ่งเป็นสารส่งเสริมการกลายตัวเป็นเซลล์มะเร็ง ด้วยเหตุฉะนี้ทุกคำเคี้ยวของเต้าหู้ ทุกอึกของนมถั่วเหลือง คืออาหารสำคัญต้านมะเร็งของผู้คนชาวเอเชีย ที่ตกทอดมาแต่บรรพบุรุษ

มาในปีนี้ มีข้อมูลใหม่ๆเกี่ยวกับการวิจัยโปรตีนถั่วเหลืองป้องกันและรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ จาก Alternative Healthcare Network, July. 25, 2004 ดังนี้คือ

Ruth MacDonald จากศูนย์วิจัยสารผัก ที่มหาวิทยาลัยมิสซูรี-โคลัมเบียได้ศึกษาพบว่า สารอีสโตรเจนและโปรตีนถั่วเหลืองนอกจากป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว ยังมีฤทธิ์ถึงขั้นลดขนาดและจำนวนของก้อนมะเร็งในหนูทดลองได้อีกด้วย

เธอทำการศึกษาและตีพิมพ์ผลงานของเธอใน Journal of Nutrition, Jan 2004 ด้วยการป้อนหนูตัวเมียที่เหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็ง แต่ป้อนอาหาร 5 ชนิดให้ แล้วติดตามผลในระยะเวลา 1 ปี

อาหารชนิดที่ 1 ได้แก่โปรตีนจากนม
อาหารชนิดที่ 2 ได้แก่โปรตีนจากถั่วเหลือง
อาหารทั้งสองชนิดแรกนี้ไม่มีสารฮอร์โมนอีสโตรเจนอยู่เลย
อาหารชนิดที่ 3 ประกอบด้วยโปรตีนถั่วเหลืองกับสารเจนิสเตอิน
อาหารชนิดที่ 4 เป็นอาหารสำเร็จรูปในท้องตลาดที่มีโปรตีนจากถั่วเหลืองและสารเจนิสเตอิน
อาหารชนิดที่ 5 เป็นอาหารถั่วที่มีสารอีสโตรน ซึ่งเป็นอีสโตรเจนธรรมชาติที่พบในคน

รวมความแล้วอาหาร 3 ชนิดหลังประกอบด้วยโปรตีนถั่วเหลืองและสารอีสโตรเจนหรือสารคล้าย

ผลการวิจัยสร้างความแปลกใจให้รูทมาก เพราะพบว่าอาหาร 3 กลุ่มหลังที่มีโปรตีนถั่วบวกกับอีสโตรเจนมีฤทธิ์ปกป้องหนูจากมะเร็งลำไส้ได้จริงๆ โดยเฉพาะอาหารกลุ่มที่ 5 งานวิจัยชิ้นนี้นับเป็นครั้งแรกที่พิสูจน์บทบาทของโปรตีนถั่วกับอีสโตรเจนอย่างชัดเจนเช่นนี้

การวิจัยยังพบอีกว่าหนูที่กินโปรตีนถั่ว แม้จะเกิดมะเร็งแต่ก็มีน้อยก้อนและก้อนก็เล็กกว่าเมื่อเทียบกับหนูที่ไม่ได้กินโปรตีนถั่ว

"ก่อนอื่นงานวิจัยชิ้นนี้บอกเราว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่ตอบสนองต่อฮอร์โมน เรื่องนี้น่าจะนำไปสู่กระบวนการรักษามะเร็งด้วยวิธีการใหม่ๆ ขณะเดียวกันงานวิจัยชิ้นนี้ยังค้านกับความเชื่อเรื่องการกินวิตามินเสริมเสมือนยาวิเศษ แต่มันบอกเราว่า สุขภาพดีต้องอยู่ที่อาหาร ไม่ใช่ด้วยการกินสารเสริม" รูท แมกโดนัลด์กล่าว

"แถมดิฉันยังมีข่าวดีอีกว่า คนเราสามารถกินอาหารถั่วได้ในหลายรูปแบบ แต่โปรตีนถั่วนั้นปลอดภัยอย่างยิ่งที่จะบริโภคโดยไม่ก่อเกิดอันตรายใดๆเลย"

รูท แมกโดนัลด์ยังคงดำเนินการวิจัยต่อไป โดยเจาะลึกถึงกลไกของโปรตีนถั่วที่ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ดังกล่าวโดยเที่ยวนี้สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติอเมริกาได้มอบทุนวิจัยให้กับเธอ

ถึงตรงนี้เลยขอฝากเมนูถั่วเหลือง สำหรับผู้อ่านสัก 1 เมนู โดยขอถ่ายทอดความคิดของ รศ.พญ.จิรพรรณ มัธยมจันทร์ มาดังนี้ครับ

กาแฟถั่วเหลือง
ส่วนผสม
ถั่วเหลือง 1 กก.
เกลือป่น 1 / 4 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
เนย 3 / 4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
- ล้างเมล็ดถั่วเหลืองให้สะอาด คัดกรวดทราย แล้วผึ่งแดดให้แห้ง
- นำถั่วมาคั่วในกระทะ
- ใส่เนย เกลือป่น น้ำตาลทรายแดง คั่วจนถั่วสุกและเหลืองกรอบ ทิ้งไว้ให้เย็น
- นำมาป่น (ด้วยเครื่องไฟฟ้า) จนละเอียด
- ใช้ผงถั่วเหลืองป่นชงกับน้ำเดือด โดยใส่ถุงผ้า ชงแบบชงกาแฟทั่วๆไป
- เติมน้ำตาลทรายไม่ฟอกสี และนมถั่วเหลืองเล็กน้อย ก็จะมีรสเหมือนกาแฟร้อน

ใครจะลองเอาไปเปิดร้านกาแฟถั่วเหลืองก็ได้ครับ

ที่มา : //www.balavi.com/content_th/Health_trick/HT00019.html


Create Date : 30 มีนาคม 2548
Last Update : 6 เมษายน 2548 23:54:22 น. 0 comments
Counter : 648 Pageviews.

แอ่นแอ๊น
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แอ่นแอ๊น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.