Group Blog
 
All blogs
 

~*บ้านน้ำปิง*~

วันนึงก็ได้รับบัตรสมนาคุณ ให้ไปพักฟรีที่บ้านนำปิง เลยตัดสินใจ ปั่นจักรยานไปกัน

ลองตามมาชมภาพ วันสบายๆ ริมน้ำปิงได้เลยคะ



ตัวอย่างบ้านพักบางหลังที่เดินผ่านเข้าไปหายังห้องพักเบอร์8ด้านใน



บางมุมนั่งเขียนหนังสือสบายๆได้ด้วย นอกบ้านพัก....



มุมหนึ่งของทางเดิน



ได้ห้องพักหลังที่8คะ เปิดมาเจอที่นอนเลย



ที่เป็นกระป๋อง ของเอมี่เอามาเองค่า...อิๆๆ



ห้องน้ำแบบเซ็กซี่...โล่งโจ้งดี



ประตูทางเข้า-ออกของห้องน้ำ



มาดูด้านในบ้านอีกนิดนึงเนอะ


ใครมาขวางทางเข้า-ออกหนะ...


งั้นข้ามฝั่งถ่ายจากอีกด้านละกัน


นั่นๆๆ ยังตามมาถ่ายบังวิวเราอีกนะ


บริเวณนี้รองรับได้อีกประมาณ3-4คน เอมี่เอาไว้นอนตอบโปสการ์ดคะ


เค้ามีผ้าไว้ให้ปูเล่นหนะคะ เลยลองปูเล่น เอนเอกเขนก หลับปุ๋ยเลย


ตอบไม่ได้มากคะ อากาศเย็นสบาย...น่านอนจริงๆ




ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำด้วยแหละ



ค่ำๆก่อนที่จะเย็นย่ำจนมืดตื๋อ เราพากันออกไปปั่นเดินเล่นในตลาดที่เราผ่านมา


หวานใจของเราสองคนจอดไว้ที่หน้า 7-11 ที่ๆมีวงจรปิดเสมอๆ ไม่กลัวหายแน่นอน


ไปตลาดกลับมาจนมืด ก็ไม่ได้ซื้อหาอะไรมากิน สั่งอาหารที่ครัวไว้...รอ...นะ


กินอะไรดีน้า..


มาแล้ว..เย้ๆๆๆ สลัดกุ้งสด


จอดหวานใจของเราสองคนข้างห้องพัก....



ปิดท้ายที่หน้าห้องพักของเรา ที่ต้องเดินอ้อมมาชมวิว




 

Create Date : 28 มกราคม 2553    
Last Update : 28 มกราคม 2553 22:38:50 น.
Counter : 855 Pageviews.  

~*สาวๆCMUในชุดครุย*~

ไม่ได้ถ่ายรูปรับปริญญาเลยปีนี้

เลยเอาปีที่แล้วมาแปะไว้ เผื่อลืมAction เผื่อคอมเสียเปิดไม่ได้ ...บลาๆๆ



น้องแอน




น้องแนน





แนนกับเพื่อนๆ






ยังงัยก็ต้องกระโดด





แนนกับเมย์ รุ่นพี่คณะ





ทองกวาวที่จะต้องบานช่วงสอบ





 

Create Date : 27 มกราคม 2553    
Last Update : 27 มกราคม 2553 22:36:15 น.
Counter : 658 Pageviews.  

~*ในวันที่บอกใครว่าจะไปพบ*~

บอกใครต่อใครว่าวันนั้นจะไปหา ที่โน่นที่นี่

แต่สุดท้ายก็ผิดสัญญาเพราะติดภาระกิจ



























































 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 21 มกราคม 2553 22:35:58 น.
Counter : 414 Pageviews.  

~*โลกหมุนด้วยความรัก*~

เพลงประกอบละคร ไฟรักอสูร

ยามที่ลมพัดมามีแดดส่องฟ้าคราใด
ใครจะมีวิธีดิ้นรนหลีกพ้น ไร้หนทางจะหลบ
รักเหมือนแสงจากเบื้องบน
ยุติธรรมส่องทุกๆ คนเท่ากัน







ยามที่ใจของเราสัมผัสความรักคราใด
จะมีใครรู้ตัวและตื่นจากฝัน
หนีให้ไกลเท่าไหร่ รักยิ่งเหมือนจะไล่ทัน
เพราะมันเป็นสิ่งที่หัวใจต้องการ







จะทรมานเพียงใดให้ช้ำให้เจ็บเจียนตาย
หัวใจก็ยอมเพราะคำว่ารักเท่านั้น
นี่คือพลังที่ทำให้โลกหมุนไปได้ทุกทุกวัน
ตราบที่ยังลืมตา ก็ต้องมีความรักกันต่อไป







ยามที่มีฝนพรำละอองหยดน้ำโปรยปราย
อะไรก็งอกงามเมื่อยามมีฝน
ไม่ว่าร้ายหรือดี มีเงินทองหรือยากจน
ถ้าเป็นคนต้องขอรักหล่อเลี้ยงใจ







จะทรมานเพียงใดให้ช้ำให้เจ็บเจียนตาย
หัวใจก็ยอมเพราะคำว่ารักเท่านั้น
นี่คือพลังที่ทำให้โลกหมุนไปได้ทุกทุกวัน
ตราบที่ยังลืมตา ก็ต้องมีความรักกันต่อไป







จะทรมานเพียงใดให้ช้ำให้เจ็บเจียนตาย
หัวใจก็ยอมเพราะคำว่ารักเท่านั้น
นี่คือพลังที่ทำให้โลกหมุนไปได้ทุกทุกวัน
ตราบที่ยังลืมตา ก็ต้องมีความรักกันต่อไป





ตราบที่ยังลืมตา ก็ต้องมีความรักกันต่อไป




 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 21 มกราคม 2553 21:55:51 น.
Counter : 686 Pageviews.  

~*กิ่วแม่ปานในหน้าฝน*~

หากคุณเป็นคนที่ต้องนั่งออฟฟิต

หมกมุ่นกับเอกสารกองโตและสิ่งเร่งด่วนรอบๆตัว จนแทบไม่ได้เงยหน้าดูว่า

นี่มันฤดูอะไรแล้วหละก็ คุณอาจจะนึกเกลียดสายฝน

เพราะฝนทำให้คุณตัวเปียก นั่งทำงานไม่สะดวก

ลองอ่านตรงนี้ดู แล้วคุณคงอยากจะนึกเดินตากสายฝนกับเค้าบ้างก็ได้



บ่ายวันที่อากาศขมุกขมัว มีโทรศัพท์สายภายในเข้ามาหาเอมี่ เป็นเสียงออดอ้อนของรุ่นน้องคนนึงที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน น้องนก น้องสาวที่น่ารักคนนึง เค้ามาขอร้องให้เอมี่ไปเที่ยวอินทนนท์เป็นเพื่อนเค้า แต่ต้องไปค้างคืน เอมี่เองก็งงๆ เพราะชีวิตของการท่องเที่ยวของเรามันเลือนลางเหลือเกิน

น้องเค้าบอกว่าต้องเป็นเรา ทั้งๆที่จริงๆเพื่อนเค้าก็มีมากมาย แต่้เอมี่ก็ว่าง ไม่รู้จะไปไหนในวันหยุดอันแสนเดียวดาย

บ่ายวันเสาร์ เอมี่จัดกระเป๋าใบโต ใบเดียวกับที่เคยใช้ในพม่า เสื้อยืดสองตัว (ตัวเดียวก็พอ แต่ลางมันบอกว่าให้หยิบสองตัว) ผ้าขนหนูผืนเล็ก 1 ผืน ชุดชั้นใน และถุงเท้า อุปกรณ์อื่นก็แค่ไฟฉาย กล้องป๋องแป๋ง 1 ตัว แล้วก็หมวก 1ใบ แล้วรถก็มารับเราออกเดินทาง

สมาชิกมีทั้งหมดสี่คน อ.เหน่งขับรถ อ.พฤกษ์ นั่งคู่ เอมี่และน้องนกอยู่เบาะหลัง เราใช้เส้นทางเลียบคันคลองเป็นทางออกจากตัวเมือง ซึ่ง เราก็ไม่ได้ใช้เส้นชม.-หางดงแต่อย่างใด เมื่อถึงสุดทาง"เลียบคลองชลประทาน" เราเลี้ยวออกไปถนนหลวง แล้วก็เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่เส้นแม่วาง และแยกเข้าหมู่บ้านๆนึงที่มีเส้นทางเข้าด้านหลังดอยอินทนนท์ อ๊ะ...เส้นทาง 4Wซ๊ะงั้น

ทางดีๆทำไมไม่ไปคะ อ.เหน่ง



กล้องป๋องแป๋งที่เอมี่มี มันก็ควบคุมอะไรไม่ได้นอกจากใช้กดอย่างเดียวในวันที่แสงดีๆ ก็อย่าได้คาดหวังกับสภาพของรูปที่ออกมาของทริปนี้เลยนะคะ เมื่อถึงปากทางเข้าไร่นา อ.เหน่งและอ.พฤกษ์ก็ได้ช่วยกันใส่โซ่ให้กับรถ โอ้...เอมี่ไม่เคยเจอหงะคะ ไม่นึกว่าจะต้องมาเจอถนนที่ต้องใส่โซ่ที่ล้อ เหมือนที่เคยดูในรายการผจญภัยต่างๆในทีวี ตามมารยาทแล้วจึงต้องเงียบ และทนอยู่ในสภาพงงๆต่อไป ก็มาด้วยกันแล้วนี่


ระหว่างทางก็เริ่มเป็นสวนและไร่นาที่เกาะขอบไปกับไหล่ดอย จนกระทั่งเป็นป่าล้วนๆ และเส้นทางเอียงลาดชันจนนั่งนิ่งๆไม่ได้ รู้สึกว่าคนขับจะชอบมาก และบอกว่า จะพยายามไปให้ทันสองทุ่ม (มารู้ทีหลังว่ามีร้านกับข้าวที่โทรนัดไว้ให้รอหนะคะ) สำหรับเอมี่ในตอนนั้น ได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่าง สลับกับการชวนคุยเล็กๆน้อยๆ เพื่อแสดงความมีคัวตนเป็นระยะ แหมๆ ก็ถนนโหดร้ายแบบนี้ ใครจะมีใจนั่งหลับหละคะ เมื่อความมืดเข้ามาครอบคลุม เราก็เริ่มผ่านหมู่บ้านชาวเขา ที่ชอบมีฝรั่งมาพักโฮมเสตย์แถวนี้บ่อยๆ แต่อ.เหน่งบอกว่าคราวหน้าจะพามา แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เจอแกอีกเลยคะ ฮ่าๆๆ

เส้นทางพาเราขึ้นดอยไปอีกเรื่อยๆ บ้างก็เจอทางแยกออกจากกัน อ.เหน่งก็พาพวกเราผ่านมาได้อย่างลุ้นทีเดียวเพราะอ.พฤกษ์ต้องคอยบอก คอยมองขอบล้ออีกด้าน สักพัก สองทุ่มโดยประมาณ เรายังไม่พ้นเส้นทางหฤโหดเลยคะ เราก็เจอต้นไม้ล้ม ลำต้นประมาณหก-เจ็ดนิ้วได้ สองหนุ่มก็บอกให้พวกเราว่าอย่าลงจากรถ แล้วก็เปิดไฟในรถให้สว่าง เพื่อจะได้สะดวกในการตัดต้นไม้ที่ล้มขวางทาง มีดสองด้ามที่พกติดรถมา ก็เป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยม เพียง15นาที ก็จัดการได้เรียบร้อย

เส้นทางนี้ คนขับบอกว่าแทบจะไม่มีใครใช้เลยเพาะดูท่า ต้นไม้จะล้มมานานแล้ว และผิวถนนก็แยกบ่อยขึ้น ต้องคอยระวังล้อกันสนุกสนาน ความมืดเท่านั้นที่อยู่เห็นเพื่อนพวกเรา ในที่สุดถนนเริ่มดีขึ้น ก็เห็นแสงสว่างของหมู่บ้านปลายทาง...เห้อ....

เราขึ้นมาบนถนนเส้นที่เป็นทางหลักไปดอยอินทนนท์ได้ยังงัยไม่ทราบ และมาจอดหน้าร้านกับข้าวที่อยู่ปากทางอุทยานในเวลาไม่กี่นาที ร้านอาหารยังเปิดรอพวกเราอยู่ วันนี้เรามีอาหารกินแล้วเย้.... นึกว่าจะได้นอนในป่านั่นซะแล้ว ...

ห้องพักในยามนี้ ว่างไม่มีคนมาพัก และมาดึกป่านนี้ทำให้ต้องตามหาเจ้าหน้าที่นานพอดู แต่ความพยายามครั้งนี้ทำให้เรามีที่พักไม่ต้องนอนตากฝนแล้ว...


ในเวลาเช้า ที่หน้าบ้านพัก กับสายฝนที่ไม่คิดที่จะหยุดตก


ไม่น่าเชื่อว่า...ไปลุยป่ามาด้วยกันกับรถของอ.เหน่ง


เมื่อคืนฝนลมคงจะเยอะ ดูได้จากใบไม้บนถนน
เราออกเดินทางเมื่อหาอะไรกินเสร็จ เก็บของขึ้นรถ คืนบ้าน แล้วก็ซิ่งขึ้นดอย


สำหรับที่นี่"กิ่วแม่ปาน" จะเปิดเฉพาะฤดูหนาวคะ ฤดูฝนเค้าจะไม่ให้เข้าเพื่อจะได้ให้ป่าได้ฟืนฟูสภาพ ไม่ชำนาญทาง ขอแนะนำว่าอย่าได้เดินไปเองนะคะ หลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ


น้องนกเดินตามมาแล้วคะ


เค้าก้เริ่มถ่ายรูป แต่เอมี่ไม่สามารถจริงๆ กล้องมันป่องแป๋งไป เลยได้แต่เดินไปๆมาๆแถวนั้นรอคนโน้นทีคนนี้ที ที่เหลือก็ตามรูปมาเลยคะ






















เราโผล่พ้นป่ามาเจอไหล่เขาแล้วนะ


แปลกที่เป็นลมแรง และลมพัดขึ้นด้วย...


ใครดูหนังเรื่องรักจัง มาดูตรงนี้คงจะนึกไม่ออกแน่ เพราะตอนนี้เรายืนอยู่กลางก้อนเมฆหนะคะ


ตอนนั้นยังไม่ีมีกล้องตัวโต ทริปนี้ส่งผลมาก อย่างบอกไม่ถูก
















กุหลาบพันปี




กำลังจะกลับลงไปแล้ว



























ถึงจะตัวเปียก แต่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ขากลับ อ.เหน่งก็ขับรถพาพวกเราเลี้ยวลงทางหมู่บ้าน เป็นอะไรที่ไม่แตกต่างจากขามาเลย ดีที่เป็นเวลากลางวัน ทำให้เพลิดเพลินกับการมองข้างทาง เสื้อตัวที่สองที่พกมาเลยมีประโยชน์ตอนขากลับนี่แหละคะ

แล้วเราก็ลับมาสู่ความวุ่นวายในเมืองอีกครั้ง....




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2552    
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2552 9:36:11 น.
Counter : 1841 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

amykittenish
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากจะรู้จังเลยชีวิตจะลงเอยยังงัย
Friends' blogs
[Add amykittenish's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.