• ฝอยปรัชญา
• เกร็ดวิทยาศาสตร์
• ละอองหมึก
• ฝุ่นนอกห้อง
• เมล็ดมิตรภาพ

การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า ถ้าปรับเพิ่มความชัน จะกินแรงมากขึ้นหรือไม่ ผมคิดว่าลู่วิ่งชันขึ้น น่าทำให้กินแรงมากกว่าลู่วิ่งราบๆ แต่คงไม่มากเท่าวิ่งขึ้นเขาหรอก เพราะไม่ต้องออกแรงยกร่างกายขึ้นที่สูงจริงๆ ลองมาคำนวนดูเล่นๆดีกว่า เวลาวิ่งบนลู่ที่ราบ แต่ละครั้งที่เท้าสัมผัสพื้น เราออกแรง (S1) ตั้งฉากกับพื้นเพียงแค่พอให้ยกตัวขึ้น ไม่ต้องออกแรงดีดตัวในแนวนอน เพราะตัวเราไม่ได้เคลื่อนที่ แต่เวลาพื้นเอียงมันกินแรงเพิ่มขึ้น ตรงต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อชดเชยกับแนวแรงที่เปลี่ยนเพราะพื้นเอียงขึ้น ดังในรูปขวามือ จะให้แรงยกแนวดิ่งเท่าเดิมคือ S1 ต้องออกแรงเท่ากับ S2+f จากรูปขวา f x cosq = S2 x sinq สองแรงต้องต้านกันพอดี เพราะตัวเราไม่ได้เคลื่อนที่ในแนวราบ จะได้ว่า f =S2 x sinq / cosq ถ้าจะให้แรงในแนวดิ่งเท่าเดิม คือ S1 จะได้ว่า S1 = [S2 x cosq] + [S2 x [sinq/cosq] x sinq] = S2 x { [cosq x cosq / cosq] + [sinq x sinq /cosq] } = S2 x {[cosq x cosq] + [sinq x sinq] } / cosq S1 = S2 / cosq เพราะฉะนั้น S2 = S1 x cosq และ f = S1 x cosq x sinq / cosq ถ้าลู่วิ่งเอียงทำมุม q ต้องออกแรง S2+f = S1 x cosq + S1 sinq = S1 x [sinq + cosq] แทนค่ามุมลงไป ถ้าลู่วิ่งเอียง 15 องศาก็จะต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นประมาณ 22 เปอร์เซนต์ (5 องศา เพิ่ม 8 เปอร์เซนต์, 10 องศา เพิ่ม 16 เปอร์เซนต์   Create Date : 15 ธันวาคม 2549     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 1:00:23 น. Counter : 1179 Pageviews.   2 comment Share Tweet

เติมลมยาง ตอนล้อลอยอยู่ กับ ตอนน้ำหนักรถกดอยู่ ค่าแรงดันเท่ากันหรือไม่ ผมว่าน้ำหนักรถกดอยู่ความดันมันน่าจะเพิ่มครับ ผมเข้าใจว่ายางรถยนต์มันค่อนข้างจะแข็ง ไม่สามารถยืดตัวได้มากนัก ขนาดเราสูบลมให้แรงดันเพิ่มจาก 30 เป็น 40 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ปริมาตรมันก็แทบจะไม่เปลี่ยนเลย จึงเชื่อว่ามันน่าจะมีความดันมันเพิ่มขึ้น เล็กน้อย จากปริมาตรที่ลดลงเพราะแรงกด ลองมาคิดดูเล่นๆนะครับว่า ถ้ายางมันปริมาตรลดลงจากส่วนที่รับน้ำหนักรถ และทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจริงๆ มันจะเพิ่มขึ้นประมาณเท่าไหร่ สมมติว่า ยางธรรมดา 185/60R14 มีหน้ากว้าง 7.3 นิ้ว เส้นรัศมีวงใน (r) 7 นิ้ว เส้นรัศมีวงนอก (R) = 7 + (185 x 0.6 /25.4) = 11.4 นิ้ว ยางเส้นนี้มีปริมาตร = พื้นที่ที่แรเงา x ความกว้าง = pi x [(11.4)^2-(7)^2] x 7.3 =584.7 ลูกบาศก์นิ้ว รถคันหนึ่งหนักประมาณ 2000 kg ล้อหนึ่งล้อ ก็ต้องรับน้ำหนัก 500 kg หรือ 1100 ปอนด์ ถ้าสูบลมยาง 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะต้องมีส่วนของล้อที่สัมผัสพื้น เพื่อรับน้ำหนักนี้ = 1100/30 = 36.67ตารางนิ้ว คิดเป็นความยาวของส่วนที่ยางสัมผัสพื้น (2L) = 36.67/7.3 = 5 นิ้ว ได้ความยาว L = 2.5 นิ้ว (ดูรูปประกอบ) คำนวณหา R' ได้ จากสูตรสามเหลี่ยมมุมฉาก R^2 = L^2 + R'^2 ได้ R'^2= 126.76, R'= 11.26นิ้ว คำนวณหาพื้นที่ของด้านข้างของยางที่หายไปจากการสัมผัสพื้น = 2 X (พื้นที่ส่วนของวงกลม – พื้นที่สามเหลี่ยม) พื้นที่ส่วนของวงกลม = (a/2 x pi) x pi x R^2 a = arcsin (2.5/11.4) = 0.22 พื้นที่ส่วนของวงกลม = (0.22/2) x (11.4)^2= 14.43 ตารางนิ้ว พื้นที่สามเหลี่ยม = 1/2 x L x R' = 0.5 x 2.5 x 11.26 = 14.17 ตารางนิ้ว ได้พื้นที่ด้านข้างยางที่หายไป =2 x (14.43 - 14.17) = 0.52 ตารางนิ้ว ปริมาตรของยางที่หายไปเท่ากับ = 0.52 x 7.3 = 3.8 ลูกบาศก์นิ้ว ปริมาตรของยางตอนสัมผัสพื้น = 580.9 ลูกบาศก์นิ้ว P1V1=P2V2 จะได้ความดันของยางตอนสัมผัสพื้น = 584.7 x 30 /580.9 = 30.2 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว เพิ่มขึ้นแค่ 0.2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าใช้ยางหน้ากว้างๆ ขนาดใหญ่ๆอย่าง 245/75R16 ความดันจะเพิ่มขึ้นแค่ 0.034 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เท่านั้นเอง   Create Date : 19 สิงหาคม 2549     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 1:00:53 น. Counter : 944 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ผีและวิญญาณในทางวิทยาศาสตร์ ผมคิดว่าถ้าจะมีสิ่งที่คล้ายๆจะเป็นวิญญาณทางวิทยาศาสตร์แล้วล่ะก็... สิ่งนั้นก็น่าจะเป็นข้อมูลหรือ information ที่แต่ละคนมีอยู่ในสมองนะครับ ไม่ใช่พลังงานอะไรหรอก ผมคิดว่า 'ผี' หรือ 'วิญญาณ' ของคนโน้นคนนี้ ที่ใครต่อใครบอกว่าเคยพบ เคยเห็น อาจจะเป็นเพียงการแสดงผลของชุดของ'ข้อมูล' เกี่ยวกับผี หรือ เกี่ยวกับผู้คนต่างๆที่เคยมีชีวิตอยู่ ซึ่งบันทึกไว้ในสมอง ผมเชื่อว่า 'วิญญาณ' หรือข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับคนคนหนึ่ง มันอาจจะยังคงอยู่ต่อไปได้ อีกนานแสนนานหลังจากที่เขาหรือเธอเสียชีวิตไปแล้ว... ก็อยู่ในความทรงจำของคนที่ยังไม่ตายไงครับ โดยเฉพาะคนที่รัก และผูกพันกันมากๆ หากคนที่ผมรัก ต้องมาจากผมไปไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ผมหวังว่า 'วิญญาณ' ของเขาและเธอเหล่านั้นจะยังคงอยู่กับผม ไปจนถึงลมหายใจสุดท้ายของผม   Create Date : 28 ธันวาคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 3:03:58 น. Counter : 925 Pageviews.   16 comment Share Tweet

ทำไมหมามักจะแหงนหน้าเวลาหอน เหตุผลของมันเนี่ยไม่ทราบจริงๆครับ เพราะไม่เคยเป็นหมา แล้วก็คุยกะมันไม่รู้เรื่อง แต่เดาว่าการหอนต้องปล่อยลมมากและยาวกว่าเห่า ท่าแหงนคอจะทำให้ทางเดินของลมที่ออกมาจากปอด ผ่านกล่องเสียงแล้วออกมาทางปากเป็นเส้นตรงที่สุด สามารถปล่อยลมได้ง่ายสุด และเสียงก็น่าจะด้งได้มากที่สุด ส่วนที่บางท่านคิดว่าแหงนหน้าเพื่อให้เสียงแหลมนี่ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวนะครับ เพราะเสียงจะแหลมจะทุ้ม ขึ้นกับความตึงของเส้นเสียงในกล่องเสียงครับ   Create Date : 28 ธันวาคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 3:04:17 น. Counter : 629 Pageviews.   4 comment Share Tweet

ไข้หวัดนก เท่าที่เข้าใจ สถานการณ์ของไข้หวัดนกในประเทศไทย มันยังไม่น่าไว้วางใจ เชื้อหวัดนก มันเป็นญาติๆกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ แปลว่ามันจะมีการกลายพันธุ์ เล็กๆน้อยๆของมันอยู่แล้วตามปกติ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้มันยังไม่สามารถถ่ายทอดจากคนสู่คน แต่ไม่วันใดก็วันหนึ่งมันย่อมสามารถที่จะติดต่อจากคนไปสู่คนได้แน่นอน ข่าวร้ายก็คือ จากรายงานในวารสารทางวิชาการในต่างประเทศ พบว่ามันสามารถติดต่อจากแมวไปสู่แมวได้ ซึ่งแมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนคนเรานี่แหละ บางทีมันอาจจะสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้แล้ว แต่มันยังไม่เกิดขึ้นเพราะผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะมีอาการของโรคและได้รับการรักษารวมถึงมีการแยกผู้ป่วยก่อนที่จะแพร่เชื้อให้คนอื่นก็ได้ ถ้ามันเริ่มระบาดจริงๆ ในระยะแรกคงต้องพยายามแยกผู้ป่วยออกจากคนที่ยังไม่ป่วย แต่ถ้าระบาดมากๆคงไม่ไหวเหมือนกัน ถึงตอนนั้นคงต้องพยายามป้องกันกันเอง โดยพยายามเลี่ยงที่ที่คนเยอะๆแออัด รีบล้างมือเวลาไปจับหรือสัมผัสสิ่งที่ต้องสัมผัสร่วมกับคนอื่นๆ อย่างปุ่มลิฟท์ ลูกบิดประตู ราวบันไดเลื่อน ราวรถไฟฟ้า รถเข็นในซูเปอร์มาเก็ต ฯลฯ หรือใส่หน้ากากเวลาออกนอกบ้าน ท่านที่สนใจลองไปดูๆข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ //www.who.int/csr/disease/avian_influenza/pandemic/en/index.html   Create Date : 26 ธันวาคม 2548     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 3:04:39 น. Counter : 457 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• DigiTaL-KRASH!!!
• Practical x 2
• UPluto
• "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
• ศล
• gluhp
• Cryptomnesia
• กะว่าก๋า
• aston27
• ยิปซีสีน้ำเงิน
• จอมเยอะเล่า
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com