All Blog
◄ Chapter 7 : i was .... cheated

 Chapter 7 : i was .... cheated


บล็อกนี้เขียนซ้ำกับของปี 2010 โดยบังเอิญค่ะ

ดังนั้นข้อมูลกลับไปอ่านอันเก่าดูก็ได้ค่ะ


Smiley คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 8 : ตัดสินใจขอวีซ่า Canada

Smiley คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 6 : วีซ่า....ที่ซ่าไม่ออก





Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 18:00:16 น.
Counter : 3119 Pageviews.

16 comment
◄ Chapter 6 : วีซ่า....ที่ซ่าไม่ออก

Chapter 6 : วีซ่า....ที่ซ่าไม่ออก




สวัสดีค่า " ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ " เฮง เฮง กันทุกคนเลยนะคะ

ตอนนี้การเดินทางของ Nakoze ก็เหลือเวลาเตรียมตัว เตรียมใจ

ก่อนไป Work and Travel ไม่ถึง 40 วันแล้ว มันช่างน่าตื่นเต้นซะเหลือเกินนี่

วันนี้ Nakoze ไปสัมภาษณ์วีซ่ามาค่ะท่านผู้ช๊มม มั่นช่างน่าระทึกเสียจริงเชียว

Nakoze ได้คิวตอน 13.00 น แน่นอนว่า...แดดยามบ่ายของเมืองกรุงช่างร้อนตับแลบแล้วแลบอีก

ร่มก็ไม่ได้พกไป แบบว่ากลัวไปสายเพราะติ๊ดติด

Nakoze ก็ไปเข้าแถวอยู่หน้าสถานฑูต ตอนประมาณ 12.40 น โดยต้องยืนอยู่ด้านนอก

พักใหญ่ๆก็ได้คิวเข้าไปข้างในตึกซักที เริ่มแรกเปิดประตูเข้าไป

ก็เจอบูทที่เราต้องฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่าง มือถือ สายชาร์จ

เครื่องคิดเลข ไอพอด ไอแพด ไอโฟน ไอเลิฟยู

จะมีอะไรก็ฝากให้หมดเลยค่ะ รวมถึงสายสมอทอล์คด้วย

เสร็จแล้วก็สแกนกระเป๋า แล้วก็ผลักประตูออกไปด้านนอก

ประตูบานนี้ดูผิวเผิน ช่างดูไม่รู้เลยว่ามันจะ .... หนักได้เพียงนี้  Smiley

พอผ่านประตูไป ก็จะเจอ พี่ๆ สามสาวพาวเวอร์พัฟเกิร์ลเจ้าหน้าที่สถานฑูตคอยตรวจเอกสาร

พี่ๆก็จะแยกเอกสารที่ต้องยื่นให้ท่านกงศุลใส่ให้ในแฟ้มสีขาว



เวลาผ่านไป จนถึง 14.40 Nakoze ก็ได้เข้าห้องสัมภาษณ์ซักทีนึง

พอเดินเข้าห้องไป ก็ไปต่อคิวตรวจเอกสารและสแกนนิ้วมือก่อน

คนข้างหน้า Nakoze ด้วยความซวย ใช้รูปถ่ายใบเดิมที่ใช้ปีที่แล้ว

ก็เลยโดนไล่ไปถ่ายใหม่ สถานที่ถ่ายก็ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ที่อาคารสินธรชั้น 2

หรือก็คือตึกที่อยู่เยื้องๆสถานฑูตอเมริกานั่นเอง

แล้วก็ถึงคิว Nakoze พี่คนไทยก็กรอกข้อมูล แล้วก็ถามว่าเคยขอวีซ่าหรือเปล่า

ได้วีซ่าอะไรไป แล้วก็สแกนนิ้วมือ ชี้ นาง กลาง ก้อย ทั้งด้่านซ้ายและขวา

แล้วก็นิ้วโป้ง ทั้งสองมือ ตรงนี้ก็ต้องเช็ดนิ้วให้แห้ง แหม...คนมันตื่นเต้นเนอะ Smiley

เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอคิวเข้าสัมภาษณ์กับท่านกงศุลชาวอเมริกัน

Nakoze ก็นั่งรอได้ราวๆ 5 นาทีก็ได้เรียกเข้าไป

ช่องฝรั่งทางด้านซ้ายมือ ทุกช่องเฮฮาปาจิงโกะมาก

บางช่องมีร้องเพลงสดโชว์ โอ๊ะ!ช่องนั้นก็หัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก ช่องนี้ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

รอไปได้ 2-3 นาที Nakoze ก็ได้ช่องในตำนาน .... ตึ่ง ตึง ตึ๊งงงงงง

หมายเลขที่ออก 09 โปรดฟังอีกครั้ง หมายเลขที่ออก 09

พอเข้าไปยืนหน้าช่อง ปรากฏว่าท่านกงศุลก็หันหน้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่

ด้วยสีหน้าที่ทำเอาตรูใจสั่น จะว่าเบื่อก็ไม่เชิง ไม่พอใจก็ไม่ใช่

ยืนรอหน้าช่องโดยไม่ได้สัมภาษณ์ประมาณ 2 นาที ท่านกงศุลก็เห็นใจหันมาซักที

Nakoze : ยื่นเอกสาร

กงศุล : หน้าบึ้งๆ ไม่แม้แต่จะ say hello

Nakoze : ฝืนยิ้มด้วยความยินดี ทั้งที่เจ็บปวดเหลือเกิน ~

กงศุล : what are you studying ?

Nakoze : Finance

กงศุล : what university ?

Nakoze : เกษตรศาสตร์

กงศุล : *^$#@)?

Nakoze : sorry ?

กงศุล : *^$#@) ?

Nakoze : ...... i'm sorry ?

กงศุล : *^$#@) *^$#@) *^$#@) ? [พูดย้ำคำเดิมอยู่ 3 รอบ]

Nakoze : ... do you ask when i'm gonna start working ?

กงศุล : ทำท่าไม่พอใจอย่างแรง ถอนหายใจ เอามือกุมหัว หน้าบึ้งสุดตรีน

Nakoze : .......

กงศุล
: last year *^$#@) ?

Nakoze : do you mean when did i sarted working last year ?

กงศุล : ทำหน้าหยันๆ เสมือนรู้ว่ากรูฟังไม่ออก [ฟังไม่ออกจริงๆ]

Nakoze : .....

กงศุล : city , state that you worked last year

Nakoze : aw....Ames, Iowa

 (ห่า....กรูก็ได้ยินว่า date date date ซ้ำๆอยู่นั่นแหละ)

 (ทำไม๊ ทำไมไม่ถามกรูด้วยประโยคยาวๆ ให้กรูเข้าใจบ้าง)

 (อยู่ดีๆก็ขึ้น state ? ถามห้วนๆแหม .... ใครจะรู้เรื่องวะ)

 (ตอนย้ำก็ย้ำแค่ state state state ไมค์ก็ติดๆดับๆ เม่ง........ )

กงศุล : คราวที่แล้วทำงานอะไร ?

Nakoze : McDonald crew member

กงศุล : แล้วคราวนี้จะไปทำอะไร

Nakoze : crew member at Shake Shack, NYC

กงศุล : ok , have a nice day

Nakoze :

ช่อง nakoze สัมภาษณ์เร็วมาก ช่องอื่นยังไม่ออกมากันเลย

พอสัมภาษณ์เสร็จนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ไม่ได้รับพาสปอร์ตคืนก็เป็นอันจบ

 Nakoze ที่ลุ้นแทบแย่ตอนคุณพี่กงศุลท่านส่ายหัวทำหน้าไม่พอใจ

Nakoze ก็ไปยืนต่อแถว ซื้อซองไปรษณีย์อยู่ด้านหน้า กำลังควักเงิน 75 บาทอยู่

และแล้วก็หูฝาดได้ยินคนเรียกชื่อตัวเอง

 เฮ้ยไม่น่า...เราไม่มีคนรู้จักร๊อกกก Smiley

"คุณ XXXXX ค่ะ" เอาละชัดเจน เรียกตูนี่หว่า

Nakoze : นู๋เองค่ะ

คุณพี่หนึ่งในแก๊งค์พาวเวอร์พัฟเกิร์ล : กงศุลหมายเลข 9 เรียกน้องเข้าไปใหม่ค่ะ

Nakoze : หน้าซีด ปากสั่นในบัดดล นี่ตูทำอะไรผิดหรือกงศุลจะเปลี่ยนใจ Smiley

ระหว่างทางเดินกลับเข้าห้องเย็น สมองก็คิดประมวณเหตุการร้ายๆต่างๆ

กงศุลก็ให้มายืนรอ เพราะกำลังสัมภาษณ์คนอื่นอยู่

ไอ้เราก็สังเกตช่องอื่นไป เค้าก็ยังคงเฮฮาปาจิงโกะกันเรื่อย

และแล้ว คนข้างหน้าก็ก้าวออกไป ถึงคิว Nakoze อีกรอบ

กงศุล : เมื่อกี๊ลืมบอกให้สแกนนิ้วมือ ขอนิ้วโป้งขวาหน่อย

Nakoze : ประทับนิ้วโป้ง

กงศุล : ขอบคุณ ลาก่อน

Nakoze : Smiley

ตกลงเรียกกลับไปอีกรอบเพราะลืมให้สแกนนิ้ว .... Smiley

ก่อนออกมา ได้ยินเสียงท่านกงศุลช่องข้างๆ

พูดว่า try again next time แล้วคนช่องข้างๆก็หันหน้ามาบอกว่า ไม่ผ่านอ่ะ



ง่า ... เป็นกำลังใจให้คนที่ขอไม่ผ่านทุกคนนะคะ

nakoze เชื่อว่า ทุกคนจะผ่านมันไปได้ในที่สุดค่ะ

และแล้ว Chapter นี้ก็จบลงด้วยประการฉะนี้แล ...



Smiley คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 7 : i was .... cheated

Smiley คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ?





Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 17:34:39 น.
Counter : 2705 Pageviews.

5 comment
◄ Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ?


Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ?


เย่ๆ ~ ในที่สุด nakoze ก็ได้คิวสัมภาษณ์วีซ่ากับเค้าซักที

ได้คิววันที่ 4 กุมภาพันธ์ช่วงบ่าย คราวนี้จะหมักครีมกันแดด + ต้มกินเพิ่มอีกซักถ้วย

แดดแถวสถานฑูตมันร้อนผิดปกตินะว่ามั๊ย Smiley




หัวเรื่องวันนี้ ป่วยใจกับธนาคารและจะเอาเช็คไปขึ้นเงินที่ไหนดี

เรื่องก็มีอยู่ว่า ตอนกลับมาจากไปเวิร์คครั้งที่แล้ว

nakoze ก็มีเงินดอลติดตัวอยู่บางส่วน [ที่กะว่าจะไม่ใช้]

แต่แล้ว โชคชะตาเล่นกล...แกล้งฉันทำไม ...

nakoze อยากได้.....ผ้าปูที่นอน+ผ้านวม ต้อนรับหน้าหนาว Smiley

ประกอบกับเริ่มซื้อของจุกจิก จนในที่สุดเงินก็ขาดมือ

nakoze เลยตัดสินใจเอาเงิน $200 ไปแลกเป็นเงินบาทที่ธนาคารแห่งหนึ่ง

ไม่ขอเอ่ยชื่อ [hint : เป็นชื่อเมืองหลวงของไทย] ไม่รู้กันเลยใช่มั๊ยคะ ท่านผู้ช๊มมม

ด้วยความที่สาขานี้เพิ่งมาเปิดใหม่ พนักงานก็อาจจะใหม่ๆ [รึป่าวไม่รู้]

พนักงานสาว : สวัสดีค่ะ ทำรายการอะไรคะ

nakoze : เอ่อ แลกเงินอ่ะค่ะ

พนักงานสาว : แลกเท่าไรคะ

nakoze : $200 ค่ะ

พนักงานสาว : [รับเงินมาดูแล้วพลิกไปมา ส่องกับแสงไฟพร้อมจ้องจนเงินกรูแทบทะลุ]

nakoze : .....

พนักงานสาว : เอ่อ .. คือน้องคะ พี่ไม่มีความรู้เรื่องดูแบงค์ปลอมเลย

น้องช่วยไปแลกกับธนาคาร "สีเขียวแดง" ข้างๆนี้ได้มั๊ยคะ

nakoze : ....

หัวหน้าแผนกธนาคารเดินผ่านมาพอดี ~

พนักงานสาว : พี่คะๆ[เรียกพนักงานผู้ชายคนนึงมา] น้องจะมาแลกเงิน แต่หนูกลัวเป็นแบงค์ปลอม

nakoze
: [ดอก...พูดกันไม่เกรงใจกรูเลยนะหาว่ากรูเอาแบงค์ปลอมมาแลกอีก] 

พนักงานสาว : น้องไปแลกธนาคาร "สีม่วง" ก็ได้นะคะเดินนิดเดียวเอง

nakoze : แลกที่นี่ไม่ได้หรอคะ ?

พนักงานสาว : ซักครู่นะคะ พี่ไม่เคยแลกเหมือนกัน พี่ดูไม่เป็น

หัวหน้าแผนก : ก็ก๊อปปี้บัตรประชาชนแล้วให้น้องเซ็น

nakoze : .......

พนักงานสาว : แล้วถ้าเป็นแบงค์ปลอม หนูจะโดนมั๊ยคะพี่

nakoze : .......

หัวหน้าแผนก : ไม่โดนหรอก ถ้าโดนก็โดนพี่ก่อน

nakoze : .......

พนักงานสาว : หนูไม่โดนแน่นะพี่

nakoze : [โดน.....เมิงน่ะโดนแน่ๆ......จะโดนกูถีบเข้าให้เดี๋ยวนี้แหละ ]


เป็นพนักงานอะไรที่แบบ เอ๊ะ~ นี่ถามกรูก่อนมั๊ยว่าแบงค์ปลอมหรือเปล่า

นี่นั่งหัวโด่อยู่นี่ คุยกันอย่างกับเห็นตูเป็นสากกะเบือเลยนะ

หรือท่าทางกรูมันดูเหมือนว่าฟังเมิงพูดกันไม่รู้เรื่องฮะ

แต่สุดท้ายยัยพนักงานสาวก็ยอมให้แลก โดยถ่ายบัตรประชวชน nakoze ไว้

และยังไม่วายให้เขียนเบอร์โทร พร้อมทิ้งท้ายว่า....

พนักงานสาว : เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าตรวจพบเป็นแบงค์ปลอม จะได้ติดต่อน้องได้  ตึ่ง ตึ่ง โป๊ะ




จบจากเรื่องแลกเงินก็มีอีกเรื่องนึงชื่อการขึ้นเช็คต่างประเทศ

สำหรับเช็คที่ได้จากนายจ้าง nakoze ไปขึ้นกับธนาคารไทยพานิชย์

เพราะว่าบัญชีหลักที่ใช้เป็นของไทยพานิชย์

เสียค่าธรรมเนียมไปประมาณ 200 - 400 บาท จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้

ทางพนักงานแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน 

 แต่เอาเข้าจริงประมาณเดือนนึงเงินก็เข้าบัญชี nakoze แล้วค่ะ



ส่วนเช็คที่ได้จากการทำ Tax refund นั้น

nakoze เอาไปขึ้นเงินกับธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ตรงสีลมค่ะ

จริงๆแล้วตอนแรกนี่เอาไปขึ้นกับสาขาอื่น

แต่ทางสาขาย่อยนั้นแจ้งมาว่า จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน

ถ้าอยากได้เร็วกว่านี้ให้ไปคุยกับสำนักงานใหญ่ดีกว่า

ว่าแล้ว nakoze ก็เลยเอาเช็คไปขึ้นที่สำนักงานใหญ่ 

รู้สึกว่าขึ้นเช็คต่างประเทศนี่จะเป็นชั้น 2 มั้ง (ไม่แน่ใจกรุณาเช็คเองอีกที)

พอยื่นเช็คให้ก็บอกเค้าไปว่าเป็นเช็คที่ได้จาก tax refund อเมริกา

พนักงานก็อำนวยความสะดวกดีมาก แล้วก็ดำเนินการเร็วมากๆ

ทำเอกสารไม่ถึง 10 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย

ทางธนาคารก็แจ้งมาว่าเงินจะเข้าภายใน 3 วันทำการ

ไม่ต้องรอ 30 - 45 วัน คือไม่ต้องรอ clearing เหมือนธนาคารอื่น

เพราะเห็นว่าเป็นเช็คที่ได้จากรัฐบาลอเมริกา โอกาสเช็คเด้งต่ำมาก

ธนาคารกรุงเทพก็เลยออกเงินให้เด็กไปก่อนได้ ซึ่งก็ถือว่ามันแจ่มมากกกก

พอทำเรื่องเสร็จ nakoze เดินออกไปช็อปปิ้งต่อ ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสองกว่าๆแล้ว

อยู่ดีๆทางแบงค์ก็โทรศัพท์มาบอกว่า ไม่สามารถเอาเงินเข้าบัญชีให้ได้

เนื่องจากว่าบัญชีของ nakoze ถูกปิดไปแล้ว

ไอ้เราก็ใจร้อน งงว่ามันถูกปิดไปได้ไง เพราะว่าไม่ได้รับจดหมายแจ้งเตือนอะไรเลย

แบงค์ก็บอกว่าให้กลับไปคุยที่สำนักงานใหญ่อีกที

พอไปถึงตอนแรก nakoze ก็เข้าใจว่าคงต้องเอาเช็คคืนไปขึ้นกับธนาคารอื่นแทน

เพราะว่าจะขึ้นเช็คต่างประเทศมันต้องมีการเปิดและเดินบัญชีมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

แต่ปรากฏว่าทางแบงค์อนุญาตให้ nakoze เปิดบัญชีใหม่และเอาเงินเข้าให้เลย

พอทำเรื่องเปิดบัญชีใหม่เสร็จ อีกประมาณ 40 นาทีต่อมา

พี่พนักงานก็ช่วยเอาเงินเข้าบัญชีให้ทันที Smiley

โอ้แม่เจ้า!! มันเร็วไปไหมนี่ !!

Smiley คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 6 : วีซ่า....ที่ซ่าไม่ออก

Smiley คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งาน



Create Date : 11 มกราคม 2554
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 16:37:49 น.
Counter : 6356 Pageviews.

3 comment
◄ Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งาน


Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งาน





จาก Chapter ที่แล้ว  สุดท้าย nakoze ก็จองสัมภาษณ์งาน shake shack

พี่ที่ itworks ก็โทรมานัดวันเวลา

วันนั้นถึงกับโดดเรียนมานั่งหน้าจอเพื่อรอเวลา 3 ทุ่ม

ตื่นเต้นมากกกกก ทำการบ้านหนักกสุดๆ

เก็งคำถามยิ่งกว่าตอนเค้าประกวดนางสาวไทย

ปริ้นคำถาม คำตอบมานั่งซ้อมอ่าน แถมเผื่อติดผนังห้องไว้อีก

ประมาณว่าเป็นอับดุล ถามได้ ตอบได้

และแล้ว 3 ทุ่มก็มาถึง nakoze ก็นั่งเกร็งอยู่หน้า skype

หิวก็หิว แต่กินไม่ได้ กลัวว่านั่งๆกินอยู่เม่งจะทะลึ่งออนไลน์พอดี

ติ๊ก...ติ๊ก...ติ๊ก เสียงเข็มวินาทีที่กระดิกไป ชวนให้หัวใจสลาย

... เวลาผ่านไป 30 นาที ก็ยังไม่มีวี่แวว

.... อีก 15 นาทีผ่านไป nakoze ที่กำลังสูดเส้นมาม่าเข้าปากก็ยังคงไม่เห็นเงาคนที่จะมาสัมพาษณ์

...... 1 ชม ผ่านไป กูไปนอนดีกว่ามั๊งเนี่ย Smiley

และแล้วการสัมพาษณ์งานวันแรกก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า




วันรุ่งขึ้น itworks ก็โทรมานัดใหม่ บอกว่าองค์กร เพิ่งเปิดอีเมล์ นัดเป็นอีกสองวันแทน

เอาอีกแล้วกู .... ระทึกอีกรอบ

รอบนี้ก็เหมือนเดิม หยุดงาน หยุดเรียน [หยุดเรียนนี่เป็นข้ออ้าง ]

.... ที่เก่าเวลาเดิม nakoze กับ บักกล้ามโต ก็มาแสตนบายรออยู่หน้า skype

..... เลยสามทุ่มมาได้ 5 นาทีแล้ว ก็ยังเงียบ

...... 10 นาที .... ว่างเปล่า

........ 15 นาที ต่อมา เปิด skype คุยกับบักกล้ามโตแทน

...... 30 นาที ..... เปิดเกมส์ออนไลน์เล่น แต่ให้บักกล้ามโตเฝ้าไว้

...........45 นาทีผ่านไป ....

บักกล้ามโต : เฮ้ยๆ ออนแล้วๆๆๆ

nakoze [ที่กำลังนั่งเล่นเกมส์] : เฮ้ยจิงดิ่ ทำไมใน skype ชั้นไม่ขึ้นวะ

บักกล้ามโต : เนี่ยจริงๆ

nakoze : ทำม๊ายย ของตู ไม่ขึ้นนนนนน   เอาแล้ว ไม่รู้ว่า skype ใครเสียกันแน่

 ก็ของ nakoze มันเป็นออฟไลน์ แต่บักกล้ามโตมันเป็น busy

nakoze กับ บักกล้ามโต ก็นั่งเถียงกันเรื่องสถานะ skype ของคนสัมภาษณ์กัน

ซักพักนึง skype ของ nakoze ก็ขึ้นว่าออนไลน์

กรี๊ดดด ... มือสั่น ..หัวใจเต้นแรง ... อดีนาลีนเดือดพล่าน

เมื่อเธอคนนั้น [ชื่อวิคตอเรีย] ประชุมสาย skype เพื่อสัมภาษณ์

วิคตอเรีย : เอาล่ะขอโทษที่มาช้า skype มีปัญหา

nakoze : ไม่เป็นไร [กูรอรวมๆก็แค่ 3 วันกว่าๆเอง]

วิคตอเรีย : เราจะวีดีโอหรือคุยธรรมดาดี

บักกล้ามโต : up to u

nakoze : วีดีโอก็โอเค นะเจ๊

วิคตอเรีย : อื้ม แต่ชั้นใช้วีดีโอไม่ได้ ไม่รู้เป็นไร

nakoze : [แล้วจะถามทำพรื่อ !!]

วิคตอเรีย : เอาล่ะ เราจะมาเริ่มกันที่บักกล้ามโต

บักกล้ามโต : โอเค

วิคตอเรีย : เรียนอยู่ที่ไหน

บักกล้ามโต : คณะ xx มหาวิทยาลัย xx

วิคตอเรีย : นอกจากอเมริกา เคยไปที่อื่นมั๊ย

บักกล้ามโต : เคยไปออสเตรเลียกับ nakoze ไปเรียนด้วยกัน

วิคตอเรีย : อื้ม โอเค แล้วเคยมานิวยอร์คมั๊ย

บักกล้ามโต : เคยไปเที่ยว

วิคตอเรีย : แล้วจะมีปัญหาการกับการทำงานมั๊ย นั่งรถซับเวย์ได้นะ โอเคหรือเปล่า

บักกล้ามโต : โอเคที่สุด ตอนทำงานที่ชิคาโก้ก็ใช้ซับเวย์

วิคตอเรีย : โอเค มีคำถามจะถามมั๊ย

บักกล้ามโต : เอ่อ .... งานร้าน fast food ต้องวนตำแหน่งรึป่าว

วิคตอเรีย : ใช่ๆ เราจะดูตามความเหมาะสม

บักกล้ามโต : แล้วคุณทานอาหารเช้าหรือยัง

วิคตอเรีย : อะไรนะ Smiley

บักกล้ามโต : breakfast

วิคตอเรีย :

บักกล้ามโต : breakfast

วิคตอเรีย : ไม่เข้าใจอ่ะ

บักกล้ามโต : ไม่เป็นไร

วิคตอเรีย : อ๋อ ยังไม่ได้กิน กินกาแฟแทน ฮ่าๆๆ  เอาล่ะขอสัมพาษณ์ nakoze ต่อนะคะ

nakoze : เอาแล้วกู นะโม นะโม

วิคตอเรีย : ขอเปิด resume แปปนึงนะ

nakoze : ระทึก ตึก ตึก ตึก

วิคตอเรีย : เอาหล่ะ เรียนอยู่ที่ไหน

nakoze : ปี 2 คณะ xx มหาวิทยาลัย xx

วิคตอเรีย : อื้ม เคยทำร้านฟาสฟู้ดมา ไม่มีปัญหาหรอก แล้วเคยไป NY มั๊ย

nakoze : ไม่เคย

วิคตอเรีย : [คงอ่าน objective ใน resume] 5555+ สงสัยจะชอบ NY มากเลยนะ

nakoze : ค่ะ อยากไป

วิคตอเรีย : แล้วมีปัญหากับการนั่งซับเวย์มั๊ย

nakoze : ไม่มี๊ ไม่มี

วิคตอเรีย : โอเค มีอะไรจะถามป่ะ

nakoze : คือ เห็นว่า shake shack เนี่ย มีตั้งหลายสาขา เราจะได้ทำที่สาขาไหน

วิคตอเรีย : โอเค เปิดเวปไซต์ แล้วเลือก Upper east side นั่นแหละที่ทำงานของเทอทั้งคู่

nakoze : โอเค

วิคตอเรีย : โอเค ฉันจะส่งรายงานไปบอกทางบริษัท ว่าพวกคุณทั้งสองคนผ่านสัมพาษณ์

nakoze : ขอบคุณจ่ะ yesssss !!!!!!!!


ฮ่าๆ การสัมพาษณ์ทังหมด ใช้เวลาไปราว 2 นาทีครึ่ง

แต่ต้องนั่งรอ 3 วันเพื่อ 2 นาทีนี้ที่รอคอย

และแล้ว nakoze กับ บักกล้ามโต ก็กำลังจะไปเป็นสาว upper east side ในนิวยอร์คแล้วจ้า

Smiley


Smiley คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ?

Smiley คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 3 : ในที่สุดก็ได้งาน work and travel เสียที





Create Date : 01 ธันวาคม 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 14:21:35 น.
Counter : 3279 Pageviews.

4 comment
◄ Chapter 3 : ในที่สุดก็ได้งาน work and travel เสียที

Chapter 3 : ในที่สุดก็ได้งาน work and travel เสียที



ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ส่งหลังไมค์เข้ามาสอบถามนะคะ

ตอนนี้ nakoze ยังไม่ได้ตอบหลังไมค์ใครไปว่าได้งานที่ไหน

เพราะว่าอยากให้มารอลุ้นพร้อมกัน มันส์กว่าค่ะ ฮ่าๆ

อยากจะเขียนบล็อกไปเรื่อยๆ   ถ้าตอบไปก่อนเดี๋ยวไม่มีคนอ่าน  Smiley

เอาล่ะค่ะ คราวที่แล้ว nakoze บอกว่า nakoze ได้งานแล้ว

ยังขอไม่บอกนะคะว่างานอะไร ขอบ่นเรื่องกว่าจะได้งานให้จบก่อนแล้วกันค่ะ




หลังจากที่อกหักจากเอเจนซี่ทั้งหลายแหล่

nakoze ก็เริ่มใจกล้า หน้าด้าน ส่งใบสมัครไปหานายจ้างด้วยตัวเองเลยค่ะ

เริ่มจากเขียน cover letter แล้วก็แนบ resume

ตอนแรกก็หานายจ้างจากการ search งานสำหรับ visa J1

แล้วก็ได้ไปเจอเวปหลายๆเวป เราก็ลองๆส่งอีเมล์ไปสมัคร

ผลปรากฏว่า .... แท่น แทน แท๊น ~ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ผ่านไปราวสองเดือน

ไม่มีใครตอบกลับมาเลยค่ะ Smiley

ตอนนั้นแบบนอยด์มากๆ เคว้งคว้าง

แล้วผลพวงจากการเสิร์ชก็ได้พบว่า บริษัทบางบริษัทเค้าเอางานจากเวป J1 มาโพสในเวปเค้า

แล้วบอกว่างานพวกนี้ นายจ้างต้องการดู resume ก่อนถึงจะตอบกลับ

ซึ่งตรงนี้ nakoze ไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่าทาง บ.มีการติดต่อผ่านองค์กรอเมริกัน

หรือว่าเปิดมาเจอเวปแบบที่ nakoze เจอ แล้วก็ส่งข้อมูลเด็กในบริษัทไปให้ ถ้าเป็นแบบหลังนี่ถือว่าไม่ค่อยเวิร์คแล้ว

เหมือนหลอกเด็กให้จ่ายเงินก่อน โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่างานเหลือกี่ตำแหน่ง

หรือว่ามันมีงานแน่ๆ หรือเปล่า เพราะถึงตอนที่เด็กจ่ายเงินแล้ว

แน่นอนค่ะว่าเดี๋ยวเหตุผลสารพัดสารเพที่จะไม่คืนเงินมันก็ตามมาเอง

ตัว nakoze เอง ส่งใบสมัครอย่างนี้ไปกับนายจ้างหลายคนมาก เป็นสิบคน

แล้วก็ได้อีเมล์ไปติดต่อกับงานที่อยากทำด้วยตัวเอง แต่แล้วก็ไม่ได้รับตอบกลับเหมือนเคย

จนกระทั่งคิดได้ว่า  เออ...นี่กรูไปกับเอเจนซี่แบบปกติดีกว่านะเนี่ย Smiley

ว่าแล้วก็เริ่ม search เอเจนซี่เพิ่มเผื่อจะเจองานใหม่ๆ

จนได้มาเจอกับ IEE ขอเอ่ยนามด้วยความประทับใจ[มิรู้ลืม]

อันนี้ไม่เคยเข้าบริษัท แต่โทรไปหาบ่อยมาก มากๆที่สุด

แต่พนักงาน ไม่เคยวีน ไม่เคยเหวี่ยง ตอบคำถามด้วยความเต็มใจ

nakoze ยังเคยไปขอ job list เค้าว่าให้ช่วยส่งให้ทางเมล์ได้มั๊ย

ขอแทบทุกอาทิตย์ พี่พนักงานก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าอะไรทั้งสิ้น

จนแบบประทับใจ บ.นี้มาก ตอนแรกก็คิดจะไปทำงาน casino

แต่ติดที่ว่าอายุมันคาบเกี่ยวคือ nakoze จะไป 21 ที่โน่นหลังทำงานไปพักนึง

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทางนายจ้างจะโอเคหรือเปล่า แต่พี่ IEE ก็รับปากว่าจะลองไปคุยให้

แต่สุดท้าย nakoze ก็ไม่ได้ไปกับ IEE เพราะว่า คาสิโน มันไกลเมืองมากกก

จริงอยู่ที่บางคนบอกว่า เดี๋ยววันหยุดค่อยไปเที่ยว ... แต่คุณขา

ถึงอารมณ์นั้น คุณขา จะไม่อยากไปเที่ยวแล้วค่ะ พอวันพักก็กลายเป็น

"เหนื่อย กุขอนอนอยู่บ้านแล้วกัน"

แล้วคิดไปคิดมา มันก็เป็นสถานที่อโครจรอ่ะ ไม่อยากไป




nakoze ยังได้ไปเจอกับอีกเอเจนนึง เป็นเอเจนซี่เล็กๆ ชื่อว่า LSC

อันนี้เค้าก็ให้คำปรึกษาดี ไม่ตื้อ ไม่โทรตาม ถ้ามีงานก็จะ msn บอก

แต่ไม่ค่อยได้คุยกับเอเจนท์นี้เท่าไร เพราะว่ามีงานค่อนข้างน้อย




nakoze ก็ได้กลับไป Am_ric_n    Le_rning อีกครั้งนึง

หลังจากไม่ประทับใจไปครั้งที่แล้วและครั้งนี้ ก็ยังคงยืนยันความไม่ประทับใจ

ตอนนั้น nakoze สนใจงานถ่ายรูปที่ showtime picture NY มากๆ

พนักงานคนแรกก็คอนเฟิร์มบอกว่าโอเคภาษาไม่มีปัญหา ไปได้สบาย

ไอ้เราก็แบบสวรรค์ประทานพรแก่ลูกช้างแล้วหรือนี่

ตอนนั้นก็แบบ โทรไปอวดเพื่อนนี่ๆกรูว่าจะเอางานนี้ นี้ นี้ แล้วแหละ บลาๆ ~ Smiley

พอวันรุ่งขึ้นโทรไป พนักงานอีกคนรับ กลับมาบอก nakoze ว่า

งานไม่คอนเฟิร์ม ปีนี้คงไม่มี อ่าว .... ทำไมพนักงานพูดไม่เหมือนกันอีกแล้ว

แล้วบริษัทนี้เป็นอะไรชอบเอางานหรูๆมาโพส

พอโทรไปถามก็บอกไม่มี ไม่มา แล้วเอามาโชว์ทำไม[วะ?]

พอผิดหวังกับ Am_ric_n    Le_rning ก็กลับมาตายรังมาหา High_r  Educaxxx ใหม่

จากที่ติดต่อไว้ตั้งแต่เปิดโครงการ ซึ่งก็ทำให้รู้ว่า อ๋อ...หน้ามือกับหลังฝ่าเท้า

มันเป็นอย่างนี้นี่เอง โทรไปเจอพี่ที่เป็นผู้จัดการ

รู้สึกเลยว่าพี่ไม่ง้อเด็กเลย แน่สิเด็กสมัครจนล้นแล้วหนิ แค่คนเดียวสองคนคงไม่มีค่า

พูดจาก็ไม่น่าฟังเท่าไร nakoze ก็เลย อารมณ์แบบ เฮ้อ...ปลงตกหว่ะกรู

สมัครช้าก็งี้แหละ จะมีใครรับเด็กเหลือๆ[ขอ]บ้างมั๊ยหนอ ~




และแล้ววันนึงเพื่อนที่เคยโทรไปปรึกษาเรื่อง WAT ที่เกาะ liberty บ่อยๆ

[ยืนยันว่ายังอยากไปที่นั่นอยู่....เห็นความพยายามมั๊ย]

เค้าก็โทรมาบอกข่าวเรื่องงานใหม่ โอ้ยประเสิรฐอะไรปานนี้

ขอขอบคุณ คุณไตเติ้ล ผ่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

แล้วเพื่อนทาง msn ที่ไปกับบริษัท itworks อีกคนนึงก็อีเมล์มาบอกเรื่องงาน

nakoze เริ่มรู้สึกเหมือนชาวประมงตัวน้อย ที่ลอยคว้างอยู่ในทะเลเป็นปี

แต่อยู่ดีๆก็มีเรือสำราญผ่านมาให้เกาะ......ตอนนั้น nakoze ได้สบถสาบานเอาไว้ว่า

"งานนี้ต้องเป็นของกรูให้จงได้ !!!!!!!!!!!"

ว่าแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็รีบโทรติดต่อกับ itworks

คำแรกที่พี่ขวัญพูดคือ "ฮ่าๆ ข่าวเร็วจังเลย"

เอิ๊กๆ แหม่ ก็หนูอยากได้งานที่นิวยอร์ค จนตัว สั่น สั่น สั่น สั่่น

ถามไปถามมาก็ได้ความว่า งานนี้เป็นงานที่นายจ้างเอามาเอง

[ก่อนหน้านี้ 1 วัน itworks จัด job fair ขึ้น]

และรับแค่ second timer เท่านั้นนะจ๊ะ

งานแรกชื่อ Jamba Juice เรท 8$ เหลือแค่ตำแหน่งเดียว

กับอีกอันนึง shake shack เรท 9$ รับแค่สองคนเท่านั้นจ่ะ

อิอิ .... เข้าทางกรู Jamba Juice ได้งานนี้แน่แล๊ว ....

แต่! แต่!!วันนี้นายจ้างจะไป job fair กับอีกบริษัทนึง

ไอ้เราก็ไม่กล้าถามว่า บ. ไหน แต่แล้วก็ แว๊บบบ ปิ๊งงงง

บ. ไหนน้าา ที่จะมี job fair กับองค์กรนี้

บ. ไหนน้า ที่งานคล้ายๆกับ itworks

ไม่ได้ๆต้องรีบหาข้อมูล ถ้าเกิดเค้าไปเสนองานชัวร์ว่ามีคนเอาแน่ๆ

nakoze ก็ search เอาตาย  ประหนึ่งว่าเป็นสายลับเกาหลีเหนือมาสอดแนมที่เกาหลีใต้ [เกาะกระแสนิดนึง]

และแล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้ใจห่อเหี่ยวเหลือนิ้วครึ่ง

ก็บริษัทนั้นก็ดั๊น เป็นบริษัทใหญ่ซะอีก [ใบ้ให้ว่า Acad_x ฮ่าๆ ไม่ใบ้ดีกว่ามั๊ง]

ตอนนั้นปั่นป่วนไปหมด เครียด จิตตก วิตกและกังวล

ในที่สุดก็ใจกล้าหน้าด้าน โทรไปหา Acad_x ตรงๆ

nakoze : พี่คะ วันนี้พี่มี job fair ใช่รึป่าวคะ

Acad_x : ค่ะๆ กำลังสัมพาษณ์กันอยู่

nakoze : พี่มีงานที่ NY เหลือมั๊ยคะ

Acad_x : กำลังสัมพาษณ์กันอยู่เลยค่ะเนี่ย

nakoze : แล้วพี่มีงานชื่อ Jamba Juice หรือเปล่าคะ

Acad_x : เดี๋ยวดูให้นะคะ.........ไม่มีค่ะ ไม่มี

nakoze : แล้ว shake shack หล่ะคะ

Acad_x : ไม่มีนะคะ ทำไมหรอ

nakoze : [โกหกไปว่า] อ๋อ ป่าวค่ะ หนูอยากได้งานที่ NY เลยถามดู ขอบคุณมากนะคะ

พอวางหูเสร็จ รีบโทรหาพี่ขวัญ ณ itworks อีกรอบ

ว่าสถานะตอนนี้ว่างรึป่าว พี่ขวัญก็บอกมาว่ายังว่างอยู่ แต่ !!! มันมีสองกรณี

1. แง่ดีคือ มันยังไม่มีคนได้งาน

2. รับคนแล้ว แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนสถานะ

เอาล่ะวะ เสี่ยงอีกแล้วกู ชีวิตมีแต่ความเสี่ยง

แต่เอ๊ะ ตอนเรียนการเงิน อาจารย์สอนมานี่หว่า " High Risk, High Return "

เอาไงดีวะ เพราะปกติกรูก็ High Risk แต่ Low Return กูจัง

และสุดท้ายก็ตัดสิินใจ เอาวะ !! เสี่ยงแล้วไม่ได้ ดีกว่าไม่ได้เพราะไม่เสี่ยง Smiley





2 วันผ่านไป ~ แต่ในใจช่างเนิ่นนาน

กริ๊งๆ ~~~~ กริ๊งๆ

พี่ขวัญ : น้อง nakoze คะ นายจ้างเค้า .....

nakoze : เสียววาบทั้งร่างกาย ลมหายใจติดขัด สายตาพร่ามัว ..... นายจ้างอะไรหรอคะ

พี่ขวัญ : เค้าเอาชื่อน้องใส่ในระบบ แล้วนะคะ

nakoze : กรี๊ดดดดดดด เยส โอ้แมน ซับ ซับ [แปลเอง]

พี่ขวัญ : พี่ก็ถามนะคะว่าจะสัมพาษณ์วันไหน แต่เค้าก็ไม่ตอบมา สงสัยไม่สัมพาษณ์แล้วค่ะ

nakoze : กรี๊ดด กร๊าดด อีกรอบนึง ดีใจโว้ยยยย พอได้ข่าวดี ประดุจชนะเลิศเวทีนางสาวสวนแตง

nakoze ก็รีบโทรไปขอบคุณ แก่คนที่มาแจ้งข่าวให้

วันนั้นกินอิ่ม นอนหลับ ผิวพรรณอิ่มเอิ่ม ประหนึ่งว่าจะตรัสรู้  แต่แล้ว ..... แว๊บบบบบ

ฝ่ายเทวดาของ nakoze ก็มากระซิบว่า... นี่เทอจะไปคนเดียว โดยไม่บอกงานให้เพื่อนอีกคนรู้หรอ ?

nakoze ฝ่ายมืด : แต่กูไม่อยากมีปัญหา ตัวคนเดียวนี่แหละดี ไม่เข็ดอีกหรอ

nakoze ฝ่ายดี : แต่นั่นเพื่อนเทอนะ มันก็ฝันอยากไป NY เหมือนเทอแหละ

nakoze ฝ่ายมืด : แต่กูได้งานแล้วนะ แถมไม่ต้องสัมพาษณ์ด้วย กูไม่อยากเสี่ยง

nakoze ฝ่ายดี : เพื่อน...เพื่อน...เพื่อน...เพื่อนนะ จะทำได้ลงจริงๆหรอ

nakoze ฝ่ายมืด : แล้วจะเอายังไง ให้กูสละงานนี้หรอ โว้ย ไม่เอาหรอก กูลุ้นแทบตาย

nakoze ฝ่ายดี : เอางี้ดีมั๊ย โทรไปถามพี่ขวัญ ว่าย้ายไปงาน shake shack ได้หรือเปล่า

ถ้าได้เทอก็ย้าย ถ้าไม่ได้เทอก็ให้เพื่อนเทอไปทำ shake shack แทน

nakoze ฝ่ายมืด : แต่เดี๋ยวมันก็อยากทำงานเดียวกันอีกอ่ะ

nakoze ฝ่ายดี
: เทออย่าเพิ่งไปคิดแทนเค้า ให้เค้าตัดสินใจเอง เราเป็นเพียงผู้นำสาสน์จากพระเจ้า

nakoze ฝ่ายมืด : อ่ะหื่ม ออกตัวแรงนะมึง สาสน์จากพระเจ้า แต่คิดดูดีๆนะโว้ย อยู่ดีไม่ว่าดี จะหา

เรื่องใส่ตัวทำไม กี่ครั้งแล้ว ที่มึงช่วยคน แต่คนเค้าเอาปัญหามาให้มึงงงงงง

nakoze ฝ่ายดี : GOD BLESS U

แว๊บบ ~ แล้ว nakoze ก็กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งนึง

เป็นอีกครั้งที่เจอทางแยกในชีวิต ...... จะเอายังไงดีนะ

nakoze หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา มือก็จิ้มไปบนหน้าจอ กดเบอร์โทรออก .... "บักกล้ามโต"

กรูทำลงไปแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรบอกมัน

ไม่รู้ว่าตัดสินใจผิดหรือเปล่า รู้แค่ว่าเสียงตอนมันดีใจ มันทำให้ nakoze

รู้สึกว่า nakoze กลายเป็นเรือสำราญ ที่ฉุดชายหาปลาคนนั้น เหมือนกับที่ nakoze เคยได้รับมันมาเช่นกัน

nakoze ได้โทรไปเปลี่ยนแปลงเรื่องงานกับ itworks

ซึ่งพี่ขวัญก็ไม่ได้วีนหรือเหวี่ยงแต่อย่างใด

[ผิดคาด จากประสบการณ์หลังการซื้อแล้ว อย่างน้อยพี่ขวัญก็ควรจะบ่นบ้าง อะไรบ้าง แต่นี้ไม่เลย เต็มใจทำทุกอย่าง]

แต่แล้ว ..... เรื่องดีๆ ไม่ได้มากับเรื่องดีๆ เสมอไป

เมื่อ nakoze ได้รับข่าวร้ายทำลายชีวิตจากพี่ขวัญว่า

..... นายจ้างขอนัดสัมพาษณ์ผ่าน Skype นะคะ

โอ้วว โน่วว โน่ววว โน่วววววว

nakoze ฝ่ายร้าย : อุ วะ ฮ่าๆ กูบอกมึงแล้วใช่มั๊ย หาเรืี่องจนได้

nakoze ฝ่ายดี : GOD BLESS U [นี่ไม่มีอะไรจะพูดใช่มะ]

และแล้ว nakoze ก็ต้องตกเข้าสู่โหมดจิตตกอีกครั้ง

เมื่อมีคนเอาน้ำเกลือสาดเข้าให้ที่แผลเก่า [ขนาดนั้นเชียวหราาาาา]

จะไม่ให้กลัวได้ยังไง๊ ~ ก็ครั้งแรกที่โดนสัมพาษณ์งานหน่ะ nakoze สอบตกหน่ะซี๊ Smiley)

(สัมภาษณ์งานเวิร์คครั้งแรก nakoze ตกสัมภาษณ์ค่ะ  ตอนนั้นเลือกงานที่ให้เรท $15 ไป)

(คือตอนนั้นซื่อ เห็นว่ามันเป็นงานที่ได้เงินเยอะมากก็เลยเลือก )

(พอตอนสัมภาษณ์เสร็จนายจ้างเค้าบอกว่าภาษายูดีมากๆเลยนะ  แต่ว่าคงจะรับยูไม่ได้)

(เพราะว่ายู "ไม่มีประสบการณ์" กรี๊ดดดด Smiley)



แล้วงานนี้ nakoze กับ บักกล้ามโต จะสัมพาษณ์ผ่านหรือไม่

และคนสัมพาษณ์จะโหดร้ายกับ nakoze แค่ไหน

ติดตามได้ในตอนต่อไป ....


Smiley คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งาน

Smiley คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 2 : ทางเดินที่...ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 14:02:04 น.
Counter : 5225 Pageviews.

8 comment
1  2  3  4  

nakoze
Location :
  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]



New Comments