Group Blog
All Blog
|
◄ Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ? ![]() Chapter 5 : ป่วยใจกับธนาคาร ขึ้นเช็คที่ไหนดี ? เย่ๆ ~ ในที่สุด nakoze ก็ได้คิวสัมภาษณ์วีซ่ากับเค้าซักที ได้คิววันที่ 4 กุมภาพันธ์ช่วงบ่าย คราวนี้จะหมักครีมกันแดด + ต้มกินเพิ่มอีกซักถ้วย แดดแถวสถานฑูตมันร้อนผิดปกตินะว่ามั๊ย ![]() หัวเรื่องวันนี้ ป่วยใจกับธนาคารและจะเอาเช็คไปขึ้นเงินที่ไหนดี เรื่องก็มีอยู่ว่า ตอนกลับมาจากไปเวิร์คครั้งที่แล้ว nakoze ก็มีเงินดอลติดตัวอยู่บางส่วน [ที่กะว่าจะไม่ใช้] แต่แล้ว โชคชะตาเล่นกล...แกล้งฉันทำไม ... nakoze อยากได้.....ผ้าปูที่นอน+ผ้านวม ต้อนรับหน้าหนาว ![]() ประกอบกับเริ่มซื้อของจุกจิก จนในที่สุดเงินก็ขาดมือ nakoze เลยตัดสินใจเอาเงิน $200 ไปแลกเป็นเงินบาทที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ไม่ขอเอ่ยชื่อ [hint : เป็นชื่อเมืองหลวงของไทย] ไม่รู้กันเลยใช่มั๊ยคะ ท่านผู้ช๊มมม ![]() ด้วยความที่สาขานี้เพิ่งมาเปิดใหม่ พนักงานก็อาจจะใหม่ๆ [รึป่าวไม่รู้] พนักงานสาว : สวัสดีค่ะ ทำรายการอะไรคะ nakoze : เอ่อ แลกเงินอ่ะค่ะ พนักงานสาว : แลกเท่าไรคะ nakoze : $200 ค่ะ พนักงานสาว : [รับเงินมาดูแล้วพลิกไปมา ส่องกับแสงไฟพร้อมจ้องจนเงินกรูแทบทะลุ] nakoze : ..... ![]() พนักงานสาว : เอ่อ .. คือน้องคะ พี่ไม่มีความรู้เรื่องดูแบงค์ปลอมเลย น้องช่วยไปแลกกับธนาคาร "สีเขียวแดง" ข้างๆนี้ได้มั๊ยคะ nakoze : .... ![]() หัวหน้าแผนกธนาคารเดินผ่านมาพอดี ~ พนักงานสาว : พี่คะๆ[เรียกพนักงานผู้ชายคนนึงมา] น้องจะมาแลกเงิน แต่หนูกลัวเป็นแบงค์ปลอม nakoze : [ดอก...พูดกันไม่เกรงใจกรูเลยนะหาว่ากรูเอาแบงค์ปลอมมาแลกอีก] ![]() พนักงานสาว : น้องไปแลกธนาคาร "สีม่วง" ก็ได้นะคะเดินนิดเดียวเอง nakoze : แลกที่นี่ไม่ได้หรอคะ ? ![]() พนักงานสาว : ซักครู่นะคะ พี่ไม่เคยแลกเหมือนกัน พี่ดูไม่เป็น หัวหน้าแผนก : ก็ก๊อปปี้บัตรประชาชนแล้วให้น้องเซ็น nakoze : ....... พนักงานสาว : แล้วถ้าเป็นแบงค์ปลอม หนูจะโดนมั๊ยคะพี่ nakoze : ....... หัวหน้าแผนก : ไม่โดนหรอก ถ้าโดนก็โดนพี่ก่อน nakoze : ....... พนักงานสาว : หนูไม่โดนแน่นะพี่ nakoze : [โดน.....เมิงน่ะโดนแน่ๆ......จะโดนกูถีบเข้าให้เดี๋ยวนี้แหละ ] ![]() เป็นพนักงานอะไรที่แบบ เอ๊ะ~ นี่ถามกรูก่อนมั๊ยว่าแบงค์ปลอมหรือเปล่า นี่นั่งหัวโด่อยู่นี่ คุยกันอย่างกับเห็นตูเป็นสากกะเบือเลยนะ หรือท่าทางกรูมันดูเหมือนว่าฟังเมิงพูดกันไม่รู้เรื่องฮะ แต่สุดท้ายยัยพนักงานสาวก็ยอมให้แลก โดยถ่ายบัตรประชวชน nakoze ไว้ และยังไม่วายให้เขียนเบอร์โทร พร้อมทิ้งท้ายว่า.... พนักงานสาว : เรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าตรวจพบเป็นแบงค์ปลอม จะได้ติดต่อน้องได้ ตึ่ง ตึ่ง โป๊ะ ![]() จบจากเรื่องแลกเงินก็มีอีกเรื่องนึงชื่อการขึ้นเช็คต่างประเทศ สำหรับเช็คที่ได้จากนายจ้าง nakoze ไปขึ้นกับธนาคารไทยพานิชย์ เพราะว่าบัญชีหลักที่ใช้เป็นของไทยพานิชย์ เสียค่าธรรมเนียมไปประมาณ 200 - 400 บาท จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ ทางพนักงานแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน แต่เอาเข้าจริงประมาณเดือนนึงเงินก็เข้าบัญชี nakoze แล้วค่ะ ส่วนเช็คที่ได้จากการทำ Tax refund นั้น nakoze เอาไปขึ้นเงินกับธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ตรงสีลมค่ะ จริงๆแล้วตอนแรกนี่เอาไปขึ้นกับสาขาอื่น แต่ทางสาขาย่อยนั้นแจ้งมาว่า จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ถ้าอยากได้เร็วกว่านี้ให้ไปคุยกับสำนักงานใหญ่ดีกว่า ว่าแล้ว nakoze ก็เลยเอาเช็คไปขึ้นที่สำนักงานใหญ่ รู้สึกว่าขึ้นเช็คต่างประเทศนี่จะเป็นชั้น 2 มั้ง (ไม่แน่ใจกรุณาเช็คเองอีกที) พอยื่นเช็คให้ก็บอกเค้าไปว่าเป็นเช็คที่ได้จาก tax refund อเมริกา พนักงานก็อำนวยความสะดวกดีมาก แล้วก็ดำเนินการเร็วมากๆ ทำเอกสารไม่ถึง 10 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย ทางธนาคารก็แจ้งมาว่าเงินจะเข้าภายใน 3 วันทำการ ไม่ต้องรอ 30 - 45 วัน คือไม่ต้องรอ clearing เหมือนธนาคารอื่น เพราะเห็นว่าเป็นเช็คที่ได้จากรัฐบาลอเมริกา โอกาสเช็คเด้งต่ำมาก ธนาคารกรุงเทพก็เลยออกเงินให้เด็กไปก่อนได้ ซึ่งก็ถือว่ามันแจ่มมากกกก พอทำเรื่องเสร็จ nakoze เดินออกไปช็อปปิ้งต่อ ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสองกว่าๆแล้ว อยู่ดีๆทางแบงค์ก็โทรศัพท์มาบอกว่า ไม่สามารถเอาเงินเข้าบัญชีให้ได้ เนื่องจากว่าบัญชีของ nakoze ถูกปิดไปแล้ว ไอ้เราก็ใจร้อน งงว่ามันถูกปิดไปได้ไง เพราะว่าไม่ได้รับจดหมายแจ้งเตือนอะไรเลย แบงค์ก็บอกว่าให้กลับไปคุยที่สำนักงานใหญ่อีกที พอไปถึงตอนแรก nakoze ก็เข้าใจว่าคงต้องเอาเช็คคืนไปขึ้นกับธนาคารอื่นแทน เพราะว่าจะขึ้นเช็คต่างประเทศมันต้องมีการเปิดและเดินบัญชีมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แต่ปรากฏว่าทางแบงค์อนุญาตให้ nakoze เปิดบัญชีใหม่และเอาเงินเข้าให้เลย พอทำเรื่องเปิดบัญชีใหม่เสร็จ อีกประมาณ 40 นาทีต่อมา พี่พนักงานก็ช่วยเอาเงินเข้าบัญชีให้ทันที ![]() โอ้แม่เจ้า!! มันเร็วไปไหมนี่ !! คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 6 : วีซ่า....ที่ซ่าไม่ออก คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งานเรือ่งอย่างนี้ดูโดยภาพรวมใหญ่แล้ว take it personally ไม่ได้ นะ เพราะพนักงานปฏิบัติไปตามกฏบริษัท ซึ่งแสดงว่าที่แบงค์ ถ้าเจอแบงค์ปลอม ก็จะเฉ่งพนักงาน เพราะฉะนั้น พนักงานต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน พนักงาน(bank tellers)เป็นพวกด่านหน้า ตัวจริงคือ ผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปที่กำหนดนโยบายในการปฏิบัติ เพราะฉะนั้น ถ้าจะโทษ โทษตัวหัวหน้าหรือผู้จัดการฝ่ายดีกว่า
..พอเริ่มทำงานในองค์กรนานๆ ก็จะเริ่มเห็นและเข้าใจพวกนี้เอง... โดย: Overseas
วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:0:23:42 น.ไม่โทษใครหรอกค่ะ
แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแสดงกริยาพูดแบบนั้นออกมาต่อหน้าลูกค้า เอาไปปรึกษากันสองคนได้ไหม โดย: nakoze
วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:9:20:19 น. |
nakoze
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]![]()
Link |







คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 4 : ถึงวันสัมภาษณ์งาน


ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [
อย่าซีเรียสครับ แลกได้ก็ดีแล้ว ติดตัวไว้ทำไมหนักกระเป๋า ค่าเงินบาทก็แข็งเอาๆ