|
บทกวีทิพย์ :: เรือมนุษย์สู่โลกทิพย์พระนิพพาน
บทกวีทิพย์ :: เรือมนุษย์สู่โลกทิพย์พระนิพพาน
เรือมนุษย์แล่นไปไกลสุดกู่ ยากจะรู้ลิ่วตะบึงไปถึงไหน?
ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมีโชคชัย เกิดมาได้เป็นมนุษย์ก็สุดดี
อยู่ในครรภ์มารดาจะคลาเคลื่อน ครบสิบเดือนจะได้เกิดประเสริฐศรี
ทรมานอยู่ในท้องร้องเข้าซี เสียงไม่มีตาก็ปิดสนิทเลย
อยู่ในน้ำคร่ำสกปรกนัก เน่าเหม็นหนักนอนนิ่งเบื่อจริงเหวย.....
หิวก็ดิ้นตีนทิ่มพุงยุ่งจังเลย เจ้าหนูเอ๋ย....ไม่เห็นเดือนเยือนตะวัน!!!
กินนมแม่-สายสะดือสื่อโลหิต สร้างชีวิตขึ้นมาช่างน่าขัน
ปฏิสนธิกาย-จิตมาติดกัน เกิดสัมพันธ์เป็นทารกยกว่าคน
พ่อ-แม่-ลูกผูกจิตสนิทแนบ สามส่วนแยบยลวิญญาณบันดาลผล
ทั้งบาป-บุญหนุนเนื่องทุกเรื่องปน เกิดเป็นคนต้นเหตุกิเลสพา
ร้องอุแว้แม่ก็เพลียละเหี่ยจิต เสี่ยงชีวิตเพื่อลูกน้อยที่คอยหา
ยืนระวังนั่งระไวเดินไคลคลา กลัวลูกยามีตำหนิจะพิการ.....
เมื่อเกิดมากว่าจะโตโอ้โฮยาก แสนลำบากบอกตรงๆน่าสงสาร
ต้องหัดพูดดูดนมอยู่ซมซาน หัดคืบคลานนั่ง-เดินก็เกินพอ
ต้องหัดดื่ม-หัดกินสิ้นทุกอย่าง เลียนแบบบ้างจดจำขำจริงหนอ
หิวก็ร้องแม่ให้นมชมพะนอ กลืนลงคอก็ยังหัด....สัจธรรม
โตอีกหน่อยคอยเฝ้าเข้าโรงเรียน หมั่นพากเพียรเรียนไว้ไม่ตกต่ำ
ศึกษาสรรพวิชาการพื้นฐานนำ ต้องจดจำวันละนิดคิดคำนึง.......
พ่อ-แม่สอนก่อนครูรู้ทุกอย่าง ช่วยเสริมสร้างชีวิตยังคิดถึง
อนุบาลผ่านประถมให้กลมกลึง ต่อมาถึงมัธยมก็นมนาน
สู่เตรียมอุดมศึกษามาวัยรุ่น ต้องหมกมุ่นการศึกษามหาศาล
ได้เล่นบ้างแต่น้อยพลอยรำคาญ วิชาการเรียนไม่หมดตามกฎเกณฑ์
แล้วขึ้นอุดมศึกษามหาลัย เปิดโลกใหม่ใหญ่กว้างหนทางเห็น
เพื่อประกอบอาชีพรีบจำเป็น ต้องลำเค็ญกระเสือกกระสนอดทนเอา
ต้องชิงดีชิงเด่นแม้เป็นเพื่อน แข่งขันเหมือนทศกรีฑาโมหาเขลา
ใครอ่อนแรงไม่แข็งขันถูกบั่นเอา ชนะเขาก็คือแพ้เป็นแน่นอน
ฝึกให้โลภโกรธ-หลงงงแต่เด็ก โลภแต่เล็กจนโตใหญ่น่ะใครสอน?
เป็นวิชาหาเงินเกินอาทร เป็นขั้นตอนของโลกๆโชคอำนวย
ต้องแยกกลุ่มหนุ่มสาวชาวอาชีพ เหมือนถูกบีบอย่างแรงให้แทงหวย
จะเลือกเอาเบอร์ไหน?ให้ระทวย ไม่อยากม้วยต้องเลือกรักเอาสักทาง...
ต้องปรึกษาหารือถือพ่อ-แม่ จะเปลี่ยนแปรสารพัดยังขัดขวาง
ชอบอะไรไม่สมอารมณ์วาง เลือกเอาอย่างหนึ่งจนได้ตามใจกัน
ประกอบกรรมสัมมาอาชีวะ ต้องพบปะทั้งทุกข์และสุขสันต์
เจอผู้คนหญิง-ชายหลายท่วงทัน เป็นสามัญสัจจังในสังคม
พบคนดีมีจนและคนชั่ว ต่างถือตัวกันว่าดีศักดิ์ศรีสม
ไม่ลดลาวาศอกช้ำชอกตรม ต่างนิยมยึดอัตตาว่ากันไป
การแข่งขันแย่งชิงยิ่งหนักขึ้น ปวดหัวมึนข้องจิตคิดไฉน?
ไม่มีสุขทุกข์ร้อนให้อ่อนใจ หลบตัวไปบรรพชาพรรษาเดียว
ได้ลิ้มรสบทธรรมพระกรรมฐาน ผสมผสานปริยัติชัดเฉลียว
ฉุกดี-ชั่วมองตัวตนอยู่คนเดียว จิตปราดเปรียวว่องไวไร้ทุกข์เยือน
เป็นช่วงตอนปลอดโปร่งโล่งหัวอก ยากจะยกเปรียบได้อะไรเหมือน?
ความเป็นจริงสิ่งค้นหาเข้ามาเยือน สะกิดเตือนเกิดรู้เห็นความเป็นมา..
สึกแล้วออกทำงานทำการต่อ ไม่ย่นย่อช่วยชาติ-พระศาสนา
พบคนดีสาวเจ้าเข้าวิวาห์ เป็นบิดากำเนิดลูกโซ่ผูกพัน
ต้องทำมาหากินทุกถิ่นเขต ทั่วประเทศขอบข่ายย้ายขยัน
ทุกภูมิภาคออก-เหนือ-ใต้ก็ไปกัน ครอบครัวนั้นก็ต้องแยกแตกกระเซ็น
แยกกันอยู่ครู่คราวราวจังหวะ เรียนธรรมะจากชีวิตให้คิดเห็น
พบชั่ว-ดีมีสุข-ทุกข์ลำเค็ญ ชีวิตเป็นเช่นนี้......มีเปลี่ยนแปลง
พ่อ-แม่-ลูกแยกทางต่างกันอยู่ ต้องต่อสู้เพื่อตนทุกหนแห่ง
เพื่อครอบครัวและลูกน้อยค่อยมีแรง เสาะแสวงความก้าวหน้าอุตส่าห์เดิน-.....
จากลูกน้อง....ต้องตำราทำหน้าที่ การงานดีซื่อตรงดั่งหงส์เหิน
ประสาซื่อตัวเราเขาก็เมิน ไต่เต้าเดินไปช้าๆตามท่าที
สุจริตคิดชอบประกอบกิจ ไม่ทุจริตหยิ่งนักในศักดิ์ศรี
นับถือความยุติธรรมค้ำชีวี เคารพที่ความถูกต้องครรลองธรรม
สอพลอใครไม่เป็นเห็นทางยาก แสนลำบากจะได้ชมสิ่งคมขำ
คนเขานับกลับกลอกล่อหลอกนำ ต้องใช้กรรมกันให้หมดสู้อดทน
เติบใหญ่เป็นนายคนก็วนกลับ ต้องบังคับบัญชามุ่งหาผล
ตามหน้าที่รับผิดชอบประกอบตน ไม่จำนนต่อปัญหาสารพัน......
มีลูกน้องมากมายจากหลายแหล่ง ยิ่งหนักแรงน้อมนำไม่ขำขัน
ทำอะไรไม่หนักเท่าคนเรานั้น ต่างจิตกันให้ร่วมงานการปกครอง
กิเลสคนล้นมากยากจะแก้ ต่างคนแลเห็นแก่ตัวทั่วทั้งผอง
ผลประโยชน์โฉดเขลาพอเข้าครอง มืดมัวหมองบังใจ....เห็น-ไม่รู้!!
เกิดเป็นคนทั้งทีนี่แสนยาก ควรบั่นบากอดทนเกิดผลหรู
ต้องศึกษาหาวิชาค้นหาครู ที่ซ่อนอยู่ในกมลของตนเอง!!
คือพุทธะ-ผู้รู้-และผู้ตื่น ใช่ผู้อื่นเจาะจงให้ตรงเผง
ผู้เบิกบานก็เหมือนเอาของเราเอง ให้รีบเร่งเร็วรุดขุดขึ้นมา......
๐ จิตวิญญาณนั้นหรือ คือ สติ ให้ตรองตริเปรียบเปรยเฉลยหนา
เรือชีวิตลำน้อยลอยธารา จิตวิญญาณ์ก็คือ สมอเรือ
เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจไม่ทำชั่ว ไม่มืดมัวเปิดหนทางสว่างเหลือ
เป็นความเห็นที่ถูกต้องเมื่อล่องเรือ ไม่คลุมเครือแต่แจ่มใสในวิญญาณ
คือ สัมมาทิฏฐิ-สติชอบ รู้รอบคอบด้วยปัญญามหาศาล
คือ รู้ตัวทั่วพร้อมกลิ่นหอมนาน ดอกบัวบานห้ากลีบแล้วรีบเดิน!!
ปัญญา คือ ใบจักรเรือเหนือทุกอย่าง จะสรรค์สร้างชีวันน่าสรรเสริญ
ช่วยขับเคลื่อนชีวิตจิตดำเนิน ก้าวเจริญสู่เป้าหมายฝั่งท้ายโน้น!!
ด้วยปัญญาญาณยัง คือ หยั่งรู้ ติดตามดูรู้เห็นดังเช่นโหร
เมื่อตามดูรู้แจ้งทิ่มแทงโจร ไม่รู้โดนฆ่าตายวายชีวา......
เมตตา คือ ชูชีพเร่งรีบคิด ช่วยชีวิตคนให้พ้นวนสังสาร์
ไม่กินเนื้อสัตว์น้อยใหญ่ไม่บีฑา เกิดเมตตาบารมีแต่นี้เลย
เกิดความคิดช่วยเหลือตนและคนอื่น ชูชีพชื่นรื่นเริงบันเทิงเหวย
ได้ดวงตาเห็นธรรมจำไว้เลย เมตตาเผยเปิดดวงธรรมให้ฉ่ำเย็น
มรรคแปด คือ พังงาช่วยพากาย ที่ถือท้ายสู่พุทธะแล้วจะเห็น-
เครื่องชี้ทิศทางให้ไม่ยากเย็น ให้จิตเห็นช่องทางสว่างไป.......
มรรค-หนทางสูงส่งมีองค์เจ็ด เหมือนยอดเพชรนำทางสว่างไสว
ถึงพร้อมชอบด้วยกายา-วาจา-ใจ เห็นภายในที่ลึกลับประทับทรวง
สามัคคีที่แนะโซ่และเชือก อันควรเลือกเอาไว้ใช้คุณใหญ่หลวง
รักชื่นชมสมหวังงานทั้งปวง- จักลุล่วงเป้าหมายถึงปลายทาง.......
จากฝั่งนี้ตั้งความหวังไปฝั่งโน้น ทะเลโพ้นสารพัดที่ขัดขวาง
ไม่ย่นย่อท้อใจในหนทาง ใบขึ้นกางเรือชีวิตวิ่งติดลม!!!
ให้เริ่มต้นแต่วันนี้ไม่มีสาย ทั้งหญิง-ชายจักอำนวยให้สวยสม
ขึ้นเรือทองของฉันนี้ไม่มีจม สิ้นระทมตัดทุกข์สุขอนันต์
มีหน้าที่ทำอะไรทำไปเถิด สิ่งประเสริฐอย่าชื่นชมพรหม-สวรรค์
ทุกท่านเคยผ่านดี-ชั่วมาทั่วกัน หลงสวรรค์หันเหเสียเวลา.......
สวรรค์-พรหมอายุยืนพันหมื่นปี ไม่เห็นดีมีแต่สุขไร้ทุกขา
ต่างเพลินเพลินหลงใหลในกามา- วจรพามืดล่วงดับดวงธรรม
ไปนิพพานกันเถิดประเสริฐสุด ถึงพระพุทธ-ธรรม-สงฆ์องค์อุปถัมภ์
พระรัตนตรัยใหญ่ยิ่งสิ่งเหนือกรรม -และเหนือธรรมซาบซึ้งเป็นหนึ่งเดียว
เรือชีวิต-สู่โลกทิพย์พระนิพพาน ล่องเลยผ่านพรหม-สวรรค์ไม่หันเหลียว
อบายภูมิตัดขาดประหลาดเชียว พริบตาเดียวก็แล่นถึงซึ่งนิพพาน!!
ไปนิพพานไปอย่างไร?บอกให้นิด เรือชีวิตจะพาไปให้ศุขศานติ์
ให้อยู่กับตัวรู้อยู่นานๆ ประตูผ่านลิ้นปี่หว่างที่กลางทรวง-
แหล่งสะสมบาปกรรมพระธรรมจักร หากรู้หลักจักสมใจผลใหญ่หลวง
ทุกข์-สุขเกิดที่นี่ไม่มีลวง ดับทั้งปวงดับที่นี่-ลิ้นปี่เรา......
ดูลิ้นปี่ที่เดียวที่เกี่ยวข้อง นี่คือมองจิตตนหลุดพ้นเขลา
เมื่อเห็นจิต-เห็นพุทโธโอ้ตัวเรา เคยมัวเมาก็จะดับหายลับไป!!....
ดูลิ้นปี่-แผ่เมตตาอุตสาหะ เห็นพุทธะและทุกอย่างกระจ่างใส
จิตเบิกบานเหมือนแก้วอันแววไว แผ่ออกไปเมตตานั้นทุกวันคืน......
จะนั่ง-ยืน-เดิน-นอนวอนตามดู รู้สึกอยู่ให้แจ่มชัดไม่ขัดขืน
รักษาศีลห้าขอไว้ให้ยั่งยืน จิตสดชื่นสมาธิมั่นเกิดปัญญา......
๐ อุปสรรค คือ ครูบาบูชายิ่ง เป็นของจริงล้ำลึกควรศึกษา
ศัตรูสร้างบารมีมารที่มา มีปัญญาอย่ากลัวแพ้เราแก้ทัน
ถึงเวลาลาไปตามใจสั่ง ดวงจิตตั้งสายพุทธะอรหันต์
ทั้งสองสายก็ล้วนดีมีเหมือนกัน ที่ต่างนั้นตามวาสนาบารมี
ดอกบัวบานสิบดอกออกกลางอก ถึงสิบหก-สิบห้าดอกบอกรังสี
พระโพธิสัตว์ชัดเจนเห็นเด่นดี ตามบารมีอธิษฐานผ่านบำเพ็ญ
พระพุทธเจ้าบานถึงยี่สิบสี่ดอก ทั้งใน-นอกพระพุทธเจ้าที่เราเห็น
สามระดับถึงสัมมาพุทธาเป็น ล้ำสุดเด่นเอกอรหันต์เลิศชั้นเอยฯ
.
Create Date : 24 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2556 18:00:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 725 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
พุทธญาณ แสงทิพย์/เนิน แสงทิพย์/ชัย แสงทิพย์ ฯลฯ
สถาบันแสงทิพย์อริยธรรม -บ้านฉัตรไชย บางเขน
http://www.buddhapoem.com http://www.buddha-dhamma.com
อีเมล์- BuddhayanSangthip@gmail.com NernSangthip@yahoo.com ChaiSangthip@www.com
|
|
|
|
|
|
|
|