เมืองมายา มนตราอลเวง บทที่ 2 บทที่ 2 ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของเจ้าชายจากต่างเมือง งานเลี้ยงรื่นเริงยังคงดำเนินต่อไปแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปจนดึกดื่นมากแล้ว เสียงพูดคุยหัวเราะดังอยู่เป็นระยะด้วยความรู้สึกสนุกสนานของบรรดาแขกเหรื่อผู้มาร่วมงาน ทว่าใครคนหนึ่งกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นทั้งที่ยังคงมีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า สการ์เล็ต เรสเทล เจ้าหญิงลำดับแรกผู้รั้งตำแหน่งรัชทายาทอันดับสองแห่งอาณาจักรเรสทอเรียลอบระบายลมหายใจออกมอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่มีความหมายใดมากไปกว่าการต้องให้เกรียติแก่แขกเมืองที่ทำให้นางจำยอมตอบรับคำเชิญงานเลี้ยงในคืนนี้ แม้ว่าผู้เชิญจะเป็นคู่หมั้นหมายของนางเองก็ตาม ด้วยฐานะทางสังคมและความงดงามอันยากจะหาผู้ใดมาเทียบเคียงจึงทำให้เจ้าหญิงสการ์เล็ตเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะบุรุษหนุ่มผู้ต้องการความก้าวหน้าและชื่นชมหลงใหลในความงดงามแห่งอิสสตรี ทั้งคหบดีและผู้มียศศักดิ์ต่างพากันแวะเวียนมาทักทายชวนสนทนากันได้ไม่หยุดหย่อน สร้างความเหนื่อยอ่อนให้หญิงสาวซึ่งต้องคอยปั้นสีหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ และยังผลให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจแก่เจ้าชายเฟร์นานโดซึ่งต้องการหาโอกาสใช้เวลากับเจ้าหญิงเพียงลำพังอยู่ไม่น้อย เฟร์นานโด เฮย์เดน เจ้าชายลำดับที่สามแห่งอาณาจักรเฮย์เดนซึ่งอยู่ติดกับอาณาจักรเรสทอเรียทางด้านตะวันตก เขาผู้เป็นที่หมายปองจากหญิงสาวทั่วทั้งอาณาจักรด้วยรูปลักษณ์อันงดงามราวเทพบุตรจากสรวงสวรรค์ เรือนกายกำยำสูงโปร่งทรงสง่า เส้นเกศาดุจไหมสีทองยามต้องแสงตะวัน ดวงเนตรแวววาวราวมรกตเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่แทบละลายยามได้สบประสานสายตา ทว่าไม่ใช่กับสการ์เล็ต นางไม่เคยหลงใหลในเสน่ห์ของเขาและคงไม่คิดให้ความสนใจแม้แต่น้อยหากไม่ใช่เพราะพันธะหน้าที่ซึ่งบังคับให้ทั้งสองต้องผูกพันกัน กลับเป็นเฟร์นานโดเสียอีกที่หลงใหลได้ปลื้มในรูปโฉมอันงดงามราวกับเทพธิดาของเจ้าหญิง ดวงหน้าขาวแก้มเนียนเปล่งปลั่งชวนลูบไล้ เรียวปากอวบอิ่มแดงระเรื่อ นัยน์ตาสีทับทิมรับกับเรือนผมสีน้ำตาลทองยาวหยักศกดูลุ่มลึกนุ่มนวลชวนฝัน มันสะกดเขาให้ชะงักงันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตา หลายครั้งคราที่เจ้าชายเทพบุตรลอบมองสำรวจเรือนร่างสมส่วนกลมกลึงน่าเคล้าคลึงสัมผัสจนยากนักที่จะอดใจมิให้ไขว่คว้าร่างนั้นมาเชยชม ดวงตาสีมรกตเชื่อมหวานยามจับจ้องเรือนร่างของเจ้าหญิงสการ์เล็ตจนมิได้รู้สึกถึงสัมผัสริษยาจากสตรีอีกนาง ท่านคงหลงใหลในความงามราวกับเทวีจุติของเจ้าหญิงมาก จึงได้จับจ้องอย่างไม่วางตาเช่นนี้ เสียงหวานเอ่ยขึ้นข้างตัวเจ้าชาย เฟร์นานโดจับได้ถึงแววประชดประชันในน้ำเสียงเรียบเรื่อยนั้น ทว่ามันกลับทำให้เขาพึงพอใจ รู้ดีว่านางผู้นี้หลงใหลในตัวเขามากแค่ไหนจึงได้มีปฏิกิริยาหึงหวง ของสวย ๆ งาม ๆ ใครบ้างไม่อยากมอง เฟร์นานโดตอบพร้อมกับหันไปมองหญิงสาวในชุดราตรีสีหวาน เรียวปากบางกระตุกยิ้มเมื่อเห็นดวงตากลมโตของอีกฝ่ายลุกวาว ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครติดตรึงใจข้าได้มากไปกว่าเจ้าหรอก เซเซีย เจ้าชายหยอดคำหวานเพื่อมิให้เจ้าของนาม เซเซีย ต้องขุ่นเคืองใจมากเกินไปนัก นางยังมีประโยชน์ควรค่าแก่การเอาใจอยู่บ้าง คำหวานเช่นนี้ ท่านคงโปรยให้สตรีไปทั่ว ถึงปากว่าอย่างนั้นแต่เซเซียกลับพึงพอใจอยู่มิใช่น้อย หญิงสาวรู้ดีว่าเจ้าชายผู้หล่อเหลาองค์นี้เป็นที่หมายปองของสตรีทั่วแดน ทั้งยังมีคู่หมั้นหมายเป็นตัวเป็นตน แต่บางสิ่งก็ทำให้นางถือสิทธิ์ในตัวเขา แม้ว่ามันยังเป็นสิ่งที่ต้องซ่อนเร้นต่อผู้คนก็ตาม ทว่าอีกไม่นานนักหรอก... คุยอะไรกันอยู่หรือ ท่าทางน่าสนุก เสียงเอ่ยถามจากเจ้าหญิงสการ์เล็ตทำให้ความสำราญภายในใจของเซเซียมลายหายไปทันที ทว่าด้วยมารยาทแล้วเซเซียจำต้องยิ้มตอบ แม้ว่าใจจริงอยากไล่นางออกไปให้พ้นก็ตาม คุยเรื่องทั่วไปน่ะค่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก สการ์เล็ตได้แต่ยิ้มกับคำตอบอย่างเสียมิได้ของสตรีตรงหน้า ช่างเป็นการยากนักกับการจะหาโอกาสคุยกับน้องสาวต่างมารดาผู้นี้สักครั้ง เจ้าหญิงทอดถอนใจภายในห้วงดำริก่อนหันไปกล่าวกับเฟร์นานโด นี่ก็ดึกมากแล้ว เห็นควรได้เวลากลับเสียที ข้าขอลาเจ้าชายตรงนี้เลยนะคะ จะกลับแล้วหรือ เรายังไม่ได้คุยกันเท่าไหร่เลย เฟร์นานโดถามอย่างนึกเสียดาย ทว่านางจะกลับหรือจะอยู่เขาก็ไม่ได้รู้สึกขัดข้องอะไรนัก เพราะยังมีอีกตัวเลือกสำหรับฆ่าเวลาอยู่ข้าง ๆ ทั้งคน ข้าเป็นห่วงท่านพี่ค่ะ วันนี้อาการของท่านไม่ดีนัก อย่างน้อยก็อยากกลับไปดูแลท่านสักหน่อย ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เจ้าหญิงเห็นควรเถิด ข้าฝากความห่วงใยถึงเจ้าชายอลันด้วยก็แล้วกัน ข้าขอขอบคุณแทนท่านพี่ค่ะ สการ์เล็ตคำนับเจ้าชายคู่หมั้นแล้วหันไปถามเซเซีย แล้วน้องจะกลับหรือยังจ๊ะ เราจะได้กลับพร้อมกัน ข้าคิดว่าจะอยู่ต่ออีกสักพัก ท่านพี่กลับไปก่อนเถอะค่ะ เซเซียกล่าวปฏิเสธ นางจะรีบร้อนกลับไปทำไม ในเมื่อความสำราญที่แท้จริงจะเริ่มต่อไปนับจากนี้ เพราะตัวขวางหูขวางตากำลังจะกลับไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะ ขอให้ท่านพี่เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ เจ้าหญิงองค์รองอวยพรทั้งที่ใจจริงอยากให้มันเป็นในสิ่งตรงกันข้าม หลังจากสการ์เล็ตลับหลังไปแล้ว เจ้าหญิงเจ้าชายทั้งสองต่างสบตากันก่อนจะลอบหลบผู้คนออกไปอยู่เพียงลำพังเพื่อสานสัมพันธ์ที่ยังมิอาจเปิดเผยต่อผู้ใด */*/*/*/* ระหว่างรอรถม้าของตนอยู่ที่บันไดทางเข้าประตูหน้าคฤหาสน์ สการ์เล็ตขยับเสื้อคลุมขนสัตว์ให้กระชับขึ้นเมื่อสายลมเย็นยะเยือกพัดมากระทบผิวกาย นางเงยหน้ามองท้องฟ้าอันมืดสลัวซึ่งมีเมฆหมอกปกคลุมอยู่เพียงเบาบาง เพิ่งผ่านพ้นคืนเดือนเพ็ญไปแค่สองราตรีดวงจันทร์จึงยังส่องแสงสว่างกระจ่างนัก ท่านหญิงสนใจทำนายดวงชะตาบ้างหรือไม่ เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้เจ้าหญิงสการ์เล็ตหันไปมองยังที่มาอย่างแปลกใจ บุคคลในชุดคลุมสีดำปกปิดมิดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มีเพียงแว่นตารูปทรงเรียวรีกรอบหนากับใบหน้าขาวเผือดโผล่พ้นชายผ้าออกมาให้เห็น ความสูงที่มีมากกว่ามาตรฐานทั่วไปของหญิงสาวกับน้ำเสียงทุ้มต่ำทำให้สการ์เล็ตพอจำแนกได้ว่าเขาเป็นบุรุษที่ยังไม่น่าจะสูงวัยนัก เจ้าหญิงยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งพลางมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ข้าไม่สนใจในโชคชะตา ข้าเชื่อว่าอนาคตย่อมเกิดจากผลของการกระทำของตัวเอง สการ์เล็ตปฏิเสธนักทำนายไปอย่างนั้น หากนางต้องการดูดวงจริง มีหรือนักพยากรณ์ประจำราชสำนักจะใช้การไม่ได้ น่าเสียดาย...นึกว่าจะได้ลูกค้าอีกสักคน นักทำนายพ่นลมหายใจพร้อมกับขยับแว่น ไม่อย่างนั้นก็คงได้เงินพอสำหรับค่าที่พักในคืนนี้ ถ้าเรื่องนั้นข้าพอช่วยได้ สการ์เล็ตแย้มยิ้มบางเมื่อได้ยินดังนั้น นางหยิบเหรียญเงินสกุลการ์ตออกมาจำนวนหนึ่งแล้วส่งให้กับนักทำนาย จงรับเอาไว้ หากเจ้าจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ ยังใจดีต่อคนแปลกหน้ามิเคยเปลี่ยน... นักทำนายเอ่ยพึมพำแผ่วเบา เจ้าหญิงจึงมิอาจได้ยินและไม่ทันเห็นรอยยิ้มบางที่ผุดขึ้นบนเรียวปากเพียงวูบหนึ่งของเขา บุรุษในชุดคลุมสีดำยื่นมือออกไปรับเหรียญเงินเอาไว้แล้วค้อมกายลงต่ำ กล่าวถ้อยคำด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความซาบซึ้ง ท่านช่างมีจิตเมตตาต่อข้านัก แต่ข้ามิปรารถนารับสิ่งของจากผู้ใดโดยมิได้ตอบแทน ดังนั้นจึงใคร่ขอทำนายให้ท่านเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเหรียญเงินจำนวนนี้ด้วยเถิด ไม่ต้องหรอก ข้าไม่ได้อยากรู้ สการ์เล็ตมุ่นคิ้วต่อความรั้นของบุรุษตรงหน้า แต่แล้วนางก็ต้องชะงักคำปฏิเสธ เมื่อจู่ ๆ นักทำนายก็เงยหน้าขึ้นมาสบประสานสายตากับนาง ดวงตาสีน้ำเงินทอประกายแสงสีม่วงประหลาดหลังกรอบแว่นหนาที่ลดลงต่ำ ดวงตาสีเดียวกันกับใครบางคนในความทรงจำอันเนิ่นนานซึ่งไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็นจากใครอื่น ดวงตาคู่นั้นมันเบิกกว้างเสียจนสะกดเจ้าหญิงให้ยืนนิ่งอยู่กับที่ ลางร้าย... เอ๊ะ!? เจ้าหญิงอุทานพลางมุ่นคิ้วอย่างประหลาดใจต่อคำทำนายที่มิได้ตั้งใจจะฟัง เป็นเภทภัยที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต... นักทำนายเว้นช่วงคำพูดไปครู่หนึ่งก่อนหลุบตาลงแล้วค่อย ๆ ถอยห่างออกไป จงรักษาสัญญาและอย่าไว้วางใจคนใกล้ตัว แล้วเคราะห์ร้ายของท่านจะบรรเทา หมายความว่าอย่างไร สการ์เล็ตเอ่ยถาม คิ้วโก่งเรียวงามเริ่มจะขมวดเป็นปม ขณะกำลังจะก้าวเท้าตามนักทำนาย รถม้าของนางก็มาถึงเสียก่อน เจ้าหญิงสการ์เล็ต รถม้าพร้อมแล้ว เชิญเสด็จเถิดขอรับ สการ์เล็ตหันไปมองรถม้าก่อนหันไปมองหน้าคนคุมบังเหียนวูบหนึ่งแล้วจึงหันกลับไปยังนักทำนายอีกครั้ง ปรากฏว่าเขาได้หายตัวไปเสียแล้ว เจ้าหญิงมองไปรอบบริเวณแต่ก็ไม่พบวี่แววของใคร แม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่คิดใส่ใจในตัวบุรุษลึกลับผู้นั้นอีก ซึ่งรวมไปถึงคำทำนายที่นางมิเคยใคร่จะรู้นั่นด้วย ถึงอย่างไรหากจะมีอะไรเกิดขึ้นมามันก็ต้องเกิด เมื่อถึงเวลานั้นก็ได้แต่เดินหน้าต่อไปและหาหนทางแก้ไขเอาก็เท่านั้น หากมั่วนึกหวั่นกับแค่คำทำนายคงมิต้องทำอะไรกันพอดี ขณะที่กำลังจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถม้า สการ์เล็ตสังเกตว่าพลขับไม่ใช่พนักงานซึ่งทำหน้าที่ประจำจึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เขามีอาการอาหารเป็นพิษกะทันหันจึงได้ให้ข้าเปลี่ยนมาทำหน้าที่แทนขอรับ แม้จะรู้สึกแคลงใจอยู่บ้างแต่สการ์เล็ตต้องการรีบกลับโดยเร็วจึงไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดต่อ นางพยักหน้าว่าเข้าใจเพียงครั้งเดียวก่อนก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะกำมะหยี่บุนวมนุ่มภายในรถซึ่งตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราด้วยโทนสีทองกับสีแดงเลือดหมู หลังจากรถม้าเคลื่อนตัวออกห่างจากคฤหาสน์เจ้าหญิงก็ปล่อยใจให้เข้าสู่ภวังค์ นึกถึงใบหน้านวลใสของสตรีนางหนึ่งซึ่งเป็นน้องสาวของตน เซเซียเป็นน้องสาวต่างมารดา สการ์เล็ตไม่เคยคิดดูถูกนางที่เกิดจากครรภ์ของนางสนมเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังนึกสงสารที่เด็กสาวต้องสูญเสียผู้เป็นแม่ไปแต่วัยเยาว์ นางเคยใคร่อยากร่วมสนทนาสานสัมพันธ์สร้างความสนิทสนมอยู่หลายครา แต่โอกาสและเวลาก็ไม่เคยเอื้ออำนวย เจ้าหญิงลำดับแรกแห่งเรสทอเรียรู้ดีว่าน้องสาวต่างมารดานั้นหมายปองเจ้าชายแห่งเฮย์เดนซึ่งเป็นคู่หมั้นของตน และรู้ด้วยว่าสายตาของเจ้าชายเฟร์นานโดที่จ้องมองเซเซียก็มีความพึงพอใจอยู่มิใช่น้อย สการ์เล็ตจึงคิดไตร่ตรองถึงการหมั้นหมาย อย่างไรนางก็ไม่ได้นึกใคร่ในตัวเจ้าชายผู้นั้นอยู่แล้ว หากจะต้องมีการแต่งงานก็ให้คนที่เขามีใจได้สมหมายในรักเสียจะดีกว่า และหลังจากปรึกษาพระบิดาผู้เป็นกษัตริย์แล้วก็ได้ความว่าไม่มีเหตุขัดข้องอันใด การหมั้นหมายระหว่างแคว้นในอนาคตจึงอาจมีกำหนดการว่าจะเปลี่ยนแปลง แรงสั่นสะเทือนของรถม้าทำให้สการ์เล็ตต้องออกจากห้วงดำริ นางแง้มบานหน้าต่างเปิดดูถนนภายนอกว่าเหตุใดเส้นทางภายในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งควรจะเรียบสม่ำเสมอจึงทำให้เกิดความสั่นสะเทือนได้ ราวกับว่ารถม้ากำลังวิ่งอยู่บนถนนอันขรุขระทุรกันดาร พลันคิ้วโก่งเรียวงามของเจ้าหญิงแห่งเรสทอเรียก็ต้องขมวดมุ่น เมื่อพบว่าทิวทัศน์ภายนอกมีแต่ป่ามืดทึบไร้ซึ่งวี่แววของที่อยู่อาศัยหรือสิ่งก่อสร้างใดที่จะมีมนุษย์อาศัยอยู่ ครั้นก้มลงมองไปด้านล่างก็พบว่าล้อรถกำลังบดอยู่บนถนนขรุขระซึ่งเต็มไปด้วยกรวดหิน สการ์เล็ตขยับตัวไปเปิดช่องเล็ก ๆ ด้านหลังพลขับแล้วเอ่ยถาม เจ้าพาข้ามาที่ใด นี่ไม่ใช่ทางกลับปราสาท ผู้คุมบังเหียนหันมายิ้มแสยะพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม เดี๋ยวก็รู้เอง ฉับพลันประตูห้องโดยสารก็เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่งซึ่งโหนร่างเข้ามาจากทางด้านหลังรถโดยสาร เขาจ่อคมดาบมาที่เจ้าหญิงจนนางต้องผงะถอยด้วยความตกใจ หากเจ้าหญิงจะกรุณา...โปรดทรงอยู่เฉย ๆ เงียบ ๆ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ข้ายังไม่อยากสร้างบาดแผลบนใบหน้าสวย ๆ ของท่าน สการ์เล็ตจ้องคมดาบตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่นหากยังคงรักษากิริยาเอาไว้ ทั้งสองต่างจ้องมองเชิงกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่รถม้าจะชะลอลงจนกระทั่งจอดสนิท ชายฉกรรจ์ผายมือเชิญให้เจ้าหญิงก้าวออกไปนอกรถแล้วตนจึงค่อยตามออกไป เจ้าหญิงแห่งเรสทอเรียกวาดตามองกลุ่มชายฉกรรจ์ราวห้าคนด้วยความหวาดวิตกพลางคิดหาทางหนีทีไล่ หนึ่งในกลุ่มคนร้ายซึ่งไว้หนวดเคราก้าวออกมาด้านหน้า บุคลิกท่าทางของเขาน่าเกรงขามและเยือกเย็นกว่าผู้ใด บ่งบอกให้รู้ว่านี่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน เจ้าเป็นใคร ต้องการสิ่งใดจากข้า สการ์เล็ตรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว หัวหน้าโจรยิ้มให้ต่อการแสดงความกล้าหาญของหญิงสาวก่อนตอบ นามข้ามิอาจเอื้อมให้เจ้าหญิงรับฟัง หรือถ้าจะให้บอกตามตรง...คนที่กำลังจะตายอย่างท่านไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ธิดาองค์แรกแห่งเรสทอเรียเบิกตากว้างอย่างตระหนกหากยังข่มใจให้รักษากิริยา นางสูดหายใจลึกแล้วเอ่ยถาม เพราะเหตุใด ใครที่ต้องการชีวิตข้า ถ้าไม่รู้ว่าถูกใครปองร้ายก็คงตายตาไม่หลับสินะ โจรร้ายหัวเราะในลำคอแล้วจึงตอบคำถามของเจ้าหญิง ข้าบอกได้เพียงว่าเป็นคนใกล้ตัวที่ท่านคงไม่เคยคาดถึง ส่วนเหตุผล...ท่านลองไปไตร่ตรองเอาในโลกหน้าเสียก็แล้วกัน เพียงสดับคำนั้นสการ์เล็ตก็ถอยกรูดจนหลังติดท้ายรถโดยสาร เจ้าหญิงแห่งเรสทอเรียจ้องมองเหล่าคนร้ายซึ่งแต่ละคนมีอาวุธครบอยู่ในมือกำลังย่างเท้าเข้าใกล้นางด้วยสายตาหวาดระวัง แต่แล้วนางก็รู้สึกถึงสิ่งที่มือแปะป่ายไปสัมผัสเข้าโดยบังเอิญ หญิงสาวรีบคลำมันจนแน่ใจว่าคืออะไร แล้วจึงหยิบแส้ม้าสำรองซึ่งเก็บซ่อนเอาไว้ในกล่องใต้ท้ายรถโดยสารสะบัดฟาดใส่กลุ่มโจรเต็มแรง เหล่าคนชั่วต่างผงะถอยกันไปคนละครึ่งก้าว สการ์เล็ตฉวยโอกาสนั้นวิ่งหลบไปยังอีกฝั่งของรถซึ่งไม่มีใครยืนขวางอยู่ ผู้หญิงคนเดียวในป่ามืดทึบเช่นนี้จะไปได้กี่น้ำ หัวหน้าโจรส่งเสียงหัวเราะลั่นก่อนจะออกคำสั่งกับพลพรรคของตน ตามไป! อย่าให้แม่กระต่ายน้อยนั่นหนีไปได้ รองเท้ายกส้นสูงกับความมืดทำให้สการ์เล็ตวิ่งไปในป่าได้อย่างยากลำบาก นางสะดุดล้มหลายครั้งจนกระทั่งแส้และรองเท้าหลุดหายไปทั้งสองข้างตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ หญิงสาวกัดฟันวิ่งต่อไปอย่างไม่คิดชีวิตแม้จะถูกหนามหินทิ่มตำจนเจ็บระบม ขืนรั้งรอมองบาดแผลคงไม่ใช่แค่รองเท้าที่ต้องเสียไปให้กลุ่มคนร้ายซึ่งกำลังเดินอย่างย่ามใจไล่หลังมา ทว่าราวกลับสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง เจ้าหญิงแห่งเรสทอเรียหวีดร้องอย่างตกใจเมื่อพื้นที่เหยียบย่างทรุดฮวบร่วงลงไปด้านล่าง เพราะความมืดและความรีบร้อนทำให้ไม่ทันสังเกตว่าข้างหน้านั้นเป็นหุบเหว โชคดีนักที่นางรีบคว้าเถาวัลย์เส้นหนาเอาไว้ได้ทัน สการ์เล็ตชำเลืองมองลงไปใต้ฝ่าเท้าซึ่งเป็นก้นเหวมืดทึบลึกสุดหยั่งด้วยความหวาดกลัว นางต้องมาตายอยู่ในที่แบบนี้จริง ๆ หรือนี่...ไม่เอานะ! ว้าว! ดูสิว่าข้าเจออะไร เสียงบุรุษคุ้นหูทำให้สการ์เล็ตรีบเงยหน้าขึ้นมอง นางแทบไม่อยากเชื่อสายตาเมื่อเห็นเงาร่างเจ้าของเสียง เจ้า! นักทำนายเมื่อครู่ อ้อ! ท่านหญิงที่ข้าเพิ่งทำนายชะตาให้สินะ คิ้วเรียวหลังกรอบแว่นหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย แล้วท่านมาทำอะไรอยู่ในที่แบบนี้กันล่ะ ข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถาม เจ้าหญิงตอบเสียงดัง อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ที่ชายหนุ่มข้างบนยังยืนนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เห็นสถานการณ์ตอนนี้หรืออย่างไร รีบช่วยข้าสิ นักทำนายขยับแว่นพลางฉีกยิ้มหวานให้หญิงสาวซึ่งกำลังเกาะเถาวัลย์ห้อยต่องแต่งอยู่เบื้องล่าง ต้องขออภัยท่านหญิง ข้าไม่มีนโยบายในการช่วยเหลือใครโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทน สการ์เล็ตอ้าปากค้าง นึกอยากกระโดดขึ้นไปเองแล้วเข้าไปบีบคอตอบแทนความไร้น้ำใจของฝ่ายตรงข้าม แต่ช่างน่าเสียดายที่นางไม่มีเรี่ยวแรงพอจะทำได้อย่างใจคิด เจ้าคนไร้น้ำใจ! เจ้าหญิงสบถแล้วร้องอย่างตระหนกเมื่อเถาวัลย์ที่เกาะเกี่ยวอยู่กำลังครูดลงเพราะน้ำหนักและการขยับดิ้นรนของนางเอง สการ์เล็ตชำเลืองมองก้นเหวลึกด้านล่างพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจเงยหน้าจ้องสบตากับนักทำนาย ก็ได้ ข้าจะตอบแทนทุกสิ่งที่เจ้าต้องการ หากเจ้ายอมช่วยเหลือข้า ค่อยเป็นข้อเสนอที่น่าสนหน่อยนะ นักทำนายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาทำปากขมุบขมิบพลางโบกมือครั้งหนึ่ง ทันใดนั้นเส้นเถาวัลย์ที่สการ์เล็ตเกาะอยู่ก็ค่อย ๆ ดึงนางขึ้นไปด้านบน นักทำนายรับร่างหญิงสาวจากเถาวัลย์แล้วบรรจงให้เท้านางแตะถึงพื้นอย่างนุ่มนวล ขอบคุณ สการ์เล็ตกล่าวอย่างโล่งใจ ครั้นรู้สึกได้ถึงความมั่นคงของผืนดินที่เหยียบอยู่ นางก็ลืมความโกรธเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น ข้าจะตอบแทนเจ้าตามที่สัญญาไว้อย่างแน่นอน...นักทำนาย แต่คงต้องหลังจากรอดพ้นคนพวกนี้ไปให้ได้ก่อนนะ นักทำนายหันมองตามสายตาที่หญิงสาวจ้องไป กลุ่มชายฉกรรจ์อาวุธครบมือกำลังกระจายตัวตีวงล้อมทั้งคู่เอาไว้ เจ้าหนุ่ม ส่งตัวหญิงสาวผู้นั้นมาแล้วพวกข้าจะปล่อยเจ้าให้รอดชีวิตไป โจรไว้เครากล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ คงทำตามที่ขอไม่ได้ เพราะนางยังมีสัญญาที่ต้องจ่ายให้ข้าอยู่ นักทำนายตอบพลางหันไปประจันหน้ากับกลุ่มคนร้ายอย่างไม่รู้สึกอนาทรร้อนใจ ข้าไม่ชอบทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน งั้นพวกเราจะช่วยส่งเจ้าตามไปรับค่าจ้างจากผู้หญิงคนนั้นในโลกหน้าก็แล้วกัน เหล่าโจรร้ายแสยะยิ้มอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับเงื้อง้างอาวุธขึ้นก่อนจะพากันกรูเข้าหานักทำนายกับเจ้าหญิง ถ้าทำได้ก็ตามสบาย แต่ระวังเถาวัลย์กันหน่อยจะดีกว่านะ นักทำนายขยับยิ้มกว้างพลางขยิบตา ทันใดนั้นเถาวัลย์มากมายจากทุกสารทิศก็ตวัดรัดกายเหล่าโจรชั่ว ดึงรั้งจนร่างของแต่ละคนลอยขึ้นเหนือพื้น นี่แกทำอะไร! แกเป็นใครกันแน่! กลุ่มคนร้ายตวาดถามพร้อมกับพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเถาวัลย์อย่างลนลาน แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร เถาวัลย์ก็ยิ่งม้วนรัดพันตัวแน่นหนาขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก นักทำนายเลิกคิ้วแล้วหันไปทางหญิงสาวด้านหลัง อ้อ! จริงสิ...ข้าไม่ใช่นักทำนายหรอกนะท่านหญิง เขากล่าวแล้วหันกลับไปยังเหล่าโจรร้ายที่ถูกเถาวัลย์พันธนาการอยู่กลางอากาศ แววตาและรอยยิ้มพรายเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอย่างฉับพลัน อาชีพของข้าคือพ่อมดต่างหาก แค่นักทำนายน่ะ...คงทำไม่ได้ขนาดนี้หรอก กล่าวจบโจรร้ายทั้งห้าต่างก็ถูกเถาวัลย์ฉีกกระชากร่างจนขาดออกเป็นชิ้น ไม่ทันแม้จะอ้าปากส่งเสียงร้องใดออกมา หยดเลือดสาดกระเซ็นย้อมต้นไม้และใบหญ้าจนเป็นสีแดงฉานท่ามกลางสายตาเย็นชาของพ่อมด เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่บังเอิญมีโลหิตกระเด็นใส่ ส่วนสการ์เล็ตได้แต่กรีดร้องพร้อมกับยกมือขึ้นปิดหน้าให้พ้นจากภาพอันน่าสยดสยอง นางตระหนกตกใจกลัวจนเข่าอ่อนทรุดนั่งลงกับพื้น ให้ท่านหญิงเห็นภาพไม่น่ามองเสียแล้วสิ พ่อมดเอ่ยแล้วช้อนร่างเจ้าหญิงอุ้มเดินฝ่าเข้าไปในความมืดแห่งพงไพร ทิ้งซากศพเกลื่อนกระจายอย่างน่าสยดสยองเอาไว้เพียงเบื้องหลัง หากเขายังอยู่รั้งรอสักนิดคงได้เห็นว่ามีใครบางคนโผล่ร่างออกมาจากมวลอากาศที่บิดเกลียวม้วนตัวราวกับน้ำวน รองเท้าหนาหนักเหยียบย่ำลงบนพื้นดินที่เจิ่งนองไปด้วยหยาดโลหิตอย่างเฉยชาราวกับมันเป็นเพียงแอ่งน้ำธรรมดา กลิ่นของเป้าหมาย...เพิ่งไปจากที่นี่ สายตาเย็นเยียบกวาดมองเศษเนื้อซึ่งกระจายเกลื่อนอยู่ตามพื้นก่อนจะสะบัดมือเรียกสายลมให้พัดมาวูบหนึ่ง พลันเศษเนื้อและกองเลือดก็มลายหายไปเหลือเพียงตุ๊กตากระดาษขาดวิ่นกระจายเกลื่อนกลาด เขาเก็บเศษกระดาษซึ่งยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดขึ้นมา พิจารณาวงเวทและลายมือเจ้าของอาคมพลางแค่นหัวเราะในลำคอก่อนจะเก็บมันไว้ในอกเสื้อ ร่างนั้นกวาดมองรอบบริเวณอีกครู่หนึ่งแล้วจึงเดินกลับเข้าไปในมวลอากาศอันบิดเบี้ยวนั้นก่อนที่มันจะสลายหายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่ทราบได้ที่สการ์เล็ตปิดหน้าอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพ่อมดบอกให้ลืมตา ถึงรถม้าของท่านแล้ว เดินไหวหรือเปล่า หญิงสาวอยากจะตอบว่าไหว แต่ร่างกายยังสั่นเทาไม่หาย แม้แต่เสียงก็ไม่มีจะเปล่งออกมา พ่อมดจึงอุ้มนางเข้าไปวางบริเวณโค่นต้นไม้โล่งเพื่อให้รับลมเย็น เขานั่งรอจนใบหน้าที่ซีดเผือดของเจ้าหญิงมีสีเลือดขึ้นมาอีกครั้ง ท่านคงไม่มีพลขับ ข้าจะพากลับปราสาทให้เอง สการ์เล็ตจ้องตาพ่อมดหนุ่มทันใด เขารู้ได้อย่างไรว่าต้องพานางกลับไปส่งที่ไหน และทั้งที่ก่อนออกเดินทางนางยังพบเขาอยู่ในเมืองแล้วทำไมคนผู้นี้จึงมาอยู่กับนางที่นี่ได้ คิดอย่างไรก็ไม่น่าไว้ใจสักนิด แต่ก่อนที่จะไปส่งท่าน ข้าอยากให้เราตกลงกันเรื่องค่าตอบแทนเสียก่อน เจ้าหญิงแห่งเรสทอเรียมองตาพ่อมดซึ่งถูกกระจกแว่นบดบังเอาไว้อย่างแน่วนิ่งก่อนจะพยักหน้า ได้สิ ข้าเอ่ยวาจาแล้ว เจ้าต้องการสิ่งใดก็ว่ามา ข้าช่วยชีวิตท่านให้รอดพ้นจากความตาย ค่าตอบแทนของชีวิตก็คือชีวิตเช่นกัน พ่อมดกล่าวช้าชัด คิ้วเรียวงามขมวดมุ่นขณะฟังความต้องการของฝ่ายตรงข้าม สการ์เล็ตยังไม่อาจเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร ทันใดนางก็ต้องกรีดร้องอย่างตระหนก เมื่อจู่ ๆ พ่อมดหนุ่มก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วดึงคอเสื้อลูกไม้ผืนบางของนางลงจนเผยให้เห็นเนินอกเนียนขาว เจ้าจะทำอะไร! เจ้าหญิงตวาดเสียงดังพร้อมกับเงื้อฝ่ามือขึ้นแล้วตบออกไปตามสัญชาติญาณ ทว่าอีกฝ่ายกลับรับฝ่ามือนั้นเอาไว้ได้ เขายึดข้อมือนางอย่างแน่นหนาราวกับคีมเหล็ก ประทับตราสัญญา พ่อมดตอบเสียงพร่าระหว่างยื้อยุดฉุดข้อมือกับหญิงสาว เจ้าหญิงพยามยามผลักไสเขาให้ถอยห่างอย่างสุดกำลัง ทว่าราวกับนางกำลังผลักหินผา กายกำยำหนาของบุรุษหนุ่มจึงไม่รู้สึกสะเทือน ช่วยอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หน่อยได้ไหม จอมเวทหนุ่มขมวดคิ้ว เขารวบข้อมือที่กำลังทุบตีตนเองแล้วบังคับให้สการ์เล็ตนอนราบลงบนพื้นหญ้า นัยน์เนตรสีน้ำเงินซึ่งมีริ้วรอบขอบม่านตาเป็นสีม่วงอย่างประหลาดโผล่พ้นกรอบแว่นออกมาจ้องมองหญิงสาวด้วยประกายวาววับจนนางถึงกับชะงักงัน จากนั้นเขาก็มอบจุมพิตอันหนักหน่วงกดดันกระทั่งนางไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรง ในสมองของหญิงสาวขาวโพลนว่างเปล่า ราวกับถูกปลายชิวหาอุ่นร้อนที่แทรกซึมเข้ามากระชากวิญญาณไป เมื่อบุรุษหนุ่มเห็นอีกฝ่ายสิ้นฤทธิ์แล้วจึงยอมถอนริมฝีปากออกมา อยู่นิ่ง ๆ แต่แรกก็สิ้นเรื่อง น้ำใส ๆ ร่วงรินจากดวงตาสีทับทิมคู่งาม ร่างนางสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้ นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ถูกหมิ่นเกียรติถึงเพียงนี้ เรียวปากสีกุหลาบเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรงขณะที่พ่อมดเลื่อนใบหน้าลงไปยังทรวงอก เขาประทับริมฝีปากลงไปบนเนินเนื้อเนียนขาวตำแหน่งเดียวกับหัวใจ พลันสการ์เล็ตก็รู้สึกร้อนราวถูกหินไฟนาบผิวหนังจนสะท้านเฮือก ตรงบริเวณที่ถูกพ่อมดประทับรอยมีลำแสงสีแดงเรื่อเรืองออกมา มันส่องประกายเพียงชั่วครู่ก็หายไปเหลือเพียงรอยปานรูปดาวหกแฉกซ้อนวงเวทสีแดงเข้มราวกับรอยเลือดเอาไว้บนเนินอก พ่อมดหนุ่มมองสัญลักษณ์ขนาดเท่าเหรียญเงินที่ตัวเองสร้างบนผิวขาวนวลอย่างพอใจแล้วจึงปล่อยสการ์เล็ตให้เป็นอิสระ เขาถอยออกไปยืนกอดอกมองหญิงสาวยันตัวลุกขึ้นแล้วดึงคอเสื้อกลับที่เดิมอย่างรวดเร็ว เจ้าทำอะไรกับข้า! เจ้าหญิงถามเสียงสั่น ร่างกายสะท้านไหวด้วยความโกรธจนควบคุมไม่ได้ ประทับตราสัญญา
ว่าท่านได้กลายเป็นของของข้าแล้วทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างไรล่ะ เจ้าหญิงแห่งเรสทอเรีย สการ์เล็ตเบิกตาโพลงพลางเค้นเสียงถามอย่างเจ็บใจ เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม พ่อมดหาได้คิดตอบคำใด เขายิ้มอย่างผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า นัยน์ตาสีประหลาดทอประกายกร้าวขณะจ้องมองหญิงสาวผู้หลวมตัวมาอยู่ในกำมือผ่านกระจกแว่น อย่าได้คิดผิดสัญญา เพราะท่านลั่นวาจาเองว่าจะตอบแทนทุกสิ่งที่ข้าต้องการ และอย่าได้คิดหลีกหนีไปจากข้าไม่ว่าทางเป็นหรือทางตาย ไม่อย่างนั้นท่านจะได้รู้ว่าข้า...คาอิล มิลตัน ร้ายกาจได้มากกว่าที่ท่านเห็นเพียงใด ประทับตราสัญญาแบบนั้น ...ต้องการอะไรกันแน่ คามิล
โดย: spring IP: 210.48.222.13 วันที่: 6 พฤษภาคม 2555 เวลา:12:46:37 น.
|
พิณนภา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog
Link |