Update! • Kenny Keng Web• Activity • Article • Imagine • My ARTWORK • BackPack/Journey • Sketch • All Art • alphafo

alphafoBasic Sketch • • 333 STUDIO KENNY KENG Blog


ALPHA FO
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]








**อันนี้ก็สำคัญครับ กับเรื่องของสิทธิ
คือว่าถ้าหากเพื่อนๆท่านใด
ต้องการนำภาพหรือบทความไปเผยแพร่
กรุณาแจ้งผมด้วยนะครับ

**ขอบคุณครับ**

alphafo

New Article : JAN 2015

Art trip : My Journey
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม"ฮานอย1 เวียดนาม:13/02/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา3 เวียดนาม:31/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา2 เวียดนาม:16/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ซาปา1 เวียดนาม:14/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" เดียนเบียนฟู เวียดนาม:09/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" หลวงพระบาง ลาว:07/01/15
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ไชยบุรี2 ลาว:26/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียนาม" ไชยบุรี1 ลาว:25/12/14
• "แบ่งเขต ไม่แบ่งใจ ; ไทย ลาว เวียดนาม" ปาด แปด 8:23/12/14
• "เริ่มใหม่...ได้ทุกเมื่อ":25/02/14
• "ปั่นคิดที่กองโค":19/12/12
• "12 12 12":12/12/12

• "ลับแล ซะที" :06/08/12

• BEST OF THE BEST:05/03/12

alphafo

• กาแฟสดบ้านหมึกจีน coffee and china's art gallery:16/02/12

Update! • อุปกรณ์การวาด carbon powder
•เทคนิคการทำเฟรมเขียนสีน้ำมัน
•เทคนิคการทำเฟรมสีน้ำมัน
•ปลอกต่อดินสอ EE กรณีดินสอของท่านหดสั้นจุ๊ดจู๋
•การทำสมุดเสก็ตซ์อย่างง่ายและประหยัด
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 1
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 2
•ภาพตัวอย่างสีชอล์ก 3



Update!เทคนิค ขั้นตอน การวาดภาพการ์ตูน
• : เทคนิคการวาดภาพผงคาร์บอนพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก
• การวาดการ์ตูนล้อเลียน
• พื้นฐานการวาดการ์ตูน
•เทคนิคการวาดภาพคนสีชอล์ก(หลวงปู่แดง)
•เทคนิคการวาดภาพคนเหมือนเต็มตัวสีน้ำมัน
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบหญิง
•การวาดเส้นสีคนเหมือน แบบชาย
•เทคนิคการวาด carbon powder
•การวาดสีชอล์กแท่ง พระยาพิชัยดาบหัก
•การแก้ไขภาพสีน้ำมัน landscape
•เทคนิควาดภาพสีน้ำมัน Landscape
•พื้นฐานการวาดภาพสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่(Basic)
•เทคนิคการวาดเส้นหุ่นนิ่ง(Drawing)
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ตา"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "จมูก"
•เทคนิคการวาดเส้นภาพเหมือน(portrait) "ปาก"
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนด้วยดินสอ EE(drawing portrait-woman)
•เทคนิคการวาดเส้นคนเหมือน (Drawing sketch)
•เทคนิคการวาดเส้นรูปคนเหมือนภาพสีด้วยสีชอล์กแท่ง(pastel portrait)
•เทคนิคการใช้สีชล์อกแบบ drawing
•เทคนิคการแกะสติ๊กเกอร์แบบปลอกล้วย(จริงๆ)

alphafo ART ARTICLE :
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 6(สุดท้าย): โบนัสพิเศษกับงานศิลปะ
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 5 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 2)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 4 : วิธีการวาดภาพให้ได้ (เอาจริงซะที 1)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 3 : ตามหามุมบันทึก(วาดเส้น)
• "เที่ยวไปกับถ่าน"ตอนที่ 2 : ทำไมต้องเป็นถ่าน?
• "เที่ยวไปกับถ่าน" ตอนที่ 1: เด็กน้อยกับฝาบ้าน
**ภาพสเก็ตซ์สีชอล์กน้ำมัน
**เทคนิคประสม...ใคร ??
ศิลป์(ป่ะ) “ต้องเป็นตัวของตัวเองดิ๊” ...

ภาพวาดที่ฉีก: ผมยืนมองภาพพร้อมกับฟังเสียงหล่น..
ANATTA: วันที่ความหดหู่ หดเหี่ยว หรือเหี่ยวจนหด...
alphafo
alphafo

alphafo
alphafo


Sketch crawl ร่วม Sketch กับเพื่อนๆทั่วโลก

alphafo ALPHA FOCUS หนังสือพิชัย เมืองเล็กฯ เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหน้าด่านของสยามประเทศในอดีต.....
alphafo
โอกาสที่ท่านมุ้ยมอบให้ สิ่งที่ผมเฝ้าศึกษาและสังเกตุ จะมีเรื่องราวและข้อมูลไปพ้องกับใครบางท่านเข้าอย่างจัง...

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ALPHA FO's blog to your web]
Links
 

 

ขอมอบรางวัลที่ทุกท่านสนับสนุนมาครับ Thailand blog Awards 2010



        และแล้ว (อีกแล้ว ) คนสุดท้ายที่อัพงานประกาศบล๊อกอะวอร์ด ไทยแลนด์(สู้ๆ) สองพันสิบ ก็คงต้องตกเป็นของผม
        
        หลังจากที่พี่ๆชาวบล๊อกแกงค์คงลงไปเรียบร้อยโรงเรียนพันติ๊บกันหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะผมคงไม่ได้พูดเกี่ยวกับงาน
        แต่คงมาพูดถึงบรรยากาศของตัวผมเองและพี่ๆเพื่อนๆที่ให้กำลังใจกันมาจนถึงวันนั้น วันนี้ จนถึงวันนู้น

        ผมเป็นคนเกิดวันพฤหัสครับ ตามตำราเขาบอกว่าเป็นวันครู ผมเลยเข้าใจไปว่าเป็นวันดีของผมในทุกสัปดาห์
        วันจันทร์ก็รู้สึกว่าปลอดโปร่ง เป็นวันที่เริ่มต้นของสัปดาห์ ผมก็ว่าเป็นวันดีเป็นถ้าเราเริ่มต้นดีก็ไปด้วยดีทั้งอาทิตย์
        แต่ถ้าไม่ดีก็มีโอกาสในการแก้ไข มองหาสิ่งดีในทุกสถานการณ์
        วันอังคารผมก็ว่าดีเพราะเป็นวันที่ค่อนข้างลงตัวกับแผนงานประจำสัปดาห์
        วันพุธก็ดีเพราะเริ่มเข้ากลางสัปดาห์เหมือนกับการตรวจเช็คงานว่าขาดอะไรไปบ้างจะได้ทำให้หมดภายในสัปดาห์เผื่อมีอะไรตกหล่น
        วันพฤหัสบดี ก็บอกไปแล้ว(นับขึ้นไปบรรทัดที่ห้าด้านบน)
        วันศุกร์หลายๆท่านเริ่มมีแรงเพื่อที่เตรียมจะทำหลายๆอย่างที่ในชีวิตอยากทำในวันหยุด

        สำหรับผมต้องเตรียมทำสิ่งมันส์ๆ ที่สร้างทักษะบางอย่างให้กับตัวเองและผู้ที่ต้องการในวันเสาร์ อาทิตย์
        วันเสาร์เหมือนได้เปลี่ยนบรรยากาศการเล่นสนุกในหลายวันที่ผ่านมา
        วันอาทิตย์เหมือนกับการได้เล่นสนุกๆพักผ่อนเบาๆ ด้วยสิ่งที่พัดผ่านในชีวิตที่เปรียบเสมือนสายลมและตื่นเต้นอีกครั้งที่จะพบกับวันจันทร์

        วันพุธที่ 25 ส.ค. 2553 ก็เป็นอีกวันที่ผมตื่นเต้น เพราะนอกจากมีนัดสำคัญที่ตะมีมาถึงวันพรุ่งนี้กับพี่ๆ For writer แล้ว
        ในตอนเช้าอันเป็นปกติในรอบปีที่ผมต้องเช็คอีเมล์ เฟสบุ๊ค ไปจนถึงบล๊อก หรือทุกที่อยู่ที่ผมมีอยู่ในโลกไซเบอร์เพื่อพูดคุยกับเพื่อนๆในนั้น
      
         ทันทีที่ได้เช็คก็ปรากฎว่า ผมได้รับรางวัลจากการประกวดไทยแลนด์ บล๊อกอะวอร์ด สองพันสิบ แจ้งมาหลายต่อหลายแห่ง ทั้งจากทีมจัดงานและเพื่อนๆที่ตามอยู่
        ซึ่งผมเองก็ตอบกลับไปทุกแหล่งที่ส่งข้อมูลมาเหมือนกัน ว่าพร้อมที่จะไปร่วมงานประกาศในครั้งนี้ (เกือบนั่งเครื่องมาแล้ว)
        เพราะนี่มันงานระดับประเทศประมาณโทรทัศน์ทองคำเลยนะเนี่ยะ นี่มันบล๊อกเกอร์เชียวนะ ไม่ใช่เล่นๆ(ผมคิดกับเพื่อนๆ)
        
        ตอบกลับอย่างงงๆ และไม่คาดคิดว่าจะได้ เพราะมีบล๊อกที่เก่งๆ ดีๆมากมายกว่าหมื่น แสนบล๊อก(เขาว่างั้น)ในโลกไซเบอร์แห่งนี้



(บรรยากาศภายในงาน ซึ่งมีโออิชิและขนมแจกเพียบ แต่ไม่ค่อยมีคนกิน)


                
ก่อนผมทำบล๊อกผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับว่าจะได้รับเกียรติที่มากมายขนาดนี้
คิดแต่เพียงว่าอยากถ่ายทอดผลงาน หรือสิ่งที่ผมมีอยู่ให้กับผู้ที่ต้องการ
        และก็ได้ทำมาโดยตลอด ช้าบ้าง หรือบางทีสัปดาห์หนึ่งก็หลายครั้ง ตามแต่จะเขย่าเวลาช่วงไหนได้ลงตัว
        ที่มีทั้งเทคนิคการวาดภาพต่างๆตั้งแต่เริ่มต้นขั้นพื้นฐานเรื่อยมาจนถึงการวาดภาพเหมือนจริง ซึ่งก็มีหลากหลายเทคนิค
        ทั้งเทคนิคการเสก๊ตซ์ภาพ สีชอล์ก ดินสอEE ภาพจีน ภาพผงคาร์บอน โดยจะเพิ่ม สีน้ำ และสีน้ำมัน เพิ่มเติมเรื่อยๆ

        ยังได้ติดต่อลิงค์ต่างๆในเรื่องเรียนรู้การเขียน การอ่าน การจัดรายการเพลงที่อิงงานศิลปะและงานเขียน
        มีคอลัมน์ต่างๆ ทั้งจินตนากร เรื่องสั้นขนาดยาว แสงตะเกียงไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เที่ยวไปวาดไป
        มีหน้าประวัติศาสตร์บ้าง และในอนาคตผมอยากแนะนำผลงานของอาจารย์และเพื่อนๆของผมครับ
        เพื่อเติมไฟและประสบการณ์การสร้างผลงานให้กันและกันแบบไม่ต้องไปตามหากันที่ไหน



(กำลังลงทะเบียนครับ พร้อมกับหาทางเอาขนมมาแจกพี่ๆที่มาให้กำลังใจ)


        
ทำให้ผมมีโอกาสรู้จักกับพี่ๆเพื่อนๆมากมายผ่านตัวอักษรที่ออกมาจากใจทั้งสิ้น
        คุยกันสนุกๆ มีเล่นกันบ้าง กวนๆบ้าง จริงๆจังๆบ้าง ผ่านงานเขียน ผ่านคำถาม คำตอบ( แต่รู้สึกว่าแบบแรกกับสองจะเยอะหน่อย แหะๆ)
        กระทั่งผมได้มีโอกาสนัดคุยเรื่องงานเขียนชุดใหม่ของผมกับ พี่อ้อ พรายทราย ในเย็นวันที่ 26 ส.ค. 53 ซึ่งก็ตรงกับวันพฤหัสพอดี

        วันพฤหัสบดี ที่ตรงกับนัดเดิมของผมและในขณะเดียวกันผมก็ต้องมีนัดใหม่ซ้อนอีกชั้น
และแล้วทุกอย่างก็ลงตัวเมื่อบรรดาพี่ๆทีติดตามผลงานผมอยู่พากันมาให้กำลังใจผมในงาน
        ทั้งงานส่วนตัวและการรับรางวัลจึงเป็นไปด้วยกันอย่างลงทั้งหัว ตัว และใจ



(ทุกอย่างเรียบร้อย เริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกรอบ ...แต่ยังไม่กล้าเข้าไปหยิบชาเขียวกับขนม ดูท่าทางกำลังเกี่ยงกันอยู่)


        
เสียดายครับที่เพื่อนๆหลายคนตามไปให้กำลังใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน
        มีทั้งมองอยู่ห่างๆ เข้ามารวมกันเป็นกลุ่ม จนถึงการสะกดรอยตาม อิอิอิ(ใครเอ่ย..)
        คงเป็นเพราะตัวจริงผมดูน่ากลัวเกินไป ฮ่าๆๆๆ
        มีพี่คนหนึ่งบอกว่า"ถ้าไม่เคยคุยด้วยถ้ามีลูกสาวจะไม่ให้เข้าใกล้ พอคุยด้วยแล้วภาพดุๆหาย กลายเป็นต๊องไปเลย" ...ง่ะ..- -"
        คราวหน้าหากพบเจอกันทักทายกันได้เลยนะครับ หาอะไรเขี่ยะๆ หรือจะหาอะไรขว้างก็ได้ครับ (ง่ะ)
        แต่ยังไม่ต้องเดินมาตบกะโหลกทักแบบเพื่อนสมัยเรียนนะครับ แหะๆ เอาไว้ให้รู้จักหน้าตากันก่อนดีกว่า อิอิ




(บรรยากาศแสนจะอบอุ่นสดชื่นครับ ^^)



        
บรรยากาศวันนั้นสนุกและอบอุ่นมากๆ จนลืมรางวัล (ต้องเดินกลับมาเอาใบประกาศอีกรอบ สังเกตุเห็น เอ๊ะ!..เขาถือใบอะไรกันวุ้ย?)
        ซึ่งปกติผมก็มึนอยู่แล้ว มางานนี้ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ เจอมนุษย์หุ่นยนต์ตอนเปิดงานเข้าให้ ตื่นเต้นๆ
        มีพี่ๆชาวบล๊อกแกงค์มาทักทายถ่ายภาพด้วยกันอีกมีคุณอุ้มสี คุณย่าดา คุณอาคุงกล่อง เจ๊หลี และชาวบล๊อกอีกหลายท่านครับ
         ทั้งมิตรภาพใหม่เก่า ผลิบานหอมหวลไปทั่วบริเวณงาน กลิ่นงี้..หืออออ สดชื่นนนน










        
รางวัลจากทางทั้งสามโฮสผู้ใจดี ทั้ง บล๊อกแกงค์ที่เราอาศัยอยู่, เอ๊กซ์ทีนบล๊อก,โอเค เนชั่นบล๊อก เหมือนกับปุ๋ยชั้นดีของเรา
        อีกทั้งสปอนเซอร์อันโด่งดังมากมายหลากหลาย จนจำกันไม่หวาดไหวที่แสนใจดี ให้โอกาสสนับสนุนกิจกรรมนี้
ได้เกิดขึ้นจนทำให้มิตรภาพของเราได้เบ่งบานสวยงามมากขึ้นขนาดนี้
        ต้องขอขอบคุณมากๆครับที่ให้เกียรติกับคนตัวเล็กๆอย่างผมและชาวบล๊อกเกอร์ประเทศไทย
        โดยรางวัลที่ผมได้รับครั้งนี้เป็นประเภทการศึกษาครับ ได้รับอันดับรองชนะเลิศอันดับสองซึ่งเกินกว่าที่ผมจะคิดว่าผมจะได้รับ(ตอนแรกผมเข้าใจผิดคิดว่าได้ที่สาม)
        เพราะแค่คะแนนที่ทุกท่านโหวตให้ ก็ดีใจจนน้ำในตาเอ่อๆแล้วล่ะครับ




        
ได้ทั้งใบประกาศที่ผ่านทาง รมต.ว่าการกระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศ(มึนเองจนเกือบไม่ได้เข้าไปเอา เห็นเขารุมรับของกันอยู่ คิดว่าแจกไอติม)
        เสื้อยืดที่ถึงแม้จะผิดไซด์ไปบ้าง มาสองตัว แต่ก็คงเอาไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย!ที่ระลึก บันทึกเก็บเป็นความทรงจำดีๆไว้
        มีปากกาสุดยอดแสงเลเชอร์ที่มีไฟฉายในตัวด้วย (ตอนแรกคิดว่าเป็นดาบเจไดได้)...ล้อเล่นนะครับ แหะๆ(จะฮามั้ยเนี่ยะ)
        ซีดีเพลงเพราะๆ1แผ่นอันนี้ให้พี่อ้อ พรายทรายไปฟัง และขนมปังที่ผมจิ๊กใส่กระเป๋ามาอีกหนึ่งอัน อันนี้เอาให้พี่รุจแห่งการบินไทยไปละ


ที่สำคัญมันไม่ใช่แค่ของรางวัลตรงนี้หรอกครับ
สำคัญที่ว่า ท่านผู้จัดงานได้เปิดโอกาสให้พวกเราไ้ด้พบปะกันซะที
หลังจากที่รู้จักกันผ่านตัวอักษรมานานนม
ต้องขอกล่าวขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ








        
และผมยังได้ของที่ระลึกจากพี่ๆในบล๊อกลายปากกา , for writer และ hi5 อีกครับ
        ทั้งไวน์อย่างดี กับหนังสือจากพี่ปูนักเขียนและตัวแทน สนพ.เมอร์คิวรี่ น้ำดอกอัญชันของการบินไทยจากพี่รุจแสนใจดีหิ้วมาให้ (ทดลองกิน แต่ผมเอามาสระผมซะงั้น)
        หนังสือดีๆหลายหมวดหลายเล่ม วีซีดีภาพยนต์ออสการ์อีกหลายเรื่อง หลายอย่างจากพี่ตู่ (อันนี้ค่อยๆทะยอยให้สะสมมาเรื่อยๆ )
        ข้อความและเสียงที่ส่งมาให้กำลังใจทั้งในโทรศัพท์จากป้ากุ๊กไก่ บล๊อกร่มไม้เย็น แห่งบล๊อกแกงค์
        และ คุณสิงห์ for writerหรือสิงห์อมบ๊วยในบล๊อกแกงค์(คุณสิงห์โทษทีที่ตอบกลับช้า พิมพ์โทรสับไม่เป็นอ่ะ อิอิ)




        
เสียงฝากบ่นน้อยใจพร้อมอาฆาตที่ไม่บอกให้รู้ว่ามากันก็มีครับ บอกจะทำโทษด้วยการไม่ตามงานหนึ่งเดือน อย่างอนผมนะครับ แหะๆๆ
        เพื่อนๆในเครือข่าย hi5, facebook , ALPHA FO blog , Bloggang,
        ห้องศิลปะแห่ง ห้องเฉลิมกรุง ณ พันทิพ ,พี่ฟีลิปดาและชาวfor writer นางฟ้าผู้แสนใจดี
        อีกทั้ง พี่ๆเพื่อนๆฝากบอกต่อกันมา จนถึงส่งมาทางกระแสจิต อันทรงพลัง
         และ พี่อ้อ พรายทราย ผู้แสนใจดีก็ได้ให้โอกาสดีๆในการจัดทำหนังสือชุดใหม่ทั้งภาพประกอบและงานเขียน



(หนังสือของพี่ปูกับของผมครับ งานแนวท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ กับ อีกเล่มแนวอิโรติก อ่านสนุกดีทีเดียวครับ )
(ในงานพี่ปูก็จองตัวโปรโมทงานหนังสือแนวอีโรติกทันที ...แต่ผมว่าผม มาแนวฆาตกรโรคจิตน่าจะเหมาะกว่า อิอิ)

        
ทั้งการแบ่งปันประสบการณ์ด้านการเขียนและการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน อบอุ่นมากๆครับ
        เสียดายที่คุณพีทคุงบินมาจากบ้านนอกที่ออสเตรียไม่ทัน อิอิ แต่ก็ฝากและวางแผนผ่านมาทางพี่ๆที่มาให้กำลังใจอย่างไม่มีพลาด
        เดี๋ยวเดือนหน้า(ต.ค.)จะลงเทคนิคการเขียนPortrait สีน้ำมันให้ตามที่รับปากให้นะครับคุณพีท หาตังค์ซื้อสีก่อนนะ แหะๆๆ
        มีการถ่ายภาพเพื่อส่งไปแบ่งเพื่อนๆที่อยู่ต่างถิ่น ทั้งถิ่นไทย เทศ และที่สำคัญมิตรภาพที่เติบโตงดงามยิ่งกว่าเดิม




        
พอรับรางวัลเสร็จก็ต้องขออนุญาติเจ้าภาพเลือดใหม่แห่งพันทิพกลับก่อนเพราะบรรดาพี่ๆหิวกันแล้ว(ของฟรีก็กินกันน้อยจัง อ่ะ)
        ก่อนกลับก็ขอถ่ายภาพกับคุณรัตนะผู้น่ารักสดใสแต่แอบบอกว่าอย่าเอารูปลงนะซึ่งผมก็รับปากไม่เอาลงนะครับ
        แต่ก็ขอขอบคุณอย่างมากกับการจัดโครงการดีๆแบบนี้ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
        อาจมีปัญหาบ้างครับ แต่ยังไงการเริ่มต้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีเสมออยู่แล้ว การตัดสินใจเริ่มต้นก่อให้เกิดการพัฒนาครับ
         ขอเป็นกำลังใจให้และยินดีสับสนุนกับกิจกรรมดีๆแบบนี้นะครับ


        เล่ามาถึงตอนกินข้าว คล้ายๆกับแบตในร่างกายผมเหมือนจะหมดซะให้ได้เลยครับ
        (เห็นแบตในกล่องปากกาเจได แล้วอยากเปลี่ยนแบตในตัวเลยครับ มีตั้งสี่ก้อนแน่ะ)
        คงเป็นเพราะเหนื่อยและง่วงมากๆน่ะครับ อาการเริ่มงอแงเหมือนเด็กน้อยหิวหนม ข้อมูลตีกันมึนๆ งงๆ จนอาหารเกือบหมด(แสดงว่าไม่หมด)
        สารภาพครับว่าไม่หิวอะไรเลย กินอะไรก็ไม่ค่อยจะลงครับ มันอิ่มน่ะครับ ทั้งอิ่มทั้งจุก(หัวเราะกันทั้งวัน)
        แค่พี่ๆที่เจอกันผ่านตัวอักษรมานานมาพบปะให้กำลังใจ พูดคุยเหมือนกับสนิทสนมกันมานานหลายปีจนรู้ใจ
ผมก็อิ่มทิพย์แล้วล่ะครับ
(รวมถึงโออิชิกับข้าวห่อสาหร่ายในงานด้วย เสียดายๆ เหลือเพียบเลย)
        เสร็จแล้วเช็ดบิลเราก็หารกันจ่ายอย่างลงตัว โดยมีนักบัญชีที่แม่นๆมาด้วย ฮ่าๆๆๆ (พี่รุจกับพี่ปูนั่งนับนิ้วกันใหญ่เลย)




        
ผมกลับที่พักอย่างอิ่มเอมทั้งกายและใจ คืนนั้นหลับไหลจนเกือบไม่อาบน้ำ (ทำเนียน)อิอิอิ
ขอขอบคุณทุกท่านเลยครับ ทุกท่านที่จัดงานนี้จนสำเร็จลุล่วง ไปด้วยดี
        ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆที่มาให้กำลังใจ ทั้งถึงที่ เกือบถึงที่ (อีกนิดเดียวก็ไม่เข้ามา) ข้างๆที่ หรือให้กำลังใจอยู่จังหวัดของตัวเอง
        ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ภาคละคนก็ยังดี แหะๆ) ตั้งแต่เชียงรายถึงหาดใหญ่เลยครับ
        ยังมีตัวแทนจากประเทศออสเตรีย อังกฤษ ญี่ปุ่น(โดเรม่อน)มาให้กำลังใจด้วยขอบคุณที่ให้โอกาสและมอบมิตรภาพที่ดีมาให้เสมอครับ

        แน่นอนครับว่าของที่ดีมีค่าแห่งหนึ่ง อาจไร้ค่าอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งบางคนอาจดูเป็นสิ่งเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่
        แต่ สำหรับคนตัวเล็กๆ บล๊อกเล็กๆอย่าง ALPHA FO มันยิ่งใหญ่มากๆเลยครับ กับสิ่งที่ได้รับจากทุกท่านอย่างไม่คาดคิดมาก่อน

        
ความมั่นใจที่แข็งกระด้าง เกิดขึ้นกับสังคมที่ไม่ชัดเจน
อีกทั้งสังคมที่พร่ามัว ทำให้เกิดการไม่วางใจ ไม่ไว้ใจกันอย่างไม่จบสิ้น
ความชัดเจน ซื่อตรง กลับก่อให้เกิดความสงสัยเคลือบแคลงในสิ่งที่ได้มาอย่างง่ายดาย
ในขณะเดียวกันก็ถูกฉกฉวยประโยชน์อย่างเอารัดเอาเปรียบ โดยอาศัยความจริงใจอันนั้น

        ผมไม่อยากให้สังคมส่วนใหญ่ต้องกลายเป็นแบบนั้น
        จึงเป็นที่มาของการเขียนบล๊อก เพื่อกระจายและส่งต่อทักษะความรู้แบบไม่คิดจะหวงแหนไว้กับตัว


        และเพียงสิ่งเล็กๆที่ผมได้ทำอยู่นี้ หากมีประโยชน์กับท่านก็ช่วยส่งความรู้ที่ท่านมีให้ต่อกันไปเรื่อยๆ
        ใครรู้เรื่องเชี่ยวชาญเรื่องอะไร ก็อันนั้นแหละครับ ส่งต่อไปให้กับผู้ที่ต้องการ ส่งต่อๆกันไป (ส่งต่อนะครับไม่ใช่ล้วง ฮูววว์)
        เพื่อให้สังคมของเราเป็นสังคมแห่งการให้และการแบ่งปันความรู้ อย่างไม่สิ้นสุดเพื่อการพัฒนาต่อยอดสืบต่อไป
ผมเองก็ได้เรียนรู้ว่า "ความรู้หรือทักษะยิ่งเราให้ไปมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" จริงๆครับ(ไม่รู้จะฟันธงหรือคอนเฟริ์มดี)
        และสำหรับผมจะพยายามหาสิ่งดีๆที่ผมมีอยู่มาแนะนำ แลกเปลี่ยนความรู้กับทุกท่านเหมือนเดิมไปทางบวกเพิ่มขึ้นอีกครับ


ขอขอบคุณจากจิตใจครับ
เก่ง
ALPHA FO BLOGGANG







เพิ่มเติมข่าวสารครับผม

บรรยากาศในงานและภาพผู้รับรางวัลอื่นๆในบล๊อกคุณอุ้มสีครับ Thailand blog awards 2010

บล๊อกที่รับรางวัลจากผลการตัดสินของทางคณะกรรมการ






 

Create Date : 29 สิงหาคม 2553    
Last Update : 3 กันยายน 2553 9:56:44 น.
Counter : 1471 Pageviews.  

ขอขอบคุณทุกแรงโหวต แรงเชียร์ Thailand blog awards 2010



28-08-10 พอดีคุณอุ้มสีลงบรรยากาศในงานไว้แล้วครับ Thailand blog awards 2010 ตามไปดูกันได้เลยครับ ส่วนภาพของผมคงเป็นบรรยากาศสนุกๆกับพี่ๆ ชาว ลายปากกา ที่เข้าไปร่วมให้กำลังใจด้วยนะครับ อบอุ่นมากๆเลยอ่ะ ซึ้งครับซึ้ง
(เำก่ง) ALPHA FO
28-08-10
-----------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ

ขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านที่ให้กำลังใจกันมาตลอดครับ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2553 ผมได้มีโอกาสได้รับในสิ่งที่เกินความคาดหมาย
คือรางวัล ประเภทการศึกษา รองชนะเลิศ อันดับสองครับ ในงาน Thailand blog awards 2010
ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยครับ
ผมเองต้องขอขอบคุณทุกๆท่าน และ พี่ๆ หลายๆท่านที่ไปร่วมแสดงความยินดีในงานด้วยครับ เดี๋ยวผมขออนุญาติรวบรวมภาพ ไว้มาขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ
จะรีบทำให้เสร็จในวันจันทร์นี้แหละครับ เพราะช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงเดินทาง ไปมาหลายแห่งอยู่ครับ
แต่ก็รีบเข้ามาบอกกล่าวกันก่อนครับผม เดี๋ยวจะหาว่าผมหายหน้าไปไหน ขอบอกเลยครับว่าอบอุ่นมากๆครับ กับมิตรภาพและเกียรติที่ได้รับอย่างไม่คาดคิด
มีอีกหลากหลายเรื่องราวที่จะเอามาบอกกล่าวกัน เรื่องดีๆทั้งนั้นแหละครับ

วันจันทร์เจอกันครับผม

ด้วยความเคารพ
ALPHA FO (เก่ง)

27-08-10


ขอขอบคุณแม่ที่ช่วยดูแล ส่งเสริม สั่งสอน ลูกชายคนนี้ให้เป็นมนุษย์..รักแม่มากครับ
................................................................................................



และแล้วงานเลี้ยงก็เลิกลาครับ.. ขอขอบคุณทุกๆคะแนนโหวตมากๆเลยครับที่มีให้กับบล๊อกเล็กๆนี้ตลอดมา



ขอขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ขอบคุณจริงๆครับ
จากการส่งบล๊อกเข้าร่วมประกวดกับพี่ๆ เำื่พื่อนๆ ผู้มากความรู้ความสามารถ 3 ประเภท
คือ ความรู้ ศิลปะ และท่องเที่ยว
อันดับคะแนนโหวตของ ALPHA FO ติด 1 ใน 20 ทั้งสามประเภทที่ส่งประกวดเลยครับ



คือ 1. ประเภท Education Blog - สอนภาษา /แนะแนวการเรียน/ HOw to /สัมนา /Training
ติดอันดับที่ 13 จาก 260 บล๊อกที่ร่วมประกวด
หน้าผลงานที่ส่งเข้าร่วม

2. ประเภท Recreation Blog - Hobby /postcard / Cooking / Cartoon / Arts
อันดับที่ 14 จาก 240 บล๊อกที่ร่วมประกวด
หน้าผลงานที่ส่งเข้าร่วม

3. ประเภทTravel and Photo Blog - Photo / ท่องเที่ยวต่างประเทศและในประเทศ
อันดับที่ 20 จาก 240 บล๊อกที่เข้าร่วมประกวด
หน้าผลงานที่ส่งเข้าร่วม

โดยคณะกรรมการจะคัดจาก 10 อันดับของแต่ละสาขาละครับสำหรับการเข้ารอบต่อไปครับ



จากการตัดสินใจส่งบล๊อกเข้าประกวดของผมครั้งนี้
ทำให้ได้รู้และได้เห็นหลากหลายประสบการณ์ครับ
ทั้งการช่วยเหลือ สนับสนุน ไปจนถึงกำลังใจดีๆจากทุกๆท่านทีี่ชอบบางสิ่งในบล๊อกเล็กๆแห่งนี้
มาจากมิตรภาพที่งดงาม และจิตวิญานที่บริสุทธิ์


หรือคนที่หมั่นไส้ผมเป็นทุน
ผมก็บอกให้ไปกดโหวตผมออก กดทุกวันเพื่อให้ออกเร็วๆ
(อิอิอิ) ...อ่ะ อันนี้ล้อเล่นน่ะครับ แหะๆๆ

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณทุกๆคะแนนโหวตที่ท่านให้มาครับ
รับรองไม่สูญเปล่าแน่นอน
กับผลงานภายในบล๊อกสำหรับการเรียนรู้จักกับงานศิลปะ การฝึกฝน
และบทความที่ลงทุกๆรายปักษ์กับบล๊อกนิตยสารออนไลน์ ลายปากกา
ที่แห่งนี้ที่ๆมีแต่มิตรภาพครับ พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนน่ารักมากเลยครับ ขอบอก

ขอขอบคุณ วิทยุออนไลน์แห่ง For writer ชุมชนสำหรับนักเขียนและอยากเขียน
ลายปากกานิตยสารออนไลน์
ที่ร่วมสนับสนุนและให้โอกาสกับ ALPHA FO

ยังมีอีกหลายๆท่านครับที่ช่วยเหลือสนับสนุนกันมา
ทั้งจากพี่ ป้า น้า อา เพื่อน สมาชิกเครือข่ายใน bloggang ที่ร่วมส่งร่วมโหวตกันมาตลอด
พี่ๆเพื่อนๆทางกอล์ฟเฟอร์โฮม hi5 , hi5 , Facebook , ห้องศิลปะพันทิพ
พี่ๆและเพื่อนๆที่ติดตามผลงาน ALPHA FO มาโดยตลอด จากทุกแห่ง

ซึ่งพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านน่ารักทีเดียวครับ ขอบอกว่าน่ารักกันมาก มากกกกก...
ย้ำๆ เลยครับว่าน่ารักและใจดีกันมากๆทุกท่านเลย ^^

นับว่าเป็นโชคที่ดีของผมที่ได้รับโอกาสที่ดีจากทุกๆท่านในครั้งนี้
***ต้องขออภัยนะครับที่ไม่สามารถกล่าวนามของทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนมาจนหมด
ขออภัยด้วยนะครับ***


สำหรับผม แค่นี้ก็ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยล่ะครับ สำหรับสิ่งดีๆที่ทุกท่านมอบให้
ผมจะเก็บกำลังใจอันนี้ เพื่อพัฒนาผลงานต่อไปครับ

ขอขอบคุณจากใจครับ

ALPHA FO BLOG (เก่ง)


ป.ล. พี่ๆ เพื่อนๆ ที่เข้ามา ช่วยร่วมลงชื่อด้วยนะครับ เอาไว้กลับมาดูถึงบันทึกหน้าหนึ่งว่าเรา ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ
ยังมีพี่ๆ เพื่อนๆที่ใจดีอยู่มากมาย ณ ที่แห่งนี้
เวลาที่ตัวเองหลงลืมอะไรบางอย่างไปจะได้กลับมาดู เพื่อเตือนตนน่ะครับ...ขอบคุณมากๆเลยครับ






 

Create Date : 11 สิงหาคม 2553    
Last Update : 1 กันยายน 2553 0:09:01 น.
Counter : 989 Pageviews.  

โอกาสใหญ่ๆ กับคนตัวเล็กๆ ที่ท่านมุ้ยมอบให้



เมื่อสองปีที่ผ่านมา ผมพยายามที่จะเก็บและรวบรวมข้อมูลในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศ
ที่ในอดีต เต็มไปด้วยความสำคัญกับประเทศไทยแห่งนี้เสมอมา
ทั้งการตั้งทัพ การเดินทัพ จนถึงการระแวดระวังภัยจากข้าศึกต่างเมือง
ผมกำลังกล่าวถึงพิชัยครับ อำเภอเล็กๆ ที่ไม่ธรรมดาเลยในอดีต

กระทั่งได้เขียนและวาดภาพประกอบจากจินตนาการตามข้อมูลที่อ้างอิงมาหลายแห่งประกอบกัน
จนจัดพิมพ์ออกมาเป็มรูปเล่มเมื่อปลายปี 2552 นี่เอง
ผ่านมาหลากหลายอุปสรรคปัญหา ซึ่งคงได้บันทึกเป็นเรื่องราวในที่แห่งนี้ในโอกาสต่อไป
หกเดือนต่อจากนั้นผมเองก็ไม่คาดคิดหรอกครับว่า
สิ่งที่ผมเฝ้าศึกษาและสังเกตุ จะมีเรื่องราวและข้อมูลไปพ้องกับใครบางท่านเข้าอย่างจัง

เช้าวันที่ 11 มิ.ย. 2553 วันนี้เป็นวันพระพอดี
ตอนเช้าได้มีโอกาสไปทำบุญตักบาตร เป็นการรักษาศีล
กลับมาจากวัดก็ตั้งใจจะวาดรูปที่ค้างคาไว้ กำลังตั้งท่าทีเดียวครับ
เล็งไปมา หันซ้าย ขวา ก็มีเสียงเรียกให้ออกไปพบกับใครบางท่านเข้า



มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ได้เดินทางมาเก็บข้อมูล ที่บริเวณวัดข้างบ้านผมพอดีเลยครับ
ผมรีบหยิบหนังสือที่ผมเขียน เข้าไปแนะนำกับท่านทันที

พร้อมกับเสียงแตกฮือ ของกลุ่มอาจารย์ที่ตามท่านอยู่
"นี่ไงๆ ! คนเขียนหนังสือเล่มนั้น"



เมื่อท่านพลิกดู คร่าวๆท่านก็ได้ให้เลขาของท่านบันทึกชื่อ เบอร์โทรผมไว้
พร้อมกับถามผมว่าพอมีเวลาพาท่านไปดูสถานที่ในรูปถ่ายของท่านหรือเปล่า



ช่วงที่ผมกำลังสับสนแถมมึนๆงงๆ กับเหตุกาณ์นี้อยู่ บรรดานักข่าวที่ตามท่าน
พร้อมกับนักศึกษาด้านประวัติศาสตร์ ที่ม.นเรศวร และ ม.ศิลปากร
ก็รุมสอบถามผมกับหนังสือเล่มนี้กันใหญ่ อาจารย์บางท่านก็ซื้อไปเก็บไว้นานแล้ว
ความมึนเข้ากลบสมองผมเข้าอีกรอบ ช่างภาพบางคนก็กำลังถ่ายภาพร้านกับภาพวาดผมอย่างเมามันส์
ทั้งๆที่ไม่ค่อยมีอะไรจะให้ได้ดูกันเท่าไหร่



ผมบอกกับท่านว่า ขออนุญาติไปเตรียมตัวก่อนนะครับ
พอเข้าไปในห้องทำงาน ผมกลับไม่รู้ว่าผมจะเอาอะไรไปบ้าง



ยืนงง อยู่ซักพัก ก็ได้แต่หยิบกล้องถ่ายรูปมาตัวเดียว
ทั้งๆที่ผมมีเป้เดินทางพร้อมกับสมุดและอุปกรณ์ต่างๆไว้เตรียมพร้อมตลอดอยู่แล้ว
แต่ก็ไม่ได้หยิบมันไป.....เรียกว่า มึนครบเซ็ท
จะมีก็แต่สิ่งที่พอรู้บ้าง อัดแน่นอยู่เต็มสมองน้อยๆก้อนนี้

เมื่อออกมาก็ขึ้นรถตู้ไปพร้อมกับท่านเพื่อตามเก็บข้อมูล
ตามบันทึกการเดินทัพปราบฮ้อในอดีตสมัยรัชกาลที่ห้า
บางแห่งต้องลุยทั้งหมาที่ดุเอาการ หรือลุยกับป่า กลางทุ่ง กลางแดด
กับวัยหกสิบกว่าปีของท่าน ดูเหมือนอ่อนล้าบ้าง





แต่วิญานแห่งการทำงานของท่านนั้นเต็มเปี่ยม หัวใจของท่านนั้นเกินร้อย
ผมเองก็พยายามที่ทั้งเก็บข้อมูลและหาข้อมูล บวกให้ข้อมูลไปด้วยในเวลาเดียวกัน
โดยไม่ทราบเลยจริงๆว่า ผมเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนใหญ่เข้าให้แล้ว
จนกระทั่งถึงบริเวณต่างๆ ตามเส้นทางเดินทัพในสมัยนั้น



สอบถามจากทางผู้ใหญ่บ้านและครูเก่าแก่บริเวณนั้น
พบว่าทุกบริเวณไม่เหลือสภาพเดิมอยู่เลย
ไม่ว่าจะเป็นหนองไผ่ขวาง ที่ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ฟังว่า
เมื่อก่อนจะมีไผ่ขวางอยู่เต็มบริเวณไปหมดและการเดินทัพต้องผ่านบริเวณแห่งนี้

หลังจากนั้นก็เดินทางมาถึงบริเวณ หนองตับ ที่ตามบันทึกเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่
แต่ปัจจุบันคงเหลือแต่พื้นดินและความแห้งแล้ง
ผมนำท่านเดินลัดทุ่งนาไปยังหนองที่แห้ง ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน
คุณลุงผู้ใหญ่บ้านบอกว่า บริเวณนี้สมัยนั้นใครที่เดินทางต้องผ่านตรงนี้
จะอ้อมไปที่อื่นไม่ได้เพราะจะติดเขา เมื่อมีการปล้นวัวควายเมื่อก่อนมาดักบริเวณนี้ก็จะเจอแน่นอน



บริเวณหนองที่แห้งแห่งนี้ ท่านได้นั่งพักผ่อนเพื่อคลายร้อนใต้ห้างนา
พร้อมกับรับสั่งถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ของเมืองหน้าด่านแห่งนี้
ท่านรับสั่งถึงบันทึกประวัติศาสตร์บางหน้าจะเปลี่ยนไป
และบรรดาคอประวัติศาสตร์ทั้งหลายต้องพบกับเรื่องราวใหม่ที่เข้าใจกันผิดมานาน ณ พิชัยแห่งนี้
บางเรื่องท่านไปรับสั่งว่า อย่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาในตอนนี้ ถ้าไม่อยากโดนนักประวัติศาสตร์ด่า
ว่าเมืองพิชัย คือ เมืองชัยนาทในอดีต ที่ได้ลงบันทึกไว้ในพงศาวดารหลายๆเล่ม
หรือกับประวัติศาสตร์หลายๆหน้า(บอกไปแล้วอ่ะครับ ยอมโดนด่า )

จากนั้นท่านก็รับสั่งต่อถึงความสำคัญของเมืองพิชัยแห่งนี้

"เมืองพิชัยสำคัญมากนะในอดีต แต่ไม่มีใครกล่าวถึงหรือสนใจ โดยเฉพาะ คนพิชัย
ที่ต้องคอยให้คนอื่นมาเล่าถึงความสำคัญของบ้านตัวเองให้ฟัง"


ผมตอบท่านกลับไปว่า

"ผมทำหนังสือขึ้นมาแล้วครับ แต่ผมแค่ธุรีเล็กๆ ไม่มีใครฟังผมเลย"

" เธอต้องกล้าเถียง เขาถึงจะฟังเธอ "

" ครับท่าน....... เมืองพิชัยสำคัญจริงๆครับ"

"อ้าวจริงซิ! ไม่งั้นฉันจะมาทำแบบนี้เหรอ" ท่านรับสั่งกลับมาอย่างทันควัน

ตลอดการเดินทางและร่วมงานกับท่าน ท่านเป็นคนที่สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา
คอยกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจพร้อมแรงบันดาลใจใหม่ๆอยู่เสมอ

นี่แหละครับที่ผมเองไม่อยากเแม้จะขยับตัวเพื่อกดชัดเตอร์กับมุมสวยๆบริเวณนี้
หรือจัดแจงเตรียมตัวเตรียมข้อมูลอะไรตอนนี้ นอกจากฟังอย่างเดียว
ฟังและจำทุกคำพูดทุกท่าทาง ทุกการกระทำของท่าน
ท่านเองก็ตบบ่าให้กำลังใจผมอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
นี่ละมั๊งครับ กำลังใจชั้นดีที่ผมจะเขียนหนังสือเล่มต่อไป



เมื่อคุยเสร็จหายเหนื่อยเราก็เดินทางต่อไปยังอีกจุดหนึ่งที่มีการบันทึกไว้
คือเส้นทางเดินทางทางน้ำของการเดินทัพและการแวะพัก



จนกระทั่งไปบริเวณน้ำอ่าง
ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำทางเดียวที่มาจากเมืองตอนบนที่ติดลานช้าง
เพื่อติดต่อกับเมืองหน้าด่านแห่งนี้
เพื่อจะติดต่อเข้ามายังแม่น้ำสายหลัก(แม่น้ำน่าน)ได้

มื้อกลางวันท่านทานง่ายๆด้วยแซนวิสที่เตรียมมา
สำหรับทีมงานกับรรดาอาจารย์ และผม ทานด้วยก๋วยเตี๋ยวกับข้าวราดแกง
พวกเราทั้งหมดนั่งอยู่ใกล้ๆกัน ไม่มีการแบ่งชั้นว่าใครเป็นใคร
ก่อนที่จะเดินทางเก็บข้อมูลกันต่อจนถึงเย็น
ดูการตีเหล็กน้ำพี้และสอบถามถึงข่าวขบวนทัพจากผู้สูงวัยที่บ่อเหล็กน้ำพี้แห่งนี้

ก่อนกลับผมถ่ายรูปคู่กับท่าน พร้อมกับพูดกับท่านอีกสักพัก ส่งจนรถท่านออกเดินทางไปต่อ
เป็นความภาคภูมิใจใหญ่ๆกับคนตัวเล็กๆที่มีความรู้ติดตัวมาเล็กน้อยอย่างผม
ที่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับมืออาชีพระดับโลกอย่างท่านได้
แค่นี้...ผมก็รู้สึกดีมากๆ กับสิ่งที่ผมทำในอดีตเมื่อสองปีที่แล้ว
และส่งผลดีกับผมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ผมขอขอบคุณท่านมากๆครับที่ให้โอกาสกับคนตัวเล็กๆอย่างผม
แม้จะเพียงแค่วันเดียว แต่ก็เป็นวันเดียวที่ผมต้องจดจำไปตลอดชีวิตทีเดียวครับ

ยังมีอีกหลายเรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือเล่มเล็กๆเล่มนี้ ที่ผมยังบอกกล่าวไม่หมด
ถึงการให้ความร่วมมือตลอดจนการไว้วางใจผมเป็นอย่างมาก
ในการทำโครงการนี้จากผู้ใหญ่หลายๆท่าน
ทั้งคุณศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ(ศิริวัฒน์แซนวิช) ที่เจอกันได้เพราะแนวคิดนี้
รวมถึงคุณสาธิต ชัยมะโน คุณเตี่ยทองเทพ ภมรกุล
และอีกหลายท่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าศึกษา น่าสนใจ ที่จะนำมาแบ่งปัน
ซึ่งผมจะกล่าวถึงในโอกาสต่อไปครับ




มาอีกวันก็ได้รับกำลังใจชิ้นใหญ่ไม่แพ้กันจากบรรดาคอประวัติศาสตร์ที่อายุเกือบแปดสิบแล้ว
มาพูดถึงหนังสือและความน่ารักในตัวอักษร ที่ไม่เป็นยาขมจนเกินไป
อีกวันกับนักอ่านวัยสิบเจ็ดที่เข้ามาแจกคอมเม้นต์ถึงที่ทำงาน
พร้อมกับบอกว่าจะรอหนังสือเล่มใหม่ เร็วๆนะ

นี่ยังไม่รวมถึงนักอ่านหลายๆท่านที่ให้กำลังใจมาอย่างล้นหลาม
ทั้งโทรศัพท์ ในบล๊อก ในไฮไฟว์ ตัวต่อตัวทั้งร้านหนังสือ ที่บ้าน ที่ทำงาน และทุกที่ที่เจอ
พร้อมกับลืมข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆในหนังสือเล่มนี้ กับคำผิด ที่มีตกหล่นบ้าง
ต้องขอขอบคุณและขอกราบงามๆเลยครับ กับทุกๆท่านที่เป็นกำลังใจให้กับผมมาตลอด
ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ เพราะตั้งแต่ หนังสือออกมาในช่วงหกเดือนนี้

ถึงแม้ยอดขายจะไม่ถล่มถลายเหมือนหนังสือทำนายทายทัก หรือแก้กรรมต่างๆ
แต่ผลที่ได้ กับคอประวัติศาสตร์ทั้งคนรุ่นเก่า ถึงรุ่นใหม่ จนถึงเด็กๆที่ตามอ่านกันอยู่
ผมละซึ้งใจจริงๆครับ มีนักอ่านตั้งแต่เด็กนักเรียนชั้นป.4 จนถึงผู้แกร่งกล้าประสบการณ์อายุ 80 ปี
ที่ให้โอกาสผมที่จะเขียนหนังสือเล่มต่อไป
ผมคงไม่สามารถนำภาพมาลงได้หมด แต่ก็ขอขอบคุณมากๆเลยครับ
ผมจะทำกับสิ่งที่ทุกท่านให้โอกาสผมมาอย่างเต็มที่เลยครับ




ภาพเด็กๆกำลังเอาทั้งแบบจริงไปศึกษาพร้อมกับหนังสือครับ

แนะนำหนังสือพิชัย เมืองเล็กฯ เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองหน้าด่านของสยามประเทศในอดีต.....
alphafo





 

Create Date : 13 มิถุนายน 2553    
Last Update : 25 มิถุนายน 2553 16:52:09 น.
Counter : 3358 Pageviews.  

ภาพวาดที่ฉีกขาด


ภาพวาดที่ฉีกขาด


ภาพนี้เป็นภาพที่ผมวาดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 แล้วละครับ
ผมตั้งใจวาดและเก็บไว้อย่างดี(...หรือเปล่าหนอ?)
.................จนอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันนี้เอง (ค.ศ.2010)
สายโซ่คล้องรูปนี้ก็ขาด ทำให้รูปหล่นขมำทับกับพนักพิงเก้าอี้จนภาพฉีก

ผมยืนมองภาพพร้อมกับฟังเสียงหล่นที่ไม่รู้ว่าดังขนาดไหน
แต่มันก้องกังวานในหัวผมมาก จนไม่แน่ใจว่าจะสะท้อนไปถึงแห่งหนตำบลใด
สอบถามเพื่อนๆในห้องศิลป์แล้วบางคนก็บอกให้ซ่อม
บางคนก็บอกให้เก็บไว้แบบนี้แหละ เอาไว้เป็นความทรงจำ
เพราะถ้าซ่อมยังไงก็มีรอยตำหนิ อารมณ์ของรูปจะไม่เหมือนเดิม ทำใหม่ดีกว่า

พี่ๆเพื่อนๆบอกว่า " กระบี่อยู่ที่ใจ " กลัวอะไร
ผมจึงได้ข้อสรุปตามนั้นว่า........ทำใหม่ดีกว่า

ภาพนี้เป็นภาพสีน้ำมันครับ ไม่ใช่สีน้ำของมันหรือใครที่ไหน (สีเราทั้งน้านนนน...)
เป็นภาพที่ผมกำลังตื่นเต้นและสนุกกับการเขียนสีน้ำมัน(ของเรา)
สีที่ผมกว่าจะทำความรู้จักและเรียนรู้ได้ต้องใช้ความพยายามควบคู่กับความอดทนเป็นอย่างมาก
สีน้ำมันเป็นสีที่ผมต้องเสียน้ำตากับมันมาหลายครั้งหลายคราในตอนที่กำลังฝึกฝน

มาวันนี้ผมได้สนิทชิดเชื้อกับสีเหล่านี้ได้ค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถึงที่สุดก็ตาม
....แต่ก็ดีกว่าตอนเริ่มต้นเยอะ




ผมวาดภาพนี้ผมไม่ได้ใช้สีๆเดียวนะครับ
ผมไม่ได้ใช้สีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำเงิน เพียงแค่สีใดสีหนึ่ง
แต่ผมต้องใช้สีที่มีอยู่หลากหลาย มาผสมผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นงานศิลปะขึ้นมา
เพราะโลกใบนี้มีสีสันที่หลากหลาย ถึงแม้จะแตกต่างโทนสี ต่างประเภทก็ตาม
สีที่ผสมกันจะก่อให้เกิดสีสันใหม่ๆขึ้นมาตลอดเวลา
และทุกสีเมื่อรวมกันอย่างเหมาะสมแล้ว ก็จะกลายเป็นภาพศิลป์ที่งดงามเสมอ

งดงามเสมอ..........

แม้แต่งานของคนที่ไม่เคยเรียนด้านทักษะงานศิลป์เลยก็ตาม
ไม่ว่าจะงานเด็ก งานผู้ใหญ่ วาดเป็นหรือไม่เป็น
งานในฟาร์มช้างที่ใช้งวงฉวัดเฉวียนจับพู่กันปาดสีจนเวียนหัว
หรือลิงที่ปีนป่ายไปมาพร้อมกับการตวัดปลายพู่กันจิ้มสีลงบนผืนผ้าใบ

ล้วนแล้วแต่ มีสีสันที่หลากหลายมารวมกันในภาพๆเดียวทั้งสิ้น

นี่แหละครับโลกแห่งสีสัน กับผลงานที่ขาดหวิ่น
การทำภาพใหม่ ผสมสีชุดใหม่ กับประสบการณ์ใหม่ๆ
ย่อมทำให้ภาพนี้สดใส งดงามขึ้นกว่าเดิม ตามประสบการณ์และการฝึกฝน

ภาพเก่าๆกับร่องรอยแห่งอดีต  ยังทำให้เรายังฉีกยิ้มได้ทุกครั้งที่เห็น
ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายขาว ดำ สมัยยังเด็ก
จนถึงรูปถ่ายสีที่ซีดๆเหลืองๆแดงๆในวัยเอ๊าะๆ ที่อึ๋มๆ
ไม่ว่าเหตุการณ์ไหนก็ตาม ยิ่งนานวันกลับยิ่งมีคุณค่า สำหรับเราผู้ที่อยู่ในเรื่องราวนั้นๆ

ย้อนกลับมาภาพนี้....
เราอาจไม่ได้มองเห็นแค่ภาพที่ฉาบอยู่บนผืนผ้าใบด้านหน้าเท่านั้น
ภาพที่ผมเห็น กับหลายๆท่านเห็นย่อมแตกต่างกัน
ภาพที่ผมเห็นเป็นภาพแห่งความทรงจำ ความมุ่งมั่นบากบั่น ที่มีค่า
เป็นภาพที่เป็นเสมือนครูที่คอยชี้นำ ย้ำเตือน และสอนใจเพื่อทำให้ดีขึ้น
อีกด้านก็ต้องระมัดระวังคอยตรวจสอบดูแล กับสมบัติชิ้นเก่าให้ดี

เก็บไว้เป็นประสบการณ์ เพื่อไม่ให้ต้องเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเช่นนี้อีก
..............กับภาพอันฉีกขาด ที่ไม่รอวันซ่อม ภาพนี้






 

Create Date : 10 มิถุนายน 2553    
Last Update : 10 มิถุนายน 2553 14:57:11 น.
Counter : 2642 Pageviews.  

บ้านเราจะเหมือนเดิมครับ




เห็นว่าเพลงเพราะและมีความหมายดีๆที่พร้อมจะเอามาแบ่งบันกันครับ




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 14:50:06 น.
Counter : 1530 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.