ทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน : ครั้งที่ 2
ถึง พี่หมี ตัวเบ้ง ณ ป่าใหญ่
สวัสดีครับ พี่หมี
ตอนนี้ ผมกำลังวาดภาพสีน้ำมันรูปบ้านในป่าอยู่ ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่เพราะขนาดใหญ่พอสมควรครับกว่าจะทำเฟรม ขึงผ้าใบ ร่างภาพ แถมลงสีอีก ก็กะว่าจะทำไปเรื่อยๆน่ะครับ เอาไว้เสร็จเมื่อไหร่จะเอาลงบล๊อกให้พี่หมีดูครับ
ในขณะที่ผมเขียนรูปนี้อยู่ ผมก็นึกถึงพี่หมีขึ้นมาทันทีเลย
ไม่ต้องงงครับ พี่ไม่เคยเจอหรือเคยรู้จักผมหรอก
แต่ในใจผมคิดไปว่า ถ้าบ้านผมอยู่ในป่าอย่างภาพที่ผมกำลังวาดอยู่นี้ผมจะทำอย่างไรถ้าเจอพี่ขึ้นมา
ตามที่ผมรู้เขาบอกมาว่าถ้าเจอพี่แล้วให้แกล้งตาย แล้วพี่จะหนีไปเอง หากผมเปรียบพี่หมีเป็นเหมือนปัญหาใหญ่ในชีวิต ถ้าผมรู้ว่าสู้ไม่ได้แน่ๆพี่ว่าผมจะแกล้งตายก่อนดีหรือเปล่าครับ
ตามหลักการคิดบวกที่ผมรับรู้มานั้น อาจหมายถึงว่าให้คิดว่าพี่เป็นเพื่อนหรือมิตร
แต่ ถ้าผมไม่แกล้งตายแล้วเข้าไปทักทายตีซี้กับพี่ พี่จะตบหัวผมขมำจนสลบไหมครับ ช่วยบอกผมที ?
ใครบางคนบอกให้ผมสู้กับทุกปัญหา ผมมาคิดๆดูอีกทีถ้าผมเจอพี่ผมคงต้องแกล้งตายให้พี่ดมเล่นไปก่อนครับ
สารภาพครับว่า บางวันผมก็แกล้งตายกับหลายๆเรื่อง ที่นอกเหนือจากการควบคุมของผมได้ ต้องใช้สติปัญญาแก้ไข ผมแกล้งตายรอพี่เดินผ่านไปก่อนแล้วผมก็ค่อยๆเดินต่อ เขาเรียกว่า "สติมาปัญญาเกิด" ถ้างั้นก็แสดงว่า ปัญญาเป็นลูกของสติใช่หรือเปล่าครับ แล้วมยุรากับหม่ำล่ะ.....
เอาล่ะ...
ผมไม่อยากนอกเรื่องไปมากกว่านี้ นอกจากว่าเวลาที่ผมเจอกับพี่จริงๆขึ้นมา ถ้าผมแกล้งตายจะยังใช้ได้ผลอีกมั้ยครับในเมื่อผมเขียนบอกพี่ถึงขนาดนี้แล้ว
แต่ ผมเดาเอาแบบไม่ต้องคิดว่าพี่หมีอ่านภาษาผมคงไม่ออกแน่ๆ
และตอนนี้พี่อาจจะทำหน้างงงง
อ่ะ...งง หนักเข้าไปอีกเมื่อผมเอาง.งู มาเรียงกันถึงสี่ตัว
ที่แน่ๆ ผมรู้แล้วล่ะครับว่า คราวหน้าถ้าผมเจอปัญหาใหญ่ ผมจะแกล้งตายก่อนดีกว่า อันนี้ผมไม่ได้หมายถึงเจอเจ้าหนี้นะครับ
ผมจะรอให้พี่หมีเดินจากไปแล้วผมค่อยลุกมาแล้ว เราเดินกันคนละเส้นทางดีกว่าครับ
.........ผมเองก็มีปัญหาใหญ่ๆหลายเรื่องเหมือนกับเจอพี่แหละครับ เจอทีก็แกล้งตายที อย่างปัญหาราคาข้าวของชาวนาปัญหาจีดีพี (หรือ ดีดีทีหว่า....ไม่แน่ใจเรียกไม่ถูก)ของประเทศเนี่ยะ ผมจนปัญญาจริงๆครับผมแก้ไขให้ไม่ได้ เพราะรายได้ของพวกผมเป็นส่วนน้อยของประเทศครับ แค่ยี่สิบเปอร์เซนต์เอง ถึงแม้ว่าพวกผมจะมีจำนวนมากกว่าถึงเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ในประเทศก็ตาม
นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องอื่นๆอีกนะ ที่ถึงแม้มันจะเดือดร้อนมาถึงผมแบบงงๆก็ตาม(คราวนี้ผมกันพี่งง ผมใช้ไม้ยมก"ๆ"แล้วครับ)ทั้งการตั้งแกงค์ แข่งขัน กีฬาสี การขอคืนพี้นที่คืน หรือพื้นที่เช่าบนหัวภูเขาหัวเหม่ง ไม่เอาดีก่า...เปลี่ยนเรื่องๆ
พูดถึงพี่มามากผมยังสงสัยอีกต่อไปว่าถ้าผมเจอพี่เสือเพื่อนพี่แล้ว ผมจะทำยังไงดี ?
ถ้าผมลองแกล้งตายเหมือนกับเจอพี่ ผมว่าผมคงได้ไปเริงร่ากับนางฟ้าบนสรวงสวรรค์เป็นแน่แท้
แล้วถ้าเจอทั้งคู่พร้อมๆกันล่ะ ผมจะแกล้งตายหรือจะวิ่งหนีดี ?
ถ้าจะเขียนวัว ให้เสือกลัวจะได้หรือเปล่าครับ มันจะรู้เรื่องมั้ย ?
ยิ่งคิดยิ่งสับสน พู่กันยังคามืออยู่เลย เขียนรูปทีจิตเตลิดไปไกลเลย
แต่คนอย่างผมดื้อเป็นสันดานอยู่แล้วครับ พี่จะห้ามผมไม่ให้คิดคงไม่ได้ ผมจึงต้องคิดต่อไปว่าถ้าผมนอนๆอยู่ในป่าแล้วมีพี่งูมานอนอยู่ข้างๆผม ชูคอขู่ฟ่อๆ เป็นจงอางหวงไข่(จึ๋ย!) หรือเด็กหวงขนมผมจะแกล้งทำยังไง ?
ผมคงต้องสรุปว่าปัญหาแต่ละปัญหาทั้งเจอพี่หมีเอง พี่เสือ หรือพี่งู ผมต้องรู้ว่าแต่ละปัญหานั้นเป็นใคร
ครับพี่...ผมเอาปัญหาของผมไปเปรียบกับสัตว์อย่างพวกพี่ พี่จะว่าผมมั้ยครับว่ามายุ่งอะไรกะสัตว์อย่างตู.....
บางปัญหาผมก็แกล้งนอนตาย บางปัญหาต้องหนี บางปัญหาต้องจ้องตาสู้แบบไม่กระพริบ อยู่ที่ว่าใครมา
อย่างบางปัญหาเหมือนช้างตกมัน แน่นอนว่า ผมคงไม่นอนแกล้งตายอยู่ให้มันกระทืบเล่นจนตับปลิ้นเป็นแน่แท้
บางปัญหาเหมือนลิงกระโดดไปมา แล้วก็ขโมยของที่เราไม่ใช้ไปให้เราลำคาญเล่น
ผมเล่าให้พี่หมีฟังตั้งนาน แสดงว่าผมพอจะรู้จักของปัญหาในป่าใหญ่แห่งนี้แล้วใช่มั้ยครับ ?
เพราะเมื่อตัดสินใจที่จะเดินทางเข้ามาในป่าแห่งนี้แล้ว ก็ต้องเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดให้ได้กับสารพัดปัญหา ทั้งๆที่จะสร้างบ้านหรือเขียนรูปนี้ให้บ้านอยู่ติดๆกับทะเลก็ได้ แต่ผมว่าไม่ว่าเราจะอยู่หรือหนีไปที่ไหน ก็ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหาอยู่แล้ว ผมจึงเลือกที่จะเผชิญกับสิ่งที่ผมรักดีกว่า จริงหรือเปล่าครับพี่ ใครบางคนบอกว่าล้มเหลวในสิ่งที่รัก ดีกว่าสำเร็จในสิ่งที่เกลียดจริงหรือเปล่าครับ ? ผมก็ว่าจริงนะ ผมว่าถ้าเราทำสิ่งที่เรารักและศรัทธาแล้วประตูความล้มเหลวปิดไปตั้งนานแล้วล่ะครับ
เพื่อนๆผมบางคนมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานบ้าง เรื่องงานก็มี ทั้งของที่ขายไม่ได้เหลือบานตะเกียง บางทีเขียนหนังสือแล้วไม่มีคนอ่าน ภาพเขียนไม่มีคนซื้อ หรือแม้กระทั่งมีปัญหากับเจ้านาย ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าพวกเขาจะใช้วิธีไหนแก้ไข
บางคนเจอเพื่อนร่วมงานแล้วจ้องตา เจอเจ้านายแล้วแกล้งตายก็มี อันนี้ก็ทางใครทางมัน ผมเล่าให้พี่ฟังเฉยๆไม่มีเหตุผล
เพราะผม ไม่มีเหตุผลครับ
บางคนไปนอนกับงู แมงป่อง ตะขาบ พอเป็นข่าวสักพักก็เงียบหายไป ก็แล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน บางตนทำเพื่อความกล้าหรือจะทดสอบกำลังใจตัวเองก็เป็นไปได้ทั้งนั้น บางคนไม่บอกทางบ้านชัดๆแต่กลับไปนอนกับน้องๆที่สักรูปแมงป่องบริเวณท้องน้อยแล้วบอกว่าไปนอนกับแมงป่องเพื่อหาสัจจะธรรมก็มี แต่คนทางบ้านบอกว่า สัดจะทำ(พวกพี่ก็ซวยอีก โดนด่าฟรี) โดนขอคืนพื้นที่กันยกใหญ่ก็ว่ากันไปครับ
ไม่ใช่ผมครับพี่ไม่ต้องทำหน้า สะใจขนาดนั้น
แหมมมม...สะใจเชียว
ผมจะบอกพี่ว่าบางประเทศมีฤดูกาลล่าพี่ด้วยนะครับ อย่าทำเป็นซี้ซั้ว เดินไปเรื่อยเปื่อย (บางทีพี่ก็ไม่เจ๋งเสมอไปหรอกว่ามะ)
สุดท้ายนี้หวังว่าพี่คงสบายดีและรอดพ้นจากฤดูกาลล่าหมีที่ใกล้จะถึงนี้นะครับ (ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีเมื่อไหร่) อย่างน้อยพี่ก็มีเพื่อนๆผมอยู่เป็นเพื่อนล่ะครับ เพราะถ้าพี่กำลังอ่านจดหมายที่ผมฝากมาฉบับนี้อยู่แสดงว่าพวกเขาที่กำลังแกล้งตายอยู่ข้างๆพี่ครับ ส่วนผม เราคงไม่ได้เจอกันหรอกนอกจากว่าพี่จะมาอยู่ในสวนสัตว์ ผมคงได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่บ้างครับ
ด้วยรักและนึกถึงพี่เฉยๆ
"ผมเอง"
ปล.1 พี่รู้มั้ยครับว่าเพื่อนผมที่แกล้งนอนตายอยู่นี้ มีคนหนึ่งที่จับเพื่อนพี่มาสต๊าปไว้ที่บ้านครับ เขาจะทำเป็นแกล้งตายในขณะที่พี่กำลังทำจมูกฟุตฟิตดมแบบงงๆอยู่เหมือนตอนนี้ เขาจะให้นายพรานเล็งที่หัวเพื่อนพี่ด้วยปืนที่มีลูกกระสุนความเร็วสูงครับ(ไม่รู้จะทำเหมือนกันหรือเปล่านะ เตือนไว้) ขอให้พี่รอดปลอดภัยรีบวิ่งหนีไปให้เร็วเลยครับ เดี๋ยวนี้เลยครับที่เหลือไม่ต้องอ่านแล้ว
ปล.2 สำคัญมาก ถ้าพี่อ่านภาษาผมออกพี่จะรอดครับ แต่ถ้าพี่อ่านมาถึงตรงนี้พี่อาจจะไม่รอด(รีบๆเลย)
ปล.3 สุดท้ายแล้ว ถ้าผู้ที่อ่านอยู่เห็นจม.นี้ในมือหมี กรุณานำรูปนี้ไปฝึกวาดเป็นที่ระลึกให้พี่หมีด้วยครับ ผมเอาแบบน่ารักๆ กับวิธีการง่ายๆมาฝากครับ
คำทู้ๆ : "หมีที่น่ากลัวจะดูน่ารักลงไปทันที ถ้าเราเข้้าใจเรียนรู้วิธีมองมัน"