• Bloggang(โค๊ต)
• รวม ธีม, บีจี(โค๊ต)
• Friendflock(โค๊ต)
• Blog สไตล์ สวย ดูดี
• Blog สไตล์ รัก โรแมนฯ
• Blog สไตล์ เกิร์ลลี่ น่ารัก
• Blog สไตล์ ดอกไม้ วิว สวย
• Blog สไตล์ Character
• Blog สไตล์ เด็ก น่ารักสุดๆ
• Blog สไตล์ ดอลล์ การ์ตูน สัตว์
• Blog สไตล์ อาหาร เครื่องดื่ม
• Blog สไตล์ ฤดู เทศกาล ฯ
• Blog สไตล์ [รวม]
• Scrapbooks
• กรอบTable(โค๊ต)
• พื้นหลังสวย(1)
• พื้นหลังสวย(2)
• วอลเปเปอร์
• รูปแต่ง มุมบล็อค
• แบล็คกราวน์(Kr)
• ภาพ (gif),(jpg) รวม
• แฟลซการ์ด(Kr)
• Hello kitty
• แต่งแนวน่ารัก(รวม)
• แฟลซ(ตกแต่ง)
• คลับดอลล์(รวม)
• แฟชั่นดอลล์
• ดุ๊กดิ๊ก รวมน่ารัก
• นาฬิกา ปฏิทิน วันที่
• บอร์ดใส่ข้อความ
• การ์ด,เฟรม(ใส่ข้อความ,รูป)
• ไอคอน (รวม)
• อนิเมชั่น,อิโมติคอล
• แบนเนอร์ โลโก้
• เม้าส์ Cursor
• ไลน์น่ารัก
• เทศกาล(ตกแต่ง)
• มุม น้องหนู(เด็ก)
• ฟังเพลงเพราะๆ
• ห้องครัว
• ห้องส่วนตัว(ปิดค่ะ)
• Guestbook

กุ้งนึ่งกระเทียมโทน ทูน่าผัดเต้าหู้ซอสมะเขือเทศ กุ้งนึ่งกระเทียมโทน เครื่องปรุง กุ้งแชบ๊วย 10-12 ตัว กระเทียมโทน (กระเทียมกลีบใหญ่ๆ) 5 เม็ด รากผักชีสับ 3 ราก กระเทียมโทนหั่นแผ่นบาง 10 หัว น้ำซีอิ๊วปรุงรสสำหรับนึ่ง 1 ถ้วย กระเทียมโทนดอง 10-15 หัว ต้นหอมซอยเล็กๆ (สำหรับตกแต่ง) หรือจะหั่นแครอทบางๆก็ได้ค่ะ น้ำจิ้มซีฟูด สำหรับทานกับกุ้ง น้ำซีอิ๊วปรุงรสสำหรับนึ่ง น้ำซุปกุ้ง 1 ถ้วย (น้ำซุปกระดูกหมู ) (ถ้ามี) น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนชา ซีอิ๊วฮ่องกง (หรือใช้เป็นซีอิ๊วขาว) 2 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ เหล้าจีน 1 ช้อนชา ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างลงในหม้อ ยกตั้งไฟกลางจนน้ำตาลละลาย ยกลง (ปรุงรสเพิ่มได้ตามต้องการ) น้ำจิ้มซีฟู้ด พริกขี้หนูเขียว 1 ถ้วย กระเทียมแกะเปลือก 1 ถ้วย รากผักชี 3 ราก น้ำปลา 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำกระเทียมดอง 1/2 ถ้วย **ปั่นเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้ วิธีทำ 1. ล้างกุ้งและแกะเปลือกไว้หัวและหาง ผ่าหลังจนขาด ดึงเอาเส้นดำออก 2. สับกระเทียมโทนกับรากผักชี(ใช้ต้นแทน)เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ตรงกลางตัวกุ้งที่ทำไว้จนครบ โรยด้วยกระเทียมโทนหั่นบาง 3. ราดด้วยน้ำซีอิ๊วปรุงรสให้ทั่ว 4. นำไปนึ่งในน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 5-8 นาที จนสุก จึงปิดไฟ 5. ยกจานกุ้งนึ่งออก แล้วโรยด้วยน้ำกระเทียมโทนดอง ตกแต่งด้วยต้นหอมซอยท่อนเล็กและแครอทตกแต่งสวย 6. เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟุ้ด *สูตรน้ำจิ้ม นี้ อร่อยมากค่ะ สามารถใช้เป็น้ำสลัด ทานกับผักสแปนิช สลัดต่างๆ และเป็นน้ำยำลูกชิ้น อร่อยเลยหล่ะ ทูน่าผัดเต้าหู้ซอสมะเขือเทศ เครื่องปรุง ซอสมะเขือเทศ ขิงซอย กระเทียมซอย ทูน่ากระป๋อง เราใช้เต้าหู้ญี่ปุ่นแข็ง ทั่วไป เป็นแบบสำเร็จที่หั่นเป็นลูกเต๋าไว้แล้วค่ะ (เต้าหู้ไข่) ถ้ามี ต้นหอมซอย น้ำมันมะกอก น้ำปลา น้ำตาล * ปริมาณส่วนผสม ไม่มีค่ะ ใส่ตามใจฉัน ชอบมากชอบน้อย แต่ซอสมะเขือเทศใส่เพียงครึ่งป๋องเล็กพอค่ะ วิธีทำ หั่นเต้าหู้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบบภาพแรกรูปข้างบน พอดีว่าเราลองซื้อแบบ ภาพ สอง แบบเต้าหู้แข็งสำเร็จรูป ที่หั่นเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋ามาแล้วค่ะ 1กระทะต้ั้งไฟ น้ำมันร้อน เอา เต้าหู้ ลงไปผัดให้สี เหลือง สีน้ำตาลทั้งสองด้าน ตักใส่จานพักไว้ 2 ตั้งไฟ ใส่น้ำมันมะกอก เอาขิง กระเทียมลงผัด แล้ว เทน้ำจากทูน่ากระป๋องลงไปนิดหนึ่ง เพื่อไม่ให้กะทะใหม้ พอเดือด แล้วใส่ ทูน่ากระป๋องลงไป ตามด้วย ซอสพริก (ถ้ากรณีที่ต้องการเผ็ด เนื่องจากว่าขิงไม่เผ็ดเพียงพอ) ซอสมะเขือเทศ น้ำปลา น้ำตาลนิด คนให้ส่วนผสมเข้ากัน ปล่อยให้เดือด (ถ้าข้นเกินไปให้เติมน้ำลงไปนิดหน่อย ค่ะ) หลังจากเดือดแล้ว ให้ใส่เต้าหู้ที่เราผัดตาม (ข้อ1)ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน ปิดไฟ ยกลง โรยด้วยต้นหอมซอย เสริ์ฟจ๊า   Create Date : 20 มิถุนายน 2552     Last Update : 22 มิถุนายน 2552 11:13:44 น. Counter : 983 Pageviews.   Share Tweet

กัวคโมเล่ อาหารยามว่างของฝรั่ง วันนี้มาแนะนำ ของว่างของชาวอเมริกัน เม็กซิกัน ถ้าเปรียบเทียบ กับบ้านเรา คงน่าจะเป็นส้มตำ ค่ะ สามีชอบทำทานบ่อยมากๆโดยเฉพาะช่วงวันหยุดสัปดาห์ ถ้าเราไม่ได้ออกไปทานข้างนอก ก็จะทานเจ้า กัวคโมเล่ ของเขานี้แหล่ะ เขาก็อยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ ของโปรดเลยหล่ะ เราทานครั้งแรกก็รู้สึกเฉยๆ เนื่องจากว่าตัวเองไม่เคยลอง แต่หลังจากนั้น ชิมบ่อยขึ้น ก็เลยติดใจ เลยไม่แปลกเลยว่า ทำไมคนอเมริกันชอบกันนักหนา กับ กัวคโมเล่ พอเขาทำทุกครั้ง เราจะต้องไปร่วมแจมด้วยค่ะ เพราะว่ามันอร่อย อิอิ ต้นกำเนิดของ กัวคโมเล่ มาจากเม็กซิกันสมัยที่ชาวพื้นเมืองอินเดียแดงเม็กซิกันที่อาศัยอยู่ตอนกลางของเม็กซิโก โดยสมัยนั้นเรียก จากภาษาของชาวอินเดียแดงว่า āhuacatl (="avocado") + molli (="sauce"). ส่วนผสม: อะโวคาโดสุก 2 ลูก หอมแดงใหญ่ หั่นเต๋าเล็ก 1/2 ถ้วย กระเทียมสับ มะเขือเทศ เอาเมล็ดและเยื่อออก ใช้เฉพาะเนื้อ หั่นลูกเต๋าเล็ก ผักชีสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ พริก Jalapeno 1-2 แกะเม็ดสับหยาบ (หรือพริกหวานสีเขียว) พริก jalapeno ค่อนข้างเผ็ดค่ะ ไม่ต้องมากนัก ถ้าหากว่าเราไม่ทานเผ็ด น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ ชอบมากน้อยเพิ่มตามชอบ เกลือ พริกไทยป่น อย่างละนิด 3 เม็ดแรก พริก Jalapeno ออกเสียง เป็น (ฮาลาพิโน) ส่วน 3 เม็ดหลัง เรียก พริก serrano พริกทั้งสองชนิด เผ็ดมากค่ะ ยังแปลกใจว่าทำไมพริกเขียวถึงเผ็ดมากกว่าพริกสดสีแดง เราเข้าใจตลอดว่าสีแดงน่าจะเผ็ดกว่า แต่พริกเม็กซิกัน เผ็ดสุดๆๆ ตอนแกะเม็ดออกให้ใส่ถุงมือด้วยนะค่ะ วิธีทำ 1.ผ่าอะโวคาโดตามยาว เอาเม็ดออก ใช้ช้อนควักเอาเนื้อจากเปลือกใส่ชาม 2. ตามด้วยน้ำมะนาว แล้วใช้ส้อมบดให้หยาบ ๆ แล้วตามด้วย หอมแดงใหญ่สับ พริก jalapeno กระเทียม มะเขือเทศ (กรณีทำทานทันที)เกลือ พริกไทย ผักชี คลุกเคล้าให้เข้ากันค่ะ แล้วชิมรส ให้ออก รส มันๆ เค็มๆ เปรี้ยวค่ะ และก็หวานธรรมชาติจากเนื้ออะโวคาโด วิธีทาน - ทานคู่กับ Tortilla Chips จิ้ม ทำมาจากข้าวโพดค่ะ กากใยอาหารดีสำหรับระบบขับถ่าย -หรือดัดแปลง แบบนี้ แนทโช nachos โดยที่เรียง chip เป็นฐานแรกทั่วทั้งจานเซเรมิกที่เข้าไมโครเวฟได้ค่ะ shredded cheese,chipotle salsa,nacho jalapeno แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟ เพียง วินาที ให้ ชีสละลาย แล้วนำออกจากเตา เวลาจะทาน ก็ให้ เกลี่ย กัวคโมเล่ให้ทั่วหน้า แล้วก็ดึง chip ทานทีละชิ้นค่ะ แล้วตัว chip จะหนืด กับชีส อร่อยยยย - เรียก เคซะเดีย quesadilla แผ่นแป้ง tortillas นำแป้งขี้นย่างให้ร้อนก่อนค่ะ แล้ววาง shredded cheeses แค่ครึ่งแผ่น เหลืออีกครึ่งสำหรับพับ แล้วก็ไก่ย่างหมักซอสค่ะ ไก่ต้องหมักในสูตรที่เราชอบ แล้วนำไปย่าง แล้วหั่นเป็นลูกเต๋า แล้วพอชีสละลายให้พับแป้งทบกัน แล้วกลับอีกด้านค่ะ ย่างพอให้แป้งสุกสีน้ำตาลอ่อน เป็นพอค่ะ หรือ นำซอส salsa ผสมกับ อะโวคาโด บด ทานกับพวก chip ต่างๆก็ได้ค่ะ *** วิธีดูว่าอะโวคาโดทานได้หรือยังก็คือลองบีบดูค่ะ ถ้ามันนิ่มสักนิดแล้วก็ทานได้ เพราะถ้ามันยังดิบมันจะแข็งแบบกดไม่ลงเลย ให้เราเอาตั้งทิ้งไว้นอกตู้เย็นสัก 2-3 วันก็จะสุกเอง ปกติแล้วมะเขือเทศจะแยกไม่ผสมรวมกับเนื้ออะโวคาโดบด ถ้าต้องการเก็บไว้ทานอีกวัน ค่ะ พอเราจะทานถึงนำมะเขือเทศมาผสมคลุกเค้ากับอะโวคาโดบดที่เราทำข้างบนนะค่ะ ถ้าทานแล้วเหลือ ให้คุมด้วยพลาสติกใสแล้วนำเข้าตู้เย็นไว้...วันต่อมาสามารถดัดแปลงทานกับขนมปังหรือกับแซนวิชได้ค่ะ น้ำมะนาวช่่วยให้เนื้ออะโวคาโดไม่ดำ หลังจากที่ปอกเปลือกแล้ว อีกวิธีของเคล็ดลับไม่ให้เนื่ออะโวคาโด ดำ สีไม่สวย ก็คือ เมื่อปอกเปลือกแล้วให้วางเม็ดไว้ในเนื้อ ไม่ทิ้งเม็ด ค่ะ ฉบาดในการกิน และฉลาดในการบริหารร่างกายโดยการออกกำลังกาย   Create Date : 03 มิถุนายน 2552     Last Update : 3 มิถุนายน 2552 18:32:35 น. Counter : 1383 Pageviews.   Share Tweet

เซียร์ ทูน่า กับ ข้าวผัดปู เมื่อช่วงวันเกิดของตัวเอง ได้ไปร้านอาหาร ร้านหนึ่งค่ะ แล้ว ก็ ได้ สั่ง เซียร์มาทาน.....เออ อร่อยจัง เลยกลับมาคิดดัดแปลง ถ้าได้แบบเหมือนร้านอาหารก็น่าจะดี อิอิ อยากจะถามสูตรเลยหล่ะ วันนั้นหน่ะ อิอิ แต่เราไม่ได้ทำทันทีค่ะ เนื่องจากว่า อีกคนทานยากม๊าาาาาาาาาาาาก....ถ้าใครคิดว่าคนที่บ้านทานยากแล้ว ต้องมาเจอคนที่บ้านนี้สุดยอด ของความเรื่องมาก อาหาร เรื่องมากเรื่องเดียว คือ การกิน อย่างอื่นไม่เป็น เราว่าเราคนหนึ่งนะที่เรื่องมากเรื่องการทาน แต่พอมาเจออีกคน โอ้โฮ้ เราชิดซ้าย ไปเลย หน่ะ ฮ่าฮ่า....ถ้าเมนูทูน่าทานเป็นอย่างเดียวคือ ซาชิมิ เมนูอื่นไม่เด็ดขาดค่ะ ไม่ได้รสชาด ของทูน่า..ว่าไปคนเรา ให้ตายสิ ต้องเป็นทูน่า Bluefin กับYellowtail ถึงจะทาน ทูน่าอย่างอื่น ไม่ทาน เฮ้อ กรรม...คะแนนเรื่องมาก 100 คะแนนเต็ม ให้ความเรื่องมากเรื่องอาหาร เอาไปเลย 200 เต็ม ฮ่าฮ่า!!!!!!!! เซียร์ทูน่า ส่วนผสม ผักชีหั่น (ใช้เฉพาะใบ) 1/2 ถ้วย พริกเขียว หั่น 2 เม็ด (จาราพีโน แกะเม็ด ถ้าไม่ชอบเผ็ด ใช้ เม็ดเดียว) ขิงซอย 4 ช้อนชา กระเทียมสับ 4 กลีบ น้ำมะนาว มากน้อยตามชอบ ซีอิ๊วขาว 1/3 ถ้วย (สามารถใช้ ปอนซู ซอส ได้ค่ะ) น้ำตาล 1/4 ช้อนชา พริกไทยดำสด ถ้ามี ไม่มีก็พริกไทยดำป่น ธรรมดา พริกไทย เกลือ น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย (สำหรับทอด ทูน่า 2 ช้อนโต๊ะ) ทูน่า ซูชิ ชิ้นใหญ่ (ขึ้นอยู่กับจำนวนคนทานค่ะ) วิธีทำ 1 ผสม ผักชี พริกเขียว ขิง กระเทียม น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำตาล เกลือ พริกไทย และ ก็ น้ำมะกอก 1/4 ถ้วย ผสมรวมกัน แล้วพักไว้ก่อนค่ะ น้ำซอสที่เราได้ จะ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกราดตอนทอดเนื้อ อีกส่วนเหลือเก็บไว้ราดตอนเสร็จค่ะ 2 กระทะเทฟล่อน ตั้งไฟ ปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอก 2 ชต. พอน้ำมันร้อน ก็เอา ทูน่าวางลงไป แล้วโรย เกลือ และก็พริกไทย บนทูน่า ค่ะ แล้วก็กลับอีกด้าน ก็โรยเกลือ พริกไทย เหมือนด้านแรก นะค่ะ ด้านละ แค่ นาที พอค่ะ (แล้วแต่ความชอบของเพื่อนด้วยค่ะว่าอยากให้สุกมากหรือสุกน้อย แล้วก็ น้ำซอส (ครึ่ง)ข้อ 1 ราดลงบนเนื้อ ปลา เสร็จแล้ว ปิดไฟ ยก ลง 3 วางเนื้อปลา ลงบนจาน แล้ว เอาน้ำซอสที่เหลือราดลงไป ทั้งหมดค่ะ เสริ์ฟกับ อโวคาโด (ถ้ามี) หรือ โรยด้วยงาดำงาขาว แล้วแต่ชอบค่ะ * ปรับสูตรให้เหมาะสมกับจำนวนคน และก็สิ่งที่หาได้ในครัว ถ้าไม่มี พริกเขียว (jarapeno) ก็ใช้พริกเขียวสดเราแทนก็ได้ค่ะ ไม่แตกต่างกัน เมนูข้าง ข้าวผัดปู เครื่องปรุง ข้าวสวย 2-3 ถ้วย เนื้อปูแพ็ค 3 แพ็ค กระเทียมกลีบใหญ่ 3-4 กลีบ หัวหอมใหญ่ 1/4 หัว ต้นหอม 3 ต้น น้ำมันหอย 4 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 3 ฟอง ผักประดับจาน มะเขือเทศ มะนาว แตงกวา วิธีทำ 1. นำหัวหอมใหญ่มาหั่นบางๆ นำกระเทียมมาสับให้ละเอียด และนำต้นหอมมาซอย 2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันเริ่มร้อน ใส่หัวหอมใหญ่ที่หั่นไว้และกระเทียมสับลงไปผัดจนหอมและหัวหอมใหญ่สุกใส จากนั้นจึงตอกไข่ใส่ลงไป 3. ยีไข่ให้กระจาย ใส่ซีอิ้วขาว ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วรอจนไข่เริ่มสุก จึงค่อยผัดให้เครื่องเข้ากัน 4.ใส่เนื้อปูลงไป (บีบน้ำในกระป๋องเนื้อปูออกให้หมดถ้าปูกระป๋อง) เติมซีอิ้วขาว ที่เหลืออีก 1 ช้อนโต๊ะและน้ำตาลทรายลงไป ผัดให้ทั่ว 5. ใส่ข้าวสวยลงไป เติมน้ำมันหอย จากนั้น ผัดให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน 6. ใส่ต้นหอมซอยลงไป ผัดซักพักก็ปิดเตาและยกลงได้ 7. ตักข้าวผัดปูใส่จาน ตกแต่งด้วยผักเครื่องเคียงต่างๆ เสิร์ฟค่ะ *ข้าวผัดปู ไม่ต้องตามสูตรข้างบนนะค่ะ สำหรับ พ่อบ้านเราค่ะ ปริมาณเนื้อปู กับไข่ เราใส่เยอะหน่อย เพราะว่าเขาชอบ อร่อยอะ เราทานเซียร์ของเรา แล้วยังทานข้าวผัดไปด้วย ฮิฮิ อดใจไม่ไหว หลังจากชิม แล้ว อร่อย อะ เราว่า เนื้อปูแพ็คกับกระป๋อง แตกต่างกันมากเลย หล่ะ เนื้อปูกระป๋อง เราเคยนำมาทำอาหารครั้งเดียว เลิกซื้อเลยค่ะ เนื้อเละมาก กลิ่นแรง คล้ายกับไม่ใช่เนื้อปู แต่เนื้อปูแพ็คแบบรูปข้างบน เนื้อเป็นปู และดูสดกว่า เนื้อปูกระป๋องค่ะ เป็นช้อยที่ดี ถ้าไม่อยากซื้อแล้วมานั่งแกะ ทานปูยิ่งให้นั่งแกะ นี่ ขี้เกียจมาก ไปกินที่ร้าน แค่ขาปู ก็กว่าจะได้กิน ก็ ใช้เวลา แล้วนั่งแกะเนื้อปู นี้ ไม่เอาเลย เคยทำแล้ว ขอลา ครั้งเดียว เกินพอ ฮ่าฮ่า.....   Create Date : 23 พฤษภาคม 2552     Last Update : 23 พฤษภาคม 2552 11:34:33 น. Counter : 1017 Pageviews.   Share Tweet

Shiitake ผัดน้ำมันหอย ห่อหมกรวมมิตรทะเล วันนี้มากับ 2 เมนู เมนู แรก ส่วนผสม ดัดแปลงตามที่ตัวเองชอบ จานแรก จะใส่ หน่อไม้ฝรั่ง เนื้อไก่ กับ เบลล่าเห็ดสด สำหรับพ่อบ้านค่ะ เพราะว่าเขาไม่ทานเห็ดหอมค่ะ บอกว่าเห็ดหอมมันกลิ่นแรง เราอธิบายให้เขาฟังว่าเขาเรียกเห็ดหอม นะ เขาบอกว่า ไอว่าไม่หอม ฮาก๊าก..........อิฉัน ส่วนอีกจานเป็นจานของ จขบ.ค่ะ ไม่ใส่เนื้อ และใช้เป็นเห็ดหอมค่ะ ประโยชน์ของเห็ดหอม คือ บำรุงสมอง เพิ่มความสดชื่น คึกคัก ลดคอเลสเตอรอล ช่วยในระบบย่อยอาหาร ป้องกันหลอดเลือดแดง แข็งตัว ต้านมะเร็ง รักษาหอบหืด ลดความเครียด ต้านไวรัส บำรุงระบบประสาท ช่วยให้หลับง่าย บำรุงปอด บำรุงหลอดลม ชะลอความชรา ฯลฯ ส่วนผสมเครื่องปรุง: 15 - 20 dried shiitake mushrooms 2 cloves garlic 2 slices ginger 2 tablespoons oyster sauce 2 tablespoons dark soy sauce 2 teaspoons Chinese rice wine or dry sherry 1 teaspoon granulated sugar a few drops sesame oil 1 green onion, chopped 1/3 cup reserved mushroom soaking liquid or chicken broth 2 tablespoons olive oil วิธีทำ 1. นำเห็ดหอม แช่น้ำ หรือ น้ำซุปไก่ ทิ้งไว้ ประมาณ 20 นาที แล้วเทน้ำทิ้ง และหั่นเป็นชิ้น พักไว้ (จะหั่นครึ่ง หรือหั่นเป็นชิ้น ตามชอบ) 2. สับ กระเทียม และ ขิงอ่อนสด รวมทั้ง หั่นต้นหอม พักไว้ 3. นำเครื่องปรุง oyster sauce, dark soy sauce, Chinese rice wine or sherry, sugar (ถ้าเห็ดไม่ได้แช่น้ำซุปไก่) ให้เพิ่มผงซุปไก่ ลงไปอีก 1/2 ช้อนชา ผสมรวมกันในถ้วย คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้ สำหรับเป็นซอสราดค่ะ 4. กระทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อน นำ กระเทียม กับ ขิง ลงไปผัด จนมีกลิ่นหอม ตามด้วย (เนื้อ) เห็ดหอม (ถ้าใส่เนื้อ ผัดไปจนสังเกตุเห็นเนื้อสุก) ผัด ประมาณ 1-2 นาที แล้ว นำ ซอสของ ข้อ 3 ใส่ลงไป ผัดให้ ส่วนผสมเข้ากัน ปล่อยให้เดือด แล้วผัดให้ส่วนผสมเข้ากับเห็ดอีกครั้ง แล้วตามด้วย ต้นหอม และ น้ำมันงา ผัดให้เข้ากัน ปิดเตาไฟ ยกลง เสริ์ฟ ค่ะ *เห็ดที่ใช้จะเป็นเห็ดสดหรือเห็ดตากแห้ง แช่น้ำ ก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน ลองทำทานดูค่ะ มีคุณค่าทางอาหาร เมนูที่ 2 สูตรตามใจฉัน เมนูนี้อยากบอกว่าไม่ได้มีสูตรที่ตายตัว จขบ.ทำในอารมณ์ที่อยากทำอะไรที่รสแซ่บ เผ็ด ไม่มีน้ำมัน และก็อร่อย ตกลงวันนี้เลยคิดได้เมนูนี้ค่ะ คิดขึ้นมาเอง แต่ มันอาจจะไม่เหมือนห่อหมกทั่วไปที่จะ มีกระทิเป็นส่วนผสม แต่ จขบ.ไม่ใส่กระทิ และก็ นึกอะไรได้ก็ใส่ ที่บุบตะไคร้ และก็ใส่ใบมะกรูด เพื่อกลิ่น หอมและดับกลิ่นคาวของกุ้งค่ะ ห่อหมกทะเลรวมมิตร ส่วนผสม อาหารทะเล กุ้ง ปู ปลา หอย ตามชอบ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำปลา เกลือป่น น้ำมะนาว น้ำตาล ผัก ที่หาได้ในครัว อย่างเช่น บล็อคโคลี่ ผักขมฝรั่ง ผักกาด ผักชีซอย โรยหน้า ต้นหอมหั่น วิธีทำ 1ตำพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง เกลือนิดหน่อย บุบข่า กับตะไคร้ พักไว้ 2หั่น ผักกาดขาว บล็อคโคลี่ ผักขมฝรั่ง (ผักที่หาได้ในครัว) ต้นหอม เห็ด พักไว้ 3 นำ ข้อ 1 ลงในอ่างผสม ใส่ เนื้อปลา กุ้ง สกอลลอป อะไร ที่ อยากใส่ ลง ไป ตาม ด้วย ส่วนผสม ข้อ 1 ตามด้วย ข่า ตะไคร้ บุบ ใบมะกรูด น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว ลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้ซัก 5-10นาที แล้วนำใส่ในถุงฟอยต์ ขึ้นย่าง ปิดเตา ใช้ไฟแรง ที่ ประมาณ 10 นาที ย่าง ด้าน ละ 5 นาที เดี๋ยวจะไม่อร่อย ย่างกำลังดี เมื่อดึงหางกุ้งจะหลุดออกมาอย่างง่าย ค่ะ ในรูป เป็น ปลา กุ้ง สกอลลอป ค่ะ เอาไปลองทำดูได้นะค่ะ ถ้าในบ้านมีอาหารทะเล นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรทาน ก็ลองเอาเมนูเราเป็นตัวเลือกได้ น๊า อิอิ เราทำแล้ว พ่อบ้านเราติดใจมาก เขาไม่เห็นเราทำตอนแรก เพียงแต่เราบอกใช้ให้เปิดอุ่นเตาให้ พอเห็นได้ชิม ติดใจเลยหล่ะ หลังจากนั้น มีถามเราด้วยนะว่า ทำเมนูไอ้นั่น อีกสิ เราก็ว่าเมนูไหน พอเราทำ โอ้โฮ คุณเธอไม่เดินไปไหน เลยอะ ติดเราเจ เลย ทำไมรู้ไหมค่ะ ก็เล่น จดสูตรซะ ละเอียดยิบ ฮาฮ่า เราบอกว่ามันไม่มีสูตรตายตัว อยากใส่อะไรก็ใส่ไป แต่จดแล้วเก็บสูตรเฉยเลย อะ รู้เคล็ดลับเราเลย....ไม่ย๊อม ไม่ยอม อิอิ   Create Date : 07 พฤษภาคม 2552     Last Update : 8 พฤษภาคม 2552 6:41:14 น. Counter : 1288 Pageviews.   Share Tweet

ไก่ม้วนชีส,scalloped potatoes,beef tenderloin steak วันนี้มาทั้งเมนูของพ่อบ้านที่ชอบทานเนื้อเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนเราถ้าเลี่ยงได้เราก็เลี่ยงสำหรับทานสัตว์ใหญ่ ตอนที่อยู่เมืองไทย เราไม่เคยทานพวกเนื้อหมู เนื้อวัวเลยค่ะ ชีวิตส่วนมากในเมืองไทยเราเน้นทานพวกธัญญพืช ผลไม้เป็นส่วนใหญ่ แต่มาที่นี่มันเลี่ยงค่อนข้างลำบาก จะทานแต่เนื้อไก่ ซีฟู๊ด ทั้งปีทั้งชาติ มันก็คงจะไม่ได้ ดูซ้ำซากจำเจ และก็ถ้าทานอะไรที่ซ้ำๆกันเป็นเวลานานจะไม่ดี กลับตรงข้ามได้รับเป็นสารพิษแทน จากที่คิดว่าจะได้โปรตีน แต่ถ้าวันไหนตัวเองทานเนื้อ ไก่ ก็จะหยุดสัปดาห์ เว้นสัปดาห์ เน้นผักให้มาก หรือลดปริมาณการทานเนื้อ เลยค่ะ จะไม่ทานเนื้อต่อเนื่อง แต่การทำอาหารกับเนื้อ ยังทำเป็นประจำสำหรับพ่อบ้าน ถ้าอาหารไม่มีเนื้อ เขาแทบจะไม่ทานเลยค่ะ เพราะว่าเขาจำกัดกับผัก ด้วย ไม่ชอบทานผัก เหมือนกันกับเรา เมนูนี้เป็นเมนูแรกในต่างแดนที่ตัวเอง ได้ลองทานเนื้อค่ะ ขอบอกว่าไม่ได้ แฮปปี้ ค่ะ เนื่องจากร่างกายเราไม่ทานอยู่แล้ว มาทานเห็นได้อย่างชัดเจน รู้สึกแน่น จุกเสียด เนื่องจากลำไส้ ย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ค่อนข้างลำบาก และก็ระบบขับถ่ายเปลี่ยนไป ค่ะ พูดมายาวมากมาย ขอเริ่มเมนูแรก beef tenderloin steak อยากทานสเต็กที่อร่อย ต้องเป็น สเต็กจาก kobe beef ของญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งพ่อบ้านเขาชอบมากเลยหล่ะ เราเคยแต่ชิมค่ะ เนื้อ kobe beef จากญี่ปุ่นจะทำสเต็กอร่อย เพราะว่า เขาขุนวัวให้ทานอย่างกับพระราชา ก่อนฆ่า แต่ราคาก็ใช่ว่าถูกกว่าเนื้อวัว ในอเมริกา ราคาค่อนข้างแพงค่ะแต่ถ้าเทียบกับความอร่อย แพงเท่าไหร่ก็ยอม ถ้าคนที่ชอบทานเนื้อสเต็ก ส่วนผสม 2 lb beef tenderloin 2 tbs. onion soup mix (Liptons) 1/2 cup dry white wine 1/4 cup soy sauce 2 tbs. brown sugar onion soup mix (Liptons) ทานคนเดียว ก็เลยตัดแบ่งออกมา เพียงครึ่งหนึ่งของชิ้นใหญ่ค่ะ ในรูปคือหลังจากหมักทิ้งไว้ 1 คืน มาทำอีกวัน ค่ะ วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดกับเนื้อวัวลงในพลาสติกแบ็ค ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง กับอุณหภูมิห้อง หรือ ทิ้งไว้ทั้งคืนค่ะ อยากแนะนำทิ้งไว้ทั้งคืน รับรองไม่ผิดหวัง อร่อยมากๆ ขอบอก อิอิ 2. นำเนื้อออกจากพลาสติกแบ็ค วางในตะแกรงที่รองกับถาดอบ ค่ะ แล้วนำเข้า อบ 425 ฟาเรนไฮส์ 45-50 นาที เวลาอบ แล้วแต่คนชอบด้วยค่ะว่า อยากได้ความสุข แบบไหน สุกมากสุกน้อยแล้วแต่คนทานชอบ raw ,rare ,medium rare, medium, medium well done, welldone. * เมนูสเต็กนี้ทานกับ wild rice , scalloped potatoes , asparagus ค่ะ Scalloped Potatoes ส่วนผสม 1 (10.75 ounce) can condensed cheddar cheese soup (Creme of Mushroom) 1/2 cup chopped onion 4 large baking potatoes, scrubbed 1/2 cup shredded cheddar cheese freshly ground black pepper Creme of Mushroom soup วิธีทำ 1. เปิดเตาอบปรับ อุณหภูมิ ที่ 375 ฟาเรนไฮส์ หรือ (190 เซลเซียส) ทาเนยให้ทั่วภาชนะที่ใช้สำหรับอบ ค่ะ 2. อีกชาม ผสม cheddar chesses soup เราใช้เป็น creme of mushroom soup ,onions ,black pepper 3. นำมันฝรั่งที่เราหั่นเป็นชิ้นบางๆวางกับภาชนะที่เราได้ทาเนยก่อนหน้านั้น แล้วราดด้วย creme of mushroom soup เป็นเสร็จสำหรับชั้นแรก 4. ทำเหมือนข้อ 3 ไปเรื่อยค่ะ จนส่วนผสมหมด แล้วไปที่ ข้อ 5 5. โรยหน้าด้วย cheddar cheese 6. นำเข้าอบ ประมาณ 45-60 นาทีค่ะ แล้วนำออกจากเตา เสริ์ฟ * Scalloped Potatoes เมนูนี้เราชอบเลยค่ะ อร่อยดี ปกติอาหารฝรั่งถ้าเราได้ลองชิมแล้ว เราจะทานไม่เคยหมดเลยค่ะ (เสียของ) แต่เมนูนี้เราทานหมดจานเลยหล่ะ อรอ่ยดี อิอิ ไก่ห่อชีส เป็นเมนูที่ของตัวเองค่ะ ส่วนผสม 4 chicken breast 1 (8 oz.) pkg. solf cream cheese with chive &onion 1 cup bread crumbs 1 tsp. garlic powder 1/2 tsp. basil and oregano 2 tsp. grated Parmesan cheese 1 egg 1/4 salt black pepper solf cream cheese with chive &onion วิธีทำ 1. นำเนื้อที่ได้จากการรทุบเนื้ออกไก่ จนเป็นแผ่นบางแล้ว นำ เนื้อไปวางในกระดาษแว็กค่ะ 2. เสร็จแล้ว นำชีสทาลงไปที่เนื้อให้ทั่ว แต่เหลือขอบไว้ ประมาณ ครึ่งนิ้ว สำหรับไว้กลัดเนื้อค่ะ แล้วโรยด้วย salt, garlic power , oregano blackpaper,grated parmesan cheese 3. เสร็จแล้วม้วน เหมือนเราม้วนโรลนะค่ะ และก็กลัดด้วยไม้จิ้มฟัน 4. นำไก่ที่ม้วนแล้วไปกลิ้งกับแป้งอเนกประสงค์ ต่อด้วยจุ่มไข่ แล้วก็ เศษขนมปัง นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อน ยกลง 5. ใส่ภาชนะสำหรับอบค่ะ นำเข้าไมโครเวฟ อบ ที่ 350 ฟาเรนไฮน์ ประมาณ 20 นาที อโวคาโด ประดับ เพราะว่าชอบมากมาย *parmesan cheese จะโรยด้วยกันก่อนกลัดไม้กลัด หรือโรยหลังจากกลัดก่อนนำเข้าอบ แล้วแต่ชอบ ปรับสูตรตามความชอบของตัวเองนะค่ะ ถ้าไม่ชอบทอด ก็นำเข้าเตาอบไปเลยค่ะแต่อบ ที่อุณหภูมิ 375 degrees for 40-50 นาที ค่ะ   Create Date : 28 เมษายน 2552     Last Update : 20 มิถุนายน 2552 9:35:33 น. Counter : 1473 Pageviews.   Share Tweet