ดำรงชีวิตโดยพระคริสต์ ดำรงชีวิตโดยพระคริสต์ โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร – ๑ ยน. ๔:๙ พระเยซูเสด็จเข้ามาในโลก ไม่ใช่เพื่อจะตั้งศาสนาคริสต์และเป็นศาสดา ถ้าเช่นนั้น พระองค์เสด็จมาเพื่ออะไร พระเยซูตรัสว่า “เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้อย่างครบบริบูรณ์” (ยน. ๑๐:๑๐) ชีวิตที่พระเยซูเสด็จมาประทาน เป็นมากกว่าชีวิตที่มีลมหายใจบนโลก พระองค์เสด็จมาประทานชีวิตนิรันดร์ “เพื่อทุกคนที่วางใจในพระองค์จะได้ชีวิตนิรันดร์” (ยน. ๓:๑๕) ชีวิตนิรันดร์ไม่ได้เริ่มต้นวันที่คุณจากโลกนี้ แต่เริ่มต้นวันที่คุณวางใจในพระองค์ คุณไม่ได้จากโลกนี้เพื่อเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ แต่ชีวิตนิรันดร์ได้เข้ามาอยู่ภายในคุณในชีวิตนี้ เช่นเดียวกับน้ำที่คุณดื่มเข้าไปภายในร่างกายคุณ คุณดื่มชีวิตนิรันดร์เข้าไปภายในวิญญาณของคุณ พระเยซูตรัสว่า “แต่ผู้ที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้น จะไม่กระหายอีกเลย น้ำซึ่งเราจะให้เขานั้น จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยน. ๔:๑๔) ชีวิตที่พระเยซูเสด็จมาประทานคือชีวิตเดียวกันกับที่พระบิดาและพระองค์ทรงมีในพระองค์ “เพราะว่าพระบิดาทรงมีชีวิตในพระองค์เองฉันใด พระองค์ก็ได้ทรงประทานให้พระบุตรมีชีวิตในพระองค์ฉันนั้น” (ยน. ๕:๒๖) เมื่อคุณรับชีวิตของพระองค์ คุณได้รับสภาพของพระองค์ไว้ภายใน “ผู้ใดบังเกิดจากพระเจ้า ...สภาพของพระเจ้าดำรงอยู่กับผู้นั้น...” (๑ ยน. ๓:๙) สภาพภายในของคุณถูกสร้างขึ้นใหม่หมดตามแบบอย่างของพระองค์ เมื่อคุณได้รับชีวิตจากพระองค์ คุณได้รับความสว่างจากพระองค์ “พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์” (ยน. ๑:๔) และความสว่างนี้อยู่ในหัวใจหรือวิญญาณของคุณ “เพราะว่าพระเจ้าองค์นั้นผู้ได้ตรัสสั่งให้ความสว่างออกมาจากความมืด ได้ทรงส่องสว่างเข้ามาในจิตใจ (หัวใจ) ของเรา เพื่อให้เรามีความสว่างแห่งความรู้ถึงพระสิริของพระเจ้า ปรากฏในพระพักตร์ของพระคริสต์” (๒ คร. ๔:๖) เพราะภายในคุณไม่ใช่คุณคนเดิมอีกต่อไป พระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณดำเนินชีวิตใหม่วันนี้ พระองค์ทรงประสงค์ให้คุณดำเนินชีวิตอยู่ในความสว่าง เพราะเป็นทางเดียวที่คุณจะร่วมสามัคคีธรรมอย่างใกล้ชิดกับพระองค์และที่คุณจะดำเนินชีวิตโดยปราศจากบาปทั้งสิ้น “แต่ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง เราก็ร่วมสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น” (๑ ยน. ๑:๗) คุณอาจมีคำถามว่า จะดำเนินชีวิตอยู่ในความสว่างได้อย่างไร คุณอาจมีคำถามต่อไปว่า การดำเนินชีวิตอยู่ในความสว่างหมายถึง การกลับบ้านก่อนตะวันตกดิน รีบเข้านอนทันทีที่ตะวันตกดิน ตื่นตอนตะวันขึ้น และช่วงกลางวันให้หลีกเลี่ยงสถานที่ซึ่งแสงสว่างส่องไม่ถึงหรือไม่ คุณดำเนินชีวิตในความสว่างได้โดยดำเนินชีวิตในความรัก “ผู้ใดที่กล่าวว่าตนอยู่ในความสว่าง และยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็ยังอยู่ในความมืด ผู้ที่รักพี่น้องของตนก็อยู่ในความสว่าง และในความสว่างนั้นไม่มีอะไรที่จะทำให้สะดุด” (๑ ยน. ๒:๙-๑๐) ดังนั้น แม้จะดึกดื่นเพียงไร คุณก็ยังสามารถดำเนินในความสว่างได้อยู่ดี ยอห์นผู้บันทึกข้อพระคัมภีร์หลักวันนี้เคยเป็นคนโมโหร้ายขนาดพร้อมที่จะสังหารคนทั้งหมู่บ้าน (ลก. ๙:๕๔) แต่ภายหลังเมื่อท่านได้รับชีวิตนิรันดร์จากพระเยซู ท่านกลายเป็นสาวกที่เน้นหนักเรื่องการดำเนินชีวิตในความรักของพระเจ้า ตัดสินใจวันนี้ที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในความสว่าง ในความรัก แล้วชีวิตฝ่ายวิญญาณของคุณจะเติบโต คุณจะมีสามัคคีธรรมอย่างใกล้ชิดกับพระเจ้า คุณจะดำเนินชีวิตปราศจากบาปทั้งสิ้น และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่ข้าพเจ้า คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อข้าพเจ้าจะได้ดำรงชีวิตใหม่ ชีวิตนิรันดร์ ชีวิตในความสว่าง ชีวิตในความรัก ชีวิตอย่างที่พระเจ้ามี โดยพระบุตร   Create Date : 17 มิถุนายน 2551     3 comment Last Update : 17 มิถุนายน 2551 18:03:11 น.     Counter : 634 Pageviews.   Share Tweet

รับการช่วยกู้ให้รอดโดยพระบุตร รับการช่วยกู้ให้รอดโดยพระบุตร เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอดโดยพระบุตรนั้น - ยน. ๓:๑๗ ตลอดมาพระเจ้าถูกมองว่าดุร้าย ทารุณ และทรงอยู่เบื้องหลังของสิ่งเลวร้ายทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต พระนามของพระเจ้าถูกนำมาใช้ขู่เด็กตลอดมาว่า “ถ้าไม่ทำการบ้านให้เสร็จ พระเจ้าจะลงโทษ” เราคงเคยได้ยินข่าวเรื่องบริษัทเงินกู้ส่งตัวแทนมาทำร้ายร่างกายลูกหนี้ หากพระเจ้าทรงเป็นเช่นคำขู่เด็ก พระองค์คงได้ทรงให้พระบุตรในฐานะผู้แทนเข้ามาทำร้ายร่างกายคนในโลก พระบุตรคงได้วางพระหัตถ์บนคนทั้งหลายทำให้คนเหล่านั้นตาบอด หูหนวก เป็นไบ้ เป็นง่อย และบางคนสิ้นชีพทันทีที่ถอนพระหัตถ์ออก นอกจากนั้นพระองค์คงได้ทรงเรียกพายุเข้ามาทำลายเมือง แต่พระคัมภีร์บันทึกสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดดังกล่าว เพราะพระเยซูได้เสด็จมาวางพระหัตถ์บนคนทั้งหลายทำให้คนตาบอดมองเห็น คนหูหนวกได้ยิน คนเป็นไบ้พูดได้ คนง่อยเดินได้ และคนตายฟื้น นอกจากนั้นพระองค์ทรงห้ามพายุที่กำลังทำลายชีวิตมนุษย์ ความจริงคือ พระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษโลก แต่เพื่อช่วยกู้โลกให้รอด พระองค์ทรงช่วยกู้อย่างไร พระเยซูตรัสว่า “โมเสสได้ยกงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น” (ข้อ ๑๔) เมี่อพระเจ้าบัญชาให้โมเสสนำชาวอิสราเอลออกมาจากอียิปต์ ก่อนจะเข้าครอบครองแผ่นดินคานาอัน พวกเขาต้องเดินทางผ่านทะเลทราย พระองค์ทรงปกป้องพวกเขาอย่างอัศจรรย์ คนนับล้านเดินในถิ่นทุรกันดารโดยที่ไม่ถูกงูกัดเลยสักคน แต่พวกเขาแทนที่จะขอบคุณพระเจ้า กลับบ่นต่อว่าและอยากตาย พวกเขาไม่ต้องการพระเจ้าในชีวิตของพวกเขา พวกเขาปฏิเสธการปกป้องของพระองค์ งูจึงสามารถกัดพวกเขาได้ พระเจ้าทรงให้โมเสสทำงูตัวหนึ่งติดไว้ที่เสา โมเสสทำงูทองสัมฤทธิ์ขึ้นมา ติดไว้ที่เสา เพื่อทุกคนที่ถูกงูกัด เมื่อเขามองดู เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ (กดว. ๒๑:๔-๙) “บุตรมนุษย์จะต้องถูกยกขึ้น” เช่นเดียวกับงูที่โมเสสยกขึ้น พระองค์หมายความว่าอะไร พระเยซูตรัสอีกครั้งว่า “’เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราก็จะชักนำคนเป็นอันมากให้มาหาเรา’ พระองค์ตรัสเช่นนั้น เพื่อสำแดงว่า พระองค์จะสิ้นพระชนม์อย่างไร” (ยน. ๑๒:๓๒-๓๓) พระองค์ทรงหมายถึง ในไม่ช้า พระองค์จะถูกตรึงบนไม้กางเขน งูบนเสาเป็นแบบและเงาของพระราชกิจของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน งูเป็นสัญลักษณ์ของบาป เพราะเหตุใดพระเยซูทรงเปรียบงูบนเสากับพระองค์บนไม้กางเขน เพราะบนไม้กางเขนพระเยซูทรงรับแบกบาปของคนทั้งโลกไว้ “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปของเราไว้ในพระกายของพระองค์ ที่ต้นไม้นั้น” (๑ ปต. ๒:๒๔) เพื่อให้คุณไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยน. ๓:๑๕-๑๖) เพราะงูบนเสาเป็นเพียงแบบและเงาของพระราชกิจของพระเยซูบนไม้กางเขน ผลของการมองงูวันนั้นจึงไม่สามารถเทียบกับผลของการมองพระเยซูคริสต์วันนี้ ผู้ที่มองงูบนเสาวันนั้นจะมีชีวิตบนโลกต่อไป ผู้ที่มองพระเยซูวันนี้จะมีชีวิตตลอดนิรันดร์ นอกจากนั้น บนไม้กางเขน พระเยซูไม่เพียงแบกบาปของเราไปเท่านั้น พระองค์ได้ทรง “แบกความเจ็บไข้ของเราทั้งหลาย และหอบโรคของเราไป” (มธ. ๘:๑๗) บนไม้กางเขน พระเยซูไม่เพียงทำให้เรา “ตายจากบาปได้ และดำเนินชีวิตตามคลองธรรม” เท่านั้น แต่ “ด้วยบาดแผลของพระองค์ ท่านทั้งหลายจึงได้รับการรักษาให้หาย” (๑ ปต. ๒:๒๔) เลิกหวาดผวาได้แล้วว่าวันนี้พระองค์จะทรงกระทำให้คุณเจ็บป่วยเพราะไม่ทำการบ้าน จงดำเนินอยู่ในความรักของพระองค์ ไม่ว่าคุณกำลังเผชิญกับปัญหาใด จงมองที่องค์พระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเป็นทางออกให้กับคุณ แล้วคุณจะมีประสบการณ์กับชีวิตนิรันดร์และชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: เพราะว่าพระเจ้าทรงให้พระบุตรเข้ามาในโลก มิใช่เพื่อพิพากษาลงโทษข้าพเจ้า แต่เพื่อช่วยกู้ข้าพเจ้าให้รอดโดยพระบุตรนั้น   Create Date : 09 มิถุนายน 2551     1 comment Last Update : 9 มิถุนายน 2551 17:31:05 น.     Counter : 473 Pageviews.   Share Tweet

ผจญทุกสิ่งได้โดยพระคริสต์ สามารถกระทำทุกสิ่งได้โดยพระคริสต์ ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า – ฟป. ๔:๑๓ พระเจ้าทรงฤทธานุภาพ นั่นหมายความว่า พระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง “ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง" (มธ. ๑๙:๒๖) ตั้งแต่วันที่คุณเชื่อ คุณมีพระเจ้าผู้ทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่งอยู่ในชีวิตคุณ สิ่งใดที่เป็นอุปสรรคในชีวิตคุณ เหลือกำลังที่คุณจะทำได้ พระองค์ทรงสามารถกระทำให้สำเร็จได้ พระองค์ทรงสร้างคุณขึ้นใหม่ตามอย่างตามพระฉายาของพระองค์ ทรงสร้างคุณให้มีชัยเหลือล้น ทรงประทานสิทธิอำนาจและฤทธิ์เดชอันมหันต์ไว้ภายในคุณ และพระองค์ผู้ทรงอยู่ภายในคุณนั้นเป็นใหญ่กว่าผู้นั้นที่อยู่ในโลก หากเปรียบคุณกับรถ ไม่ว่าสภาพภายนอกคุณจะเป็นอย่างไร ภายในคุณมีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล คุณเป็นรถยนต์ที่ลงเครื่องใหม่หมด อดีตคุณอาจสตาร์ทไม่ค่อยติด ต้องเข็นกันจนเหนื่อยก่อน แต่เพราะเวลานี้ภายในคุณอัดแน่นไปด้วยเครื่องยนต์แรงม้าสูงสุด คุณจึงสามารถทำทุกสิ่งที่คุณไม่เคยทำได้มาก่อน คุณเป็นรถที่เร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เพียงที่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกอย่าง พระองค์ทรงเรียกคุณให้กระทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พระองค์จึงทรงเสริมกำลังของพระองค์จากภายในคุณให้ทำให้สำเร็จได้ทุกอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่กล่าวมานี้จะไม่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติกับทุกคน พระเยซูตรัสว่า “ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง" (มก. ๙:๒๓) หรือ “ถ้าเจ้าสามารถเชื่อ ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับผู้ที่เชื่อ” พระเยซูตรัสกับบิดาคนหนึ่งที่อ้อนวอนพระองค์ให้ทำสิ่งที่เหลือกำลังมนุษย์ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือรักษาบุตรของตนที่ถูกผีเข้า เขาทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านสามารถช่วยได้ ขอท่านโปรดกรุณาเถิด” คนมากมายมองแต่ความสามารถของพระเจ้าเพื่อจะกระทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรความสามารถของเราที่จะเชื่อ พระเยซูตรัสกับชายคนนั้นว่า ถ้า “เจ้าสามารถ” เชื่อ ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับผู้เชื่อ หากคุณเชื่อ ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับคุณเช่นกัน นั่นหมายความว่า หากคุณสงสัย ทุกสิ่งก็จะเป็นไปไม่ได้สำหรับคุณต่อไป ไม่เพียงที่พระเยซูได้ทรงกระทำสิ่งที่เหลือกำลังมนุษย์และเป็นไปไม่ได้มากมาย ซึ่งหนึ่งในพันธกิจของพระองค์คือ ทรงวางพระหัตถ์รักษาคนเจ็บป่วย พระองค์ได้ตรัสกับทุกคนที่เชื่อในพระองค์ว่า “ผู้ที่วางใจในเราจะกระทำกิจการซึ่งเราได้กระทำนั้นด้วย” (ยน. ๑๔:๑๒) ไม่เพียงที่พระองค์ทรงใช้สาวกของพระองค์ไปกระทำกิจการของพระองค์ พระองค์ตรัสกับทุกคนที่เชื่อพระองค์ว่า “มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือ... โดยนามของเรา ...เขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค" (มก. ๑๖:๑๗-๑๘) จากพระธรรมข้อหลักของเราวันนี้ อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าผจญได้ทุกสิ่ง” คำว่า “ผจญ” ในข้อนี้คือ “สามารถกระทำ” แม้อัครทูตเปาโลต้องเผชิญกับสถานการณ์ร้ายๆ ต่างๆ แต่เพราะท่านเชื่อในพระองค์ผู้ทรงอยู่ในท่านซึ่งเป็นใหญ่กว่าผู้นั้นที่อยู่ในโลก เชื่อในสิทธิอำนาจและฤทธิ์เดชอันมหันต์ซึ่งอยู่ภายใน เชื่อในพระคริสต์ผู้ทรงเสริมกำลังท่าน ท่านจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าสามารถกระทำทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” คุณคือผู้รับใช้ของพระเจ้า ไม่ว่าคุณจะรับใช้เต็มเวลาหรือเป็นอาสาสมัครซึ่งทำงานอาชีพต่างๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขนาดไหน คุณสามารถกระทำทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกให้คุณกระทำได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังคุณ ตัดสินใจวันนี้ที่จะเชื่อและวางใจพระองค์และพระวจนะของพระองค์ จงกล่าวอย่างเปาโลว่าคุณทำได้ แล้วสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และเหลือกำลังของคุณจะเป็นไปได้สำหรับคุณ คุณจะได้กระทำกิจการของพระคริสต์ และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ คำกล่าวด้วยความเชื่อ: ข้าพเจ้าสามารถกระทำทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า   Create Date : 02 มิถุนายน 2551     1 comment Last Update : 2 มิถุนายน 2551 9:51:19 น.     Counter : 1169 Pageviews.   Share Tweet

มีชัยเหลือล้นโดยพระคริสต์ มีชัยเหลือล้นโดยพระคริสต์ แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย - โรม ๘:๓๗ พระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณมีชัยชนะทุกด้านในชีวิต หากวันนี้คุณกำลังเผชิญกับปัญหาใดอยู่ก็ตาม อย่ามองว่านั่นคือสภาพที่คุณต้องทนทุกข์ไปตลอดชีวิต อย่ามองว่าคุณเกิดมาเพื่อเป็นผู้แพ้ การเป็นผู้ชนะ ไม่ได้หมายความถึงการมีชีวิตที่ปราศจากปัญหาใดใดทั้งสิ้น พระธรรมข้อหลักของเราวันนี้กล่าวถึงการมีชัยเหลือล้น “ใน” เหตุการณ์ร้ายทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็น “ความทุกข์ หรือความยากลำบาก การเคี่ยวเข็ญ...” (ข้อ ๓๕) พระเจ้าไม่เคยสัญญาชีวิตที่ปราศจากปัญหา พระเยซูตรัสว่า “...ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว" (ยน. ๑๖:๓๓) หากวันนี้คุณประสบปัญหา อย่าเข้าใจว่าคุณเป็นคนโชคร้ายหนึ่งในล้าน ไม่มีใครมีปัญหาแบบคุณ ไม่มีใครเข้าใจคุณ พระคัมภีร์กล่าวว่า “พวกพี่น้องทั้งหลายของท่านทั่วโลกก็ประสบความทุกข์ลำบากอย่างเดียวกัน” (๑ ปต. ๕:๙) ในพระคริสต์ คุณถูกสร้างขึ้นใหม่ตามอย่างตามพระฉายาของพระองค์ คุณจึงไม่ใช่ผู้แพ้อีกต่อไป เพราะคุณถูกสร้างตามอย่างตามพระฉายาของพระเจ้า จึงไม่ได้มีแต่เพียงพระเยซูเท่านั้นที่ได้ทรงชนะโลก ทุกคนที่บังเกิดจากพระองค์ก็ชนะโลกเช่นเดียวกัน (๑ ยน. ๕:๔-๕) และความเชื่อของคุณคือชัยชนะที่ชนะโลก (๑ ยน. ๕:๔) มารคือต้นเหตุของความทุกข์ลำบากของพี่น้องทั่วโลก แต่โดยความเชื่อ เมื่อคุณต่อต้านมัน คุณจะทนได้ ปัญหาจะสิ้นสุดลง พระเจ้าจะทรงโปรดปรับปรุงคุณให้มั่นคง และคุณจะมีกำลังขึ้น (๑ ปต. ๕:๘-๑๐) และมารจะหนีคุณไปด้วยความกลัว (ยก. ๔:๗) ไม่ว่าคุณจะมองตนเองเป็นผู้แพ้และมีประสบการณ์กับความพ่ายแพ้มายาวนานเพียงใด วันนี้คุณสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับตนเองใหม่และมีประสบการณ์กับชัยชนะได้ พระคัมภีร์กล่าวถึงชายอิสราเอลคนหนึ่งที่ชื่อ กิเดโอน ชีวิตท่านกำลังอยู่ในเหตุการณ์ที่ร้ายที่สุด ชาวมีเดียนยกทัพรุกรานอิสราเอล แต่ในขณะที่ท่านอยู่อย่างขาดกลัว หลบซ่อนและดูถูกตัวเอง พระเจ้าทรงเรียกท่านว่า “เจ้าบุรุษผู้กล้าหาญเอ๋ย” (วนฉ. ๖:๑๒) นับจากวันนั้นที่พระเจ้าได้ตรัสกับกิเดโอน ชีวิตของท่านไม่เหมือนเดิม มุมมองชีวิตของท่านเปลี่ยน โดยความเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า ท่านมีชัยอย่างเหลือล้น และทั้งแผ่นดินก็กลับสู่ความสงบ (วนฉ. ๘:๒๘) หากคุณกำลังอยู่ในสภาพของกิเดโอนผู้ขลาดกลัว พ่ายแพ้และไม่เห็นอนาคต ทราบเถิดว่าเวลานี้พระเจ้ากำลังทรงเรียกคุณว่า “ผู้มีชัยเหลือล้น” ตัดสินใจวันนี้ที่จะให้พระวจนะเปลี่ยนมุมมองชีวิตของคุณใหม่ ไม่ว่าจะค้านความคิดเห็น อารมณ์และความรู้สึกของคุณเพียงใด ไม่ว่าสถานการณ์ในชีวิตจะย่ำแย่ขนาดไหน คุณมีชัยเหลือล้นแล้วโดยพระองค์ผู้ทรงรักคุณ อย่ารอให้พ้นจากปัญหาก่อนแล้วค่อยมองตนเองเป็นผู้ชนะ เพราะวันนั้นจะไม่มีวันมาถึง แต่จงดำเนินโดยความเชื่อ จงมองและกล่าวว่าตนมีชัยอย่างเหลือล้นขณะที่กำลังอยู่ในเหตุการณ์ร้ายๆ แล้วคุณจะมีประสบการณ์อย่างกิเดโอน คุณจะก้าวสู่ชัยชนะทุกด้านในชีวิตของคุณอย่างอัศจรรย์ และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ คำกล่าวตามด้วยความเชื่อ: แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ข้าพเจ้ามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า   Create Date : 26 พฤษภาคม 2551     1 comment Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 14:46:34 น.     Counter : 673 Pageviews.   Share Tweet

เป็นคนชอบธรรมเพราะพระคริสต์ เป็นคนชอบธรรมเพราะพระคริสต์ เพราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนบาป เพราะคนคนเดียวที่มิได้เชื่อฟังฉันใด คนเป็นอันมากก็เป็นคนชอบธรรม เพราะพระองค์ผู้เดียวที่ได้ทรงเชื่อฟังฉันนั้น - โรม ๕:๑๙ ทราบไหมว่าสิ่งที่คนหนึ่งทำย่อมส่งผลกระทบถึงอีกบุคคลหนึ่ง แต่มีอยู่สองบุคคลที่การกระทำของเขาทั้งสองส่งผลกระทบถึงทุกคน การไม่เชื่อฟังของอาดัมกระทำให้คนเป็นอันมากเป็นคนบาป ส่วนการเชื่อฟังของพระคริสต์กระทำให้คนเป็นอันมากเป็นคนชอบธรรม ความชอบธรรมที่คุณได้รับโดยความเชื่อนั้นมาจากพระเจ้า และเป็นของพระองค์ จึงไม่ขึ้นหรือลงตามการดำเนินชีวิตของคุณ ทราบอย่างนี้แล้วไม่ได้หมายความว่าคุณจะดำเนินชีวิตอย่างไรก็ได้ พระคัมภีร์เต็มไปด้วยคำสอนให้เราดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม และเพราะคุณยังต้องรับผลของการดำเนินชีวิตของคุณต่อไป ไม่ว่าจะผลดีจากการเชื่อฟัง หรือผลร้ายจากการไม่เชื่อฟัง (รม. ๖:๑๖) พระคัมภีร์เตือนเราว่า อย่าให้โอกาสมารเข้ามาลัก ฆ่าและทำลายชีวิตของเรา การเชื่อฟังเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ต้องนอบน้อมใจลง ต้องอดทนกับความทุกข์ลำบาก (ฮบ. ๕:๘-๙) อาจจะไม่สะดวกนักที่จะอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ หรือประพฤติตามคำสอนในพระคัมภีร์ แต่หากคุณเรียนรู้ นอบน้อมใจลง อดทน และเชื่อฟัง คุณจะได้รับผลเกินคุ้มอย่างแน่นอน อุปสรรคต่อการเชื่อฟังอยู่ระหว่างหูทั้งสองข้างของคุณ คือความคิดที่ก่อตัวขึ้นเป็นป้อมปราการอยู่ในจิตใจของคุณคอยขัดขวางพระวจนะของพระเจ้า (๒ คร. ๑๐:๕) อุปสรรคต่อมาคือเนื้อหนังของคุณ ตราบใดก็ตามที่คุณไม่ทำลายความคิดเหล่านั้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า ไม่เสริมสร้างวิญญาณของคุณให้เติบโตและแข็งแกร่งพอที่จะบังคับเนื้อหนังของคุณ ต่อให้ผู้มีชื่อเสียงทั่วโลกเรียงแถวกันวางมือบนคุณ ขับไล่วิญญาณชั่ว เอาแส้เฆี่ยน ต่อให้คุณอาเจียนจนเหลือแต่ลม พอฟื้นตัว จิตที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงและเนื้อหนังที่ไม่ถูกบังคับก็จะครอบงำวิญญาณคุณต่อไป คุณจะกลับไปเหมือนเดิมทุกอย่าง และนี่คือสภาพของหลายคนที่คุณอาจเคยพบเจอ หรือกำลังพบเจออยู่ในปัจจุบัน แม้คุณจะไม่รอดหรือชอบธรรมเพราะการประพฤติดี แต่เมื่อคุณรอดและชอบธรรมแล้ว ทรงประสงค์ให้คุณประพฤติด้วยความเชื่อฟัง ซึ่งจะส่งผลให้คุณได้รับสิ่งดีๆ อีกมากมายที่พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้เพื่อคุณ เมื่อคุณดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อฟัง จิตใจของคุณจะได้รับการชำระ (๑ ปต. ๑:๒๒) ความคิด คำพูดและการกระทำของคุณจะบริสุทธิ์ในสายพระเนตรของพระเจ้า (๑ ปต. ๑:๑๔-๑๖) ความรักของคุณจะเจริญเติบโต คุณจะดำเนินชีวิตด้วยความชอบธรรม คุณจะมีชัยชนะเหนือบาปและผลของบาปที่เคยครอบงำคุณตลอดมา และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ คำกล่าวด้วยความเชื่อ: เพราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนบาป เพราะคนคนเดียวที่มิได้เชื่อฟังฉันใด ข้าพเจ้าก็เป็นคนชอบธรรม เพราะพระองค์ผู้เดียวที่ได้ทรงเชื่อฟังฉันนั้น   Create Date : 18 พฤษภาคม 2551     4 comment Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 17:50:01 น.     Counter : 643 Pageviews.   Share Tweet