ที่ๆ คุณสามารถพบว่าคุณเป็นใคร มีสิ่งใดและทำสิ่งใดได้ในพระคริสต์
 
 

กลับใจต้อนรับปีใหม่ (คริสเตียน)



กลับใจใหม่


แต่ข้าพระบาทได้กล่าวสั่งสอนเขา ตั้งต้นที่เมืองดามัสกัส และในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแว่นแคว้นยูเดียและแก่ชาวต่างประเทศ ให้เขากลับใจใหม่ ให้หันมาหาพระเจ้า และกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจใหม่แล้ว – กจ. ๒๖:๒๐

ใกล้เริ่มต้นปีใหม่ คนนับล้านทั่วโลกต่างพากันตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ เลิกทำชั่ว คนส่วนใหญ่ตื่นเต้นกับความสำเร็จได้ไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงก็หันกลับสู่ชีวิตเดิม

เรื่องกลับใจใหม่คือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคริสเตียนทุกคน จากพระธรรมข้อหลัก อัครทูตเปาโลกล่าวถึงจุดประสงค์ในการประกาศข่าวประเสริฐของท่าน คือให้คนทั้งหลาย “กลับใจใหม่ ให้หันมาหาพระเจ้าและกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจ”

สำหรับคริสเตียน การตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ไม่จำเป็นต้องรอวันปีใหม่ เพื่อที่จะล้มเหลวภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วต้องรออีกสามร้อยหกสิบสี่วันเพื่อจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง พระเจ้าทรงประสงค์ให้เรากลับใจตลอดวันเวลาในชีวิตของเรา

คำว่า “กลับใจ” ยังหมายถึงการ “เปลี่ยนแปลงความคิด” ตราบใดที่คุณยังไม่เปลี่ยนแปลงความคิด การกลับใจที่แท้จริงจะยังไม่เกิดขึ้น

พระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณเปลี่ยนแปลงความคิดของคุณเสียใหม่ “อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม” (รม. ๑๒:๒)

การกลับใจไม่ใช่การหันออกจากทางเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นการหันมาหาพระเจ้า หลายคนพยายามกลับใจโดยไม่หันมาหาพระเจ้า จึงเหลือเพียงกำลังของตนเองและลงเอยกลับไปเดินทางเก่าภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง

การกลับใจอย่างแท้จริง นอกจากเป็นการออกจากทางเก่า หันเข้าหาพระเจ้าแล้ว ยังต้องมีการกระทำซึ่งสมกับที่กลับใจด้วย

ในพระธรรมวิวรณ์ พระเยซูทรงกำชับให้เรากลับใจเสียใหม่ หันมาหาพระเจ้า และกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจใหม่แล้ว

พระองค์ตรัสว่า “แต่เรามีข้อที่จะต่อว่าเจ้าบ้าง คือว่าเจ้าละทิ้งความรักดั้งเดิมของเจ้า เหตุฉะนั้นจงระลึกถึงสภาพเดิมที่เจ้าได้หล่นจากมาแล้วนั้น จงกลับใจเสียใหม่และประพฤติตามอย่างเดิม มิฉะนั้นเราจะมาหาเจ้า และจะยกคันประทีปของเจ้าออกจากที่ เว้นไว้แต่เจ้าจะกลับใจใหม่” (วว. ๒:๔)

เป็นไปได้ที่คุณจะยังคงเข้าร่วมประชุมสม่ำเสมอ เข้าร่วมทุกกิจกรรม รับใช้พระเจ้าและมีตำแหน่งรับผิดชอบสูงในคริสตจักร แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคิด ไม่เปลี่ยนแปลงการกระทำ นับวันคุณยิ่งหล่นจากสภาพเดิม หล่นจากความรักดั้งเดิมที่คุณเคยมีให้กับพระองค์ การกลับใจอย่างแท้จริงจะนำคุณกลับสู่สภาพเดิมและดำเนินชีวิตด้วยความรักที่เคยมีกับพระองค์

พระองค์ตรัสต่อไปว่า “เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้า เจ้าได้ชื่อว่ามีชีวิตอยู่ แต่ว่าเจ้าได้ตายเสียแล้ว เจ้าจงตื่นขึ้นและกระตุ้นส่วนที่เหลืออยู่ ซึ่งจวนจะตายอยู่แล้วนั้นให้แข็งแรงขึ้น เพราะว่า เราไม่พบการประพฤติของเจ้าที่ดีพร้อมในสายพระเนตรของพระเจ้า เหตุฉะนั้นเจ้าจงระลึกว่าเจ้าได้รับและได้ยินอะไร จงกระทำตามและกลับใจเสียใหม่” (วว. ๓:๑-๓)

เป็นไปได้ที่คนภายนอกจะมองว่าคุณกำลังดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณ ในขณะที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น คุณรู้ตัวว่าคุณกำลังหมดเรี่ยวแรง การกลับใจอย่างแท้จริงจะนำคุณกลับมาดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณและฟื้นกำลังขึ้นใหม่

พระองค์ตรัสต่อไปอีกว่า “'เรารู้จักแนวการกระทำของเจ้า เจ้าไม่เย็นไม่ร้อน... เจ้าพูดว่า 'เราเป็นคนมั่งมีได้ทรัพย์สมบัติมาก และเราไม่ต้องการสิ่งใดเลย' เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนแร้นแค้นเข็ญใจ เป็นคนขัดสน เป็นคนตาบอด และเปลือยกายอยู่... จงมีความกระตือรือร้น และกลับใจเสียใหม่ นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา” (วว. ๓:๑๕-๒๐)

เป็นไปได้ที่จะภายนอกคุณจะมีเพียบพร้อม แต่กลับขัดสนฝ่ายวิญญาณ และห่างเหินจากพระองค์ การกลับใจอย่างแท้จริงจะนำคุณกลับมาดำเนินชีวิตอย่างร้อนรนและสนิทสนมกับพระองค์

หากวันนี้คุณกำลังตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่และเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างแท้จริง คุณสามารถเริ่มทำได้โดยการกลับใจ หันมาหาพระเจ้า และกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจใหม่แล้ว คุณจะกลับสู่สภาพเดิมและดำเนินชีวิตด้วยความรักที่เคยมีกับพระองค์ คุณจะแข็งแรงขึ้นฝ่ายวิญญาณ มีความกระตือรือร้น ดำเนินชีวิตอย่างร้อนรนและสนิทสนมกับพระองค์ และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ

คำอธิษฐานด้วยความเชื่อ: พระบิดาเจ้า ลูกขอกลับใจใหม่ หันมาหาพระองค์ และกระทำการซึ่งสมกับที่กลับใจใหม่แล้ว ลูกทูลขอพระองค์ทรงสอนลูก ทรงนำลูก ให้กลับสู่สภาพเดิม ดำเนินชีวิตด้วยความรักที่เคยมีกับพระองค์ เข้มแข็งฝ่ายวิญญาณ มีความกระตือรือร้น และดำเนินชีวิตสนิทสนมกับพระองค์ ลูกขอบพระคุณพระองค์ ในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2551   
Last Update : 29 ธันวาคม 2551 22:36:16 น.   
Counter : 1121 Pageviews.  


ทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวคุณ (คริสเตียน)



ทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวคุณ


ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวข้าพระองค์ ป้องกันศักดิ์ศรีของข้าพระองค์และทรงเป็นผู้ชูศีรษะของข้าพระองค์ไว้ – สดด. ๓:๓

คุณกำลังมองเห็นแต่ปัญหารอบตัวอยู่หรือไม่ คุณรู้สึกเหมือนอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี เดินคอตกและไม่กล้าสบตากับใครอยู่หรือไม่

ผู้เขียนสดุดีเคยอยู่ในสภาพเดียวกัน และอาจจะหนักกว่าหลายเท่า จากข้อ ๑ และ ๒ ศัตรูของท่านทวีจำนวนขึ้นมากและกำลังต่อสู้กับท่าน คนเหล่านั้นกล่าวในทำนองว่า แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้

คุณกำลังเชื่อคำเหล่านั้นอยู่หรือไม่ ว่าแม้แต่พระเจ้าก็ทรงช่วยคุณไม่ได้

แม้ดาวิดจะถูกซาอูลและกองทัพตามล่า แต่เพราะท่านวางใจว่าพระเจ้าทรงเป็นโล่ของท่าน พระเจ้าทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากศัตรูทั้งสิ้นรวมถึงซาอูลด้วย ท่านกล่าวว่า “พระเจ้าทรงเป็นโล่ของข้าพเจ้า” (๒ ซมอ. ๒๒:๓)

ปัญหาคือ ในยามเราประสบปัญหา เราทำทุกอย่างสวนทางกับที่ดาวิดทำ แต่กลับคาดหวังผลเดียวกันกับท่าน

ในยามเราประสบปัญหา เรามองพระเจ้าเป็นต้นเหตุ มองพระองค์กำลังเล่มเกมโหดร้าย เราถอยห่างจากพระองค์และอยู่เฉยๆ ปล่อยเลยตามเลย อะไรจะเกิดก็เกิดก็เกิด อะไรจะไม่เกิดก็ไม่เกิด

ในยามดาวิดประสบปัญหา ท่านมองพระเจ้าเป็นโล่ล้อมรอบตัวท่าน ท่านเข้าลี้ภัยในพระเจ้า ท่านกล่าวล่วงหน้าด้วยความเชื่อขณะที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนักว่า “พระเจ้าทรงเป็นโล่ของข้าพเจ้า”

ในขณะที่เราประสบปัญหา เรามองว่าพระเจ้าทรงเลือกช่วยทุกคนยกเว้นฉันคนเดียว

ในยามดาวิดประสบปัญหา ท่านมองว่าพระเจ้าทรงเป็นโล่ของทุกคนที่ลี้ภัยในพระองค์ (๒ ซมอ. ๒๒:๓๑)

เพราะเหตุนี้เราจึงมีประสบการณ์ตรงข้ามกับท่าน และแทนที่เราจะรับผิดว่าเราบกพร่องเอง เราทำเหมือนเด็กๆ คือโยนความผิดให้ใครสักคน และใครคนนั้นก็คือพระเจ้าและน้ำพระทัยของพระองค์

อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “ความเชื่อเป็นโล่” (อฟ. ๖:๑๖) และ “ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย” ปัญหาคือ เราดำเนินโดยความสงสัย ความทุกข์ร้อน วิตกและกังวล เมื่อเราโดนลูกศรเพลิงของพญามารเข้าไป เราเข้าใจว่าเราโดนตีสอนจากพระเจ้า และเราปล่อยให้มารใช้ชีวิตเราเป็นเป้านิ่งซ้อมมือต่อไปไม่มีสิ้นสุด

จากเอเฟซัสบทที่ ๖ โล่มีไว้ป้องกันการโจมตีของศัตรู เมื่อคุณเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นโล่ของคุณ พระเจ้าจะทรงป้องกันคุณ ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า พระเจ้าทรง “ป้องกันศักดิ์ศรีของข้าพระองค์”

ศักดิ์ศรีในโลกนั้นร่วงโรย แต่ศักดิ์ศรีที่มาจากพระเจ้านั้นยั่งยืนนิรันดร์ ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า พระเจ้าทรงสวมศักดิ์ศรีให้แก่มนุษย์ (สดด. ๘:๕)

พระคัมภีร์บันทึกเรื่องราวของชีวิตที่พลิกผันของโยเซฟ จากบุตรในครอบครัวที่มั่งมี แต่กลับต้องตกไปเป็นทาส จากนั้นติดคุก แทนที่จะขมขื่นต่อพระเจ้า ต่อว่าพระองค์ว่าทรงเล่นบทโหดกับท่าน ท่านทำสิ่งที่แตกต่างจากเราในทุกวันนี้ ท่านวางใจในพระเจ้าผู้ทรงสถิตกับท่านในยามยากลำบาก พระเจ้าทรงป้องกันศักดิ์ศรีให้แก่ท่านและทรงสวมศักดิ์ศรีให้กับท่านจนท่านได้ครอบครองอียิปต์ โยเซฟบอกพี่ชายว่า “พี่จงเล่าให้บิดาของเราฟังถึงยศศักดิ์ที่ฉันมีอยู่ในอียิปต์ และที่พี่ได้เห็นนั้นทุกประการ พี่จงรีบพาบิดาเรามาที่นี่เถิด” (ปฐก. ๔๕:๑๓)

ผู้เขียนสดุดีกล่าวต่อไปว่า พระเจ้าทรงเป็น “ผู้ชูศีรษะของข้าพระองค์ไว้”

คำฮีบรูของคำว่า “ชู” ในข้อนี้ยังหมายถึง “ยก”

พระคัมภีร์บันทึกเรื่องราวที่พลิกผันของดาวิดเช่นกัน หลังจากได้รับการเจิมเป็นกษัตริย์ มีชัยเหนือโกลิอัท นำชัยชนะมาให้กับประเทศชาติ แต่กลับต้องหนีและคอยหลบซ่อนจากการตามล่าของกษัตริย์ซาอูล แต่เพราะท่านไม่ละทิ้งการวางใจในพระเจ้า พระเจ้าทรงยกท่านขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล

นางฮันนาห์กล่าวว่า “พระองค์ทรงยกคนยากจนขึ้นจากผงคลี พระองค์ทรงยกคนขัดสนขึ้นจากกองขยะ กระทำให้เขานั่งร่วมกับเจ้านาย และได้ที่นั่งอันมีเกียรติเป็นมรดก” (๑ ซมอ. ๒:๘) พระเจ้าทรงสามารถยกคุณจากสภาพที่ตกต่ำที่สุดขึ้นสู่ที่สูงที่สุดได้ เพียงคุณวางใจในพระองค์

เมื่อคุณมองรอบตัวคุณ คุณเห็นเพียงปัญหาและมีเพียงกำลังของคุณเท่านั้นที่จะรับมือหรือไม่ คุณเห็นตนเองอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี และตกต่ำจนชีวิตนี้จะไม่มีวันหลุดพ้นออกมาได้หรือไม่ พระเจ้าทรงมีแผนเพื่อสวัสดิภาพเตรียมไว้เพื่อคุณ ไม่ว่าวันนี้คุณตกต่ำเพียงใด พระเจ้าทรงประสงค์และทรงสามารถยกคุณขึ้นได้ ตัดสินใจวันนี้ที่จะเห็นพระเจ้าทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวคุณ วางใจในพระประสงค์ของพระองค์ในการป้องกันศักดิ์ศรีของคุณและชูศีรษะของคุณ พระองค์จะทรงป้องกันศักดิ์ศรีของคุณ จะทรงยกคุณขึ้นจากปัญหา และประทานชัยเหลือล้นแด่คุณ และคุณจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ

คำสำหรับอธิษฐาน: พระบิดาเจ้า ลูกไม่กลัวศัตรูและคู่อริ ลูกไม่หวั่นเกรงคำสบประมาทของคนเหล่านั้น เพราะพระองค์ทรงเป็นโล่ล้อมรอบตัวลูก ทรงป้องกันศักดิ์ศรีของลูกและทรงเป็นผู้ชูศีรษะของลูกไว้ ขอบพระคุณพระองค์และสรรเสริญพระองค์ในพระนามของพระเยซู อาเมน




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551   
Last Update : 22 ธันวาคม 2551 10:30:36 น.   
Counter : 1351 Pageviews.  


จงขอและเราจะมอบ (คริสเตียน)



จงขอและเราจะมอบ


ข้าพเจ้าจะบอกถึงพระดำรัสของพระเจ้า พระองค์รับสั่งกับข้าพเจ้าว่า "เจ้าเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้ให้กำเนิดแก่เจ้าแล้ว จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้เป็นมรดกของเจ้า ตลอดทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้า – สดุดี ๒:๗-๘

คุณรู้จักใครสักคนที่ไม่เชื่อว่าพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานหรือไม่ สำหรับเขา ถ้าพระเจ้าทรงประสงค์จะให้หรือไม่ให้สิ่งใด ขึ้นกับพระองค์เท่านั้น เราไม่มีค่าพอที่จะทูลขอสิ่งใดจากพระองค์เลย

จากพระธรรมข้อหลักของเราวันนี้ พระเจ้าตรัสกับบุตรของพระองค์ว่า “จงขอจากเราเถิด” คำนี้ไม่ใช่คำเสนอแนะ ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นพระบัญชา และพระองค์ตรัสต่อไปว่า “เราจะมอบ” แม้พระองค์ทรงเตรียมสิ่งที่จะมอบไว้แล้วก็ตาม แต่พระองค์ทรงบัญชาให้เราขอ ปัญหาคือ เราอยากได้ในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์จะมอบ แต่เรากลับไม่ทำตามพระบัญชาของพระองค์ หลายคนจึงพลาดจากสิ่งที่พระเจ้าเตรียมมอบให้แก่เขาเพียงเพราะเขาไม่ขอจากพระองค์ ยากอบกล่าวว่า “ท่านไม่มีเพราะท่านไม่ได้ขอ” (ยก. ๔:๒)

หากวันนี้คุณต้อนรับพระเยซูคริสต์และเชื่อในพระนามของพระองค์ พระองค์ได้ประทานสิทธิให้คุณเป็นบุตรของพระเจ้า (ยน. ๑:๑๒) และพระองค์รับสั่งกับคุณเช่นกันว่า “จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบ...”

พระเยซูไม่ได้ตรัสว่า “เฉพาะคนพิเศษที่ทรงเลือกสรรบางคนเท่านั้นที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐาน” แต่ตรัสว่า “ทุกคนที่ขอก็ได้” (มธ. ๗:๘)

พระเยซูไม่ได้ตรัสว่า “ขาดเมื่อไหร่ ไม่ต้องขอ พระบิดาจะประทานให้” แต่ตรัสว่า “พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์” (มธ. ๗:๑๑)

พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่า “พระเจ้าทรงหวงสิ่งสารพัด และทรงประทานขั้นต่ำสุด เพียงพอให้แต่ละคนประทังชีวิตได้อย่างถ่อมใจ” แต่กล่าวว่า “พระองค์ผู้มิได้ทรงหวงพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ แต่ได้ทรงโปรดประทานพระบุตรนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะไม่ทรงโปรดประทานสิ่งสารพัดให้เราทั้งหลาย ด้วยกันกับพระบุตรนั้นหรือ” (รม. ๘:๓๒)

พระเยซูไม่ทรงสอนให้เราขอด้วยการเสี่ยงทาย คือ เมื่ออธิษฐานเสร็จ ลงท้าย “อาเมน” พอเป็นพิธี ลืมตาขึ้น หากของที่ต้องการอยู่ตรงหน้า ก็คือได้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็คือไม่ได้ พระองค์ทรงสอนให้เราอธิษฐานด้วยความเชื่อ คือเชื่อว่าเราได้รับขณะเมื่อเราอธิษฐาน (มก. ๑๑:๒๔)

จงยืนหยัดขอบพระคุณพระองค์อยู่เสมอสำหรับสิ่งที่คุณเชื่อว่าคุณได้รับไว้แล้ว ความเชื่อซึ่งเป็นความแน่ใจในสิ่งที่คาดหวัง ความมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริงและความเพียรอดทนจะทำให้คุณได้รับตามพระสัญญา และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ

คำอธิษฐานด้วยความเชื่อ: พระบิดาเจ้า ลูกเป็นบุตรของพระองค์ พระองค์ได้ทรงให้กำเนิดแก่ลูกแล้ว ลูกจะขอจากพระองค์ และพระองค์จะมอบสิ่งสารพัดให้เป็นมรดกและเป็นกรรมสิทธิ์ของลูก ขอบพระคุณพระองค์ในพระนามของพระเยซู อาเมน




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2551   
Last Update : 15 ธันวาคม 2551 12:06:58 น.   
Counter : 648 Pageviews.  


บิดาในทางของพระเจ้า (คริสเตียน)



บิดาในทางของพระเจ้า


เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงคุกเข่าต่อพระบิดา (คำว่า บิดา ของทุกตระกูล ทุกชาติ ในสวรรค์ก็ดี ที่แผ่นดินโลกนี้ก็ดีมาจากคำว่า พระบิดา) – เอเฟซัส ๓:๑๔-๑๕

ในสายพระเนตรของพระเจ้า คำว่า “พ่อ” มีความหมายต่อพระองค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นพระนามของพระองค์เอง และพระองค์ประทานเกียรติและตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่แก่มนุษย์โดยให้ใช้นามเดียวกันกับพระองค์ ตำแหน่งดังกล่าวจึงมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม มิใช่ทุกคนที่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าวจะรับผิดชอบกับหน้าที่ของตน

การมีลูกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการเป็นพ่อ คนโง่ที่ไหนก็มีลูกได้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเป็น “พ่อ” น่าเสียดายที่สังคมเต็มไปด้วยคนที่สามารถมีลูก แต่ไม่สามารถเป็นพ่อได้ การกระทำดังกล่าวส่งผลร้ายต่อครอบครัว สังคม ประเทศและโลกของเรา โลกจึงเต็มไปด้วยเด็กที่เติบโตมาในบ้านที่มีแต่เพียงมารดา

พระคัมภีร์กล่าวถึงความรับผิดชอบของบิดามีต่อภรรยาและบุตรของตน

ประการที่ ๑ เป็นความรับผิดชอบของบิดาที่จะสอนทางของพระเจ้า

อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า (อฟ. ๖:๔)

ปัญหาคือ สังคมเต็มไปด้วยคนที่ให้กำเนิดที่ยั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ ละเลยการอบรมสั่งสอนและเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า โยนหน้าที่ดังกล่าวให้ภรรยา โรงเรียนและสื่อต่างๆ สังคมจึงเต็มไปด้วยเด็กที่อารมณ์เสียง่ายและโมโหร้ายอยู่ตลอดเวลา

ประการที่ ๒ เป็นความรับผิดชอบของบิดาที่จะดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง

อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “เราได้ประพฤติตัวบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และปราศจากข้อตำหนิในหมู่พวกท่านที่เชื่อ ดังที่ท่านรู้แล้วว่า เราได้เตือนสติหนุนใจและกำชับท่านทุกคนดังบิดากระทำต่อบุตร เพื่อให้ท่านประพฤติอย่างสมควรต่อพระเจ้า ผู้ทรงเรียกท่านให้เข้ามาในแผ่นดิน และพระสิริของพระองค์” (๑ ธส. ๒:๑๐-๑๒)

การเป็นแบบอย่างต่อบุตรได้จะต้องใช้เวลาต่อกัน บางคนใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรืองานรับใช้ รวมไปถึงงานอดิเรกเป็นข้ออ้างอันชอบธรรมในการโยนความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูบุตรให้กับภรรยาและเป็นข้ออ้างในการไม่ต้องใช้เวลาอยู่กับบุตรของตน

บางคนอาจจะสอนบุตรและใช้เวลาอยู่กับบุตร แต่ขณะเดียวกันก็ละเลยที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี แม้เด็กจะได้อยู่กับบิดาและได้ยินคำสอนที่ดี แต่ขณะเดียวกันก็ได้เห็นแบบอย่างความประพฤติที่สกปรก คดเคี้ยว ด่างพร้อย แบบอย่างดังกล่าวส่งผลให้เด็กไม่ประพฤติอย่างสมควรต่อพระเจ้า

ประการที่ ๓ เป็นความรับผิดชอบของฝ่ายสามีที่จะรัก เลี้ยงดูและทะนุถนอมภรรยาของตนต่อหน้าบุตรของตน

อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “สามีจึงควรจะรักภรรยาของตนเหมือนกับรักกายของตนเอง ผู้ที่รักภรรยาของตนก็รักตนเอง เพราะว่าไม่มีผู้ใดเกลียดชังเนื้อหนังของตนเอง มีแต่เลี้ยงดูและทนุถนอม เหมือนพระคริสต์ทรงกระทำแก่คริสตจักร” (อฟ. ๕:๒๘-๒๙)

เด็กที่เติบโตในบรรยากาศแห่งความรัก จะเรียนรู้ที่จะรักพระเจ้า ตนเองและผู้อื่น เขาจะเรียนรู้ที่จะให้ เขาจะสร้างครอบครัวของเขาด้วยความรักของพระเจ้า ส่วนเด็กที่เติบโตในบรรยากาศแห่งความเกลียดชัง จะพบกับอุปสรรคในการรักพระเจ้า ตนเองและผู้อื่น เขาจะเรียนรู้ที่จะเห็นแก่ตัว เขาจะเดินตามรอยเท้า รอยเหยียบย่ำ รอยที่เกิดจากการทำร้ายทั้งกายและใจที่บิดาทำไว้กับมารดาของเขา สิ่งเหล่านี้จะซ้ำรอยในครอบครัวของเขาเช่นกัน

วันนี้เมื่อบุตรของคุณเรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” ชีวิตของคุณ คำสอนและแบบอย่างของคุณกำลังขัดขวางเขาจากการมีความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์อยู่หรือไม่ ยังไม่สายจนเกินไป ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นใหม่ ทำหน้าที่พ่อในทางของพระเจ้า พระบิดาเจ้าในคุณจะทรงสอนและจะทรงช่วยให้คุณทำหน้าที่พ่อต่อบุตรของคุณ พระองค์จะทรงสร้างบุตรของคุณผ่านการสอน การเป็นแบบอย่าง และความสัมพันธ์ที่คุณมีต่อคู่สมรสของคุณ พระองค์จะประทานพรผ่านคุณไปยังบุตรของคุณ บุตของคุณจะเติบโตขึ้นในทางของพระเจ้า สร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง ส่งผลต่อสังคม ประเทศและโลกที่เขาอยู่ และจะมีประสบการณ์กับชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่พวกเขาทุกคน

คำอธิษฐานด้วยความเชื่อ: พระบิดาเจ้า ขอพระองค์ทรงสอนลูกให้ทำหน้าที่บิดาต่อบุตรได้อย่างดีที่สุด ขอทรงสอนลูกให้เป็นบิดาอย่างที่พระองค์ทรงเป็น เพื่อที่ลูกจะสอนและเป็นแบบอย่างแก่บุตรของลูก ลูกสรรเสริญพระองค์ในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน




 

Create Date : 09 ธันวาคม 2551   
Last Update : 9 ธันวาคม 2551 12:21:46 น.   
Counter : 709 Pageviews.  


หัวเราะและร่าเริง (คริสเตียน)



หัวเราะและร่าเริง


พระองค์ผู้ประทับในสวรรค์ ทรงพระสรวล พระเจ้าทรงเย้ยหยันเขาเหล่านั้น – สดุดี ๒:๔

เมื่อคุณนึกถึงพระเจ้า คุณนึกถึงพระองค์อย่างไร คุณนึกถึงบุคคลที่ไร้ตัวตน อารมณ์และความรู้สึกเหมือนอย่างที่คนนับล้านนึกถึงอยู่หรือไม่

คุณนึกภาพพระเจ้าทรงเป็นเช่นไรในสวรรค์ ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า “พระองค์ผู้ประทับในสวรรค์ ทรงพระสรวล” คุณนึกภาพพระเจ้าทรงพระสรวลออกหรือไม่

คำฮีบรูของ “ทรงพระสรวล” ในข้อนี้ยังหมายถึง “ร่าเริง”

เราถูกสอนให้เข้าหาพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ แต่ปัญหาคือ บางคนเข้าใจว่าความถ่อมใจคือการดูถูกตัวเอง มองตนไร้ค่า ทำตัวน่าเวทนาต่อพระพักตร์พระเจ้า เพราะหากอารมณ์ดี จนเผลอยิ้มหรือหัวเราะออกมา เรากำลังกำเริบเสิบสานและโอหังต่อพระพักตร์พระองค์

แน่นอนว่ามีเวลาสำหรับการร้องไห้และการไว้ทุกข์ แต่พระคัมภีร์กล่าวว่า มีวาระสำหรับการหัวเราะและเต้นรำเช่นกัน (ปญจ. ๓:๔) น่าเสียดายที่หลายคนเข้าใจว่าทุกครั้งที่เข้าเฝ้าพระเจ้าเขาต้องร้องไห้และไว้ทุกข์ทุกครั้ง และมองคนที่เข้าเฝ้าพระองค์ด้วยความร่าเริงด้วยความเหยียดหยาม

คำว่า “ทรงพระสรวล” หรือ “ร่าเริง” ปรากฏใน ๒ ซามูเอล ๖:๕ กล่าวถึงดาวิดขณะที่กำลังนำหีบของพระเจ้ากลับเมืองของท่าน พระคัมภีร์กล่าวถึงอากับกริยาของดาวิดเมื่ออยู่ต่อพระพักตร์ของพระเจ้า “ดาวิดกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลก็ร่าเริงกันอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าด้วยเต็มกำลังของเขาทั้งหลาย” ท่านร่าเริงอย่างไร พระคัมภีร์กล่าวต่อไปว่า “และดาวิดก็ทรงรำถวายแด่พระเจ้าด้วยสุด กำลังของพระองค์” (ข้อ ๑๔) “ดาวิดกระโดดโลดเต้นรำถวายแด่พระเจ้า” (ข้อ ๑๖)

หลายคนในปัจจุบันมองคนของพระเจ้าที่ร่าเริงต่อพระพักตร์พระเจ้าไม่ต่างกับที่ภรรยาของดาวิดมองท่าน (ข้อ ๒๐) แต่ความจริงสวนทางกับคำสอนตกทอดจากมนุษย์ ดาวิดกล่าวว่าการร่าเริงต่อพระพักตร์ของพระเจ้าคือการถ่อมใจ (ข้อ ๒๒)

วันนี้คุณถ่อมใจลงพอที่จะเอาชนะตัวเอง ความคิดเห็น คำสอนตกทอดและธรรมเนียมของมนุษย์ และยกพระวจนะของพระเจ้าขึ้น กระทำตามพระวจนะพอที่จะร่าเริงอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าหรือไม่

พระเยซูผู้ทรงเป็นแบบอย่างของเรา (ยน. ๑๓:๑๕, ๑ ปต. ๒:๒๑) พระคัมภีร์กล่าวว่าพระองค์ทรงอยู่ต่อพระพักตร์ของพระบิดาด้วยความยินดีเต็มเปี่ยม (กจ. ๒:๒๘) และพระองค์ได้ประทานความยินดีเต็มเปี่ยมของพระองค์เองแด่เราทุกคน (ยน. ๑๕:๑๑, ๑๗:๑๓)

เพราะเหตุนี้เราจึงชื่นชมยินดีต่อพระพักตร์พระเจ้า เปาโลกล่าวว่า “เราทั้งหลายยังชื่นชมยินดีในพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าของเรา ผู้ทรงเป็นเหตุให้เราได้กลับคืนดีกับพระเจ้า” (รม. ๕:๑๑) น่าเสียดายที่หลายคนยังคงทำสีหน้าราวกับยังไม่กลับคืนดีกับพระองค์

แม้พระคัมภีร์เต็มไปด้วยคำสั่งให้คริสตจักรชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าและชื่นชมยินดีอยู่เสมอ แต่น่าเสียดายที่คนมากมายยิ่งนานวันยิ่งสูญเสียความร่าเริงยินดี เราเข้าใจผิดว่าคนที่เติบโตฝ่ายวิญญาณคือคนที่เคร่งเครียดและเงียบสงัด หลายคนรับใช้พระเจ้านานจนจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ยิ้มคือเมื่อไร

ความจริงคือ คนที่เติบโตฝ่ายวิญญาณคือคนที่เกิดผลฝ่ายวิญญาณ และหนึ่งในผลฝ่ายวิญญาณคือ “ความปลาบปลื้มใจ” (กท. ๕:๒๒)

หากคุณคือหนึ่งในคนที่ไม่เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยความร่าเริง ตัดสินใจวันนี้ที่จะชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าและร่าเริงต่อพระพักตร์ของพระองค์ ความยินดีของพระคริสต์จะเต็มล้นจากภายในออกมาภายนอกของคุณ คุณจะมีประสบการณ์ชีวิตครบบริบูรณ์ที่พระเยซูได้เสด็จมาเพื่อประทานแด่คุณ

คำอธิษฐานด้วยความเชื่อ: พระบิดาเจ้า ลูกขอบพระคุณที่ทรงบัญชาให้มีใจกล้าเข้ามาอยู่ต่อพระพักตร์ของพระองค์ ลูกจะชื่นชมยินดีในพระองค์ ร่าเริงและยินดีเต็มเปี่ยมต่อพระพักตร์ของพระองค์ ลูกสรรเสริญพระองค์ในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2551   
Last Update : 1 ธันวาคม 2551 10:57:10 น.   
Counter : 1322 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  

ชาญชิต
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




[Add ชาญชิต's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com