(Review) ร้านพลูเฮ้าส์ สัตหีบ ร้านอาหารแนะนำราคาคุ้มค่า สดสะอาด บรรยากาศดี chillสุดๆ



ชื่อร้าน : ร้านพลูเฮ้าส์ สัตหีบ Plu House Restaurant&Coffee
รายการอาหาร : อาหารทะเล , อาหารไทย , อาหารจีน
เวลาเปิดบริการ : 11.00 - 22.00 น. เปิดทุกวัน
ที่ตั้งร้าน : 99/69 ม.6 ซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวง ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 20180, ชลบุรี Thailand
พิกัด GPS : 12° 40' 58.13"N 100° 57' 2.44"E


สวัสดีครับพี่น้องชาว Bloggang

วันนี้จะพาไปพบกับร้านอาหารเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานแต่มีดีน่าลิ้มลองหลังจากไปแวะเที่ยวพัทยาเอย Siverlake เอยมาแล้ว
ถือว่าเป็นร้านดีร้านเด็ดของอำเภอสัตหีบได้สบายๆเลยครับ

จากจุดนี้คือสามแยกที่มุ่งหน้ามากจากถนนสุขุมวิท แยก กม.6 ครับ


ร้านที่จะไปกันอยู่ในซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวงครับ


ถ้าเลี้ยวเข้าซอยมาเห็นด้านขวาเป็นป้อมตำรวจภูธรพลูตาหลวงก็ถูกซอยแน่นอนครับตรงเข้าไปได้เลย


แล้วตรงเข้ามาตามทางราวๆ 2 กิโลเมตรได้ครับ


แล้วสังเกตด้านซ้ายจะพบกับหมู่บ้านพลูตาหลวงไพรเวทฮิลล์ก็เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลยครับถึงร้านเป้าหมายแล้วครับ


หน้าร้านมีที่จอดรถรองรับได้เยอะมากอยู่ครับ



ร้านนี้ชื่อร้านว่า "พลูเฮ้าส์ (Plu House)" ครับถ้าขับรถผ่านไปไวๆ นึกว่าส่วนกลางสโมสรของหมู่บ้านซะอีกแต่ไม่ใช่ครับ เป็นร้านอาหารครับ



ก่อนเข้าไปดูในร้าน ขออนุญาตถ่ายบรรยากาศรอบๆร้านได้คำแนะนำมาว่าร้านนี้มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะ บรรยากาศดีมากๆครับ



จุดนี้มีศาลาเล็กๆชิคๆด้วยครับเจ้าของร้านคงชอบตกแต่งมากเลยครับ ออกมาทานข้าวทานกาแฟสบายๆได้เลยครับ



ชุดเก้าอี้ โต๊ะน้องวัวตลกดีครับชอบๆ


บรรยากาศดีมากๆเลยครับขนาดแดดร้อนๆยังอยากถ่ายรูปอีกหลายๆมุมเลย




ที่นั่งแบบoutdoorหน้าร้านก็น่านั่งชิลล์ดีมากๆครับ



มีแบ่งโซนเป็นส่วนของร้านขนมกาแฟด้วยครับ



บรรยากาศภายในร้านส่วนของร้านกาแฟครับเมื่อก่อนใช้ชื่อว่า "A lot of LOVE" แต่ตอนนี้รวมเป็นส่วนนึงของร้านอาหารพลูเฮ้าส์แล้วครับ




พนักงานกำลังทำเครื่องดื่มที่สั่งไปพอดีเลยครับส่องซะหน่อย



แล้วก็มาส่องส่วนโซนหลักของร้านหน่อยครับ


กว้างขวางมากๆ รองรับแขกได้หลายท่านครับ มากันเป็นครอบครัวใหญ่ก็ไม่ต้องกังวลใจเลย นั่งสบายๆไม่อึดอัดครับ




บรรยากาศดีมากเช่นกันครับร้านนี้เจ้าของดูแลตั้งใจตกแต่งได้สวยงามดีเลยครับ


พักเหนื่อยล๊ะกับเครื่องดื่มแรก"Blue Hawaii italian soda"ครับ ราคา 40 บาท แจ่มไปเลย


ถัดมาเลยครับของผมเอง"นมสดโอรีโอปั่น" แก้วสูงลิ่วแต่ราคาแค่ 60 บาทเท่านั้น คุ้มมากๆ อร่อยด้วย

และแก้วนี้น้องสั่งมา"Green Apple Yogurt  Smoothie" ราคา 60 บาท แก้วนี้ใช้แอปเปิ้ลเขียวนะครับ ซึ่งก็จะให้รสชาติเปรี้ยวสดชื่นมากกว่าครับ


ดื่มเสร็จก็สั่งอาหาร ระหว่างรอก็แอบไปเก็บบรรยากาศเพิ่มอีกครับวิวหน้าร้านจะมองเห็นเขาตะแบกเพลินตาสบายอารมณ์ดีครับ




ออกไปส่องอีกส่วนนึงของร้านดีกว่าครับ...


สระว่ายน้ำเหมือนเป็นจุดเด่นของร้านเลยครับ ลงไปเล่นได้นะครับติดต่อทางร้านได้เลยค่าบริการไม่แน่ใจครับ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บริการด้วยครับ


แต่จะมานั่งชิลล์ดื่มเครื่องดื่มก็สบายๆ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศไปด้วยก็เพลินมากครับ


สระว่ายน้ำน่าลงมากครับถ้าไม่ติดแดดแรงนี่จัดละครับ


มุมชิงช้าชิลล์ๆนี่ทั้งน่านั่งและ น่าถ่ายรูปกันมากครับ


จุดนี้ก็เหมือนเป็นฉากถ่ายรูปเก๋ๆซะด้วย ใส่ใจจริงๆ



กลับมาที่โต๊ะดีกว่าเมนูจานแรกมาเสิร์ฟแล้วครับ "ปลากะพงทอดราดยำสมุนไพร" ราคา 320 บาทครับ


ปลากระพงทั้งตัวแล่เนื้อออกมาเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วนำไปทอดในน้ำมันจนเหลืองกรอบ นำมาราดด้วยเครื่องสมุนไพร 
ประกอบไปด้วยมะนาวหั่นชิ้นเล็ก หอมแดง ตะไคร้ เม็ดมะม่วง ถั่วลิสง พริกขี้หนู กระเทียมฝาน ขิง 


ปลากระพงกรอบนอกนุ่มใน ทานกับเครื่องสมุนไพรรสชาติกลมกล่อม อร่อยมากๆครับ


และเมนูถัดมาก็คือ "กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดิน" ราคา 160 บาทครับ น่าทานจุง


เสิร์ฟมาในหม้อดินสวยงาม เปิดฝาออกมาได้กลิ่นหอมของเครื่องปรุงโชยออกมา วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม กุ้งตัวใหญ่ผ่าหลังให้เรียบร้อยแกะง่ายมากๆ


ส่วนเมนูที่แลดูร้อนแรงจัดจ้านคือ "ลาบเป็ดคั่ว" ราคา 120 บาท


เป็ดสับมาเป็นชิ้นๆ ปรุงเป็นลาบ โรยด้วยแคบหมูชิ้นเล็กๆ เนื้อเป็ดสับมาไม่แหลกมาก ยังได้รสสัมผัสเวลาเคี้ยว 


พร้อมกลิ่นข้าวคั่วหอมกรุ่น จานนี้รสชาติจัดจ้านมากๆครับ


และจัดจ้านกันต่อที่เมนู "ยำแซลม่อนวาซาบิ" ราคาแค่ 140 บาทเองครับ คุ้มค่าน่าทานสุดๆ


ปลาแซลม่อนปรุงสุก คลุกเคล้าเข้ากับน้ำยำที่มีรสและกลิ่นของวาซาบิชัดเจนแต่อยากให้มากกว่านี้อีกหน่อยสำหรับสายวาซาบิอย่างผม

เครื่องยำเองก็จัดเต็ม ทั้งตะไคร้ หอมแดง พริกขี้หนู และคื่นช่าย จานนี้แปลกมากๆ ปกติจะได้ทานเป็นปลาแซลมอนดิบ 


แต่พอได้ลองทานแบบสุกก็อร่อยไปอีกแบบครับ น้ำยำเองได้ทั้งความเผ็ดแบบไทยๆจากพริกขี้หนู และความเผ็ดจี๊ดขึ้นจมูกของวาซาบิ อร่อยครับ


และก็มาถึงจานโปรดของผม "เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม" ราคา 140 บาทครับ หอมกรุ่นมาแต่ไกลเลยจานนี้


นำเห็ดหอมวางเป็นฐาน โปะด้วยหมูสับผสมไข่เค็ม นึ่งจนสุกหอม รสชาติเค็มหวานลงตัวมากๆ


ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ช่วยเบรครสเผ็ดจากอาหารจานก่อนได้ดีมากๆครับ ชอบมากๆครับเลยจานนี้แทบจะครองคนเดียวไม่แบ่งใครเลย




ปลากระพงทอดสมุนไพรนี่คุ้มจริงๆครับราคานี้รสชาติและเครื่องเคียงจัดเต็มขนาดนี้ฟินไปยาวๆ


หลังจากพุงตึงสำราญไปแล้วได้ข่าวข้างบนกำลังสร้างห้องประชุมรองรับและวิวสวยขอขึ้นไปส่องซักหน่อยครับ


ว้าวบรรยากาศดีสุดๆ



ส่องไปทิศไหนก็บรรยากาศดีมากๆจริงๆครับร้านพลูเฮ้าส์นี้


กระเพาะของหวานยังว่างอยู่ลงมาจัด "บิงซูแตงโม" ไซส์ใหญ่ ราคา 139 บาทครับ ดูดีม๊ากๆ


สีสวยมากๆ แค่เห็นยังรู้สึกสดชื่นเลย นี่เสิร์ฟมาครึ่งลูกแตงโมเลยนะครับ


เนื้อแตงโมอร่อยมากๆ หวานฉ่ำ ทานกับน้ำแข็งรสนม เหมาะมากกับอากาศร้อนๆครับ


คุยเพลินๆชิลล์ๆ เริ่มค่ำไม่รู้ตัวเลยครับ


มีดนตรีสดมาบริการลูกค้าด้วยครับ 


ถ่ายคลิปมาไว้ด้วยครับสอบถามเป็นวงน้องใหม่มาเก็บประสบการณ์ที่ร้านครับ ทางร้านก็ใจดีมากเลย


ค่ำๆก็มีลูกค้ามาเล่นน้ำครับเป็นรุ่นใหญ่ไม่กล้าเก็บภาพมาครับ55+


มาเก็บภาพทักทายน้องที่นั่งน้องวัวคู่ก่อนจะกลับครับ หน้ากวนดีจังชอบ XD


ขนาดค่ำแล้วบรรยากาศยังดูดีอยู่เลยร้านนี้ ชอบจริงๆ




จบไปกับหนึ่งมื้อสุดฟิน สุดอร่อย เพลินเพลินกับรรยากาศดีดีที่คาดไม่ถึง กะจะไปที่อื่นต่อแต่เพลินจนลืมไปเลย
ถ้ามาตรงๆจาก กทม. ก็ขับรถแบบชิลล์ๆไม่เกิน 3 ชั่วโมงแล้วหรือไปเที่ยวก่อนแล้วมาจบร้านพลูเฮ้าส์นี้ก็จะเป็นทริปที่เพอเฟ็คไปอีกทริปได้เลย
เพื่อนพี่น้องที่อยู่ชลบุรียังไม่รู้จักร้านนี้ต้องมาลองให้ได้ครับ หรือผ่านแล้วตั้งใจแวะไปนี่ก็ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ราคาดี อร่อย บรรยากาศสุดชิลล์
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลของทางร้านเพิ่มเติมได้ที่ทางเพจของทางร้านนะครับ

ก่อนกลับกทม.ผมมาจัดอีกมื้อด้วยเดี่ยวจะเขียนเพิ่มอีกentryครับฝากติดตามด้วยนะครับผม
เจอกันเร็วๆนี้ครับ




Create Date : 02 กันยายน 2559
Last Update : 6 กันยายน 2559 21:23:56 น.
Counter : 14095 Pageviews.

2 comment
(Review) ร้านซูชิสุดคุ้ม คุณภาพเกินราคา @ไข่หวาน บ้านซูชิ ศูนย์อาหารเมืองทอง ล็อคA07-A08
ชื่อร้าน : ไข่หวานบ้านซูซิ ( Kaiwan BanSushi )
รายการอาหาร : sushi&sashimi
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 17.00-23.00น.(หยุดวันอาทิตย์ที่2และ4 ของเดือน)
ที่ตั้งร้าน : ศูนย์อาหารเมืองทองธานี ล็อค A07-A08 ถ.ป๊อบปูล่า 4 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11120, นนทบุรี Thailand, นนทบุรี Thailand
พิกัด GPS : 13° 54' 43.41"N 100° 33' 6.89"E



สวัสดีครับพี่น้องชาว Bloggang

วันนี้ขอมาแนะนำร้านซูชิคุณภาพเกินราคาไปมากและยังเคยรีวิวไปรอบหนึ่งแล้ว
แต่ติดใจแวะไปเรื่อยๆตอนนี้ร้านขยายล็อคเลยขอมาเขียนอีกรอบแนะนำเพื่อนพี่น้องไปลิ้มลองครับ

เนื่องจากลานจอดรถของศูนย์อาหารกำลังปรับปรุงครับ ขอเริ่มจากที่ศูนย์อาหารเมืองทองฯเลยละกันครับ อยู่ใกล้กับท่ารถตู้ฯเลยครับ

วันนั้นที่ไปฝนตกพอดีครับห้าโมงเพิ่งเปิดร้านพอดีเลยแต่ก็เริ่มมีคนมารอกันเยอะแล้ว...


มารอบนี้ร้านขยายเป็นสองล็อคแล้วครับจากและเขยิบมาจาก A10 เป็น A07-A08 ถ้าไปถึงที่แล้วหาไม่ยากครับร้านนี้คนมามุงๆ 
หยิบๆกันแทบจะตลอดเวลาเลย นี่ขนาดเพิ่งเปิดร้านเลย


ซูชิกำลังทยอยออกมาต้อนรับลูกค้าเรื่อยๆ เลยครับ เดี๋ยวเต็มพื้นที่แน่นอน....


ไม่ค่อยมีจังหวะแย่งเข้าไปส่องถ่ายเท่าไหร่ครับกระจัดกระจายนิดหน่อยนะครับรีวิวนี้ เมนูนี้คำละ 10 บาทเท่านั้นครับที่ร้านให้ชื่อเมนูนี้ง่ายๆ
ว่า "ปูอัดราดสลัด" ครับ =w= แต่ก็น่าทานน่าหยิบดูคุ้มค่าดีจัง

นี่ก็ 10 บาทครับเห็นเด็กๆ ชอบชี้ให้คุณแม่หยิบอยู่ครับ


ลูกค้ามีทุกเพศทุกวัยเลยครับ นักเรียน นักศึกษาก็มารอคิวหยิบทานกันเยอะ


ของไม่ดีจริง ไม่คุ้มค่าจริงนี่รุ่นเล็ก เจนใหม่สมัยนี้ไม่เลือกมาแน่ๆครับ


ที่ร้านมีพนักงานเยอะมากพร้อมให้บริการตลอดเวลา และคอยเติมของเรื่อยๆครับ


แอบส่องๆลูกค้าส่วนมากก็Take homeไปจำนวนมากฝากที่บ้านทานเอง คุ้มค่าไปกว่าบุฟเฟ่ต์ในราคาประหยัดกว่า คุณภาพดีอีกตังหาก

อ๊ะ!คุณหนู! ใช้มือหยิบไม่ได้นะครับ เดี๋ยวมือเลอะนะ ใช้ที่คีบดีกว่าครับ


ร้านนี้ไข่หวานทำอร่อยมากครับอร่อยกว่าบางร้านใหญ่ๆซะอีก ทั้งไข่หวานและไข่ปลาบินก็คำละ 15 บาท คุ้มค่ากันจริงๆ

น่าจะเป็นหน้าปลาซาบะครับ แต่คำละ15 บาทเท่านั้นยังไม่เคยลองเลย



"แคลิฟอเนียมากิ"ก็ 15 บาทเช่นกันครับ เพิ่งออกมาใหม่ๆ เลย


หาจังหวะถ่ายยากพอสมควรครับร้านนี้ แอบส่องๆ ลูกค้าท่านอื่นก็จัดเต็มกันทั้งนั้นครับ


เห็นป้ายละก็ลืมเลย.. ถ้าเป็นถาดที่เห็นก็มีสามราคาครับ 10.- / 15.- / 20.- แล้วก็มีเป็นอะลาคาร์ทซาชิมิ ปูอัด แซลมอน 
และไข่กุ้ง,ยำสาหร่ายแยกเฉพาะ ส่วนอันล่างนี่ยังไม่เคยลองแหะ...

เลื่อนลงมาก็เห็นป้ายการันตีครับว่าแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ มาครั้งแรกบอกตามตรงครับว่าไม่เชื่อแต่ พอได้ทานเชื่อละครับ ของดีกว่า
ร้านในห้างอีก เด็ดจริงๆ


ของชอบครับมาทีไรก็หยิบเพิ่งออกมาใหม่ๆน่าทานมาก


 "ซูชิปลาแซลมอนราดซอสไข่กุ้ง" ราคา 20 บาท มองแทบไม่เห็นข้าวเลยสะใจที่สุด




เมนูที่ผมชอบมากๆครับ"ซูชิหน้าท้องปลาแซลมอนเบิร์น"ครับ คำละ 20 บาท สุดยอดทั้งวัตถุดิบ ความอร่อย และราคาครับ มาไวไปไวมาก


ถ้าไม่เชื่อต้องลองครับ รอบที่แล้วมาก็ไม่มี


"แซลมอนโรล" สุดคุ้มค่าครับ 20 บาท



ส่วนนี่ก็อร่อยมากแนะนำครับ "ซูชิปลาแซลมอนเบิร์นราดซอส" คำละ 20 บาทเช่นกัน 


ลูกค้าก็มุงเรื่อยๆไม่ขาดสายครับ


คนซานิดๆก็ไม่รอละครับน้ำลายไหลละ ได้เวลาขอลุยลอตแรกกันบ้างครับ...


ลุย ๆ ๆ ๆ ๆ


"มากิเป๋าฮื้อ" เป๋าฮื้อหั่นเต๋า คลุกกับน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อม เคี้ยวหนุบหนับ อันนี้แนะนำครับ ถูกใจมากๆ


"ไข่หวานม้วนไส้ปูอัด" ไข่หวานนุ่มฟู ตรงกลางเป็นปูอัด ราดด้วยมายองเนสและโรยไข่กุ้งตบท้าย


"แคลิฟอเนียโรล" ชิ้นใหญ่จุใจจริงๆ ไส้ในมีทั้งไข่หวาน ปูอัด แตงกวา ให้มาครบครัน ข้าวน้อยมากๆครับ


"ซูชิท้องปลาแซลมอนเบิร์น" อันนี้เซอไพรซ์มากกกกกก อร่อยครับ
ท้องปลาแซลมอนหั่นชิ้นยาว เบิร์นจนสุกหอมน้ำมันออกมาเยอะทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น ทานกับข้าวซูชิช่วยตัดความเลี่ยนจากน้ำมันเนื้อปลาได้ดีมากๆครับ


"ซูชิปลาไหลย่าง" ปลาไหลชิ้นพอดีคำ เนื้อนุ่มไม่คาวครับ


"ซูชิปลาแซลมอนเบิร์น" ด้านบนเบิร์นจนสุกแต่ด้านล่างยังดิบอยู่ ราดด้วยซอสหวาน รสชาติกลมกล่อม ปลาแซลมอนให้มาชิ้นใหญ่สะใจมากๆครับ


"ซาชิมิปลาแซลมอน" หนึ่งจานให้มาหลายชิ้น ปลาสีสวยลายสวย สดไม่มีกลิ่นคาวเลยครับ


"มากิไข่ปลาบิน" ไข่ปลาบินนี่เม็ดจะใหญ่กว่าไข่กุ้งนะครับ รสชาติเค็มๆมันๆ ทานเข้าไปแล้วได้กลิ่นหอมของทะเลครับ
ส่วนซ้ายล่างเป็น "มากิเอ็นหอยเชลล์" ครับ เห็นตอนแรกนึกว่าแมงกระพรุนแต่ไม่ใช่นะครับ
เนื้อหนุบหนับกว่าแมงกระพรุนเยอะครับ หมักด้วยน้ำมันงา รสชาติเผ็ดนิดๆครับ

ลองส่องของลูกค้าท่านอื่น จัดกลับบ้านกันเต็มกล่องครับ

หรือถ้าจะทานที่ร้านเลยก็มีที่ให้นั่งทานสบายๆนะครับ บอกกับคนที่ร้านได้เลยว่าทานที่นี่ เค้าจะให้จานมาเลือกซูชิครับ มีตะเกียบกับถ้วยโชยุให้พร้อม


เพิ่งมาเสิร์ฟใหม่ๆเลยครับ "แคลิฟอเนียแซลมอน" ชิ้นละ 20 บาท คุ้มค่ามากๆ

...ลอตนี้ขอจัดของชอบมาเยอะๆหน่อย


...เกือบลืม"ไข่หวานแซนวิช" พระเอกเจ้าเก่ามาเลยรอบนี้



จัดมาเต็มจานเลย ของชอบหนักๆเน้นๆ ฟินสะใจกันไปครับ


"แซลมอนโรล" ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ามากๆในราคา 20 บาท เพราะตัวมากิเองก็อร่อยอยู่แล้ว แล้วยังเพิ่มเนื้อปลาแซลมอนชิ้นหนามาด้านบนอีก
อลังการมากๆครับชิ้นนี้



ของชอบของหลายๆคน เมนูแนะนำประจำร้านเลยครับ "ไข่หวานแซนวิชไข่หวานม้วน ด้านในเป็นไส้ไข่กุ้งมายองเนส คุณหนูๆต้องชอบแน่ๆครับ


"ซูชิหน้าปลาแซลมอน" ปลาชิ้นใหญ่แทบมองไม่เห็นข้าวเลยครับ



"ซูชิท้องปลาแซลมอนเบิร์น" เต็มๆเน้นๆ ให้เห็นความมันของเนื้อปลา แต่ไม่เลี่ยนนะครับชิ้นนี้ รสชาติเข้มข้นครับ



ทานไปส่องไปก็เห็นลูกค้ามาไม่ขาดสายจริงๆครับ


ด้านในกำลังเบิร์นเนื้อปลากันถาดใหญ่ๆเลยครับ กลิ่นหอมโชยมาถึงหน้าร้านเลยครับ






ห่อกลับไปอีกสองเซตใหญ่ครับ ฟินยันที่บ้านเลย



ฟินๆกันไปสำหรับซูชิอร่อยๆคุณภาพดีราคาสุดจะคุ้มค่าอีกมื้อแถมยังห่อกลับไปให้ที่บ้านได้ฟินกันอีกในราคาที่ดีกว่าไปกินบุฟเฟ่ต์
ตามห้างอีกนะครับ คุณภาพวัตถุดิบก็เผลอๆดีกว่าหลายร้านด้วยซ้ำไปครับในราคาแค่นี้ ใครยังไม่เคยลองผ่านไปหรืออยู่แถวนั้นต้องไปลองให้ได้ครับ
เพื่อนพี่น้องที่สนใจหาร้านไม่เจอยังไงลองติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่เพจของทางร้านเค้าดูนะครับ 
(ก่อนร้านเปิดนะครับร้านเปิดละพี่เค้าไม่ว่างรับแน่ๆเลย)

เจอกันโอกาสหน้าครับ



Create Date : 29 กรกฎาคม 2559
Last Update : 30 กรกฎาคม 2559 2:07:08 น.
Counter : 5883 Pageviews.

4 comment
(Review) สุดยอดร้านอาหาร "ทะเลทิพ" Seafood เปิดใหม่ ย่านรังสิต คลอง4 มากี่ครั้งก็ติดใจ
ชื่อร้าน : ร้านทะเลทิพ คลอง 4 ธัญบุรี
รายการอาหาร : อาหารไทย , อาหารจีน , อาหารทะเล
เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน 12.00 - 22.00 น.
ที่ตั้งร้าน : 130/13 หมู่ 1 ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทมุธานี 12150, ปทุมธานี Thailand
พิกัด GPS : 13° 59' 23.19"N 100° 41' 5.46"E





สวัสดีครับพี่น้องชาว Bloggang

พักนี้ฝนตกสลับแดดแรงมากมายวัดดวงกันไปมากครับ
ขอกลับมาเขียน Review ร้านที่เพิ่งไปมาไม่นาน...เพิ่มเติมคือติดใจครับ
กับ... ร้านทะเลทิพ รังสิต คลอง4 ร้านซีฟู้ดเด็ดดวงที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ...
ไปแวะและสั่งเมนูที่ยังไม่ได้ลองทานเพิ่มเติมอีกครับ


รอบนี้มาค่ำเลยครับ ท่านที่ยังไม่เคยอ่านที่เคยรีวิวไปแล้วก็ ร้านตั้งอยู่ที่พิกัด 13.989775, 100.684850 เช่นเดิม..เพิ่มเติมคือป้ายปากซอยใหม่แหะ


ฝนก็ตกปรอยๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาไปลุยให้แน่นพุงกันเลยดีกว่าครับ


ถ้าตอนกลางวันผ่านๆ นี่นึกว่าเรือนไทยโมเดิลสวยงามหลังนึงแต่กลางคืนเปิดไฟแล้ว โอเคเลยครับจากรอบที่แล้ว


เหมือนรอบที่แล้วลืมถ่ายเมนู รอบนี้ถ่ายเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อนๆ ซะหน่อยดีกว่าครับ






น่าทานทั้งนั้นเลยครับไม่ไหวแล้วสั่งเลยดีกว่า...


สั่งเสร็จก็ซนไปขอถ่ายรูปในครัวครับ แวะดูตู้ที่ทางร้านใช้เกลือวิทยาศาสตร์ผสมทิ้งไว้นานมากๆจนใสปิ๊งแล้วจึงนำไปใช้กับวัตถุดิบอีกทีครับ


ไปถึงเห็นออเหอร์โต๊ะผมพอดีครับแอบสปอยซะหน่อยเลย ครัวที่นี่ออเดอร์มาปุ๊บเชฟแต่ละท่านก็มีหน้าที่ทำแต่ละอย่างเป็นระบบมากๆ
บรรยากาศดูในคลิปที่แนบไว้ด้านบนได้ครับ


ทายถูกไหมครับ ทางเชฟกำลังเตรียมเมนู "หอยเชลล์อบชีส" นั่นน๊ะเองครับบบบ


แปบเดียว.. ก็มาโรยผงปาปริก้าปิดจ็อบ อูยยยอยากจะขอหยิบซ๊วบตรงนั้นเลย เพื่อมารยาทที่ดีเจอกันที่โต๊ะนะจ๊ะ TTwTT


กระทะทองเหลืองนี้ก็น่าจะกำลังทอดปลากดคังหั่นอยู่ครับ


กระทะใกล้ๆก็กำลังทอดเผือกหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หอมมากๆครับครัวที่นี่ออดเดอร์มาปุ๊บเชฟแต่ละคนแยกย้ายกันทำหน้าที่เป๊ะๆ




แปบเดียวปลากดคังก็เหลือกรอบน่าทานสุดละครับฝีมือจริงๆแต่ละท่าน


ส่วนอันนี้คือกระบอกใส่สับปะรดเชื่อมครับดูน่าสนใจดีมากๆครับ ใช้ในเมนูแมงดาเผาที่สั่งไปครับ


คุณทิพเจ้าของร้านอยู่พอดีโชว์โขลกน้ำพริกสไตล์ออริจินัลโชว์ด้วยครับ

เนื่องจากร้านนี้เคยมาแล้วรูปบรรยากาศไม่ได้ถ่ายมากครับเนื่องจากลูกค้าเต็มเหือบทุกโต๊ะเลยแอบเกรงใจ และเน้นถ่ายคลิปซธมากกว่า
เลยขอวารปมาที่อาหารอย่างไวเลยนะครับ...


เมนูแรกจัดหนักเลยครับ "แมงดาเผา" ราคา 380 บาท แมงดาทะเลตัวใหญ่ จากแหล่งแมงดาทะเลที่ดีที่สุดในประเทศไทย 


นำไปนึ่งก่อนเพื่อให้ไข่ด้านในสุก แล้วนำไปเผาอีกครั้งเพื่อไล่น้ำในตัวแมงดาออกให้หมด จะทำให้ได้รสชาติที่ดีครับ

ตัวน้ำยำมะม่วงไม่ใช้น้ำมะนาวนะครับ แต่ใช้น้ำเชื่อมสับปะรด จึงได้รสชาติหวานกลมกล่อมจากสับปะรด ตักไข่แมงดา แล้วราด...
ตามด้วยน้ำยำมะม่วง ตัวไข่เป็นสีส้ม รสสัมผัสหนึบหนับ เพลินมากๆครับจานนี้ผมนี่กินได้เป็นชั่วโมงเลยคุ้มค่าโครตๆ หยุดไม่ได้...


ถัดมาก็คือ "หอยเชลล์อบชีส" เมนูใหม่จากทางร้านครับ ราคา 200 บาท! แมงดาก็ว่าคุ้มแล้ว...นี่ราคาลงถูกรึเปล่านิฝาละ40เองหรอ


ทางร้านนำหอยเชลล์ขนาดใหญ่พิเศษมาทำการปรุงรส โรยด้วยชีสที่นำเข้าเป็นพิเศษ แล้วอบจนสุก ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยผงปาปริก้า



เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ทานร้อนๆอร่อยมากครับ ชีสยืดๆหอมๆ หอยก็สดไม่คาว ราคานี้เบิ้ลก็เพลินครับ จุใจเลยทีเดียว


และเมนูนี้ก็คือ "หัวปลาต้มเผือก" มาถึงเมนูสไตล์จีนกันบ้าง หัวปลาต้มเผือกของร้านทะเลทิพ ใช้หัวปลากะพงไซส์ใหญ่ครับ 


นำไปทอดจนเหลืองกรอบ พักไว้ แล้วนำเผือกหอมหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ทอดจนกรอบเกรียม พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วเริ่มทำน้ำซุป 
โดยใช้ซุปสูตรเด็ด ใส่หัวปลาทอดกรอบกับเผือกหอมลงไป ตามด้วยเห็ดหอม ปรุงรสเล็กน้อย ก่อนตบท้ายด้วยใบหอมที่คั่วจนเกรียม 

เมื่อนำลงน้ำซุปแล้วจะช่วยส่งกลิ่นหอมมากขึ้น เมนูนี้รสชาติเค็มหวานกลมกล่อม ซดน้ำเปล่าๆว่าอร่อยแล้ว 
แต่ทางร้านแนะนำให้ลองผสมกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสูตรพิเศษด้วยครับ จะช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม ซึ่งผมลองแล้วก็เป็นดังว่าจริงๆครับ


และน่าท๊านน่าทาน "กรรเชียงปู" ราคา 250 บาทครับ กรรเชียงปูม้าสด ที่ทางร้านรับประกันความสดใหม่ นำไปนึ่งจนสุก 


ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ด กรรเชียงสดมากจริงๆครับ เนื้อมาเป็นก้อนใหญ่ๆ สดหวาน แกะเปลือกง่ายครับ


เมนูนี้ คือ "ปลากดคังผัดพริกเกลือ" ครับ ทางร้านปลากดคังหั่นชิ้นพอดีคำ ทอดจนเป็นสีเหลืองทอง แล้วนำมาผัดกับพริกขี้หนูที่ตำมาละเอียด 


จานนี้รสชาติเผ็ดร้อน เหมาะเป็นกับแกล้ม หรือทานกับข้าวผัดก็อร่อยนะครับ ปลากดคังเนื้อแน่นไม่คาวเลย พริกที่ผัดมาหอมๆ
ยิ่งส่งกลิ่นและทำให้รสชาติดีขึ้นด้วยครับ จานนี้ชมกันหลายคนเลยครับแต่ส่วนตัวทานนิดกลัวเผ็ดแต่อร่อยจริงๆครับยอม


"ข้าวผัดรวมทะเลไซส์กลาง" ราคา 180 บาท คราวที่แล้วได้ชิมข้าวผัดปู รอบนี้ขอลองเป็นข้าวผัดรวมทะเลบ้างครับ 


มาในจานไซส์กลางเหมือนเดิม ข้าวผัดได้หอมอร่อยตามมาตรฐาน กุ้ง ปลาหมึกมาเป็นชิ้นใหญ่  และยังมีเนื้อปูรวมไปถึงไข่ปูด้วยครับ 
คุ้มค่ามากๆจานนี้


ทีเด็ดครับ "ต้มยำเมรีขี้เมา" ชื่อแปลกมากๆสำหรับเมนูนี้ เป็นต้มยำปลาทับทิมครับ โดยนำปลาทับทิมหั่นชิ้นพอดีคำ ทอดจนกรอบหอม 


แล้วนำใส่ในน้ำต้มยำสูตรเด็ด เพิ่มเห็นออเรนจิเพื่อความอร่อย ต้มยำของร้านทะเลทิพรสชาติกลมกล่อมมากๆ เปรี้ยวเค็มเผ็ดครบรสครับ 


ชิ้นปลาทับทิมทานตอนกรอบๆก็อร่อย หรือปล่อยให้ปลาดูดน้ำต้มยำจนชุ่มก็ได้รสชาติไปอีกแบบครับ อร่อยมากชอบสุดๆเลยครับ






จบไปอีกมื้อครับกับซีฟู๊ดมื้อใหญ่ อาหารทะเลที่นี่เด็ดจัดเต็มเชฟก็เก่ง ทางร้านใส่ใจลูกค้ามากๆครับราคาก็คุ้มค่ามากๆ
ผมอยู่ไกลๆมากๆรอบนี้ตั้งใจมาทานอีกรอบเลยไม่มีผิดหวังสักนิดเดียวครับฟินมาก ใครอยู่แถวนั้นยังไม่ได้ไปลอง
หรือจะมุ่งหน้าไปร้านทะเลทิำตรงๆก็ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ยังไงลองติดต่อสอบถามข้อมูลทางเพจของร้านดูนะครับ

เจอกันโอกาสหน้าครับผม
ขอบคุณสำหรับผู้ที่เข้ามาอื่นและCommentครับ








Create Date : 12 กรกฎาคม 2559
Last Update : 12 กรกฎาคม 2559 4:31:59 น.
Counter : 13924 Pageviews.

3 comment
(Review) ร้าน Mint Café by Peppermintfield คาเฟ่ต์สุดชิคแห่งใหม่ย่านเลียบด่วนรามอินทรา
ชื่อร้าน : Mint Café by Peppermintfield
รายการอาหาร : Fusion Food Thai-europe, เครื่องดื่มบริการ เบียร์ ไวน์ คอกเทล
เวลาเปิดบริการ : อังคาร-อาทิตย์ 11.00-22.00น.
ที่ตั้งร้าน : 127 ซอยโยธินพัฒนา3 (เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา) แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240, กรุงเทพมหานคร บางกะปิ Thailand
พิกัด GPS : 13° 48' 58.75"N 100° 37' 45.15"E







สวัสดีครับพี่น้องชาว Bloggang

วันนี้ขอพาไปแนะนำร้านอาหารชิคๆ สุดชิลล์ย่านเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรากันครับ
รอบนี้ถ่ายรูปมาเยอะพอสมควรเลยครับไปชมบรรยากาศกันก่อนเลยดีกว่าครับ...


ร้านที่จะไปอยู่ที่พิกัด 13.816319, 100.629209 ครับ (ซอยโยธินพัฒนา 3)



ไปถึงจอดรถเสร็จ...ฝนทำท่าจะตกทันทีครับ รีบถ่ายแบบด่วนๆ ก่อนเลย ลมแรงม๊ากก





ทางเข้าร้านดูดีไฮโซมากครับ นึกว่าหมู่บ้านจัดสรรเลย เกือบขับรถเลยละ


จอดเสร็จรีบขอมาถ่ายบรรยากาศข้างหน้าอีกทีก่อนครับเดี๋ยวค่อยไปถ่ายลานจอดอีกทีหลังฝนหยุด





บรรยากาศที่นั่งด้่านนอกน่าสนใจครับแต่ฝนจะลงเม็ดแล้ว 55+


เข้าไปถ่ายบรรยากาศในตัวร้าน "Mint Cafe" กันเลยดีกว่าครับ รอบนี้น้องฝนมาทำให้สับสนการลำดับหน่อยนะครับ


บรรยากาศในตัวร้านดูดีมากครับ ดูชิลล์ๆฮิปๆ ดี


หันมาเก็บภาพฝั่งเค้าเตอร์หน่อยครับ




มีแคปชั่นสกรีนไว้เลยด้วยครับว่า ครัวนี้ปรุงรสด้วยความรัก กันเลยทีเดียว


มีใบเมนูขนาดจักรยานตามความเหมาะสมของลูกค้า


เครื่องทำกาแฟขัดจนเงาแว๊บ ดูสะอาดดีครับ



ร้านนี้เจ้าของเป็นคนรักจักรยานมากๆ ครับมีเจ๋งๆ ที่ใช้งานจริงแล้วมาประดับร้านไว้หลายคันเลย




แน่นอนครับสายไวน์ก็ไม่มีผิดหวังครับครบครัน


จัดแต่งร้านได้ ดูชิคทันสมัยมากๆครับ




ที่นั่งก็มีทั้งแบบเน้นทานจริงจังและชิลล์ๆ จิบเครื่องดื่มเมาท์มอย คุยงาน ครบๆ ครับ




เห็นตู้ได้ถามข้อมุลก็ทำให้ร้องอ๋อครับ เข้าของร้านเป็นเจ้าของเดียวกันกับผู้ผลิตยาดมยาหม่อง “เซียงเพียว” ที่โด่งดังและ 
“Peppermint Bike park” ที่เดี๋ยวจะพาไปชมด้วยครับ


ส่องๆ มีการแข่งขันด้วยแหะ แต่ไม่ได้ถามข้อมูลไรมาครับ



ขอเก็บบรรยากาศอีกสักหน่อยครับ สวยงามมาก




ดูจากแคปชั่นตามกำแพงแล้วคุณเจ้าของน่าจะรักสุนัขมากๆ ด้วยครับ ดูๆ ไปก็อบอุ่นขึ้นมาเลย


ระหว่างถ่ายก็มีติดลูกค้าไปหลายท่าน กราบขออภัยด้วยนะครับ



มุมเก๋ๆเยอะม๊ากถ่ายสนุกมากครับ ร้านนี้ อีกนานเลยกว่าจะเข้าสู่อาหารขออภัยด้วยครับ แห่ะๆ


มุมนี้นั่งทานของว่างไปกางคอมทำงานไปนี่ชิลล์สุดๆครับ


สั่งอาหารแล้วแต่Holdไว้ก่อนเนื่องจากได้คำแนะนำเรื่อง “Peppermint Bike park” อยู่โซนหลังลานจอดรถทีแรกมาฝนตกตอนนี้หยุด
แล้วขอไปเก็บภาพหน่อยครับ...


ออกมาทางประตูหลังร้าน ก็เจอลิฟท์ด้วยครับ!

เห็นว่าชั้นสองขึ้นไปจะเป็นโซนห้องประชุมนะครับ แต่ไม่ได้ขึ้นไปเก็บภาพมาครับเห็นว่ามีลูกค้าใช้อยู่ด้วย


ออกหลังร้านไปลุยดู สนาม Peppermint bike park ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง lifestyle ของแบรนด์เป๊บเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ กันซะหน่อยดีกว่า


เก็บภาพลานจอดซะหน่อยครับทีแรกตอนมาฝนลงเม็ดได้เก็บแต่ข้างด้านหน้า


ที่จอดกว้างขวางสบายตา อลังการมากครับออกแบบดีมากๆ เห็นว่ารองรับได้มากถึง 150 คันเลยทีเดียว!


เดินมาเรื่อยๆก็ถึงกับส่วนของ Peppermint bike park  ครับ




น่าจะเป็นจุดจำหน่ายตั๋ว และ มินิมาร์ทบริการครับ


ส่วนนี้ก็น่าจะเป็นจุดรับ-ส่งจักรยานและอุปกรณ์สำหรับเช่าครับ






มีจักรยานตัวอักษรแคปชั่นคำคม เสี่ยวบ้าง เรียกไรดีเรียกไม่ถูกเลย55+


โอ้วฝนเพิ่งหยุดตกมีลูกค้ามาใช้บริการแล้ว รวดเร็วมากครับ





เก็บภาพเรียลๆ ณ ที่เลือกจักรยานแบบไม่ได้ขอจัดฉากใดๆ เลยครับ เป็นระบบระเบียบดีมากเลยครับที่นี่


มีรถรับส่งบริการด้วยครับ =A=


ส่องกฏระเบียบซะหน่อยครับถ้ามันเล็กไปสนใจจริงๆลองสอบถามทางเพจของทางร้านดูได้ครับ

แผนที่ Peppermint Bike Park ครับ โห กว้างกว่าที่คิดไว้มากครับ


ป่ะลุยกันเลยดีกว่า parkนี้จะแยกเลนให้เลยครับถ้าปั่นชิลล์ๆ รอบๆ ก็เข้าช่องทางสีฟ้าระยะทางครบรอบราวๆ 500 เมตรครับชิลล์ๆ


แต่ลูกค้าที่อยากโลดโผนหน่อย(ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนนะครับ)เลือกทางสีดำเลยครับมันส์แค่ไหนเดี๋ยวไปเก็บภาพให้ชมครับ


ลูกค้าปั่นชิลล์ๆ ทางสีฟ้าอยู่ขออนุญาตสแนปภาพมานิดหน่อยนะครับ ^^"




โค้งแรกของทางสีดำ เสือภูเขาก็มันส์นิดๆ ละครับ



วิวก็สวยครับเติมเต็มพลังงานชีวิตดีเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่ายังอยู่ใน กทม.




สุดยอดครับผมนี่อยากจะมาปั่นทุกวันเลยชอบมากๆ




ทางลาดจุดนี้มีทั้งแบบลาดลงปรกติและทางหินใจไม่เด็ดจริงต้องระวังให้มากๆเลยครับ



มีคุณพี่ปั่นลงมาโชว์ให้ด้วยด้วยครับน้องๆหนูๆอย่าเลียนแบบครับ ไม่แข็งจริงคว่ำแน่ๆ


บรรยากาศที่นี่ยังไงก็แจ่มจริงๆครับนี่ขนาดฝนเพิ่งหยุดตก




โค้งสวยๆอีกแล้วครับมุมนี้น่าปั่นไต่ชิลล์ๆเพลินๆ




คุณพี่ก็ปั่นผ่านมาโชว์ให้ได้อีกครับ จัดไปยาวๆ


ยอมรับว่าถ่ายเพลินมากครับลืมไปแล้วครับว่าตั้งใจมาทานอาหาร55+ ขอสนุกอีกหน่อยนะครับ TTwTT





โค้งไฮไลท์จุดนึงของที่นี่ครับ โค้งบัตเตอร์ฟลายเท่โครตๆครับ ไม่กล้าครับยอมเลย55+


คุ้มค่าจริงๆครับ Park นี้




จุดนี้มีทั้งมุมห้องปฐมพยาบาล ห้องอาบน้ำสำหรับลูกค้าเตรียมพร้อมครับ ครบครันสุดๆ



สายปั่นต้องมุมจักรยานเป็นนางแบบส่วนตัวแลนด์มาร์คครับ สักใบๆ




ก่อนกลับไปสู่อาหารมื้อเย็นเรามีด่านตบท้ายให้ด้วยอีกครับแหม่ 


วิวสวยๆ อีกสักมุมครับ แต่ด่านของเสือภูเขายังมีอีกหลายจุดเลยครับแต่พอละหิวแล้ววว


คุณลูกค้ากำลังคืนจักรยานพอดี(มั้งครับเดาเอา) ผมนี่อยากมาบ่อยๆ เลยเสียดายไกลบ้านอยู่คนละฝั่ง กทม.


กลับมาที่ Mint Café ของเรากันครับสนุกเต็มอิ่ม(ใจ)เลย 


กำลังจะเย็นพอดีได้เวลาทานจริงๆ แล้ววว








เอาเมนูคร่าวๆ มาให้เพื่อนพี่น้องส่องกันเบาๆ ครับ หลายๆ เมนูน่าสนใจมากเลยครับ




เมนูแรกมาเสิร์ฟละครับว้าวมากๆกับ "หอยเชลซอสบัลซามิค" หรือ กริลล์สแกลล็อปบัลซามิคซอส ครับ ราคา 395 บาท


ใช้หอยเชลล์ธรรมชาตินำเข้าจากอเมริกา มากริลล์จนสุกหอม จัดวางบนซัลซ่าที่มีส่วนผสมหลักคือ อะโวคาโด้ มะเขือเทศเชอรี่
หอมแดงและอิตาเลี่ยนเบซิล ตัวซัลซ่าปรุงรสด้วยเลมอน เกลือ และพริกไทย และผักสลัดที่มาเคียงกันก็มีร็อคเก็ต แรดิชิโอ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค


ส่วนซอสบัลซามิคก็ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งนะครับ จานนี้อร่อยมากๆ ปกติเป็นคนชอบทานหอยเชลล์อยู่แล้ว ของร้าน Mint Cafe นี่ชิ้นใหญ่มากๆ 
ตัวซัลซ่าเองก็สดชื่น รสชาติแปลกใหม่ เหมาะจะเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเลยครับ

เครื่องดื่มบ้างครับ "มะนาวโมฮิโต้" ราคา 85 บาทครับ น้ำมะนาวคั้นสด ผสมด้วยใบมิ้นท์ และโซดา ไม่ได้ชิมครับแต่น่าจะสดชื่นมากๆ


ส่วนนี้น้องสั่งมาลอง "Mint Fizz มินท์ฟิซ เสาวรส" ราคา 75 บาท น้ำเสาวรสผสมกับผลเสาวรสสด ปั่นรวมกับใบมิ้นท์ ไม่ใส่น้ำเชื่อมนะครับ 

ได้ความหอมหวานจากเสาวรสเต็มๆ ใบมิ้นท์ช่วยเบรคกลิ่นเสาวรสไม่ให้แรงเกินไปด้วยครับ

"Mint Fizz มินท์ฟิซ ลิ้นจี่" ราคา 75 บาท


น้ำลิ้นจี่ผสมโซดาและน้ำแข็งปั่นจนละเอียดครับ แก้วนี้เหมาะกับอากาศร้อนจริงๆครับ ความหอมหวานของลิ้นจี่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมากๆ

ต่อด้วย "ปลาหมึกชุบแป้งทอด" (Fried Calamari) อาหารทานเล่นยอดฮิต โดยทางร้านได้นำปลาหมึกกล้วยมาคลุกกับผงกะหรี่ 


แล้วนำไปคลุกแป้ง ทอดจนกรอบหอม โรยด้วยสโมคปาปริก้าครับ ทานคู่กับทาทาร์ซอส รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม เป็นจานเรียกน้ำย่อยที่ดีมากๆครับ ปลาหมึกที่นี่เนื้อนุ่มไม่คาวเลย


จานต่อมา "ก๋วยเตี๋ยวไก่สูตรคุณแม่" ราคา 95 บาท ไม่เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ตามร้านทั่วไปเนื่องจากที่นี่ไม่ใส่ปาท่องโก๋กรอบครับ 


และใช้คาโนล่าออยล์ในการผัด ตัวเส้นเหนียวหนึบ ไก่ชิ้นใหญ่ ปลาหมึกสดกรอบ ผัดมาได้รสชาติพอดีมากๆ จานนี้อร่อยครับ


เมนูสุดเด็ดประจำวันนี้เลยครับ "เนื้อย่างจิ้มแจ่วข้าวเหนียว" (Grilled Sirloin Chili dipped) ราคา 385 บาท


ร้าน Mint Cafe ใช้เนื้อวัวส่วน Rump ที่นำเข้ามาจากออสเตรเลียครับ นำเนื้อมาย่างแบบมีเดียม (ชอบสุกมากสุกน้อยสั่งได้เลยนะครับ 
แต่ถ้าไม่รีเควส จะออกมาเป็นมีเดียมเสมอครับ) ตัวเนื้อย่างได้ดีมากๆ ทานเปล่าๆยังอร่อยเลยครับ


จานนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและข้าวเหนียว ข้าวเหนียวนี่ก็ไม่ธรรมดานะครับ ...


ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากเชียงราย นึ่งด้วยสูตรลับของเชฟ รับประกันความหอมนุ่ม ซึ่งต้องบอกเลยว่านุ่มมากจริงๆ ขนาดทิ้งไว้นานแล้ว 
โดนลมโดนแอร์ก็ยังนุ่มอยู่ครับ


เมนูถัดมาชื่อก็น่าลองครับ "พาสต้า CEO" (Pasta CEO- Aglio Olio) ราคา 255จานนี้มาจากความรักความชอบในเมนูสปาเกตตี้ของคุณเจ้าของร้านครับ 


โดยได้นำมะกอกดำ กระเทียม พริก อิตาเลียนเบซิลมาโขลกรวมกันเพื่อทำเป็นซอส นำไปผัดกับกุ้ง ปลาหมึก และเส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแบบอัลเดนเต้ 
จานนี้ออกรสชาติเผ็ดนิดๆ ตัวซอสเข้มข้นมากๆหอมกลิ่นเครื่องเทศครับ


โดนเด่นจนต้องลอง เบอร์เกอร์เนื้อ "Charcoal Beef burger" ราคา 255 บาท ใช้สะโพกโคขุนบดหยาบผสมเข้ากับโรสแมรี่ 
หอมใหญ่และพริกไทย แล้วย่างจนสุกหอม สำหรับขนมปังใช้เป็นชาร์โคลนะครับ ราดด้วยซอสมัสตาร์ดการ์ลิค 



วางซ้อนด้วยหอมใหญ่ มะเขือเทศ เชดด้าชีสที่บ่มนานถึง 25 สัปดาห์เพื่อรสชาติที่เข้มข้น ตัวเบอร์เกอร์อร่อยมากๆ ฉ่ำน้ำเนื้อ 
ผักสดกรอบ ซอสหอมอร่อยครับ


และจัดหนักกับเมนู "ขาหมูเยอรมันทอด" ราคา 385 บาทครับ โหเห็นราคาละถือว่าคุ้มมากครับ ทางร้าน Mint Cafe ใช้ขาหมูไซส์
ไม่เกิน 700 กรัมต่อหนึ่งขา เพื่อให้ได้ขนาดที่พอเหมาะต่อการรับประทานนำไป Sous Vide (ซูวี) แล้วนำไปรมควัน 


แล้วค่อยนำไปทอดแบบไร้น้ำมัน ออกมาเป็นขาหมูทอดที่หนังกรอบ อร่อยฟินสุดๆ เนื้อนุ่มแน่น หนังกรุบกรอบ


ทานกับน้ำจิ้มมิ้นต์ซีฟู้ดสูตรเด็ดของเชฟเพื่อตัดความเลี่ยน ตัวซาวเคร้าของรัานนี้ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ 
ใช้กะหล่ำขาวและกะหล่ำม่วงมาดองจนได้ที่ รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อม ตัวมันบดก็เนื้อเนียนนุ่มครับ


สายไวน์ก็พลาดไม่ได้ครับ


ฟินสะใจกันแล้วก็เดี๋ยวต้องต่อด้วยของหวานครับร้านนี้ไม่ใช่เล่นๆ 


มาแล้วกับของหวานเมนูแรก กล้วยหอมทอด "Goldenbrown fried banana" ราคา 85 บาทครับ
กล้วยหอมทองชุบแป้งทอดจนเหลืองหอม ราดด้วยน้ำผึ้งใบเตย โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง กลิ่นหอมหวานชวนกินมากๆ กล้วยมาชิ้นใหญ่มากๆ แป้งไม่หนา ทานแล้วเข้ากันดีครับ


จานต่อมาสวยงามน่ารักมากๆ มินท์คาเฟ่วัฟเฟิลซอร์เบทสามรส "Mint Cafe triple Sorbet with Waffle" จานนี้ 135 บาทเองครับ คุ้มมากๆ
วัฟเฟิลหอมๆ อบจนกรอบรอกนุ่มใน โปะด้วยโฮมเมดซอร์เบทสามรส เลมอนฮันนี่ให้รสชาติสดชื่น สตรอเบอรี่อมเปรี้ยวอมหวาน และเสาวรสเปรี้ยวโดนใจ
โดยซอร์เบททั้งสามตัวจะนำไปปั่นรวมกับใบมิ้นท์เพื่อให้เข้ากับคอนเซปท์ร้าน เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล
เป็นของหวานที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่อยากทานของหวานอร่อยๆแต่ไม่หนักท้องจนเกินไปครับ


แต่ขอเสริมด้วยเครื่องดื่มที่ชื่นชอบไปไหนต้องสั่งและร้านนี้เด็ดโดนใจเลย "Mixology Green Apple (Perrier)" ราคา 170 บาท


นำ Sparkling water ของ Perrier มาผสมเข้ากับน้ำเชื่อมผลไม้รสชาติต่างๆ แล้วเติมผลไม้สดลงไป แอปเปิ้ลเขียวให้รสเปรี้ยวสดชื่น


และตามด้วย "Mixology Strawberry (Perrier)" ราคาเท่ากัน Strawberry มาเป็นลูกเบ้อเริ่ม 


รสชาตินี่อร่อยมากๆ ครับคนให้เข้ากัน ซ่าส์หวานกำเปรี้ยวกำลังดี  ช่วยแก้เลี่ยนอาหารได้ดีครับ สดชื่นเลย


และมีคนสั่ง "Affogato" มาครับ ราคา 135 บาท 


ใช้เมล็ดกาแฟพันธุ์ดี ออกมาเป็นเอสเพรสโซ่ช็อต ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลาหอมหวาน เข้ากันดีมากๆครับ













จักรยานที่ประดับในร้านแต่ละคันมีสตอรี่เรื่องราวและราคานี่แสนอัพ++ ทุกคันครับ Limited edition  ทั้งนั้น เจ้าของร้านรักจักรยานสุดๆ
เลยครับ ไว้จะมา EDIT เรื่องราวแต่ละคันเล็กน้อยนะครับฟังมาคร่าวๆ




จบไปอีกมื้อใหญ่สุดฟินครับอยู่ร้านนี้แล้วเหมือนหลุดไปเที่ยวเขาใหญ่มาเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่ายังอยู่ใน กทม. ครับสนุกมากๆ
อาหารก็อร่อยเน้นทั้งวัตถุดิบคุณภาพ ฝีมือเชฟที่นี่ก็ไม่แพ้ใคร บริการก็ดี บรรยากาศสุดเลิศ เพื่อนพี่น้องใครอยู่แถวนั้นยังไม่เคยลอง
ต้องพาคนรัก ครอบครัวไปลองให้ได้ครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน ยังไงลองติดต่อสอบถามทางเพจของร้านดูนะครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและCommentครับ
เจอกันโอกาสหน้าครับ




Create Date : 24 มิถุนายน 2559
Last Update : 7 กรกฎาคม 2559 2:12:28 น.
Counter : 22260 Pageviews.

4 comment
(Review) อีกสักมื้อ...ร้านเด็ดประจำเมืองภูเก็ต สุดคุ้มค่า @ "ร้านกอบัว ภูเก็ต"
ชื่อร้าน : ร้านกอบัว ภูเก็ต (Korbua Phuket Restaurant)
รายการอาหาร : อาหารพื้นเมืองภูเก็ต , อาหารไทย
เวลาเปิดบริการ : 10.30 - 21.00 น. เปิดจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์)
ที่ตั้งร้าน : 5/25 ซอยกู้กู ถนนรัษฎานุสรณ์ ตำบลรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000, ภูเก็ต Thailand
พิกัด GPS : 7° 54' 27.02" N 98° 23' 33.00" E





สวัสดีอีกครั้งครับชาว Bloggang 

   เนื่องด้วยจาก Review ที่แล้วของร้านกอบัว อร่อยติดใจมาก
จนต้องกลับไปทานอีกมื้อก่อนกลับ กทม. วันนี้เลยขอมาบอกเล่า
แนะนำต่อเลยครับอีกสักมื้อ...

รายละเอียดของร้านการเดินทางสามารถ > คลิกอ่านจาก Review Part แรกได้เลยครับ < 

จากนั้นเราก็ไปต่อกันครับ...

มื้อนี้มารอบดึกครับร้านปิดสามทุ่มน่าจะยังทันครับ :P... (ตอนถ่ายรอจังหวะรถโล่งๆครับ...)


เข้าร้านกันเลยก่อนจะปิดครัวดีกว่าครับ




ว้าวจุดเทียนแล้ว มีโต๊ะโรยกุหลาบด้วย บรรยากาศโรแมนติกมากครับ ใครมีมื้อพิเศษนี่ก็น่าสนใจมาจองได้เลยนะเนี่ย


เมนูแรกเลยครับหิวแล้วPartนี้จัดด่วนเลย [น้ำพริกกุ้งเสียบ] ราคา 120 บาท! โหราคานี้ได้ขนาดนี้เลย


มาเที่ยวใต้ห้ามพลาดน้ำพริกกุ้งเสียบ โดยน้ำพริกกุ้งเสียบนี้ก็เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน ตำเองสดใหม่ทุกวัน รสชาติเข้มข้น


อีกทั้งยังให้ผักแนมน้ำพริกมาครบครับ ทั้งแตงกวา ถั่วฝักยาว ขมิ้นขาว ยอดมะกอก กระถิน มะเขือเปราะ สะตอ ไข่ชะอม
และผักพื้นเมืองภาคใต้อย่าง ยอดมะม่วงหิมพานต์ และ ถั่วงอกหัวโต จานนี้เหมาะกับคนรักสุขภาพมากๆครับ


เมนูถัดมามาเป็นหม้อเลยครับ [กุ้งอบกอบัว] ราคา 250 บาท จานนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้านนะครับ โดยนำกุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่
ไปทอดในน้ำมันร้อนๆพร้อมกับพริกไทยดำ แล้วจัดใส่ถ้วยเพื่อนำไปอบกับซอสพริกไทยดำ กระเทียมสับ และเม็ดบัว จนสุกหอม


สำหรับกุ้งแชบ๊วยนี่อร่อยมากๆ เนื้อแน่น ทอดมาได้พอดี ทานคู่กับซอสพริกไทยดำ รสชาติเผ็ดร้อน หอมอร่อยมากๆครับ


และของโปรดครับอดใจไม่ได้จริงๆ [ปลากระพงทอดน้ำปลาและยำมะม่วง] ราคา 380 บาท ครับ


จานเด็ดที่ไม่อยากให้พลาด ปลากระพงทอดในน้ำมันร้อนๆจนเหลืองกรอบ ราดด้วยน้ำปลาหอมหวาน


แต่ที่เด็ดของจานนี้อยู่ที่น้ำยำมะม่วง ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ เพราะน้ำยำมะม่วงของร้านกอบัวเป็นน้ำยำมะม่วงสีขาว 
ขาวจริงๆครับตอนแรกนึกว่านมข้นหวานด้วยซ้ำแต่ไม่ใช่ครับ เจ้าของร้านบอกว่าเป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นเองและภูมิใจนำเสนอมากๆ 


ซึ่งตัวน้ำยำนี้ รสชาติกลมกล่อมครับ ไม่เปรี้ยวเกินไปแบบยำมะม่วงร้านอื่นที่บางทีเปรี้ยวจนผมทานไม่ได้ ยิ่งนำมาราดลงบนตัวปลา 
ทานคู่กับน้ำยำมะม่วงสูตรพิเศษสีขาวนวลรสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวมากๆเลยครับ


หลังจากซัดมะพร้าวน้ำหอมไปอีกลูก(ลืมถ่ายมา)ก็มีแนะนำแบบปั่นอีกครับก็จัดมาอีกสองแก้วเลย


หวานหอมสมคำแนะนำครับทานไงก็ไม่เบื่อเลยมะพร้าวที่นี่ มีเนื้อมาให้ด้วยเพลินยาวละทีนี้


ต่อของหวานปิดท้ายกันหน่อยครับกับ[ข้าวเหนียวมูนกะทิสด]ราคา 120 บาท ต่างชาติเห็นนี่ต้องชอบมากๆแน่ๆ 


เสิร์ฟพร้อมกระทิสดหอมหวานราดให้มั่วแล้วจัดเลยครับ เนื้อมะม่วงหวานหอมอร่อยมากๆ ราคานี้ถูกคุ้มค่าไปเลย ไหนบอกอิ่มกันแล้ว
แปบเดียวจ้วงกันซะหมดเกลี้ยงถ่ายไม่ทันกันเลยทีเดียว อยากรู้ต้องลองสั่งครับ
...
..
.

เพิ่งสังเกตก่อนกลับ...มีไฟดิสโก้ที่กระพริบตามจังหวะเพลงด้วยครับ


...
..
.

แอบสั่ง[ผักเหมียงผัดกุ้งเสียบ]กับข้าวเปล่ามาทานที่พักที่โรงแรมอีกตังหากครับ 55+ ขนาดอิ่มแล้วกะไว้กินตอนเช้า
ทีแรกกะชิมๆนิดๆ สุดท้ายก็หมดเกลี้ยงคืนนั้นอยู่ดี กร๊าก เฮ้อ นาทีนี้ก็ยังอยากกินอีกอยู่เลยครับ TTwTT


จบไปอีกมื้อสุดฟินไม่ผิดหวังเช่นเคยครับขนาดมาสองมื้อเวลาใกล้เคียงกัน เพื่อนพี่น้องท่านใดได้ไปภูเก็ตหรืออยู่ภูเก็ตแล้ว
ยังไม่เคยได้ลองร้านกอบัวนี้ต้องลองให้ได้ครับ ไม่ผิดหวังแน่อน เช่นเคยครับสนใจสอบถามรายละเอียดลองติดต่อทางเพจของร้านดูนะครับ

เจอกันโอกาสหน้าเร็วๆนี้ครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและCommentครับ











Create Date : 14 มิถุนายน 2559
Last Update : 14 มิถุนายน 2559 4:20:42 น.
Counter : 3074 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

akuchan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]







Group Blog
All Blog