Ake-mini
Group Blog
 
All Blogs
 
บันทึกของเล่น...จดหมายถึงเพื่อนที่แสนดี

บันทึกของเล่นนี้เป็นของเล่นของเด็กผู้ชายทั้งนั้นเลย

เริ่มจาก ตอนยังไม่มีครอบครัว ช่วงที่ประเทศไทยยังฟองสบู่ไม่แตก เงินเดือน ก็ไม่มาก แต่ยังพอมีเหลือซื้อของเล่นได้บ้าง มากน้อยแต่ละเดือนก็สลับ ๆ กันไป บางช่วงของชีวิต มีเงินซื้อของที่ตัวเองอยากได้ เดือนละเป็นหมื่น ๆ เช่น เครื่องเสียง หรือ โทรศัพท์มือถือ สมัยนั้น ซื้อเครื่องหนึ่ง สามหมื่นห้า (35,000) บาท ..จริง ๆ Mobira 500 by AIS900 เท่ห์มั่ก ๆ...

อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมากมายจริง ๆ อยากได้ก็ไปซื้อ คอมพิวเตอร์ก็เล่น รื้อ ๆ ประกอบ ๆ แยกชิ้น ซื้อใหม่ หัดทำเอง จนพอเป็นบ้าง จนกระทั่งมีครอบครัว...ตอนช่วงมีครอบครัวใหม่ ๆ พอเข้าห้องปุ๊บ เปิดคอมฯปั๊บ เหมือนตอนยังไม่แต่ง ทีนี้ เมียก็บ่นดิ...เลยต้องเลิกกับคอมฯ มานอนคุยกับเมีย คุยไปคุยมา เลยมีลูก คนแรก ...555 (ตอนนี้เลิกกับคอมพิวเตอร์แล้ว)

หลังคลอดลูกคนแรกได้ไม่นาน เดินผ่าน 7-11 ในปั๊มน้ำมัน เห็นเด็กโตขับรถยนต์แต่งซิ่ง มาซื้อของแล้วไม่ยอมกลับ มันดันเอารถกระป๋อง(บังคับ) ออกมาเล่นกันหน้าร้าน เอาละซิ เข้าทาง อยากเห็น เลยแวะดูซะหน่อย..ในที่สุดก็ได้มันมาครอบครองไม่น้อยเลยทีเดียว ก็สนุกดี มีเพื่อนเพิ่มอีกหลายคน แต่ในทีสุดก็จากกันไป หายหน้าหายตาไปหมด

เล่นรถกระป๋องได้ไม่นาน เพื่อนก็บอกว่า ลองไปดูคันใหญ่กว่านี้สิ เขามีสนามด้วยนะ เอ๊าไป๊...ไปดูกัน ดูไป ดูมา ก็ได้เป็นสมาชิกของสนาม พร้อมรถคันใหญ่อีกหลายคัน ที่ทะยอย ๆ กันเข้ามา ตอนเล่นใหม่ ๆ ก็ยังพอมีเงินเหลือให้เล่นอยู่ ก็เลยไม่ลำบากนักเล่นได้สบาย ๆ

พักเดียวแหละ ฟองสบู่แตก เดือดร้อนกันทั่วประเทศ ก็ไม่เท่าไร แค่เงินเดือนไม่ขึ้น ไม่โดนไล่ออก แต่ก็ต้องประหยัด มีเงินเหลือซื้อของเล่นได้น้อยลง ตอนนี้เริ่มมีรถบังคับคันใหญ่ น้อยลงแล้ว เริ่มขายของที่มีอยู่เพื่อให้เหลือเท่าที่อยากได้ และดีหน่อย(อุปกรณ์แต่งถึงหน่อยว่างั้นเหอะ) เล่นอยู่ประมาณ 3 ปี ...

วันหนึ่งเพื่อนที่เล่นรถด้วยกันเข้ามาที่สนาม พร้อมกล้องถ่ายรูปดิจิตอล โอ๊ว...อะไรกันเนี่ย เดี๋ยวนี้พัฒนาไปกันได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ (แต่ราคาก็ยังแพงอยู่ ..เอ๊ะ รุ่นถูกกว่านี้ก็มีนี่หว่า) คือ เรื่องของมันก็คือ ไอ้กล้องดิจิตอลเนี่ย เคยซื้อไว้ตั้งแต่สมัยที่แต่งงานใหม่ ๆ แล้วหล่ะ ตอนนั้นซื้อได้แค่กล้องดิจิตอลคอมแพ็คเล็ก ๆ ราคาหมื่นปลาย ๆ ไอ้กล้อง DSLR ตัวใหญ่ ๆ น่ะ ไม่มีปัญญาซื้อหรอก ตัวละเป็นแสน ๆ แถมเลนส์อีก หลายหมื่น ถึง หลายแสน ก็เลย...เอ๊ะ น่าสนใจนะ เราไม่ได้สนใจมันหลายปีแล้ว ตอนนี้มีรุ่นใหม่ ๆ ราคา ไม่ถึง ห้าหมื่น ให้เล่นด้วย เป็นกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ด้วย เอาละซิ...

ในที่สุดก็เลยเลิกเล่นรถบังคับด้วยวิทยุ ประกอบด้วย ความสนใจในรถบังคับน้อยลง เพื่อนๆ ทีเคยเล่นกันที่สนามฯ ก็หายหน้าหายตาไปกันเยอะ ด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจ ของประเทศ ตอนนั้นก็เริ่ม เน่า คือ ใหม่ ๆ ก็แค่ช้ำ ๆ เจ็บเป็นจ้ำ ๆ ตอนหลังเริ่มเน่าน่ะ.. เพื่อนก็ห่างหาย เริ่มขายรถบังคับที่มี เพื่อเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายรูป...

ตอนนี้รู้จักเพื่อนใหม่คนหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถทางการซื้อ มากมาย มากเสียจนคนขายยอมแพ้...ประกอบกับตอนจะเลิกเล่นรถบังคับ เขาก็ฝากให้ช่วยดูแล ขายของให้เขาด้วย เพราะเขาไม่มีเวลาจัดการกับตรงนั้น ก็เลยได้ช่วยดูแลกันทั้งรถบังคับ และ รวมไปถึง อื่น ๆ ที่เราพอจะรู้ ก็ช่วย ๆ กันไปเขาก็เกรงใจ ให้ความช่วยเหลือเราเกือบทุกด้าน (อันนี้ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง)

ยิ่งตอนมาเล่นกล้องถ่ายรูปด้วยกัน เขาก็ช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่ว่าตอนนี้สถานะทางการเงินเรา ไม่ค่อยมีเหลือให้ซื้อของเล่นประเภทนี้ซะแล้ว กล้องตัวละ สาม-สี่หมื่น เลนส์อีกตัวละหลายหมื่น ไม่มีปัญญาซื้อ ผ่อนก็ไม่ได้ เลยต้องเล่นเลนส์คิท ตัวละ สอง-สามพันบาทไป ได้รู้จักเพื่อน กลุ่มใหม่ ที่เล่นกล้องด้วยกัน ในเวปไซต์แห่งหนึ่ง ก็ได้พอช่วยเหลือ เจือจารกันไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้พึ่งพาใครมากเท่าเพื่อนจากรถบังคับ...

แต่ สองปีให้หลังมานี้ เพื่อนคงเริ่มรู้สึก รำคาญ หรือ ไม่ชอบเท่าไรที่เราไปยืมของเขาบ่อย ๆ เช่นเลนส์ เขาก็เลยบอกว่าไม่มี และไม่ให้ยืมในที่สุด เราก็เข้าใจเพื่อน ไม่ให้ยืม...แต่ก็ยังหน้าด้านยืมต่อไป...แต่เพื่อนก็ยังคงให้ความช่วยเหลืออย่างอื่นอยู่ตลอด นับเป็นเพื่อนดีเด่นแห่งชาติเลยหล่ะ...

เราก็ไม่ค่อยมีเลนส์ดี ๆ ฝีมือก็ไม่มี ความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่ค่อยมี ประเภท พรสวรรค์ ไม่ปรากฏ พรแสวง ไม่มี และมีข้ออ้างว่า เสาร์-อาทิตย์ต้องอยู่กับลูกกับเมีย วันธรรมดากลับดึกไม่ได้...ก็เลยมีอันต้องถอย ห่าง ออกจากวงการมาทีละนิด ๆ จนทุกวันนี้ ถือได้ว่า ตกขอบวงการกล้องอย่างเป็นทางการทั้งเรื่องข่าวสาร เทคนิค และ อุปกรณ์ ส่วนเพื่อนที่แสนดีของเรา เขายังคงอยู่ในวงการ และ อย่างเป็นทางการซะแล้วด้วย มีบริษัท ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับทางด้านนี้ มีรายได้เข้ามา (นี่คือความแตกต่างของคนสองคน)

ในที่สุด วงจรเดิมมันก็กลับมา เหมือนตอนเล่นรถบังคับ ไม่เหมือนตอนเลิกกับคอมฯ คือเพื่อนไม่คบ ไม่ช่าย เพื่อนไม่มีเวลามาเล่นด้วย เล่นคนเดียวไม่สนุกน่ะ (555)ก็คือตอนนี้ ปัจจุบันนี้ เริ่มไม่ค่อยได้จับกล้องถ่ายรูป และ ประกอบกับ การอยู่ตัวคนเดียว ไม่ค่อยได้ไปเจอกับเพื่อน(คือตอนเล่นกล้องใหม่ ๆ ยังได้ไปเจอกับเพื่อนในเวปไซต์ แต่พอเพื่อนที่แสนดีของเรามาเล่นกล้อง ถ่ายรูป ที่เขาอยากถ่ายมาก ๆ เราก็ไปเป็นเพื่อน สุดท้ายเราก็ทิ้งเพื่อนทางเวปไซต์ มาถ่ายรูปอยู่กับเพื่อนที่แสนดี อันนี้เราเลือกเอง ไม่มีใครบังคับ) คือแบบว่า ตอนช่วงหลัง ปีที่แล้วกับปีนี้ เพื่อนที่แสนดี มีงานเยอะ จึงไม่สามารถ ได้พบกัน และมีกิจกรรมที่ชอบทำร่วมกันได้บ่อย ๆ เลยห่าง ๆกัน เราก็เริ่มว่างมากขึ้น รูปไม่ได้ถ่าย และประกอบกับเพื่อนในเวปถ่ายรูป ชวนให้มีกิจกรรมอื่น...แน่ะ...อยากรู้ใหม ?

คือเพื่อนในเวปถ่ายรูป ชวนไปเล่น BB Gun แล้วประกอบกันกับที่เพื่อนทีแสนดีของเรา ได้เจอกันน้อยลง (เรารู้ว่าเพื่อนอยู่สุขสบายดี และมีความสุขกับกิจกรรมที่เพื่อนชอบและทำอยู่) เราก็เริ่มสนใจที่ละนิด ๆ และบ่อยครั้งเข้าจนกลายเป็นความชอบ เพื่อนที่แสนดีเราก็ชอบ และมีเยอะด้วย ยังอุตส่าห์ใจดีให้ของที่เขาไม่ใช้แล้วมา 1 ชิ้น คงจะนับได้ว่าเป็นของชิ้นสุดท้ายแล้วที่เพื่อนให้มา...

ตอนนี้ เราเริ่มแน่ใจแล้วว่า เราหมดความต้องการทางด้านการถ่ายภาพ และ หมดความสนใจในกิจกรรมการถ่ายภาพ อุปกรณ์ และองค์ความรู้ทางด้านการถ่ายภาพแล้วอย่างเป็นทางการ เราเริ่มสนใจใน ปืน บีบีกัน อัดลม อัดแก๊ส หรือ ปืนไฟฟ้ามากขึ้น ดูทุกวัน ศึกษา ข้อมูลทุกอย่าง ทั้งไปดูของจริง(ของคนอื่นเขา) ดูจากเวปไซต์ อ่านจากหนังสือ ทำการบ้านอย่างหนัก อย่างบ้าคลั่ง เหมือนราวกับว่า เราจะไปสอบเป็นผู้ชำนาญการทางด้านนี้...แต่ก็เหมือนกัน การเรียนรู้ทางด้าน ทฤษฏีอย่าวเดียว ไม่มีการเรียนรู้ทางด้านปฏิบัติ (อันนี้เป็นข้อจำกัดทางด้านการเงิน) เพราะปัจจุบัน มีลูกน้อย สองคนแล้ว รายได้เท่าเดิม และด้วย
นอนตื่นสาย อายทำกิน หมิ่นเงินน้อย คอยวาสนา
ทำให้ไม่สามารถจะมีในสิ่งที่อยากมีได้ สิ่งที่คิดได้แค่นี้ ตอนนี้ คืออยากได้ ทำอย่างไรให้ได้มาซึ่งของเล่น...ก็ต้องขายสินทรัพย์เป็นทุน เพื่อนที่แสนดีของเราก็เตือนว่า กล้องน่ะ ของใช้ ปืน น่ะ ของเล่น เรารู้ เราเข้าใจ แต่เพื่อนคงไม่เข้าใจหรอกว่า เราทำอย่างเพื่อนไม่ได้หรอก เพราะเราไม่มีเหมือนเพื่อนที่จะซื้อ ปืนของเล่น ชิ้น ละเป็นหมื่น ๆ เก็บไว้ รุ่นละ 1-2-3 กระบอกเหมือนเพื่อน เราจึงคิดว่า(จำเป็น)ต้องขาย ของที่เรามีความสนใจน้อยลง และใช้งานมันน้อยลงเพื่อแลกกับความต้องการ (ชั่วครั้ง ชั่วคราว)ของเรา เพื่อประทังความอยากของเรา ไม่ให้พลุ้งพล่านมากกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเอง เป็นหนี้ บัตรเครดิต หนี้เงินกู้.....(อันนี้เพื่อนไม่เข้าใจหรอกเราคิดว่า)

ตอนนี้เราเริ่มคิดโครงการขายสินทรัพย์เป็นทุนอย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะแลกมากับความต้องการ ของเล่นชิ้นใหม่ ซึ่งก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะยังอยากเล่นไปอีกนานแค่ใหน แต่ว่าความต้องการมันมีมากขึ้นทุกวัน ๆ และยังคงไม่ลดหรือเลือนหายไป...


จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เด็กผู้ชายกับของเล่นของเด็กผู้ชายก็ยังคง เหมือนเดิม มีความต้องการแม้ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม...ยังดีอยู่นิดหนึ่งที่เราคิดว่ามันดีสำหรับครอบครัว คือเราไม่ค่อยสนใจเรื่อง ผู้หญิง หรือ เรื่องก๊งเรื่องกิ๊ก อะไรนั่น เรายังคงสนใจกับของเล่น ซึ่งเป็นความสุขเล็ก ๆ ของเราและจะพยายามไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ครอบครัวเดือดร้อน

ทุกวันนี้ เรายังไม่มีในสิ่งที่อยากได้ แต่คงจะมีได้ในเร็ว ๆวันนี้ ด้วยการแปลงสินทรัพย์ เป็นทุน เพื่อเป็นของเล่นที่อยากได้ แม้มูลค่าทางการเงินมันจะน้อยลง แต่ คุณค่าทางใจ ยังคงมีค่าเหมือนเดิม แม้เพื่อนจะมองว่ามันเป็นของเล่นก็ตาม....

เรานับถือเพื่อน แนวคิดของเพื่อน วิธีคิดของเพื่อน คำแนะนำของเพื่อน แต่เราไม่ดีเอง เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะเราต้องเป็นมีชีวิตเป็นของเรา เพื่อนไม่สามารถช่วยเราได้ทุกเรื่องหรอก แต่เราก็ขอบคุณมากเลยนะที่ ทุกวันนี้ แม้เพื่อนจะเบื่อเรามากก็ตาม แต่เพื่อนก็ยังคงให้ความช่วยเหลือ ทุก ๆ เรื่องอย่างดีตลอดมา เราก็ยังคงเป็นเรา มีความต้องการเหมือนเดิม เพืยงแต่คงไม่สามารถทำอะไรได้อย่างใจเหมือนแต่ก่อนแล้ว คงทำได้แค่เล็ก ๆ มีความสุขทางใจเล็ก ๆ ไปคนเดียวนับจากนี้

เพื่อนก็ยังคงเป็นเพื่อนที่แสนดีของเราต่อไป มีอะไรอยากให้ช่วยก็บอก ถ้าแม้บางครั้งเราไม่มีเวลา หรือ ไม่ได้ไป ก็ไม่ได้หมายความไม่อยากช่วยนะ ทุกเรื่องทุกอย่างเราก็ยังอยากไปช่วยเพื่อนเหมือนเดิม และจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือ อย่างสุดความสามารถ สุดกำลัง นะเพื่อน

เพื่อนทำงาน และ สนุกกับกิจกรรมของเพื่อนต่อไปเถอะ เราก็กำลังจะสนุกกับกิจกรรม (ของเล่นชิ้นใหม่) ของเราเหมือนกัน ไว้ให้เพื่อนมีเวลาว่าง เรามาเล่นด้วยกัน....

ขอขอบคุณ เพื่อนที่แสนดี ที่คงหาไม่ได้อีกแล้ว


Create Date : 24 เมษายน 2551
Last Update : 24 เมษายน 2551 11:27:36 น. 0 comments
Counter : 332 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mr9what
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add mr9what's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.