" ผู้โดยฯ แห่งปี "
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนไฟลท์ขากลับจากกรุงเทพฯค่ะ
นานๆแอร์บันนี่จะโชคดีได้ทำไฟลท์กรุงเทพฯกับเค้าซะที
อารมณ์อยู่ในระดับดีมากถึงดีมากพิเศษ

วันนั้นชั้นตั๋วแพงมีผู้โดยฯไม่ถึงครึ่งค่ะ
ปกติแล้วทุกคนจะรู้ดีว่าไฟลท์กรุงเทพฯไม่ว่าจะไปหรือกลับ
จะขึ้นชื่อว่ามากว่าเต็มตลอดกาลไม่ว่าชั้นตั๋วแพงหรือชั้นตั๋วถูก
ถ้าทางสายแขกฯแอร์บันนี่อนุญาตให้นั่งตักกันได้
ทางฝ่ายขายตั๋วก็คงขายตั๋วประเภทขี่คอ นั่งตักกันไปแล้ว
แต่การที่มีผู้โดยฯน้อยๆเช่นนี้ไม่ได้แปลว่าจะเป็นไฟลท์ที่สบายเสมอไป เพราะไม่ต้องทำงานหนัก
ซึ่งวันนั้นก็ไม่ใช่ไฟลท์ที่สวยงามค่ะ
ทางฝั่งที่แอร์บันนี่ต้องบริการมีผู้โดยฯแขกอินเดียหัวยึกยักขึ้นมานั่งค่ะ
เครื่องขึ้นเสร็จแอร์บันนี่ก็เดินไปถามผู้โดยฯแขกหัวยึกยักว่า
ต้องการรับเครื่องดื่มอะไร และต้องการทานอะไร
ผู้โดยฯก็ส่ายหัวยึกยักและสั่งจินโทนิค เครื่องดื่มที่ชาติผู้ดีเค้านิยมดื่มกันตามระเบียบ
เพราะการที่เค้าย้ายไปอยู่เมืองผู้ดีทำให้เค้าได้พาสปอร์ตชาติผู้ดีมาครอบครองค่ะ
แต่นั่นไม่ได้แปลว่าผู้โดยฯหัวยึกยักคนนี้ได้นำวิธีการปฏิบัติตนตามสไตล์ชาติผู้ดีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
พอถามถึงอาหาร ผู้โดยฯก็บอกว่าจะเอาแพะ
แอร์บันนี่ก็บอกว่า ได้ค่้ะ วันนี้เรามีเนื้อแพะย่าง
ผู้โดยฯบอกว่า "ไม่ใช่ ชั้นเนี่ยะสั่งล่วงหน้ามาแล้วกับบริษัทขายตั๋ว ว่าจะเอาแกงแพะที่มาคู่กับข้าว
สั่งเป็นอาหารพิเศษล่วงหน้ามาหลายอาทิตย์แล้ว"
แอร์บันนี่ก็เอ๋อซิคะ งงค่ะ งงเพราะผู้โดยฯรู้ได้ไงว่าวันนี้เราจะเสิร์ฟอะไร
เอ๊า ปรี๊ดซิคะคุณ ของขึ้นเลยค่ะ แบบนี้มันเกินไป !!
แอร์บันนี่ทำงานบริการก็จริง แต่นี้มันล้ำเส้นกันค่ะ
แอร์บันนี่ก็จ้องหน้าค่ะ แล้วก็ยิ้มและส่ายหัวอย่างระอา บอกผู้โดยฯว่า
"ตั้งแต่ทำงานมา คุณเป็นผู้โดยสารคนแรกที่ทำกริยาแย่เช่นนี้กับดิชั้น ดิชั้นไม่ขอหยิบให้ค่ะ"
ผู้โดยก็โมโหค่ะ เค้าคงไม่คิดว่าผู้ที่ให้บริการเค้าจะตอบกลับเค้าเช่นนี้
แต่ ณ วินาทีนั้น แอร์บันนี่คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธค่ะ แล้วตอนที่แอร์บันนี่กำลังจะเดินจากมา เค้าบอกว่า
"เอาจิน กับน้ำโทนิคแยกมาต่างหากนะ แล้วยังไม่ต้องเปิดด้วย"
(ปกติแล้วตามกฎของสายแขกฯ เราต้องเปิดขวดหรือกระป๋องก่อนเสริ์ฟค่ะ)
ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดค่ะ เค้าอาจจะชอบชงเอง มีวิธีที่ชงเองตลอด
หรือ ณ จุดนั้น ผู้โดยฯนอยด์ไปแล้ว
กลัวแอร์บันนี่และลูกเรือคนอื่นแก้เผ็ดด้วยการใส่สิ่งแปลกปลอมลงไปในเครื่องดื่ม
แต่ขอบอก ณ ตรงนี้นะคะว่า แอร์บันนี่ไม่เคยทำอะไรกับเครื่องดื่ม หรืออาหารของผู้โดยฯ
โดยความคิดเห็นส่วนตัว แอร์บันนี่ว่าการกระทำนั้นทรามไปค่ะ
แอร์บันนี่มีวิธีแก้เผ็ดแบบฉบับส่วนตัวที่แยบยลและดูมีคลาสมากกว่านั้นค่ะ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกเรือคนอื่นเค้าไม่ทำกันนะคะ มีคนทำมาแล้วค่ะ
ทำอะไร อย่างไร เอาไว้คราวหน้าจะเล่าให้ฟังนะคะ
แล้วแอร์บันนี่ก็เดินเข้าไปในครัว บอกหัวหน้าเล็ก และหัวหน้าใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกคนก็เข้าใจค่ะ เค้าไม่ว่าอะไร เพราะเค้าก็แอบดูกันได้ซักพักแล้วเพราะได้ยินเสียงดังในเคบิน
แอร์บันนี่โชคดีมากค่ะที่ส่วนมากเจอแต่หัวหน้าดีๆ หัวหน้าใหญ่ก็ต้องเดินไปคุยกับผู้โดยฯตามระเบียบ

หลังจากจินโทนิคสามสี่แก้วต่อมา ผู้โดยฯแขกก็ส่ายหัวน้อยลง
ขอขอบคุณพราะเจ้าอีกเช่นเดิมค่ะที่สร้างเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดบนโลกนี้ขึ้นมา