{{Air Bunny}} แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก
Group Blog
 
All blogs
 

แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก ตอน: " ผู้โดยฯเจ้าเล่ห์....ไม่ได้ด้วยเล่ห์...ก็ต้องลองด้วยกลวะ!(2) "





สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านSmiley
ก่อนอื่นขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดตามเรื่องเล่าต่างๆของแอร์บันนี่ค่ะ
วันนี้แอร์บันนี่หยุดค่ะ ได้หยุดซักที ฮี่ๆ
คงไม่ออกไปไหนค่ะ ขี้เกียจจริงๆ
ใครจะออกไปไหนวันนี้ (ถ้าออกได้) ก็เที่ยวให้สนุกละกันนะคะ





" ผู้โดยฯเจ้าเล่ห์...ไม่ได้ด้วยเล่ห์...ก็ต้องลองด้วยกลวะ! (2) "





ก่อนจะนำเสนอผู้โดยฯเจ้าเล่ห์กลุ่มที่สองวันนี้ แอร์บันนี่ขอทำความเข้าใจกันก่อนนะคะว่า
เรื่องที่เล่านี้ เป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อยค่ะ
ไม่ใช่ว่าผู้โดยฯทุกคนจะเป็นแบบนี้ อยากให้อ่านเพื่อความสนุก อ่านแล้วอย่าเครียดนะคะ


ขอต่อกลุ่มที่สองเลยนะคะวันนี้ กลุ่มไม่ลองไม่รู้ค่ะ
ผู้โดยฯประเภทนี้มักเป็นสมาชิกบินค่อนข้างถี่ ส่วนมากเป็นเพศชาย
เชื้อชาติส่วนมากที่เจอ คือ แขก และแขกหัวยึกยักค่ะ
มีความรู้เกี่ยวกับสายฯสูงถึงสูงมาก แต่ยังมีความอายอยู่ลึกๆ
ผู้โดยฯกลุ่มนี้มักจะลองวิธีข้างต้นตามกลุ่มแรกแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ท้อแต่ยังไม่ถอย ไม่ได้ที่นั่ง งั้นขออะไรก็ได้ที่ใกล้เคียงก็ได้
ไม่ได้นั่งเหมือนเค้า ขอให้ได้กินเหมือนเค้าก็ยังดีวะ
ซึ่งผู้โดยกลุ่มนี้จะใช้เล่ห์กลในวิธีการสั่งอาหารและ/หรือเครื่องดื่ม
เหยื่อคือลูกเรือผู้หญิง หรือลูกเรือที่ดูงงๆเพราะยังใหม่อยู่


สำหรับเล่ห์กลในการสั่งเครื่องดื่ม มักจะสั่งอะไรที่ชั้นตั๋วประหยัดไม่มี
ซึ่งผู้โดยฯกลุ่มนี้มักจะทำการบ้านหาข้อมูลมาก่อนแล้ว
เช่น สั่งเหล้ายี่ห้อแพงๆ ถ้าลูกเรือบอกว่าไม่มี ผู้โดยฯกลุ่มนี้เริ่มไม่พอใจ
โวยวายเสียงดัง บอกว่าตัวเองเป็นสมาชิกบินถี่
ไม่ว่าไฟลท์ไหนลูกเรือก็จะเอาเหล้ายี่ห้อนั้นจากชั้นตั๋วแพงมาให้
ทำไมวันนี้จะไม่ได้ ถ้าลูกเรือรู้สึกกลัวผู้โดยฯ ก็จะรีบเดินไปบอกหัวหน้า
ถ้าโชคดีเพราะหัวหน้ายุ่งๆ หรือรำคาญ หรือมีเรื่องปวดหัวอย่างอื่นมากพอแล้ว
อยากให้ผู้โดยฯหยุดโวยวาย ก็จะอนุญาตให้ลูกเรือไปหยิบให้ได้
อย่างน้อยแก้วนึง ผู้โดยฯกลุ่มนี้ก็จะมีความสุขถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์
หรือถ้าโชคไม่ค่อยเข้าข้าง หัวหน้าก็จะเดินมาคุยกับผู้โดยฯเอง
ผู้โดยฯก็จะรู้สึกว่าแผนวันนี้อาจไม่ได้ผล จะเริ่มสงบลงแต่ยังจะคงบ่นอยู่ต่อไป


สำหรับเล่ห์กลในการสั่งอาหาร หลังจากที่ลูกเรือเสนอตัวเลือกอาหารให้แล้ว
ผู้โดยฯเจ้าเล่ห์กลุ่มนี้จะบอกว่าตัวเองสั่งอาหารพิเศษ
อาหารพิเศษของตนอยู่ไหน เพราะอาหารพิเศษต้องเสิร์ฟก่อนอาหารธรรมดาอยู่แล้ว
ลูกเรือก็จะงงและจะกลับไปเช็ครายชื่อผู้สั่งอาหารพิเศษ
และกลับมาบอกผู้โดยฯว่า ไม่มีชื่อของผู้โดยฯคนดังกล่าวในรายชื่ออาหารพิเศษ
ผู้โดยฯก็จะโวยวาย บอกว่าไม่มีได้อย่างไร บินมากี่ครั้งก็ได้ทานตลอด ทำไมวันนี้ไม่ได้
ลูกเรือก็จะเริ่มเชื่อ แต่ก็ยังพยายามเสนอตัวเลือกที่มีอยู่ให้
ผู้โดยฯก็จะบอกว่าแพ้อาหารทั้งหมดที่ลูกเรือเสนอให้
ซึ่งในชีวิตจริงแล้ว ตัวเองไม่เคยแพ้อาหารชนิดใดเลย มีอะไรที่บ้านก็ฟาดเรียบ เพราะกลัวเมียด่า ฮี่ๆ
หลายครั้งลูกเรือก็จะรู้สึกแย่ถ้าผู้โดยไม่ได้ทานอาหาร
ลูกเรือก็จะพยายามหาตัวเลือกที่เหลือๆอยู่ให้
ซึ่งบางครั้งอาจจะเสนออาหารของลูกเรือเองให้ หรือไปขอตัวเลือกจากชั้นตั๋วแพง
เพราะชั้นตั๋วแพงมักมีตัวเลือกมากว่า ถ้าโชคดีมีอาหารเหลือจากชั้นตั๋วแพง
ชั้นตั๋วแพงก็จะส่งอาหารชนิดที่เหลือมากที่สุดมาให้ผู้โดยฯคนนั้น
ถ้าผู้โดยฯคนนั้นได้ทานอาหารจากชั้นตั๋วแพง ก็จะถือว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของตนแล้ว


แต่ผู้โดยฯในกลุ่มนี้ที่เป็นหญิงก็พบบ้างประปรายค่ะ ผู้โดยฯหญิงกลุ่มนี้ส่วนมากอายุประมาณ 35-50
และมีความสามารถในการสตอเบอร์รี่ได้ค่อนข้างดีถึงดีมาก
พอได้อาหารปุ๊บ เปิดฝา เธอก็จะเริ่มกรีดร้องด้วยความตกใจปนขยะขแยง
บอกว่าเจอสิ่งปนเปื้อนในอาหาร รับไม่ได้
ลูกเรือก็จะตกใจมาก และจะเริ่มสังเกตุปฏิกิริยาของผู้โดยฯอื่นๆรอบข้าง
ถ้าคนอื่นเริ่มโวยวายด้วย จะเป็นเรื่องใหญ่โตแน่ๆ แต่ส่วนมาก
ผู้โดยฯก็จะมองๆ แล้วก็ทานอาหารต่อไปเพราะหิว
ลูกเรือก็จะมาขอโทษ หัวหน้าก็จะแอบๆทำการพิสูจน์ว่ามีสิ่งปนเปื้อนในอาหารจริงหรือไม่
ลูกเรือคนนั้นก็รีบเอาอาหารจานใหม่มาให้ ผู้โดยฯก็จะไม่ยอม
บอกว่าไม่ไว้ใจ ส่วนมากหัวหน้าก็จะไปขออาหารจากชั้นตั๋วแพงมาให้ วัตถุประสงค์ก็บรรลุค่ะ


โปรดติดตามตอนต่อไป.....




 

Create Date : 20 มีนาคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2553 12:47:17 น.
Counter : 655 Pageviews.  

แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก ตอน: " ผู้โดยฯเจ้าเล่ห์.ไม่ได้ด้วยเล่ห์..ก็ต้องลองด้วยกลวะ! "





สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านSmiley
ไปบินไฟลท์แขกหัวยึกยักมาค่ะ่ ไป-กลับมะคืน ตั้งแต่สามทุ่ม ถึงหกโมงครึ่ง พึ่งกลับมามะกี้ เห้อ เหนื่อย
เจอลูกเรือสเปนขี้เกียจและนิสัยแย่ค่ะ แอร์บันนี่กับลูกเรือไทยอีกคน ละก็ลูกเรือออซซี่เลยมีเรื่องกับเค้าค่ะ
ปกติแล้วแอร์บันนี่เป็นคนรักสงบค่ะ ไม่เรื่องมาก แต่ถ้าใครมารังแกดิชั้นก่อน ดิชั้นก็สู้ไม่ถอยเหมือนกันค่ะ
แต่ก็อยากที่บอกค่ะ ข้อดีของงานนี้ ไฟลท์จบก็จบไป หวังว่าไม่ต้องเจอกันอีก





" ผู้โดยฯเจ้าเล่ห์...ไม่ได้ด้วยเล่ห์...ก็ต้องลองด้วยกลวะ! "





ถ้าถามท่านผู้อ่านเวลาคุณเองเป็นผู้โดยฯว่า เวลาคุณซื้อตั๋วชั้นประหยัด
ตอนคุณเดินไปยังที่นั่งแคบๆของคุณ ที่อยู่กลางแถวในเคบินหลังสุดของเครื่อง
ที่เดินเมื่อไหร่ก็ไม่ถึงซักที ฮี่ๆ
ส่วนมากคุณต้องเดินผ่านชั้นตั๋วแพงเข้าไปหาชั้นประหยัด
เหมือนผ่านในเมืองแล้วทะลุออกบ้านนอก
ขณะที่คุณเดินผ่านผู้โดยฯชั้นตั๋วแพง ที่มีสิทธิ์ขึ้นมานั่งจิบแชมเปญฟองฟู่
ในที่นั่งและเคบินที่แลดูโอ่โถงก่อน กี่ครั้งที่คุณคิดว่า
เมื่อไหร่ชั้นจะได้นั่งชั้นตั๋วแพงบ้าง หรือถ้าถูกหวยคราวหน้า ชั้นจะซื้อตั๋วแพงแน่ๆ
ซึ่งแอร์บันนี่เองก็คิดแทบทุกครั้งเวลาตัวเองเป็นผู้โดยฯ หึหึ
ซึ่งส่วนมากเราก็แค่คิดเฉยๆใช่มั้ยคะ คิดไปก็อิจฉาไป เลยเลิกคิดดีกว่า เสียสุขภาพจิตปล่าวๆ


แต่มีผู้โดยฯจำนวนไม่น้อยค่ะที่คิดอีกแบบนึง คือเค้าคิซื้อตั๋วชั้นประหยัดเหมือนเราๆ
แต่เค้าคิดว่า จะทำอย่างไรดีให้ได้นั่งชั้นตั๋วแพงแบบไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม แบบสบายจังตังค์อยู่ครบ
วันนี้แอร์บันนี่จะเล่าถึงเล่ห์กล กุศโลบายของผู้โดยเจ้าเล่ห์ชั้นประหยัด
ที่มีความพยายามเป็นอย่างสูงในการที่จะอัพเกรดตัวเองมาให้เหมือนผู้โดยฯชั้นตั๋วแพง
ซึ่งแอร์บันนี่ได้แบ่งกลุ่มของผู้โดยฯเจ้าเล่ห์ตามระดับความกล้า ออกเป็นสี่กลุ่ม
คือ กลุ่มกล้าๆกลัวๆ, กลุ่มไม่ลองไม่รู้, กลุ่มบ้าบิ่น และกลุ่มสุดท้าย หนักสุด คือ กลุ่มรั่วค่ะ
แอร์บันนี่ขอนำเสนอกลุ่มละวันนะคะ


วันนี้ขอเริ่มที่กลุ่มที่หนึ่ง คือ กลุ่มกล้าๆกลัวๆค่ะ
ผู้โดยฯประเภทนี้มักวางแผนล่วงหน้ามาก่อน
และจะลองใช้เล่ห์กลแค่ที่สนามบินเท่านั้นเพราะยังกลัวเสียหน้า
ผู้โดยกลุ่มนี้หน้าตาค่อนข้างดี และแต่งตัวดี
ชายมักจะใส่เสื้อเชิ้ต มีแจ็คเก็ตทับ ยีสน์ดูดีมีราคาแพง รองเท้าหนังแบบลำลอง
หญิงมักใส่เสื้อคอวีลึก กางเกงผ้า รองเท้าส้น
หรืออาจเป็น เดรสสวยๆ โชว์เนื้อหนังบ้าง พร้อมเครื่องประดับและกระเป๋าหนังมียี่ห้อ
ผู้โดยกลุ่มนี้จะเริ่มใช้เล่ห์กลที่เคาน์เตอร์เช็คอินก่อน
สำหรับผู้โดยฯชาย เหยื่อคือกราวด์สตาฟฟ์หญิงหรือชายไม่จริง
และในทางตรงกันข้าม สำหรับผู้โดยฯหญิง เหยื่อคือกราวด์สตาฟฟ์ชายหรือหญิงไม่จริง


ขณะเช็คอินผู้โดยเจ้าเล่ห์ก็จะพยายามพูดคุยอ้อล้อกับกราวด์สตาฟฟ์ หยอดทีเล่นทีจริง
ลอกล่อให้กราวด์สตาฟฟ์อัพเกรดตน และอาจใช้เหตุผลประกอบที่ว่าตัวเองขายาว(นี่ต้องสูงจริง)
หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่าหรือหลัง หรือผ่าตัดสะโผกมาเมื่อห้า หกเดือนที่แล้ว
นั่งที่แคบๆนานๆมักมีปัญหาด้านสุขภาพ
หรือถ้ามาเป็นคู่ ก็มักบอกว่ากำลังจะไปฮันนีมูน
หรือเป็นทริปวันเกิด หรือฝ่ายชายพึ่งขอแต่งงาน
หรือถึงขั้นแกล้งร้องไห้บอกว่าครอบครัวคนสนิทพึ่งเสียชีวิต ก็อ้างกันไป ก็ว่ากันไปค่ะ


ซึ่งวิธีนี้อาจใช้ได้กับสายฯหลายสายฯทีเดียว
บางทีถ้าไฟลท์เต็มล้น เนื่องจากตั๋วชั้นประหยัดขายดีมาก และที่นั่งชั้นตั๋วแพงยังเหลืออยู่มากมาย
สายฯก็ต้องอัพเกรดผู้โดยฯบางส่วนอยู่แล้ว ซึ่งส่วนมากกราวด์สตาฟฟ์จะอัพเกรดผู้โดยฯสมาชิกบินถี่ก่อน
ถ้าไม่มี เค้าก็จะอัพเกรดคนรู้จัก
ถ้าไม่มีอีก เค้าก็จะเลือกใครก็ได้ ซึ่งถ้าคุณแต่งตัวดูดี หรือสตอเบอร์รี่ได้เข้าขั้น
ความเป็นไปได้ที่กราวด์สตาฟฟ์จะอัพเกรดคุณก็สูงมาก
แต่ วิธีนี้ใช้กับสายฯแขกไม่ได้ค่ะ เพราะสมาชิกบินถี่ของสายฯแขกมีอย่างล้นเหลือ
หลังจากใช้เล่ห์กลหลอกล่อกราวด์สตาฟฟ์ไปแล้ว แต่ถูกปฏิเสธ
ผู้โดยฯกลุ่มนี้จะไม่มีการโวยวายแต่อย่างใด จะเดินจากเคาน์เตอร์เช็คอินไปอย่างสงบ
แต่อาจจะลองอีกครั้งตรงหน้าประตูเกทก่อนขึ้นเครื่อง
แต่จะเริ่มดุดันขึ้นเพราะเป็นการลองครั้งสุดท้าย
แต่ก็จะยังคงความสุภาพ ไม่มีการโวยวายเสียงดังแต่อย่างใด


โปรดรอติดตามกลุ่มต่อไปค่ะ




 

Create Date : 19 มีนาคม 2553    
Last Update : 19 มีนาคม 2553 12:43:47 น.
Counter : 837 Pageviews.  

แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก ตอน: " เป็นลูกเรือต้องมีดวง? "





สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านSmiley
พึ่งกลับมาจาก กทม. เช้านี้ค่ะ เป็นไฟลท์ กทม.ที่สั้นที่สุดเท่าที่เคยทำมา
ยังไม่พอ เป็น กทม. ที่น่าเบื่อที่สุด สรุป ไม่ได้ออกไปไหนจริงค่ะๆ เพราะได้อยู่โรงแรมแถวสนามบิน
ไปถึงก็สายๆ ก็อาบน้ำ นอน ตื่นมา ทานข้าวเย็น อาบน้ำ แต่งตัว กลับเมืองแขก
ลูกเรือก็บ่นกันเป็นแถว ไม่ค่อยมีใครได้เข้าเมืองจริงๆ แต่ทำไงได้คะ คราวหน้าก็ต้องภาวนาขอให้เครื่องลำื่อื่นไม่เสียอีก





" เป็นลูกเรือต้องมีดวง? "





หลายๆอาชีพ เวลาที่คุณต้องไปทำงาน ตื่นมาปุ๊บ คุณอาจจะเดาได้ว่าวันนี้ต้องเจอใครบ้าง
ต้องทำงานกี่โมง ต้องเลิกงานประมาณกี่โมง นัดเจอเพื่อนทานข้าวเย็น ไปดูหนังวันเสาร์ ชอปปิ้งวันอาทิตย์
แต่อาชีพลูกเรือ ไม่มีความแน่นอนอะไรในอาชีพนี้จริงๆค่ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อะไรก็ได้จริงๆ
ซึ่งทำให้กระทบในหลายๆด้าน เช่น เงินเดือน ความรัก สุขภาพกาย และสุขภาพจิต เป็นต้น


ตัวอย่างแรก เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงซึ่งให้ผลกระทบแบบโดมิโน่ค่ะ หรือซวยหลายชั้นนั่นเอง
สดร้อนๆวันจันทร์ค่ะ แอร์บันนี่ได้ไฟลท์กลับ กทม. ไฟลท์นี้อย่างที่บอกไปหลายครั้งแล้ว
ว่าได้ยากจริงๆ นานๆไปที ก่อนไปแต่ละทีก็ต้องนัดเจอเพื่อนๆใช่มั้ยคะ
นัดคนนู้น คนนี้ แต่พอก่อนไปออฟฟิศ ก็เช็คเวลาไฟลท์
เช็คเพื่อให้แน่ใจค่ะว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดค่ะ เวลาเปลี่ยน!
ปกติแล้วต้องอยู่ กทม. ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เนื่องจากมีเครื่องเสียลำนึง ซ่อมไม่ได้
ลูกเรือไฟลท์แอร์บันนี่ ก็ต้องอยู่สั้นลง แล้วทำไฟลท์กลับแทนลูกเรือชุดที่เครื่องเสีย แบบนี้เรียกว่า ซวยค่ะ
ซึ่งลูกเรือชุดแอร์บันนี่ได้อยู่ไม่ถึงยี่สิบชั่วโมง คือแค่ ไปถึง เปลี่ยนชุด กินข้าว หลับ
ไม่เหลือเวลาทำอย่างอื่นแล้ว ถ้าจะทำอย่างอื่นด้วย ก็ต้องอดนอนเอา
แต่ลูกเรือชุดที่เครื่องเสียได้อยู่เกือบๆสี่วัน
เพราะต้องรอซ่อมเครื่องก่อน แล้วเค้าก็ดีใจกันใหญ่ เห้อ....
ซวยชั้นที่สอง โดนย้ายโรงแรมค่ะ ปกติต้องอยู่โรงแรมในเมือง
แต่เนื่องจากได้อยู่แป๊บเดียวและมีม๊อบเสื้อแดง เราก็โดนเปลี่ยนอยู่ที่โรงแรมด้วย
จากที่อยู่ในเมือง ก็ต้องมาอยู่ใกล้สนามบินเพื่อย่นระยะเวลาการเดินทาง
เพราะปกติถ้าอยู่ในเมืองกว่าจะถึงโรงแรมก็เป็นชั่วโมงกันทีเดียว ซึ่งถ้าอยู่โรงแรมแถวสนามบินแล้ว
ทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้มาก กว่าจะเข้าไปในเมือง จะโดนปิดถนนเพราะการชุมนุมรึปล่าว
กว่าจะรอเพื่อนเลิกงาน กว่าจะไปทานข้าวกัน กว่าจะกลับมาถึงโรงแรม
อาจจะเหลือเวลานอนซักสี่ ห้าชั่วโมงได้ เซ็งจริงๆ


ต่อมาคือความไม่แน่นอนของวันหยุด เดือนนึงลูกเรือสายฯแขกต้องมีวันหยุดอย่างน้อยแปดวันค่ะ
อาจจะได้หยุดวันธรรมดา หรือได้หยุดสุดสัปดาห์นี้แล้วแต่ดวงค่ะ
เลือกไม่ได้ ตารางออกมาอย่างไหน ก็ต้องบินตามอย่างนั้น
ใครโชคดีได้วันหยุดหลายๆวันต่อกันก็ฉลองกันไป
ใครดวงซวยเหมือนแอร์บันนี่ก็ได้วันหยุดแค่ที่เพราะต้องหยุด เพราะบินมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว บินมันทุกวัน
บินบ่อยกว่านกอีก สุขภาพแย่ค่ะ นอนไม่พอ เวลาเปลี่ยน หน้าตาเศร้ามอง
ต้องเสียเงินซื้อวิตามิน ซื้อครีมมาบำรุงกันอีก
ใครโชคดีก็แลกไฟลท์เน่าๆออกได้ บางคนโชคดี แลกได้วันหยุดเพิ่ม
เดี๋ยวนี้การซื้อ ขายวันหยุดกันเป็นอะไรที่แพงมาก แพงจนไม่น่าเชื่อ
เมื่อก่อนตอนแอร์บันนี่เริ่มทำงานใหม่ๆ ไม่ค่อยมีใครเอาเงินซื้อวันหยุดกันหรอกค่ะ
ใครอยากช่วยกันก็แลกไฟลท์กัน แบบคราวนี้ชั้นช่วยเธอ คราวหน้าเธอช่วยชั้นนะ ออกแนวนั้นไป
หรือการซื้อ ขายวันหยุดเมื่อก่อน วัน สองวัน สนนราคาที่ประมาณสองพันถึงสามพันบาท
นั่นถือว่าถูกนะคะ แต่ปีหลังๆมานี่อะไรก็เป็นเงินเป็นทองค่ะ
เพราะวันหยุดมีค่ามหาศาลเนื่องจากทุกคนโดนบินกระหน่ำ
อย่างแอร์บันนี่ได้วันหยุดมาดีใจกว่าได้เงิน
แต่บางคนที่งกหน่อยหรือคนที่เดือนร้อนเรื่องเงิน เหนื่อยแทบตาย ก็ไปบินเทนคนอื่นเค้า
เดี๋ยวนี้การซื้อ ขายวันหยุดติดกันสาม สี่วัน แพงหูฉี่ แพงเว่อร์
แอร์บันนี่เห็นล่าสุดก็เริ่มที่ประมาณ หกพันถึงหมื่นกว่าบาทค่ะ
แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจนะคะ บอกแล้วค่ะ ว่าวันหยุดมีค่ามากกว่าเงิน


ลูกเรือจำนวนมากทีเดียว มีแฟนอยู่ต่างประเทศ เช่นลูกเรือไทยก็มีแฟนอยู่เมืองไทย
หยุดสอง สามวันก็บินกลับกันใหญ่ ถ้าไม่มีวันหยุดก็กลับไปหาแฟนไม่ได้
ถ้าแฟนไม่เข้าใจ ก็ทะเลาะกัน เลิกกันอีก
ถึงมีวันหยุด อยากจะกลับบ้านไปหาแฟน ไฟลท์เต็มอีก ขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะไฟลท์เมืองไทยนี่ฮิตกันมากๆ
ตกไฟลท์ แฟนงอน ทะเลาะกัน เลิกกันอีก
แต่ถ้าใครโชคดีได้ทำไฟลท์กลับประเทศตัวเองบ่อยๆก็สบายไปค่ะ เงินก็ได้ ได้เจอครอบครัวด้วย สบายจริงๆ
ถ้าจะให้สบายสุดก็หาแฟนที่อยู่เมืองแขกค่ะ จะได้ไม่ต้องแลกไฟลท์ไปไหน ฮี่ๆ


ตัวอย่างสุดท้าย คือดวงเรื่องลูกเรือที่ต้องทำงานด้วยค่ะ เนื่องจากงานนี้ต้องเปลี่ยนเพื่อนร่วมงานทุกวัน
ลูกเรืออย่างเราก็ไม่สามารถหยั่งเห็นล่วงหน้าได้ว่า คนที่จะบินด้วยวันนี้ขี้เกียจหรือไม่
นิสัยดีรึปล่าว ปากเสียแค่ไหน เนื่องจากสายฯแขกเป็นสายฯที่มีลูกเรือนานาชาติ
มาจากแทบจะทุกประเทศที่คุณพอจะนึกออกบนโลกใบนี้
ความต่างกันด้านภาษา วัฒนธรรม การศึกษา ความคิด ความอ่าน
ล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันได้ง่ายมากถึงมากที่สุด
ถ้าเป็นคนคิดมาก อ่อนไหวง่าย สุขภาพจิตก็เสื่อมได้ง่ายๆทีเดียว
แต่ส่วนมากแอร์บันนี่ก็เจอแต่เพื่อนร่วมงานที่น่ารักๆเยอะค่ะ
แต่ก็ไม่น้อยทีเดียวที่เจอแต่คนแปลกๆหรือคนแย่ๆ
แต่มันก็ดีตรงที่ถ้าเจอคนที่แย่ๆ เราก็อดทนทำแค่จนไฟลท์จบ
ไฟลท์หน้าก็ไม่ต้องเจอกันอีก หรือถ้าต้องบินด้วยกันอีก เราก็ยังรู้ทัน ยังพอแลกไฟลท์หนีได้
แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เวลาเราได้บินกับคนที่น่ารักๆ เราก็อาจจะไม่ได้บินหรือไม่ได้เจอกับเค้าอีกเลย
อาชีพนี้หาเพื่อนสนิทที่นี่ยากค่ะ นอกจากจะพยายามจริงๆ
เพราะต่างคนต่างมีวันหยุดไม่ตรงกัน บางทีมีวันหยุดเราก็อยากจะพักผ่อนอย่างเดียว
หรือมีอะไรอย่างอื่นต้องทำ ขนาดเพื่อนร่วมอพาร์ทเมนท์เดียวกันยังจะไม่ค่อยได้เจอกันเลยค่ะ




 

Create Date : 17 มีนาคม 2553    
Last Update : 18 มีนาคม 2553 13:43:47 น.
Counter : 1214 Pageviews.  

แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก ตอน: " ภัตตาคารลอยฟ้า(หรอ) "





สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านSmiley
หายไปนาน พอดีช่วงนี้ยุ่งค่ะ มีเรื่องที่ต้องทำมากมาย
ไม่ว่าจะต้องสอบประจำปีค่ะ สอบจริงค่ะ สอบแล้ว ผ่านฉลุย ดีใจๆ
ไหนต้องขอเช้งเก้นวีซ่าอีก ได้มาแล้ว ขอไปยี่สิบวัน ได้มาสิบห้าวัน เซ็งค่ะ
พรุ่งนี้ได้ไฟลท์กรุงเทพฯอีกแล้วค่ะ แต่อาจจะได้อยู่แถวสนามบิน
เพราะเค้ากลัวโดนปิดถนน ละเดี๋ยวจะมาสนามบินไม่ได้ เซ็งๆๆ
กะจะออกไปซื้อของ เจอเพื่อน อะไรต่อมิอะไร ภาวนาขอให้ได้อยู่ในเมือง สาธุๆ




" ภัตตาคารลอยฟ้า(หรอ) "





แอร์บันนี่จำได้ว่าไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตนั้นตัวเองอยู่ ป.6 ก็น่าจะประมาณ 12 ขวบ
ตอนนั้นไปออสเตรเลียกับที่บ้าน ดีใจมาก ตื่นเต้นที่สุด เพราะจะได้ขึ้นเครื่องนานๆกับเค้าซักที
ทุกทีก็ในประเทศ ซักชั่วโมง สองชั่วโมง อีกอย่าง ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศด้วย
แต่ตอนตื่นเต้นสุดๆคือตอนได้ทานอาหารบนเครื่อง รู้สึกเท่ห์มากๆ ฮ่าๆ
กินทุกอย่างค่ะตอนนั้น แม่บ่นว่าไม่เห็นอร่อยเลย ไม่มีรสชาติ ขนาดออมเล็ทจืดๆ แอร์บันนี่ก็บอกอร่อยหมด
เพราะกินบนเครื่องนี่ให้ความรู้สึกพิเศษแบบ โหหห อาหารบนเครื่องต้องเป็นอะไรที่พิเศษกว่าอาหารปกติหลายเท่า
เค้าทำกันบนเครื่องหรอ มีเตา หม้อ ไห กับบนนี้เลยหรอ ทำกันตอนไหนอ่า

วันนี้เลยอยากจะเฉลยคำตอบให้ทุกท่านได้ทราบค่ะ ว่าอาหารบนเครื่องแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร
ทำกันตอนไหน มีคนทำกี่คน จัดกันยังไง อร่อยมั้ย อิ่มมั้ย ขอเพิ่มได้รึปล่าว และที่สำคัญ สะอาดจริงหรอ หึหึ


อาหารบนเครื่องจริงๆแล้วก็คือ อาหารแช่แข็งดีๆนี่เอง
ใช่ค่ะ อาหารที่ทุกท่านทานกับบนเครื่องนั้นทำไว้แล้ว
ทำเสร็จก็แช่แข็งไว้ รอส่งขึ้นเครื่อง วันนึงบริษัทเคอเทอริ่งทำอาหารเป็นหมื่นๆจาน
เพราะเค้าไม่ได้ส่งแค่สายการบินเดียว ส่งให้ทุกสายที่มาลงสนามบินนั้นๆค่ะ
อาหารที่โหลดขึ้นเครื่องมานั้น ก็โหลดตามจำนวนของผู้โดยฯในเที่ยวนั้นๆ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกครั้งคุณจะได้ทานอาหารที่คุณอยากทาน เพราะจำนวนอาหารของแต่ละชนิดนั้นก็ต้องคละกันไป
สมมุติว่าวันนี้ในชั้นประหยัดจะมีผู้โดยฯสามร้อยคน อาหารมีสองอย่างให้เลือก ไก่กับปลา
ไก่อาจจะมีเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ปลาอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์
เพราะฉะนั้นแล้วแต่ดวงค่ะ ว่าอาหารที่คุณอยากทานวันนั้นจะเป็นที่ต้องการของคนหมู่มากรึป่าว
ครัวสำหรับอุ่นอาหาร แต่ละชั้นที่นั่งก็จะมีครัวของแต่ละชั้น แยกกันไป
ส่วนมากอาหารก็เหมือนๆกันแหละค่ะ ต่างกันก็แค่ภาชนะที่ใส่ วิธีการเสริ์ฟ และปริมาณ


สำหรับผู้โดยฯทั้งหลาย แอร์บันนี่ขอความกรุณาอย่าตะคอกใส่ลูกเรือนะคะ เวลาคุณไม่ได้อาหารชนิดที่อยากทาน
เพราะไม่ใช่ความผิดของลูกเรือค่ะ เรามีหน้าที่แค่อุ่นอาหารที่เคเทอริ่งโหลดมาให้ และเสิร์ฟเท่านั้นค่ะ
ลูกเรือไม่มีสิทธิ์เลือกว่าวันนี้อยากจะเสริ์ฟอาหารชนิดไหน จำนวนเท่าไหร่
ถ้าคุณไม่พอใจ กรุณาเขียนจดหมายร้องเรียนบริษัทค่ะ
หรือตะคอกใส่ผู้โดยฯคนที่อยากทานอาหารชนิดเดียวกับคุณค่ะ หึหึ


เมนูก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ น่าจะทุกๆหกเดือนค่ะ
แต่ละสายการบินมักจะโฆษณากันว่า อาหารของสายฯตนได้รับการปรุงจากพ่อครัวชื่อดัง ระดับห้าดาว
อันนี้จริงรึปล่าวไม่ทราบ
แต่หลายครั้งเราก็จะมีเมนูพิเศษในชั้นตั๋วแพง และตั๋วแพงมากที่มีพ่อครัวรับเชิญพิเศษมาทำอาหาร(แช่แข็ง)ให้คุณได้ทานกัน
แต่โดยรวมอาหารบนเครื่องก็อร่อยนะคะ โดยเฉพาะจากกรุงเทพฯ ฮ่องกง
จากเอเชียนี่อร่อยค่ะ แต่ถ้าจากแถบยุโรปนี่ ส่วนตัวแอร์บันนี่ไม่ค่อยชอบค่ะ


หลังจากเครื่องขึ้นแล้ว ลูกเรือก็มีหน้าที่อุ่นอาหาร แล้วก็เสิร์ฟค่ะ
หลายครั้งไม่น้อยในชั้นตั๋วแพง ผู้โดยฯสั่งสเต๊กแบบสุกมาก สุกปานกลาง หรือสุกน้อย
แอร์บันนี่เค้าใจค่ะ ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เวลาคนสั่งสเต๊กแล้วระบุว่าอยากได้สเต๊กแบบไหน
แต่อย่าลืมซิคะว่าคุณอยู่บนเครื่องที่ความสูงสามหมื่นแปดพันฟุต คงไม่มีใครมาจุดเตาย่างเนื้อให้คุณหรอกค่ะ
เพราะไฟเป็นเรื่องอันตรายที่สุดบนเครื่องบินค่ะ
หรือหลายคนก็สั่งว่าไม่เอาเห็ด แพ้หน่อไม้ฝรั่ง หรือเอาเผ็ดน้อย เราทำให้ไม่ได้ค่ะ
โอเคค่ะ เราอาจจะตักเอาเห็ด หรือหน่อไม้ฝรั่งออกให้คุณได้ถ้ามันอยู่ด้านข้าง
แต่ถ้ามันปนอยู่ในอาหาร เราก็ไม่สามารถมานั่งหยิบออกทีละชิ้นให้คุณได้หรอกค่ะ
หรือเผ็ดน้อย จะให้เราทำอย่างไรคะ มันปรุงมาแล้ว
ถ้าคุณแพ้อาหารชนิดไหน ไม่ชอบอะไร อย่าลืมสั่งอาหารพิเศษตอนเวลาซื้อตั๋วนะคะ
จะได้ไม่มีปัญหาเวลาขึ้นเครื่องมา และที่สำคัญ คุณได้ทานอาหารอย่างที่อยากทานแน่นอนค่ะ


อาหารบนเครื่องนั้นจะมันกว่าอาหารธรรมดา เพราะเราต้องเอามาอุ่นอีกรอบ
อย่างพวกเนื้อ ถ้าอุ่นมาแล้วอาหารดูแห้งๆก็จะไม่น่าทานใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นเค้าต้องใส่ความมันลงไป
เวลาอุ่นมาแล้ว จะได้ดูแบบฉ่ำๆน่าทาน
ขนาดขนมปังประเภทที่ต้องอุ่น อันนั้นก็อ้วนกว่าขนมปังธรรมดาค่ะ คอนเซ็ปต์เดียวกัน เพราะต้องเอามาอุ่นต่อ
อาหารทุกอย่างก็ใช่ว่าจะจริงหมดเสมอไป
อย่างเช่น ออมเล็ท ก็ไม่ใช่ไข่จริงนะคะ เค้าใช่ไข่ปลอม คือไข่ผง ถ้าใช้ไข่จริง คิดดูซิคะว่าต้องใช้ไข่กี่ฟาร์ม
หรือคาเวียร์ ก็คาเวียร์ถูกๆหรือปลอม ยกเว้นชั้นตั๋วแพงสุดค่ะ นั่นใช้คาเวียร์จริง


ปริมาณของหารหนึ่งมื้อที่คุณทานบนเครื่องนั้น ส่วนมากเค้ามาจัดมาสำหรับหนึ่งคนอิ่มนะคะ
ถ้าไม่อิ่มจริงๆ เพราะไม่ได้ทานอะไรมาเลย ลองขอเพิ่มดูได้ค่ะ ถ้ามีเหลือ เราก็ให้อยู่แล้ว
สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เลี่ยงทานอาหารบนเครื่องได้ก็ควรเลี่ยงค่ะ
เพราะอาหารนี้ทำให้คุณอ้วนจริงๆ
ถ้าหิวก็ทานสลัด หรือผลไม้ กรุณาเลี่ยงอาหารร้อนค่ะ
เพราะน้ำหนักคุณอาจขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่งั้นจะเหมือนแอร์บันนี่ค่ะ หึหึ
ส่วนเรื่องของความสะอาดของอาหารบนเครื่อง โดยรวมแล้วก็สะอาดนะคะ
แต่สะอาดมากมั้ย จริงๆแล้ว ก็ไม่มากค่ะ
คือจากบริษัทเคอเทอริ่งมา อันนั้นสะอาดค่ะ สะอาดจริง แต่พอมาถึงบนเครื่องก็ไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่แล้วค่ะ
อย่างในชั้นประหยัด บางครั้งบนถาดอาหารของคุณก็จะมีขนมปังใช่มั้ยคะ
ซึ่งหลายครั้งแล้ว ขนมปังมันไม่ได้ห่อมาในถุงพลาสติก
คือมันจะวางเปลือยๆบนถาดเลย หลายครั้งลูกเรือหยิบจับเอย ตกแล้วเอย
ก็ต้องเก็บมาใส่ถาดใหม่ค่ะ เพราะเราไม่มีสำรอง
หรือบางทีการหยิบจับอาหาร บางทีรีบมากจนไม่ได้ใส่ถุงมือ เราก็ใช้มือปล่าวๆหยิบค่ะ หึหึ


ก่อนจบ ขอแนะนำว่าใครขึ้นไฟลท์สั้น ยาว กรุณาพกน้ำ พกขนมมาด้วยนะคะ
เพราะแล้วแต่เวลาของแต่ละไฟลท์ เซอร์วิซก็ต่างๆกันไป
บางทีคุณหิว เค้าก็อาจจะยังไม่เสริ์ฟ จะได้มีอะไรรองท้องไปก่อน
เวลาแอร์บันนี่เป็นผู้โดยฯเอง สิ่งสำคัญที่สุด คือต้องซื้อน้ำหนึ่งขวดก่อนขึ้นเครื่องค่ะ
เพราะเวลาคุณอยู่บนเครื่อง คุณจะรู้สึกว่าหิวน้ำมากว่าปกติ
เพราะฉะนั้นพกน้ำกันด้วยนะคะ และจะได้จิบน้ำตลอดไฟลท์ กันเป็นลมด้วยค่ะ
หลายคนเป็นลมบนเครื่องเพราะดื่มน้ำไม่พอ ระวังด้วยนะคะ
แต่ต้องซื้อหลังจากที่ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์แล้วนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวได้โยนทิ้ง





 

Create Date : 14 มีนาคม 2553    
Last Update : 18 มีนาคม 2553 14:11:26 น.
Counter : 1014 Pageviews.  

แฉชีวิตลูกเรือไทยในสายการบินแขก ตอน: " (ไม่)อ้วนเอาเท่าไหร่? "





สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านSmiley
ช่วงนี้เมืองแขกอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยค่ะ เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวฟ้าร้อง เดี๋ยวน้ำท่วม
วุ่นวายกันไปหมดค่ะ รถติดเป็นชั่วโมงๆ
ช่วงนี้แอร์บันนี่ก็ค่อนข้างยุ่ง เพราะวันเสาร์มีสอบประจำปี ยังอ่านหนังสือไม่จบ หึหึ
เดี๋ยวคืนนี้มีบินดึกไฟลท์ผู้โดยหัวยึกยักค่ะ กลับมาเช้า ตอนเช้าต้องรีบไปขอเช้งเก้นวีซ่าอีก สาธุขอให้ได้ๆ




" (ไม่)อ้วนเอาเท่าไหร่? "








พอดีพึ่งเห็นโฆษณานี้ของมาเลเซียแอร์ไลน์ซึ่งหลายคนอาจเคยเห็นมาแล้ว
แล้วก็นึกได้ปุ๊บว่าเมื่อวันก่อน เพื่อนพึ่งเอาบทความนึงของหนังสือพิมพ์เมืองแขกฉบับหนึ่งให้อ่าน เกี่ยวกับผู้โดยฯตัวกลม
ตอนแรกที่เห็นโฆษณานี้ก็อดอมยิ่มไม่ได้ เพราะประสบการณ์นี้แอร์บันนี่เคยประสบทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทางตรงก็เหมือนในรูปเลยค่ะ ตอนนั้นเป็นผู้โดยฯเอง ก็ไม่ได้บ่นอะไรนะคะ เพราะไฟลท์เต็มด้วยและในใจก็นึกก็สงสารเค้า
และเค้าก็น่ารักกับแอร์บันนี่มากคือ เค้าก็เกรงใจเราตลอด
เค้าพยายามเต็มความสามารถในการเก็บแขน เก็บขา ให้พื้นที่เรามากที่สุด และเค้าก็ไม่ได้เดินไปห้องน้ำบ่อยด้วยค่ะ
เหตุผลที่แอร์บันนี่ไม่ขอเค้านั่งข้างในแทนหรอคะ ไม่ชอบนั่งติดหน้าต่างค่ะเพราะตัวเองเดินเข้าห้องน้ำบ่อยค่ะ


ส่วนประสบการณ์ทางอ้อม หลายครั้งทีเดียวผู้โดยฯที่ได้นั่งติดผู้โดยฯตัวกลมมักจะบ่น และขอให้ลูกเรือย้ายที่ให้
แอร์บันนี่เข้าใจนะคะว่าใครๆก็ต้องการความสบายในการเดินทางทั้งนั้น ค่าตั๋วที่จ่ายไปนั่นก็ไม่น้อย
ถ้าไฟลท์ไม่เต็ม เราก็พยายามจัดหาที่ให้ทั้งสองฝ่ายนั่งได้สบายๆได้ค่ะ
แต่ถ้าไฟลท์เต็ม ลูกเรืออย่างเราก็ลำบากใจนะคะ
จะให้ไปพูดอย่างไร ไม่ให้ผู้โดยฯตัวกลมรู้สึกขายหน้าต่อผู้โดยฯรอบข้าง
แล้วจะให้ลูกเรือย้ายเค้าไปไหนหล่ะคะ ลูกเรือก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยค่ะ


วกกลับเข้าเรื่องบทความในหนังสือพิมพ์ บทความนั้นอยู่ในส่วนแสดงความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์
ซึ่งหัวข้อนั้นขึ้นว่า ผู้โดยฯตัวกลมคือคนที่ควรสงสารผู้โดยฯรอบข้างโดยการจ่ายสองที่นั่ง
หรือผู้โดยฯรอบข้างควรสงสารผู้โดยฯตัวกลม
คนเริ่มหัวข้อสนทนานี้กล่าวนำว่า เค้าได้อ่านข่าวที่ว่า สายการบินยุโรปรายใหญ่สองสายจะเริ่มขายตั๋วสองที่ให้ผู้โดยฯตัวกลม
ซึ่งคนเริ่มหัวข้อสนทนาบอกว่าเค้าเห็นด้วยกับสายการบินสองสายนั้น
เค้าบอกว่า ผู้โดยฯตัวกลมน่าจะต้องจ่ายเพิ่มเหมือนผู้โดยฯที่ขนของมาเยอะเกิน จนต้องโดนปรับค่าน้ำหนักกระเป๋า
ผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้ก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย
คือ ฝ่ายที่เห็นว่าผู้โดยฯตัวกลมควรซื้อตั๋วสองที่ และอีกฝ่ายนึงคือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย


ฝ่ายที่เห็นด้วย แอร์บันนี่ก็เข้าใจความรู้สึกเค้านะคะ ว่าอย่างไฟลท์ยาวๆถ้าต้องนั่งเบียดๆกันไปอย่างนี้ มันก็ไม่สบายค่ะ
แต่มีผู้อ่านคนนึงแสดงความเห็นมาว่า การที่เป็นผู้โดยฯตัวกลม มันไม่ใช่ความผิดของเค้า
เพราะการที่จะตัวกลมได้ขนาดที่ควรจะต้องซื้อตั๋วสองที่นั้น
ถือว่าคนๆนั้นต้องไม่สบายหรือมีโรคประจำตัวอะไรซักอย่าง
ไม่ใช่เป็นเพราะว่ากินเยอะกว่าคนอื่น
แล้วเค้าก็แย้งต่อว่า ถ้าผู้โดยฯตัวกลมต้องจ่ายเงินเพิ่ม
งั้นทำไมผู้โดยฯที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ หรือผู้โดยฯพ่อแม่ลูกเล็กเด็กแดงไม่ต้องจ่ายเพิ่มบ้างหล่ะ
เพราะเวลาเด็กร้องเสียงดังในเคบินทั้งคืน ไม่มีใครหลับได้
ทำไมผู้โดยฯพ่อแม่ ไม่ต้องจ่ายค่าที่ทำให้ผู้โดยฯคนอื่นไม่ได้นอนบ้างหล่ะ มันต่างกันตรงไหน
แล้วเค้าก็เสนอว่า ทำไมสายการบินไม่จัดที่นั่งพิเศษให้ผู้โดยฯตัวกลมเหล่านี้
เหมือนผู้โดยฯพ่อแม่ลูกเล็กเด็กแดงที่จะได้ที่นั่งพิเศษตรงแถวแรก
ก่อนจบเค้าตอกกลับผู้แสดงความเห็นคนนึงที่บอกว่า
ผู้โดยฯตัวกลมอาจทำให้การอพยพออกจากเครื่องในเวลาฉุกเฉินล่าช้าได้
เค้าบอกว่า ผู้โดยฯตัวกลมก็คือผู้โดยฯทั่วไปที่ตัวใหญ่กว่าธรรมดา
ไม่ใช่ว่าถึงเวลาเหตุการณ์ฉุกเฉินแล้ว ผู้โดยฯตัวกลมจะไม่เข้าใจคำสั่ง
หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของลูกเรือ (อืมมมม มีเหตุผล)


แอร์บันนี่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
เพราะอ่านจากความเห็นต่างๆแล้ว แต่ละฝ่ายก็มีความเห็นส่วนตัวซึ่งฟังดูก็มีเหตุผล
แต่ถ้าสายการบินยุโรปสองสายนั้น เริ่มขายตั๋วสองที่ให้ผู้โดยฯตัวกลมจริงๆ
กลุ่มสิทธิมนุษยชนคงออกมาต่อต้านกันไม่น้อย
ดีนะคะที่สายการบินสองสายนั้นไม่ใช่ของอเมริกา ไม่งั้นคงวุ่นวายจริงๆค่ะ หึหึ


ใครมีความคิดเห็นยังไง ทิ้งคอมมเมนต์ไว้ละกันนะคะ





 

Create Date : 03 มีนาคม 2553    
Last Update : 18 มีนาคม 2553 13:42:24 น.
Counter : 817 Pageviews.  

1  2  3  4  

Air Bunny
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แอร์บันนี่เป็นลูกเรือไทยในสายฯแขก ที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์การทำงานให้คนที่อยากเป็นลูกเรือ คนที่ไม่อยากเป็นลูกเรือ คนที่ชอบแอบมองลูกเรือ คนที่อยากมีแฟนเป็นลูกเรือ หรือคนที่ชอบทะเลาะกับลูกเรือได้ฟังกัน ว่าจริงๆแล้วอาชีพนี้เป็นอย่างไร

Friends' blogs
[Add Air Bunny's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.