Come Fly With Me...By:Air-lslto-ry...แอร์ตอหลี www.facebook.com/ComeFlyWithMeByLaila

สิ่ง(ไม่)มีชีวิต ในโรงแรม :ชีวิตเสียวหลังแอร์ตาขาว

@ Nepal ไม่รุไปไหนดี เลยไปวัดลิง ข้างหลังเค้าบอกว่าเป็นหิมาลัย ไม่รุเชื่อได้ป่าว IG@litaparis

มาคราวนี้ขอเปลี่ยแนวมาอีกหน่อยดีกว่า. คราวก่อนมีน้องคนนึงถามว่า เอ้ะ เคยเจอผีบ้างรึป่าว อื้อหือ แอร์กับผีเป็นของคู่กันเลยค่ะ เพราะเราแทบจะมีโรงแรมเป็นบ้านเลยจริงๆ อยาางที่บอกตอนที่แล้วๆมา ว่าวันๆ แทบจะไม่ได้นอนบ้าน กลับมาจากประเทศนึงก็ต้องรีบๆๆๆ เปิดกระเป๋า เอาของเก่าออกมากอง เอาชุดใหม่สำหรับประเทศใหม่ใส่เข้าไป. จะร้อนจะหนาวจะเตรียมช้อปปิ้ง จะจำศีลอยู่แต่ในโรงแรมก้อเอาข้าวสาร อาหารแห้งไปนะโยม คือบางประเทศเนี่ย เราต้องอยู่แต่ในโรงแรมจริงๆค่ะ เพราะว่าไม่มีอะไรกินเลยยยย. แถวโรงแรม จะออกไปก้อไม่ได้ อาหารก้อห่วย คนก็น่ากลัว บีบมาม่าแห้งกินประทังตายไปก่อนเด้อค่ะ แต่บางโรงแรม เฮ้อ ห้องก้อแทบไม่อยากอยู่ ออกไปข้างนอดก้อไม่ได้ เช่น เนปาล เมืองกาด-มัน(ผี)-ดุ หรือkatmandu นั่นเอง ตอนแรกที่ได้ไฟลท์นี้ อื้อหือ บอกทุกคนว่า เริ่ดดด ได้ไปเนปาลด้วยค่าาา ก้อไม่รุว่าอวดทำไม(ไปปีนเขาหิมาลัยรึ?!) คือว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รุเรื่องอะไรหรอกค่ะว่าที่นี่มันมีประวัติยังไง ก้อไปด้วยใจรื่นเริงเบิกบาน เพราะเป็นการไปประเทศexoticแบบนี้เป็นครั้งแรก นอกนั้นเป็นยุโรป เห้อะ ไฮโซก้อเงี้ย น่าเบื่อ ฮ่าๆๆๆๆ (อิแพร แกแหละน่าเบื่อ) แต่ก็เบิกบานได้ไม่นาน เพราะพอขึ้นเครื่องมา. นังแอร์ปากแมวน้ำรุ่นพี่ก้อเริ่มเรื่องเลยค่ะ เนี่ยเธอ รู้รึป่าว บลาๆๆๆๆๆ อิแอร์เด็กก้อหน้าเหวอ เดินสลดกลับไป. ได้ความมาว่า อิชีนอนอยู่ อยู่ดีๆ ทีวีเปิดเอง ไฟดับ อะไรก้อไม่รุ เราก้อไม่เชื่อ แต่แอบหวั่น ไม่มีมูลหมาไปขรี้ พอถึงโรงแรม โอ้วโห ตรูเชื่อละ เอาไงดีแว้--" โรงแรมอยู่กลางหุบเขา ประมานว่า น้องเคยดูหนังผีฝรั่ง ที่แบบว่าลงรถมา มองแหงนหน้าขึ้นไปภูเขาสูงตระหง่าน. มีหมอกปกคลุมภูเขา อากาสทึมๆ ตึกอาคารโรงแรมตระหง่านทะมึนอยู่ท่ามกลางหุบเขา แบบว่าเอิ่มมมม มีคนพักมั้ยวะเนี่ย เอาค่ะ เราก้อลากกระเป๋าแกรกๆขึ้นไปตามทางเดิน กลั้นใจเดินขึ้นลิฟต์ไป นางปากแมวน้ำเอาอิกละ ถามแอร์ใจป้อดว่า เธอๆ กลิ่นลิฟต์นี้หลอนๆมั้ย เหมือนกลิ่นสาบคนแก่เลย แล้วก้อ ตึ้ง..... ถึงชั้นนาง ทิ้งระเบิดไว้แล้วจากไป. ปล่อยเราขึ้นไปชั้นต่อไป ตอนแรกตูก้อไม่ได้กลิ่นห่านนนน อะไรซักอย่างแต่พอนางพูด อิแพรสาบสางขึ้นมาเลยเทียว ฮ่วย --" แล้วแอร์หน้าซีดปากแดงนางนี้ก้อขึ้นไปต่อ ลิฟต์ดั้นนนเป็นลิฟต์ตู้ด้วย เปิดแคร้งๆๆออกแล้วก้อเปิดอิกชั้นออก เหมือนลิฟต์ตึกที่ก่อสร้างตามหนังฝรั่งนั่นแหละค่ะคุนน้อง

(ภาพจากสถานที่จริง......เนปาล)

ลากกระเป๋าออกไปใจหวั่น ถึงห้องก้อไขประตูเข้าไป(ไขนะ ไม่ใช่แบบการ์ดเสียบฮ่ะว์) เดินเข้าไปในห้อง ลมตีหน้าเหมืินผีจะเข้า(เวอร์ละ) ก้อแบบว่าทำใจร่มๆเดินเอากระเป๋าเก็บ อาบน้ำไปเสียวหลังไป เปิดทีวีไว้ดังๆ เค้าบอกว่าถ้าเปิดการ์ตูนจะมีเด็กสองคน หญิงชายมานั่งดูปลายเตียง เราก้อเปิดช่องธรรมดา ดั้นนนนมีแต่ภาษาฮินดี ก้อเปิดช่องภาษาปะกิดไว้้ ซึ่งมีอยู่ช่องเดียวววว ณ ตอนนั้น ไม่ได้ดูค่ะ เห็นมันไม่ใช่การ์ตูนหก้อเลยเดินเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จ เดินออกมานอนดู มันคือหนังผีค่าาาา โอยๆๆๆๆ แล้วลูกเรือก้อมาบอกทีหลังว่า โรงแรมนี้ดั้นนนชอบมีแต่หนังผีนะ ช่องภาษาอังกฤษเนี่ยยย ก้อทนนอนดูไป สั่งอาหารมากินไป เปิดไฟทั้งห้อง อยากจะหลับแต่ก้อข่มตาไม่ลง ให้แฟนโทรมา คุยให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เค้าก้อต้องวาง หนังผีเวรนี่ก้อไม่จบซะที จะปิดก้อเงียบวุ้ย ก้อเลยนอนลืมตาเปิดไฟยังงั้นทั้งคืน ดีว่าได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก้อต้องไปแล้ว แล้วขากลับเราก้อนั่งปล่าวกลับ เพราะเรามาเป็นตัวเสริมชั้นธุรกิจ ขากลับเปลี่ยนเป็นเครื่องเล็ก เราเลยไม่ต้องทำงาน(ไม่ต้องตาโต ไม่ได้ตังค์ย่ะหล่อน) สรุปไม่ได้นอนทั้งคืน พอผลอยหลับไปได้หน่อยก้อสะดุ้งตื่น เพราะระแวง โชคดีที่ไม่เจออะไร แต่ไฟติดๆดับๆทั้งคืน ดับครั้งแรก นั่งนิ่งบนเตียง ทำอเไรไม่ถูก ไม่กล้าลุก เพราะอะไรรุมั้ยคะ ไฟดับทั้งห้องแต่ทีวีไม่ดับอ่าาาา หนังผีที่ยาวที่สุดในโลกก้อเล่นต่อไปเรื่อยๆ เราก้ออาศัยแสงจากทีวีนั่นแหละค่ะ จ้องไปที่ประตู หมายมาดว่าถ้ามีอะไรโผล่มา กุเผ่นทางนั้นแหละค่ะ ทีนี้ไฟมา ทีวีดันติดๆดับๆโอ้ยยย อะไรฟร้ะ ก้อรีบลุกโดดผลุงเดียวไปคว้าโทสับมา ถ้าไฟดับ ก้อจะได้มีแสงจากมือถือส่องทางวิ่งหนี ทีนี้ก้อนั่งรอ ว่าจะดับอิกมั้ย มันดับอิก รีบกดมือถือให้มีไฟ วิ่งทั้งชุดนอนเซกซี่นั่นแหละเปิดประตูออกไปยืนหน้าห้องดีกว่า พอออกไปข้างนอก กรรมเวรอะไรไม่รุ ดั้นนนนนอยู่ห้องสุดท้ายติดทางหนีไฟ ฮือออ. มองไปโถงทางเดินเพื่อดูว่าเราดับห้องเดียวป่าว สรุปว่ามืดทั้งชั้น มีแต่ไฟสำรอง กลัวมาก แต่เท้าก้อต้องดันประตูไว้ เพราะไม่งั้นห้องล้อคอ่ะ ทำไรไม่ถูกเบยยยย ก้อยืนสั่นรอจนกว่าไฟจะมา นาน15นาที นานมากกกกก เป็นแบบนี้สองรอบ กลัวจนเซ็งเลยปิดไฟนอนตาแข็งแม่มมม เพราะคิดว่าถ้ามัวจะเสียวแล้ววิ่งเข้าวิ่งออกแบบนี้ คงไม่ต้องได้หลับนอนพอดี เช้ามาก็ตาโหลบินกลับโดฮา(อ่าววว สรุปเมิงไม่เจออะไรใช่มั้ย?!) แต่คนอื่นที่เจอที่นี่ ก้อมีเพื่อนสนิท คนไทยด้วยกัน นางเจอเบาะๆ คือ นางกลัวเหมือนกัน ก้อครึ่งหลับครึ่งตื่น ลงทุนซื้ออินตะเน็ทเพื่อไว้skypeกับแฟน แต่ก้อแอบเสียวหลัง กลัวว่าตอนกะลังคุยกันแล้วแฟนจะเห็นผู้ไม่ได้รับเชิญในกล้องด้วย แต่ก้อยังดีว่ามีเพื่อนคุยจนหลับ ชีก้อครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้ยินเสียงโทสับมาในห้อง แต่ก้อไม่ได้รับเพราะไม่แน่ใจว่ามีใครโทมาจริงหรือปล่าว จนวางสายไป แล้วเสียวโทสับก้อดังอีกครั้งนัง คราวนี้นางก้อรับ นึกว่าหน้าfrontโทมา แต่พอรับมันก้อเป็นเสียงซ่าๆ แล้วตะโกนกลับมา ประมานว่า ทำไมเมื่อกี้ไม่รับ !!! เราก้อถามว่า เออ แล้วแกฟังออกได้ไงว่าพูดว่ายั่งงั้น มันบอกว่า ที่เคยได้ยินมาว่า วิญญานเนี่ย ถ้าต้องการจะสื่อกับเราแล้ว มันจะไม่เป็นภาษา จะสื่อทางจิต แบบเราเข้าใจเอง นางบอกนางเข้าใจแบบนั้น จากที่เราฟังมา เราก้อเลยไม่ได้ถามต่อว่าทำยังงัย เพราะเราก้อกำลังจะไปบินไฟลท์นั้นอิกรอบพอดี เลยไม่อยากฟังต่อ ตอนแรกจะเดินเข้าห้องไปแล้ว ชีดันดักเรียกตอนก่อนจะออกไปบิน --". มันจะเล่าไมแว้?!?!?! จะsickก็ไม่ทัน ฮ่วย!
อิกอันที่ไหวตัวทันคือไฟลท์นิวยอร์ค ตอนนั้นมันเปลี่ยนโรงแรม เราก้อว่า เออไม่น่าเปลี่ยนเลย เพราะว่ามันไม่อยู่ในเมือง ก้อไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่แล้ว เพราะไม่อยากบินไปตั้ง10กว่าชั่วโมง. แล้วต้องหอบสังขารไปในแมนฮัทตันอีก ตอนนั้นกำลังกลับมาจากเมืองไทย เจอพี่ที่รุจักตอนรอกระเป๋าที่สนามบินโดฮา พี่เค้าก้อถามว่า แพร พรุ่งนี้มีไฟลท์อะไรต่อ(คำถามยอดฮิตที่เป็นดั่งเช่นการทักทายของลูกเรือ) เราก้อว่า นิวยอร์คค่ะ ถามเค้าต่อว่าโรงแรมใหม่โอเคมั้ยพี่ พี่ก้อทำหน้าแหยๆ บอกว่า แกรุมั้ย โรงแรมอ่ะ ไกลตัวเมืองมาก อยู่ท่ามกลางถนนซุปเปอร์. แบบว่าไม่มีไรเลย แล้วพี่ออกไปข้างนอกกับลูกเรือเกาหลี ไปช้อปปิ้งกัน แต่พี่เหนื่อยแล้ว ก้อเลยกลับมาโรงแรมก่อน สาวเกาก้อฝากของกลับมาด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกไปมา แล้วถ้ากลับมาที่โรงแรมค่อยแวะไปเอาก่อนกลับห้อง พี่เค้าก้อกลับมา พอกหน้า แล้วนอนเล่น พอสาวเกาหลีมาเคาะเอาของคืน นางก้อเปิดประตู สาวเกาทำหน้าตกใน รีบเอาของแล้วก้อไป พี่เค้าก้องงๆ ก้อเลยนึกว่าคงตกใจที่พอกหน้า เค้าก้อหลับไป บอกว่าก้อไม่มีอะไรตอนหลับ รุสึกแค่ว่ามันหลับไม่สนิท เพราะมันหลับๆตื่นๆ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ก้อคงคิดไปเอง ไม่เห็นมีไรดีกว่า ต้องทำไฟลท์กลับ เจอสาวเกาบนเครื่อง นางก้อถามว่า เธอๆ ถามหน่อยได้มั้ย. เธอมากับแฟนหรอ เมื่อวาน พี่เค้าก้องง บอกไปว่าถ้ามากับแฟนเค้าจะออกไปช้อปกับหล่อนทำไม ต้องอยู่กับแฟนสิ สาวเกาหน้าซีด บอกว่า เมื่อวานน่ะ ตอนที่เค้าไปเอาของ พอเปิดประตูห้อง เค้ามองเข้าไปแวบนึง เห็นมีผู้ชายนั่งอยู่ตรงโซฟาสีแดงหัวเตียง จ้องมาที่เค้า เค้าไม่แน่ใจ นึกว่าแฟน เลยไม่กล้าทัก (สายการบินเราถ้าแฟนจะบินตามไปด้วย หรือเจอกับแฟนที่destinationไหน ต้องไม่ประเจิดประเจ้อ เพราะว่าเคยมีคนโดนรีพอร์ทไล่ออก เพราะนอนกับผู้ชายในระหว่างที่บินไปทำงาน?!?! เดี๋ยวเล่าต่อตอนต่อไปเรื่องกฎบ้าบอ) พอได้ยินเรื่องนี้แพรเครียดเลยค่าาาา. ยิ่งเป็นชะนตาขาวอยู่ด้วย หน้าเครียดลากกระเป๋าคอตก ด้วยใจหวั่นๆว่า เอ ไฟลท์เหนื่อยก้อเหนื่อย แล้วถ้ามัวกลัวแบบนี้ จะได้พักมั้ยน้า นอนหลับตาไม่สนิทแบบนี้ ต๋ายแหงมๆ ตาโหล หน้าซีด หัวฟูเพราะโดนผีหลอก เดี๋ยวท่านผู้มีอุปการะคุณตกใจ กลับมานั่งคิดนอนคิด โทรปรึกษาแฟนเป็นการใหญ่โต นั่งเช็คลูกเรือ ก้อมีพี่สาวที่รุจัก จะไปขอนอนกะเค้าก้อคงแปลกๆ หาว่าเราพิศวาสเค้าอิกป่าวฟร้ะ ก้อเลยตัดใจ เอาล่ะ เงินดี จะไปช้อปปิ้ง ดื่มให้เมา แล้วเข้านอน คงช่วยได้ บอกแฟนว่า เอาล่ะเบบี๋ จะไป ชั้นจะทำงาน เก็บตังค์ เอาไปสู่ขอเธอ เเอร้ยยยยย ไม่ใช่ค่ะ ด้วยความงก เห็นแก่เงิน ก้อเลยจัดกระเป๋าเตรียมไป New yorkkkkkk แบบใจดีสู้ผี แต่ก้อรุสึกมีลางแปลกๆ ลองเปิดเช็คดูโรงแรมซิ หน้าตาเป็นยังงัย จัดกระเป๋าเสร็จแพรก้อเลยไปเปิดเวบดู ตกใจมาก ที่หน้าแรกของะพจโรงแรม มีรุปโซฟาสีแดงอยูหน้าหราเลย แปลกมากที่รุปอื่น เช่นหน้าโรงแรม หรือสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร เค้าไม่เอาขึ้นหน้าแรก แต่เอารุปห้องซึ่งมีอิโซฟาสีแดงขึ้นหน้าแรก แล้วเราดันเข้าไปเปิดดู คลิ้กๆดูก็รุสึกแปลกๆไงไม่รุ แต่ก้อไม่สนใจ ทำใจร่มๆ. นอนหลับเตรียมไปทำไฟลท์อยู่ ตกใจตื่นขึ้นมาด้วยสาเหตุไรไม่รุ เวลาตีสามเป้ะ ทั้งๆที่ตั้งนาฬิกาไว้ตีสี่ คือถ้าตื่นตีสี่แพรจะโทรไปลาป่วยไม่ได้แล้ว เพราะต้องลาป่วยก่อนหน้าเวลารีพอท2ชั่วโมง ไม่งั้นโดนจดหมายรักร่อนมาถึงที่ แปลกใจที่ทำไมสะดุ้งตื่นตีสามทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไรและทำใจไว้แล้วว่ามันโอเค สะลึมสะลือ กดโทสับไปลาป่วยทันที เป็นครั้งแรกที่ลาป่วยแล้วรุสึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะปกติลาป่วยทีไรจะรุสึกผิดว่าอู้งาน ก้อเลยรอดตัวไปคราวนี้ กลับมาตำนานของโรงแรมที่เนปาล เสียงลือเสียงเล่าอ้างมาง่า เดิมทีโรงแรมนี้เป็นวังเก่ามาก่อน ที่เห็นบ่อยๆ จะเป็นผีเด็กมากับแม่บ้าง เด็กหญิงเด็กชายบ้าง ที่มานั่งดูการ์ตูนนั่นแหละค่ะ ลูกเรืออารมณ์เฮี้ยนลองดี เปิดการ์ตูนไว้แล้วนอน กลางดึกนางมีเพื่อนสองตนมานั่งชวนดูทีวีตรงปลายเตียง ก็ฟังดูเวอร์นะคะ แต่แหม พอไปนอนจริงๆแล้วนึกถึงเรื่องนี้ก้อแอบเสียว อิกคนเล่าว่าช่วงที่ไฟติดๆดับๆชีได้ยินเสียงก้อกแก้กตรงประตู ลุกไปดูอิกที โซ่ที่คล้องประตูหล่นลงมาเฉยเลย ทั้งๆที่โดยปกติแล้วนิสัยลูกเรือเวลาเข้าห้องปุ้ปจะคล้องโซ่ล้อคเป็นอัตโนมัติ นางลุกไปคล้องใหม่ เช้ามาก้อเลื่อนเปิดเองเหมือนเดิม คือต่อให้มันลื่นแค่ไหน มันก้อไหลลงมาไม่ได้เองอยู่แล้ว เพราะมันเป็นโซ่คล้องแนวนอน ลูกเรืออีกคนที่เจอดีคือนางได้ยินเสียงปิดเปิดประตูข้างห้อง เอะอะดังมาก นางนอนไม่หลับ ก็เลยโทรไปเหวี่ยงหน้าfrontว่าให้บอกห้องข้างๆหรือห้องไหนไม่รัล่ะในชั้น ให้เงียบๆหน่อย นอนไม่หลับ พนักงานบอกว่า เอิ่ม ไม่รุจะโทรบอกห้องไหนดี เพราะคุณพักอยู่คนเดียวในชั้นนั้น ชีหอบของลงมานอนในล้อบบี้เลยทีเดียว เพราะห้องชั้นอื่นเต็ม เดือดร้อนหัวหน้าไฟลท์ต้องมาลากนางไปนอนด้วยอิก และมีอิกหลายเสียงที่เล่ามาว่าจะเจอแม่ลูกเดินในทางเดินมั่งในสวนมั่ง โรงแรมนี้เฮี้ยนสุด แต่มาปีหลังๆ ที่เฮี้ยนกว่าคือ จากาตาร์, อินโดนีเซียเพื่อนบ้านเรา ดีที่ว่าตอนแพรไป แพรยังไม่รุเรื่อง แต่นอนไปก้อหลอนไปอยู่ดี เพราะมันเป็นโรงแรมสปา อยู่ในสวนเลย เดี๋ยวมาเล่าต่อตอนหน้านะจ้ะ เพราะจะไม่มีอะไรเล่าต่ออิก แหะๆๆ

 

ปอ ลิง น้องๆคนไหนที่แอดfriendพี่มาตอนนี้ อย่าโกรธพี่ที่พี่ไม่ได้รับaddนะคะ เพราะว่าตอนนี้เราย้ายไปบ้านใหม่ในเพจ www.facebook.com/ComeFlyWithMeByLaila แล้ว เนื่องจากเวลาที่พี่เปลี่ยนคอมเพื่อlog inหรือ ไปต่างประเทศ FB มันจะสุ่มรูปโปรไฟล์มาให้บอกว่า คนนี้ๆชื่ออะไร แล้วมีตั้งห้าหกร้อยคนที่เป็นfriendพี่ ทำให้พี่มีปัญหากับเรื่องนี้มาก เลยต้องManage Friend listใมห่ ยกแผง ไม่งั้นaccountพี่จะโดนยกเลิกทันที ส่วนใครที่add line พี่มา หรือถามพี่อะไรในไลน์ แรกๆพี่ตอบได้ ตอบทัน แต่ตอนนี้ น้องๆจะเห็นได้ว่าพี่ตอบช้ามากกกกกกกก บางทีก้ออ่านแล้วไม่ได้ตอบ เพราะว่า มีน้องเป็นร้อยคนเลยค่ะ บางคนถามเข้ามาตอนตี1 ตี2 พี่สะดุ้งตื่นมาตอบก้อมี พี่ตอบแทบไม่ทัน ตอบจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย เพราะกลัวน้องหมั่นไส้ว่าทำไมไม่ตอบ พี่ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัยเต็มที่อยู่แล้วค่ะ แต่เนื่องจากมันมีหลายช่องทางเกินไป บางทีก้อคำถามซ้ำกัน พี่เลยแนะนำให้ถามหน้าwallในเพจ ไม่ต้องอายค่ะ คนอื่นๆที่สงสัยเรื่องเดียวกันจะได้รู้เรื่องด้วยเนาะ แชร์ๆกัน ช่วยๆกัน แต่ถ้าใครอยากหลังไมคค์จริงๆก้อส่งข้อความทางเพจมาได้เลยค่ะ ใครที่ยังไม่มีเพจ ก้อกดตามลิงค์ข้างบนแล้วLikeนะคะ มันจะขึ้นในfeedsเวลามีอะไรอัพเดทเนอะ หรือในIG@ litaparis นะคะ เข้าใจพี่น้าาาาาา อย่าโกรธกันนะๆๆๆๆ เพราะพี่ไม่ทันจริงๆถึงต้องย้ายบ้านเราไปเพจแทน รักกัน รักกัน ^^




Create Date : 28 ธันวาคม 2555
Last Update : 28 ธันวาคม 2555 12:27:45 น. 4 comments
Counter : 3617 Pageviews.  

 
สวดมนต์เลยค่ะ แผ่เมตตาด้วยยิ่งดี (ว่าแต่ผีต่างชาติจะฟังรู้เรื่องรึป่าว)


โดย: Cuppy_cake IP: 27.55.172.91 วันที่: 28 ธันวาคม 2555 เวลา:14:38:54 น.  

 
อ่านสนุกมากค่า รอฟังตอนต่อไปนะค๊า


โดย: miracle_rainyteddy IP: 182.53.160.79 วันที่: 28 ธันวาคม 2555 เวลา:19:13:24 น.  

 
คุณแพรมาแล้วววววว มาถึงก็หลอนเลยทีเดียว หึหึหึ
เพื่อนทำงานที่แอร์เอ เคนเล่าให้ฟังว่า เจอผู้โดย Dead บนเครื่อง แล้วหลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน บินเครื่องเดิม ไฟล์ทกลับมาจากจีนประมานน่าจะเลยเที่่ยงคืน ขณะที่เพื่อนพักอยู่ที่แกลลี่หลัง นั่งก้มหน้า ปรากฏว่ามีรองเท้าคัดชูผู้ชาย พร้อมแสลคสีเทา มายืนด้านหน้า
เพื่อนก็นึกว่าผู่โดย จึงเอามือลูบหน้าแล้วมองขึ้นมา ปรากฏว่า แค่แว๊บเดียว รองเท้าคู่นั้นก็หายไปละ หลังจากนั้นเพื่อนผมก็เลยป่วยไปอีก 3 วัน ขอไปทำใจก่อน อิอิ


โดย: Champion IP: 124.122.237.25 วันที่: 28 ธันวาคม 2555 เวลา:21:54:12 น.  

 
เรื่องนี้มาน่ากลัวเลยค่ะ. อ่านแล้วแอบหลอน


โดย: Grrrrrl IP: 14.207.38.133 วันที่: 2 เมษายน 2556 เวลา:0:46:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LitaParis
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 48 คน [?]




follow me @ instagram: litaparis. For lates updates everyday ka. Nice to meet and share with everyone naka^^
New Comments
[Add LitaParis's blog to your web]