ข้อสังเกตสำคัญเรื่องการถวายเงินพระกับการระวังเตือนคนรอบข้าง
ไม่ควรกล่าวว่า "อย่าถวายยเงินพระ" และไม่ควรกล่าวว่า"เงินถวายพระได้อนุโมทนา" "อย่าถวายเงินพระ"ไม่ควรกล่าว เพราะเป็นการห้ามทานบุคคลอื่นพระองค์ตรัสการห้ามทานบุคคลอื่นชื่อว่า อมิตร - "เงินถวายพระได้อนุโมทนา " ไม่ควรกล่าว เพราะถ้าพูดอย่างนั้นเท่ากับค้านพุทธพจน์ เป็นวาจาที่มีโทษกร่อนพุทธดำรัส(คือทำให้เลือนลงๆ)
ฉะนั้นจะพูดอย่างไร ก็ต้องบอกเป็นกลางๆ ถึงหลักว่าพระองค์ตรัสไว้ว่าอย่างไรมีทางออกอย่างไร และมีวัดท่านที่ชัดเจนในศีลเรื่องนี้ท่านทำอย่างไรส่วนในท่าที ถ้าหากรณรงค์ในแง่ความรู้ปริยัติข้อนี้ได้เป็นดีที่สุดแต่ไม่ใช่ไป พูดว่าห้ามหรืออย่าถวายเงินพระ อันนี้สังเกตได้ว่า เรื่องเดียวกันวินัยเดียวกัน แต่มีรายละเอียดแยบคายแตกต่างกันดังนี้
ส่วนประเด็นหากจะกล่าวว่า ไทยเกือบไม่ใช่เถรวาทแล้วไม่เป็นไรหรอกอันนี้ก็ถูก เพราะโดยพฤตินัยเป็นอย่างนี้จริงๆ หลายๆ ที่ ประหนึ่งว่ากายเป็นมหายานใจเป็นมหายาน แต่วาจาเป็นเถรวาท คือพูดอย่างเดียวว่าเป็นเถรวาท หากทว่าในแง่หลักมหภาค(นโยบาย)ของชนในชาติแล้วพูดอย่างนั้นไม่ได้เมืองไทยเป็นเถรวาทเต็มตัว เพราะอะไร ? เพราะโดยศีลข้อนี้แล้วทั้งมหานิกายและธรรมยุติก็ยังมีคณะสงฆ์ รักษาอยู่อย่างเข็มงวด เช่น มหานิกายสาขาหนองป่าพง(200 กว่าสาขา) ท่านพระผู้ใหญ่อย่างพระพรหมคุณาภรณ์รวมทั้งคณะธรรมยุติ(ส่วนมากที่ไม่รับ) อีกหลายหมื่นวัด
ส่วนมายาคติที่ว่า เกจิท่านนี้ ท่านนั้น หลวงปู่นี้ หลวงปู่นั้น ยังรับเงินเลยไม่เห็นเป็นอะไร ก็ต้องยกตัวอย่างว่าท่านเทวทัตต์เนี่ยเหาะได้น่ะขอรับ ฉะนั้นจะเอาฤทธิ์มาวัดไม่ได้ ต้องวัดกันที่พุทธดำรัส พอถึงตรงนี้ก็จะมีผู้กล่าวอีกว่า กาลามสูตรเขาจะอ้างว่า เอก็ที่เป็นพุทธดำรัสเนี่ยเอามาจากพระไตรปิฎกไม่ใช่เร่อพระพุทธองค์ไม่ให้เชื่อไม่ใช่เร่อ ก็ต้องอธิบายว่าไม่ใช่ทรงไม่ให้เชื่อแต่ทรงให้ตรวจสอบก่อนจึงเชื่อที่นี่ที่พระองค์ตรัสว่าให้ตรวจสอบก่อนนี่คืออะไรเพราะก็จะมาอ้างว่าพระไตรปิฎกเชื่อถือไม่ได้ ดูอย่างในจีน ในญี่ปุ่นสิ นั้นมันเป็นอย่างนั้น เป็นงูกินหาง ด้วยอำนาจโมหะและในมี่สุดโดยอธิบายหนักเข้า ๆ ก็ห่างจาก ผู้รู้และความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่ความเป็นไสย คือมืดบอดในที่สุด จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ต้องการกล่าวถึงอีกแล้วแต่ด้วยเหตุว่าจำเป็นต้องแถลงความแตกต่างของวลี วลีดังกล่าวคือ - " อย่าถวายเงินพระ" ไม่ควรกล่าวเพราะเป็นการห้ามทานบุคคลอื่น พระองค์ตรัสการห้ามทานบุคคลอื่นชื่อว่าอมิตร
- " เงินถวายพระได้อนุโมทนา " ไม่ควรกล่าว เพราะถ้าพูดอย่างนั้นเท่ากับค้านพุทธพจน์เป็นวาจาที่มีโทษ กร่อนพุทธดำรัส(คือทำให้เลือนลงๆ)
ด้วยความเคารพทุกท่าน
Free TextEditor
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2553 21:23:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 827 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
การศึกษาทางโลก รบ. ธรรมศาสตร์ 2536(นักศึกษาทุนภูมิพล)
การศึกษาทางธรรม -สัทธิวิหาริก สมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 พศ 2535 -พระเจ้าหน้าที่เวรดูแลพระอาการ สมเด็จญาณสังวร -อดีตพระป่า(หนองป่าพง) -ประธานรุ่นนักศึกษาภาคมหาบัณฑิตมหามกุฏราชวิทยาลัย 2546
|
|
|
|
|