• ต่างแดน
• เรื่อยเปื่อย
• โรงเรียนมัธยมของผม
• ชีวิต การทำงาน
• Adis's Station

ไปขับเครื่องบิน กันเถอะครับ เรื่องของตอนนี้คือพวกเราจะไปขับเครื่องบินกันครับ เรามีเพื่อนชาวออสซี่คนหนึ่งเขาขับเครื่องบินได้ เราออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ ไปรับประทานอาหารในเมืองที่ร้านแมคโดนัล อีกแล้ว เพื่อเดินทางไป Australian Aviation Acadamic Center อะไรสักอย่างจำชื่อไม่แม่น คงแปลได้ประมาณว่าโรงเดรียนการบินพลเรือนแห่งชาติออสเตรเลีย กระมัง อันนี้ไม่ทราบ วันนี้เราจะนั่งเครื่องบินเล็กชมเมืองกันครับลำพังตัวผม อ่ะ ไม่อยากหรอกเพราะ อาการไม่สู้ดีแต่เช้า แต่เพื่อนขึ้นผมก็ต้องขึ้น เอาวะตายเป็นตาย สภาพสถาบันการฝึกบิน ครับ เครื่องบินเยอะแยะ กำลังจะขึ้นเครื่องครับ take off บนเครื่อง ข้างหลัง วันนี้ทัศนวิวัย ไม่ดีครับ หมอกควันเต็มเมือง ซึ่งแปลกเลยมองเห็นเมืองไม่ชัดเหมือนครั้งอื่นๆ ผม จะ ขอ บอกว่า ผม เมาเครื่องบิน เล็กอย่างมาก เกือบตาย เวียนหัว ตัวร้อนๆ เหงื่อออก ตาลาย จะอาเจียน กว่าจะลงมาได้ ผมรู้แล้วว่านรกเป็นไง ลงแล้วครับ แทบตาย พอออกจากรันเวย์ได้ผม วิ่งจ้ำอ้าวไป อาเจียนทันทีครับ ออกมาเยอะเสียดายอาหารเมื่อเช้าเพราะมันออกมาหมดเลยยยยยยยยยยยยยยยยย จากนั้นเราก็กลับเข้าเมืองครับ ไปซื้อกับข้าวมาทำทานกัน ชีวิตมีแต่กิน   Create Date : 18 เมษายน 2550     Last Update : 8 พฤษภาคม 2550 3:51:54 น. Counter : 685 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Goldcoast ศิวิไลซ์ ชายทะเล วันนี้ ตื่นเช้ามาก ครับ เพราะเราจะนั่งรถไป โกลด์ โคสต์ เมืองชายทะเลที่มีชื่อเสียง ของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่ใหญ่ และไม่ไกลจากบริสเบนเลย นั่งรถมาไม่นานก็ถึงแล้วครับ วันนี้เราเดินทางกันโดยรถไฟครับ เพราะว่าไม่มีใครมีใบขับขี่เลย และอีกอย่าง ไปหลายคน รถไฟก็สนุกดี นะครับ วันนี้เราจะไปเล่นสวนสนุกกันครับ เราไปกันที่ดรีม เวิร์ลดและมูฟวี่ เวิร์ลด์ แต่สุดท้ายเราก็ใช้เวลาอยู่ที่ มูฟวี่ เวิลด์ มากกว่าครับ เพราะว่ามันสนุกกว่านะครับ ผมว่า วอร์เนอร์ สตูดิโอ ครับ วันนี้เราเล่นเครื่องเล่นหลายอย่าง โดยเฉพาะไอ้ที่เห็น เป็นรถไฟเหาะ escape จาก หนังซูเปอร์แมน เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เพราะว่าตอนที่ผมไปเป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุด คนต่อคิวกันตรึมครับ ผมไม่เคยนั่งรถไฟเหาะมาก่อนเพราะบอกตรงๆว่ากลัวครับ แต่ว่าเพื่อนในกลุ่มเล่นกันหมด ผมก็ต้องเล่น และก็ เสียดายค่าตัวด้วยครับ 65 เหรียญมั้งถ้าจำไม่ผิด วันนี้เรียกว่า ยอมตายครับ ผลสรุปมาก็คือ มันก็น่ากลัวจริงๆแหละครับ แต่สนุกดี แต่นี่ไม่ใช่เครื่องเล่นที่เสียวที่สุดของที่นี่ครับ ต้องไปเล่นรถไฟเหาะของ leathal weapon ครับ ห้อยต่องแต่งกว่าครับ อันนี้ผมน้ำตาไหลเลย เพื่อนจากเยอรมันถามตลอดว่า Are you ok? ๆๆๆ สงสัยจะเห็นผมหมดสภาพ จริงๆแหละครับ ไม่กะว่าจะช้อฟแล้วนะครับ แต่ก็อดไม่ได้ ก็ต้องชอพของที่ระลึกออกมาอีก แต่เราก็ยังไม่หยุดเล่นนะครับ เพราะว่าเสียดายตังค์ครับ เราก็เล่นแทบทุกอย่างนั่นแหละครับ เอาแบบคุ้ม ทั้งดูหนัง 3 มิติ ของเชร็ค เข้าบ้านผีสกูปี้ดู (อันนี้ก็มันครับ) เล่นเรือ ล่องแก่ง ไวลดฺไวลด์ เวสท์ เดินจนเหนื่อยเล่นจนล้า ครับ นานๆได้มาปล่อยแก่ครับ เครื่องเล่นเจ้ากรรมครับ หลังๆไม่ได้ถ่ายแล้วเพราะเหนื่อย ถ่ายกับแบทแมน กับ เอ๊ดดวาด เพื่อนร่วมชะตากรรม ขบวนพาเรด ภาพยนตร์ อิอิ อีก รุปแล้วกัน คนไทย กะคนเยอรมัน หลังจากนี้เราจะไป ในตัวโกลด์โคสสักที ครับ ก็นั่งรถต่อไปหน่อยไม่ไกล หรอกครับ สัก 10 นาทีก็ถึง นี่ครับ โกล์ดโคส เมืองชายทะเลที่ทันสมัย เมือง Gold Coast ยามเย็น อากาศดี แต่หนาวนะเนี่ย ตึกทันสมัย สวยงามที่เรียงรายชาย หาด เกิดเรื่องครับ เกิดเรื่อง พอลงมาถึงข้ามถนนมาถ่ายภาพ ก็มีรถชนกันสนั่น ฝรั่งผู้หญิงเลือดอาบครับ ชนแรงพอควร แต่ก็ปลอดภัยกันทั้งสองฝ่าย แต่ เส้นยาแดงมาก ถือว่าเฉียดปั๊บ เพราะข้ามมาปุ๊บ ชนปั๊บ อยู่ห่างตัวไม่ถึง 2-3 เมตร เฮ้อเกือบตายแล้วเรา สีสันของ Gold Coast ตอนเย็นๆ คนเยอะ แยะ อีกรูปหนึ่ง เดินเล่น ซื้อของไปทั่ว ก็จะกลับแล้วครับมันดึกแล้ว เดี๋ยวจะหารถกลับยาก ก็รีบๆกลับไปขึ้นรถไฟ แต่ขากลับ กินน้ำเยอะไปหน่อย ปวดฉี่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จนต้อง ฮิพ อ๊อฟ ออกกลางทาง แล้วไปฉี่ ห้องน้ำก็ไม่มี ก็ขอฉี่กลางทาง ไม่งั้นตายยยยยย สีหน้าคนปวดฉี่ อ่ะ แทบตายครับ ถึงบ้านก็ดูทีวีอีกแป๊บ นึง ไม่ติดละครครับ แต่หิว เลยได้ทำอาหารกันอีกรอบ พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าอีกครับ ไปรับเพื่อนที่มาจากซิดนี่ย์ อิอิ บายๆ   Create Date : 17 เมษายน 2550     Last Update : 18 เมษายน 2550 23:33:35 น. Counter : 396 Pageviews.   4 comment Share Tweet

Brisbane ที่พำนัก ที่รัก ที่คิดถึง กล่าวถึงเมืองอื่นมานานนม นมนาน นมยาน เอ๊ยไม่เกี่ยวกัน แต่ไม่เคย โฉบเฉี่ยว มาเมืองที่คุ้นเคยกับตัวเองอย่างบริสเบน เลย สักนิด แต่ก็เอาเถอะสนองสักหน่อย จะว่าไปแล้ว ในเมืองของบริสเบน ไม่มีอะไรเลยครับถ้าเทียบกับซิดนี่ย์ แล้ว เห็นจะแออัดน้อยกว่ามากครับ ใครชอบอะไรที่มันคึกคักมีสีสันมีที่เที่ยว คงต้องไปซิดนี่ย์ แล้วล่ะครับ แต่ถ้าใครชอบความสงบ ความเป็นระเบียบ เห็นทีที่นี่ จะเหมาะ มากครับ นี่ไงครับ โฉมหน้าเมืองบริสเบน Brisbane เป็นเมืองหลวงของรัฐควีนสแลนด์ Queensland เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศออสเตรเลียครับ นั่นก็แสดงว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ไม่แพ้ ซิดนี่ย์ เมลเบริ์นหรือ เพริ์ธเลยครับ เมืองที่นี่สงบครับ ใหญ่แต่สงบ ผมว่าน่าอยู่มากทีเดียวครับ Queensland ถูกขานานามว่า Sunshine state รัฐแห่งแสงแดด เป็นรัฐแห่งการตากอากาศ เกรท แบริเออ รีฟ ก็อยู่ที่รัฐนี้ครับ แต่ไกลจากบริสเบนมากนะครับ ผมก็ยังไม่เคยไปเลย อิอิ ไม่มีตัง ไม่มีตัง การเดินทางมาที่นี่ ง่ายมากๆครับ สายการบิน นานาชาติแทบทุกสาย เปิดรูทมานี่ หมด การบินไทย สิงคโปร์ แอร์ไลน์ บริทิช แอร์เวย์ คาเท่ย์ แปซิฟิก ผมเคยนั่งมาที่นี่แค่ การบินไทย กับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ครับ การบินไทยใช้เวลาบิน 9 ชม สิงคโปร์ ประมาณ 12 ชม เพราะต้องต่อเครื่องที่สิงคโปรด้วย ถึงกระนั้นผมก็เลือกสิงคโปร์แอร์ไลน์ เพราะราคาถูก คุณภาพก็ไม่ด้อย ไปกว่าการบินไทยเลย ส่วนสนามบินที่นี่ เรียกว่า ดีครับ สวย ไม่ใหญ่เท่า สุวรรณภูมิหรอกครับ แต่สวยเป็นระเบียบ ไม่มีคนเยอะมาก นี่ครับสนามบิน Brisbane International Airport ส่วนสนามบินโดเมสติกก็อยู่ติดกันครับ ถ้านั่งรถไฟ จะถัดไป เลยครับ แอร์พอร์ทลิงค์ที่นี่สะดวกสบายครับ มาถึงไม่ต้องมีใครมารับครับ หิ้วกระเป๋าขึ้นรถไฟกลับที่พักได้สบาย หรือใครจะต่อเครื่องภายในประเทศก็ ต่อรถไฟไปแป๊บเดียว วันนี้เพื่อนรัก จากไทยมาหาครับ ฉะนั้นก็เลยถือโอกาส พามันไปเที่ยวแล้วเก็บภาพมาฝาก พาไปเดินเที่ยวในเมืองก่อน ก็เลยถือโอกาสบรรยาย ไปด้วยครับ ไปไหนมาไหนครับ ก็เจอแต่ David Jones ผมก็เป็นลูกค้าที่นี่ครับ มีเครื่องสำอางดีๆมากมาย ราคาก็ไม่รู้สิว่าแพงไหม แต่ด้วยความที่ชอบ ก็เลยไปชอพมาทีเยอะแยะ หลายๆคนมาที่นี่ก็มาเหมาวิตามิน อี กลับไปเยอะแยะ ผมก็หนึ่งในนั้นซื้อฝากญาติ โดยเฉพาะคุณแม่ ชอบมาก เดวิด โจนส์ ครับ เมืองนี้มีแม่น้ำครับ เป็นแม่น้ำน้ำเค็ม ไหลผ่านเมือง ไม่ลงเรือ เฟอรรี่ ก็แปลกนะครับ สะดวกสบายดีครับ เร็วดี ชมบรรยากาศไปด้วย ซื้อตั๋ววันใบเดียวก็ขึ้นได้ทั้งรถ ลงเรือ รถไฟอีก โอ๊ยสบายแท้ๆ กลางเมืองบริสเบนมีบรสเบนทาวเวอร์ตั้งเป็นตระหง่าน อยู่เป็นหอนาฬิกาขึ้นไป ชมได้ จะเห็นวิวเมือง ครับ ระหว่างขึ้นลิฟท์ไป พนักงานกดลิฟท์ พูดจีนใส่อ่ะครับ ผมก็ พูดจีนกลับไปสิครับสรุปแล้วเค้าจะรู้ไหมว่าเป็นนักเรียนไทย เนี่ย แหมฝรั่งนี่แยกไม่ออกเลยนะ ว่าจีนหรือไทย เพื่อน จาก เยอรมันนี Eduard และ ผมเองครับ ถ่ายที่บริสเบนทาวเวอร์ อิอิ วิวเมืองจากหอบริสเบนครับ อาคารใต้หอ เป็นส่วนจัดนิทรรศการ ครับมีเรื่องประวัติ ออสเตรเลีย ประวัติบริสเบน ภาพเกียรติยศต่างๆ ของเมืองนี้ แล้วก็มีนิทรรศการหมุนเวียน ผมเองได้ชม สองงาน แต่งานที่ชอบที่สุดก็คือ ความงาม ครับ เป็น การเอานางงามออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงมาขึ้น Hall of fame มีชุด มงกุฏ ที่เคยได้สวมใส่จริงๆ มาด้วยครับ แตคนที่ผมชอบมากคือ Jennifer Hawkins Miss Universe 2004 คนที่จะเห็นในรูปแหละครับ ผมดูวันที่เธอได้ตำแหน่ง ที่ชนะมิสอเมริกา ตอนนั้นเธอไม่สวยเลย แต่ตอนนี้เธอสวยมากครับ แต่ทว่าที่นี่เธอไม่ค่อยดังเลยครับ คงเป็นเพราะว่าเธอได้รับการคัดเลือกมาประกวดจากเวทีนางแบบ ไม่ได้ ประกวดจากเวทีนางงามภายในประเทศ และช่วงนั้น มีเจ้าหญิงแมรี่ (สามัญชน ออสเดรเลีย) ที่ได้สมรสกับ ราชวงศ์ยุโรป ก็กำลังเป็นกระแส เรียกว่า กลบเธอ ซะเกือบมิดเลย ครับ น่าสงสารทีเดียวนะ อุตส่าห์ไปทำชื่อเสียง ผมยังซื้อหนังสือ OK ที่ลงรูปเธอเก็บไว้เลย นะเนี่ย นี่ไง เจนนิเฟอร์ ฮอว์คิ่นส์ วันนี้ เห็นที่จะพอก่อนครับ เรื่องบริสเบนมีมากมาย เพราะ แก๊งขาสั้น ก็ยังดำเนินการก่อวีรกรรมต่อไป วันหลังจะมาอัพใหม่ ครับ ปล ไปไชน่า ทาวน์ ต้องลง ที่ บรุนสวิก สทรีท นะ อย่าหลับเพลิน....อิอิ ซื้อ ไส้กรอกอีสานขึ้นรถ ห่อซะยังกะเป็นเฮโรอีน ครับ ผมกลัวกลิ่นมันเหม็นนี่นา ไปก่อนครับ   Create Date : 17 เมษายน 2550     Last Update : 18 เมษายน 2550 22:34:22 น. Counter : 646 Pageviews.   1 comment Share Tweet

วันนี้ไป Sydney วันนี้จะพูดถึง Sydney นะครับ (ค้างไว้ มา 1 ปี) Sydney เป็นเมืองที่มีสีสันที่สุดของออสเตรเลีย อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลลส์ รัฐนี้มีแคนเบอร่า เมืองหลวงออสเตรเลียตั้งอยู่ด้วยครับ การเดินทางมาซิดนี่ย์ ไม่ยาก เลย ครับ มีทั้งทางรถบัส รถไฟ เครื่องบิน ผมเลือกที่จะมาทางเครื่องบินครับ ครั้งนี้ผมเลือก Virgin Blue Airlines มาจาก เมืองบริสเบน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เท่านั่นครับ สะดวกสบายมาก การเดินทางจากไทย ผมว่ามันก็สะดวกสบายนะครับ เพราะที่นี่เป็นเมืองใหญ่และดัง มีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนหลั่งไหลมาในแต่ละปี ฉะนั้นมีสายการบินหลายสาย บินมาที่นี่ แม้กระทั่งการบินไทยเองที่มีเที่ยวบินมาซิดนี่ย์หลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ ไม่เคยนั่งอิอิ แต่รู้ ตื่นเต้นมากครับ ที่จะลงจอดที่ซิดนี่ โดเมสติก เราเห็นเมืองส่องแสงระยิบระยับอยู่เบื้องล่าง (มาเที่ยวบินดึกครับ) อะไรกันเพิ่งออกจากบริสเบน เอง ถึงเร็วแฮะ นั่งข้างคนอินเดียครับ รู้ได้จากกลิ่นตัว อิอิ ลงมาถึง ตรงดิ่งไป โรงแรมครับ ง่วง บรม เจท แลก ครับ เพราะบินมาเหนื่อยมาก จากไทย มาลง บริสเบน แล้วต่อเครื่องจาก บริสเบน มา ซิดนี่ย์ภายในเย็นนั้น ร่างกายมึนครับ แต่ก็ยังมีแรงเล่นไพ่ อิอิ หนาวเหมือนกันนะนี่อากาศช่วงนี้ วันแรก ก็ออกไป เดินหาโอเปร่า เฮ้าส์ก่อนเลย ก่อนอืน แวะไปหาพี่ตี้ พวกเราคณะคนไทยในออสเตรเลีย ไปหาข้าวทานฟรีก่อนครับ อิอิ อาหารไทย อาหารไทย อร่อยจะตาย ไปเดินชมเมืองก็มีสภาพแบบที่เห็นในรูปล่ะ ครับ เน้นว่าเดินครับ ไม่มีขึ้นรถ ซิดนี่ย์สวยครับ ยอมรับว่าสวยกว่า บริสเบน และเมลเบิน ผู้คนก็มีหลายเชื่อชาติ ปะปนกันไป คนไทยก็เยอะ ไม่แพ้ที่ LA USA เลย จังหวัด ที่ 77 ที่นี่ก็สมควรได้ฉายา เยอะจริงๆครับ โดยเฉพาะตรงที่เราเรียกว่าไทย ทาวน์ ไปแล้วไม่เหงา อิอิ ไปร้านพี่เชอรี่ย์ ได้ของแถมมาเพียบ ขอบคุณคร้าบบบบ ถึงซะทีเซอคูล่า คีย์ เห็นโอเปร่า เฮ้าส์ โอฆ์ พระเจ้า นี่หรือ ที่เราเดินทางขี่เครื่องบินมาดู ก็งั้นๆหละ แต่ว่าดูไปดูมา เฮ้ย มันสวยนะเนี่ย ยิ่งกลางแดด ยิ่งสวย ระยิบระยับ แข่งกับน้ำทะเล ตอนกลางคืนมาชมวิวเมืองที่นี่สวยมาก มองเห็นทั้ง ฮาเบอร์ บริดจ์ และสีสันของเมือง แล้วเราก็นอนพักกันบนโอเปร่า เฮาส์นั่นแหละ แหมก็เหนื่อยนี่นาเนาะ กิจกรรมในซิดนี่ย์ภายใต้การนำของ พี่ตี้ และพี่โชคก้สนุกสนาน ไปตามประสา วันที่สอง เราไป คูจี และ บอนได บีช เดินจาก คูจี ไปบอนได สามกิโลแม้ว ขาลาก แต่ระหว่างทางวิวสวยมากเป็นทะเล ของซิดนี่ย์ สวยมากๆๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆ คลาสสิค มีสุสานโบราณ ซึ่งไม่น่ากลัวแต่มีมนต์ขลังมากๆๆๆ อยู่ริมผา น้ำทะเลเขียวกับขอบฟ้าสีสดๆ มันช่างงดงามมาก เราเดินทางถึง บอนไดเบีช ดูคนโต้คลื่น กินแมคโดแนลด์ แล้วนั่งมองอาทิตย์ตกดิน งดงาม แต่อากาศแม่งหนาว อีกแล้ว วันนี้ กินลักซา เป็นอาหารเย็นจ้ะ วันนี้ วันสุดท้าย ที่ซิดนี่ย์ แต่เราจองเที่ยวบินรอบ 2 ทุ่มไว้ ดังนั้นมีเวลาทั้งวัน วันนี้เราไป University of Sydney ที่พี่ตี้และพี่โชค อยู่ ถ่ายรูปมาเยอะ เพราะมหาลัยนี้เป็นมหาลัยเก่าแก่ของออสเตรเลีย และมีตึกสถาปัตแบบโบราณตั้งตระหง่านอยู่ ในรูปหล่ะครับ สวยงามมากจริงๆ อยากมาเรียนบ้างแล้วสิ พอสายหน่อยก็รีบไปซื้อตั๋ววัน ระหว่างทางเซอร์ไพรซ์ เจออาจารย์ที่มหาลัยที่ไทย อาจารย์มาทำวิจัยที่นี่ แล้วถามว่ามาทำไม เราก็ตอบว่ามาเที่ยว แล้วเราก็คุยๆๆๆๆ กันนาน แต่ว่าต้องลาอาจารย์เพราะ เราต้องรีบข้ามฟากไป ทารองก้า ซู ด้วยเรื่อเฟอรรี่ไปดูน้องหมีโคอาล่า กะน้องจิงโจ้ ที่นี่น่ารักมาก มีศาลาไทย ด้วยอิอิอิ มีโชว์นก โชว์แมวน้ำ อิอิ สุดยอดตลกมากมาย ประทับใจครับ ไม่เสียดาย 30 เหรียญค่าเข้าชมเลย เดินที่ทารองก้าซู นานไปหน่อย ตกเย็นก็กระหืดกระหอบ นั่งรถไฟ ไปแอร์พอร์ท อิอิ ทุลักทุเล ครับ แต่ชอบ รถไฟที่นี่ แบบว่า ปรับเบาะให้หันตามใจเราได้ เราจึงดึงเบาะมาหันหน้าชนกันเลยครับ แล้วก็เม้าท์กันขึ้นเครื่องบิน ประจำที่ปุ๊บ ผมก็หลับเป็นตาย เหนื่อยมาก ปล. กัปตัน โลว์คอส น่า จะลงจอดให้นุ่มกว่านี้หน่อย ตกใจมาก เวลาที่ผมเกลียดตอนที่อยู๋บนเครื่องที่สุด ไม่ใช่ตอนที่เครื่องตกหลุมอากาศครับ แต่เป็นตอนที่ปวดฉี่ แล้วห้องน้ำมีคนยืนรออยูตรึม (ไฟลท์ ยาวๆ อ่ะ เจอประจำ มันปวดฉี่พร้อมกันทั้งลำ หรือไง)   Create Date : 15 เมษายน 2550     Last Update : 15 เมษายน 2550 1:06:23 น. Counter : 599 Pageviews.   4 comment Share Tweet

Melbourne in Spring Introduction to Melbourne There is much to love about Melbourne. Just ask the locals. This sophisticated world city in the south-east corner of mainland Australia inspires a deep passion in those lucky enough to live here. They love its vibrant energy, staggering choice of restaurants, funky boutiques, café-filled laneways, cool bars, unbeatable galleries, luscious parks and village-like inner suburbs, each with its own special character. Melbourne, a relatively modern city which is less than 200 years old, never sits still. New futuristic designs add to the fascinating mix of architecture and ensure the skyline is constantly changing. Melbourne is very much about lifestyle. It is no huge surprise to residents that their city has been named in an international poll as the world’s most liveable city. Melburnians embrace three things in particular: sport (Australian Rules football is almost a religion); fashion (the look is chic with a dash of quirky); and festivals (the calendar is packed year round). ยินดีต้อนรับสู่ MELBOURNE in SPRING ตอนนี้ที่เมลเบริ์น อยู่ในฤดูสปริง ทุกๆอย่างมีสีสันสวยงาม แฟชั่นในฤดูนี้สดใสตามฤดู เมลเบริ์นเป็นนครแห่งแฟชั่นของออสเตรเลียอีกที่หนึ่ง มีร้านค้าขายเสื้อผ้ามากมาย มีแหล่งชอบปิ้งที่ขึ้นชื่อหลายที่ ในส่วนตัวแล้วชอบเมลเบิร์นมากกว่าซิดนี่ย์ครับ ชอบตรงที่ความสดใส ดอกไม้สวยๆ ของที่นี่ มันมีสเน่ห์กว่าซิดนี่ย์นะ สมชื่อ แล้วที่ใครๆก็ขนานนามว่า เป็น The garden state... ออสเตรเลียเป็นทวีปที่แดดแรงเหลือเกิน ใครคิดว่ามาอยู่ออสเตรเลียแล้วจะขาวนี่ ไม่มีทางหรอกครับ ถึงแม้ว่าอากาศจะเย็น แต่ทว่าแดดแรงเหลือเกิน อากาศถ้าหนาวก็หนาวเหลือเกิน ถ้าร้อนก็ร้อนเหลือเกินเช่นกัน ที่เมลเบิร์นโชคดีที่ไม่ร้อน แต่วันๆ เราก็อาจจะต้องเจอหลายสภาพอากาศ บางทีฝนตก แดดออก หมอก อากาศหนาว แต่สรุปแล้วสำหรับเราก็หนาวแหละครับ อิอิ เห็นมั้ยครับ รูปที่ถ่ายออกมาสีสันสวยงาม ก็แดดแรง ก็เถอะ อันที่จริงที่เห็นนะ ประมาณ สิบกว่าองศานะครับ แต่ด้วยความอยากถ่ายรูปให้สวย ไม่อยากใส่แจ็คเกท อ่ะ มันเบื่อหนาวก็ยอม เมื่อต้นปี ที่เมลเบริ์น จัดงานกีฬา คอมมอนเวลธ์ ใช้ชื่อว่า Melbourne 2006 กีฬาในเครือจักรภพนั่นเอง เพลงธีมในการแข่งขัน ก็คือ Together We Are One ร้องโดยนักร้องเจ้าบ้านคือ เดลต้า กู๊ดเร่ม เพลงนี้เพราะมาก ได้ฟังยังขนลุกเลยครับ ยอดขายซิงเกิ้ลเพลงนี้ก็ดีด้วยครับ เพราะจริงๆครับ เพลงไหนที่ผมบอกว่าเพราะ ก็เพราะจริงๆครับ ระบบคมนาคมที่นี่จัดว่ายอดเยี่ยมติดอันดับโลกเลยครับ สะดวกสบายมาก การจัดผังเมืองก็ง่ายๆ เป็นสี่เหลี่ยมบล็อกๆ มีรถรางเรียกว่า แทรม ครับวิ่งบริการทั่วนครเมลเบิร์น รถไฟ รถบัส( รสบัสวิ่งออกนอกเมืองนะครับ) ตอนนี้ที่เมลเบริ์นมีอาร์ท เฟสติวัลอยู่ครับ ใครรักศิลปะ น่าจะลองมาเที่ยวดูครับ ตรงนี่คือ ฟลินเดอร์สทรีท สเทชั่น เป็นศูนย์รวมของรถไฟ เปรียบเทียบได้กับหัวลำโพง บ้านเรา แหละครับ แถวๆนี้วิวสวยครับ จริงๆนะ เดินถัดไปหน่อยเป็น ยาร์รา ริฟเวอร์ ข้ามไปเป็นเซาท์ แบงค์ สวยครับ จริงนะ เมลเบิร์น นี่มีสีสันจริง ต้นไม้ ดอกไม้ ตึกทรงทันสมัย ตึกทรงคลาสสิค คนหลายเชื้อชาติ ผมคิดว่าใครๆที่มาคงประทับใจเหมือนผม ขากลับจากเมลเบริ์น ไปขึ้นเครื่องที่ Avalon Airport เป็นสนามบินโดเมสติก ของสายการบินเจ็ท สตาร์ ในเครือของแควนตัส เป็นสนามบินที่อยู่ห่างจากเมืองประมาณ หนึ่ง ชม บนถนนครับ เป็นสนามบินของบริษัทนี้เท่านั้น โชคดีที่สายการบินจัดรถ รับส่ง ผู้โดยสาร ไม่งั้นลำบากแย่ นั่งเครื่องจนในที่สุด หวยก็ออก เครื่องบินดีเลย์ สองชม กลายเป็นเครื่องออกตีหนึ่ง ถึงบ้านที่บริสเบนตีสี่ครึ่ง สลบ โชคดีอยู่บ้างที่สายการบินออกค่าน้ำอาหารให้ระหว่างรอเครื่องมาเปลี่ยนรับผู้โดยสาร แต่ก็เซ็งอยู่ดี จำไว้เจท สตาร์ แอร์ไลน์   Create Date : 26 ตุลาคม 2549     Last Update : 8 พฤษภาคม 2550 4:11:17 น. Counter : 425 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• adisfromtheblock
• pcplant
• karnclue
• Johan Carey
• ifwedo
• Webmaster - BlogGang

• มหาวิทยาลัยมหิดล
• บัณฑิตวิทยาลัย มหิดล
• BlogGang.com