ย้ายบ้านแล้วครับ...
Group Blog
 
All Blogs
 
ไวรัสคอมพิวเตอร์ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ภาค 3


ค้างพวกคุณเอาไว้ในเรื่องการทดสอบ Rootkit ของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่สุดพรุ่นไปด้วยช่วงทางเจาะระบบ ลีนุกส์นั้นกลางปีนี้...ได้มีการทดสอบการแอกส์ระบบจากทั่วโลก..ระบบปฏิบัติการที่พรุ่นก่อนเพื่อน ไม่ต้องบอกครับ...รู้กันอยู่ ไม่ถึง 4 ชั่วโมงไม่ว่าด้วยการบล็อกโปรแกรมด้วยไฟล์วออร์ หรือวิธีใดๆ ก็ตาม...พรุ่น...ภายในไม่กี่ชัวโมง ตามมาด้วย Mac PC และ อีกตัวผมไม่แน่ใจว่า BBS หรือ OS2 แต่ที่แน่ๆ ... ระบบปฏบัติการ "ลีนุกส์" ๆๆๆๆๆ ไม่สามารถแฮกส์ได้ครับ..ภายใน 7 วันแข่งขัน...สุดยอดจริงๆ แต่ Rootkit ของพวกมันก็พรุ่นครับ...เพราะผมเองเป็นคนที่ใช้งาน "ลีนุกส์ TLE9" ถูกเจ้าแฮกส์เกอร์ประจำจังหวัดลบไฟล์ภายใน TLE ตอนเสียบแฟลชไดร์ฟ เพื่อเซฟงานในวินโดวส์โอ...เล่นอย่างนี้เลย...ปรากฎบูตไม่ขึ้นสิครับ...ต้องอาศัย Hard ware เพื่อเสิรมการทำงานคือ CD-ROM บูต ลีนุกส์...กัน Rootkit ของวินโดวส์ทำลายเราก่อนเข้าระบบ Kernel ครับ...ที่นี้...โครตเซียนที่ต่อ NetBios เพื่อดูการทำงานของเราผ่าน IP ที่ล็อกเอาไว้...คงยิ้มไม่ออกครับ...ให้มันงงไปอย่างนั้นแหละ...ชาตินี้ทั้งชาตก็ไม่สามารถเขียน ROM ได้ครับ...ตามหลักสูตรที่เรียนมาเหมือนๆ กัน...

อา...ก่อนจะเข้าสู่การปูพื้นฐาน "รูทคิต" กัน...ฝากเตือนเพื่อนๆ หลายคนครับที่โดนไวรัสประเภทเดียวกับผมเล่นงานคือ...มีแฟ้มหนึ่งครับ...ที่ผมเก็บจากเจ้าแฮกส์เกอร์ที่แกล้งผม...และเก็บไปศึกษาครับ...(เจ็บแล้วจำ) มันเล่นงานระบบปฏิบัติการของเราได้แม้ว่าเครื่องจะมีแอนตี้ไวรัสชั่น 1 ก็ตาม จาก การติดตั้งไดร์ฟเวอร์ของ .VBS เพื่อเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ทั้งในเครื่อง และเครื่องข่ายก็ตาม...ขอแค่มันทราบ User จบแล้วครับ...ไม่ต้องทราบ IP อย่างใด...มันอาศัย WMI Object รายละเอียดคำสั่งคงไม่ให้ดูนะ ครับเพราะอาจจะทำให้ระบบของคุณ พรุ่น... เพื่อเปิด Services ในแบบที่แชร์เครื่องพิมพ์ผ่านเครือข่าย...ซึ่งทำให้ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใดบนโลกใบนี้...มันเชื่อมต่อมายังคำสั่งที่ทำเป็นว่าเป็นไดรฟ์เวอร์เครื่องพิมพ์...มันก็สามารถเล่นงานได้ครับ...โถ่...เล่นอย่างนี้ได้ครั้งเดียวแหละครับ...ผมจะจำไว้ใช้งานบ้าง...เพราะในคำสั่งที่มันทิ้งไว้... -d ของพวกมันคือคำสั่งลบไวรัสของพวกมันเอง...ฮิฮิฮิ นึกว่าเราอ่าน .VBS สคริปไม่เป็นซินะ...ตอนนี้ก็เปิดเครื่องไว้รอเทคนิค ใหม่ๆ ของพวกมันอยู่...ไม่ตายอยู่แล้ว...มันไม่ใช่เครื่องของเราเอง...อีกนิดหนึ่งครับ...ลืมบอกไปคือ...การฆ่า Rootkit แม้คุณจะใช้โปรแกรม Hijack หรือ Deep ฟรีสเซอร์โหงกุน ก็ตาม ถ้าเป็น Sevices บริการแล้ว...ไม่สามารถลบมันออกได้ครับ...คุณต้องลงไปลึกระดับ Safe Mode เพื่อรื่อฟื้นระบบกันใหม่...แต่ไวรัสไม่ปล่อยให้คุณทำเช่นนั้นแน่นอน...ด้วยการเปลี่ยนคีย์ Safeboot ในรีจีสตีย์ให้เป็นชื่ออื่น...ทำให้บูตไม่ได้...ตายอีก...ทีนี้...ยังไม่ถึงเวลามาพูดถึงวิธีแก้ครับ...เพราะว่า...ก่อนอื่นมาไล่เรียงกันเรื่องโครงสร้าง Rootkit กันก่อน...ดีกว่า...


การทำงานในเบื้องลึกของ Rootkit ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP (เอ็กช์พีอย่างเดียวนะครับ)
1.ดอสสตาร์ทอัป (DOS Startup)

1.1 Config.NT
DIVICE=ไวรัส.EXE
ในส่วนนี้สังเกตุให้ดีครับคำสั่ง Device ผู้เขียนไวรัสสามารถจะแทรกคำสั่งไวรัสในส่วนนี้...แต่โปรแกรมที่ทำงานในนี้ส่วนใหญ่ เป็นโหมด 16 บิต ครับ...หรือเขียนเพื่อติดต่ออินเตอร์เฟสชั้นต่ำ...ไวรัสที่สามารถทำงานในนี้ได้ต้องอาศัยประสบการณ์ชั้นเซียนอย่างมากเพื่อที่จะฮุกอินเตอร์รัพต์ ให้ได้...แต่ถ้ามันฮุกอินเตอร์รัพต์สำเร็จโปรแกรมฆ่าไวรัสบนวินโดวส์จะหมดความหมายทันที...ไม่มีสิทธิ์จะฆ่าพวกมันเพราะมันจะหลบซ่อนตัวแบบ "สเตริช์" ครับ...และแม้พวกคุณจะเปิดแฟ้ม Config.nt มาเพื่อหาไวรัสก็ไม่พบคำสั่ง device ของไวรัสครับ...เพราะไวรัสจะทำการลบคำสั่งทิ้งทุกๆ ครั้งที่มีการอินเตอร์รัพต์ไฟล์ชื่อ config.nt และ confis.sys มือปิดแฟ้มไวรัสก็จะเขียนคำสั่งไวรัสเข้าไปใหม่อีกครั้ง...จึงต้องเทพอย่างมากครับ...คือบูต Floppy Disk หรือ CD-ROM บูตอัปเท่านั้นเพื่อฆ่าไวรัสในนี้...หรือ ต่อฮาร์ดดิกส์ไปยังเครื่องที่ไม่ติดไวรัสเท่านั้น

1.2 Autoexec.NT
LH ไวรัส.EXE
ไวรัสที่อาศัยคำสั่ง Autoexecute นั้นก็ทำงานเหมือนๆ กับ Config.nt ครับ...เพราะมันจะหลบซ่อนหรือ โยกย้ายหัวอ่านก่อนที่จะสแกนไวรัส และยิ่งมันบรรจุตัวเองด้วยคำสั่ง LH หรือ Load High และ หมดสิทธิ์หลบไวรัสเลยครับ...เพราะมันหน่วยความจำของไดร์ฟเวอร์ระบบ...ไม่สามารถหลบทิ้งได้...จนกว่าปิดเครื่องครับ...รีสตาร์ทก็ไม่มีผลคับ...คำสั่งนี้...จะเชื่อมต่อการเขียนโปรแกรมในโหมด Single Processing คือ มันทำงานแบบ DOS คือเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงานได้ทีละโปรแกรม ไม่มีหน้าต่างหรือโปรแกรมหลายๆ โปรแกรมขึ้นมาทำงานพร้อมกันแบบ วินโดวส์ ได้ นอกเสียจากตัวโปรแกรมของมันจะ Shell โปรแกรมอื่นผ่านโปรแกรมของมันอีกที...กว่าคือ...วินโดวส์จะทำงานได้ต้องรอโปรแกรมของพวกมันอนุญาติ...ให้ทำงานต่อไปเท่านั้น
คำสั่งไวรัสที่อยู่ใน Autoexec.nt นั้นก็สามารถเรียกด้วยคำสั่งได้โดยตรงทีละบรรทัดตามตัวอย่างนี้...
ไวรัส.COM
ไวรัส.EXE
หรือ
Start ไวรัสสคริป...

2.ไดร์ฟเวอร์บูตอัป (Drivers BootUp)

2.1 WIN.INI
[Windows]
Load=ไวรัส.EXE
Run=ไวรัส.EXE
กล่าวต่อไปคือ...ไวรัสที่อาศัยไดร์ฟเวอร์ของระบบปฏิบัติการเล่นงานคุณ ตามรูปแบบคำสั่งด้านบนไวรัสที่ทำงานในส่วนนี้สามารถใช้คำสั่งแบบ 32 บิตได้...แต่ต้องเป็นคำสั่งที่ทำงานในโหมดโบราณของวินโดวส์คือ 3.11 และ 95 ได้...เพราะไดร์ฟเวอร์ในส่วนนี้...ทำงานก่อนที่ระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์แบบเต็มตัวจะทำงาน...ที่สำคัญ...คือก่อนโปรแกรมฆ่าไวรัสจะทำงานด้วยซ้ำ จึงทำให้ไวรัสในส่วนนี้จะเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่อื่นก่อนที่โปรแกรมฆ่าไวรัสจะทำการสแกนไวรัสในแฟ้มนี้ หรือ บางตัวก็เปิดแฟ้มแบบไม่ให้ใครอ่านได้คือจองไฟล์แฮนเดิล...เอาไว้เพื่อไม่ให้โปรแกรมใดสามารถเขียนหรืออ่านแฟ้มนี้ได้นั้นเอง...ไวรัสที่อยู่ในคำสั่งนี้...จะทำงานได้แม้กระทั้งใน Safe Mode ทุกระดับ...นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะฆ่าพวกมัน


2.2 SYSTEM.INI
[Boot]
Shell=Explorer.exe ไวรัส.EXE
ส่วนไวรัสที่อาศัยคำสั่งของ System.ini แต่ต้องเรียกตัวมันทำงานผ่าน Explorer.exe เพื่อครอบคลุมแทร็กในระดับบน...ไวรัสในข้อนี้...จะไม่สามารถทำงานบน Safe Mode Command Prompt จึงสามารถใช้คำสั่งใน CMD ฆ่าพวกมันบน Command Prompt ได้...ถ้าคุณเทพสักหน่อยก็ต้องรู้ว่าคำสั่งใดใช้เปิดอ่านแฟ้ม หรือพิมพ์ Edit windowssystem.ini เพื่อทำการอ่านและลบคำสั่งไวรัสทิ้งจากระบเสีย...
ให้สังเกตให้ดีๆ ครับไม่ใช่ลบมั่ว...ให้สังเกตคำสั่ง [Boot]

2.3 WININIT.INI
[Rename]
NUL=ไวรัส.EXE
คำสั่งที่จะเป็นอันตรายต่อไปคือ คำสั่งนี้...มันไม่ได้เรียกไวรัสทำงานแต่มันมีไว้สำหรับซ่อนแฟ้มไวรัสไม่ให้มองเห็น...ส่วนรายละเอียด...ผมยังศึกษาไม่กระจ่าง...เพราะก็อปชุดคำสั่งมาจากเวปต่างประเทศโดยผมอ่านภาษาอังกฤษได้แค่งูๆ ปลาๆ

3.รีจีสตรีย์สตาร์ทอัป Registry Startup

3.1 REG.EXE Query HKLM/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “RunServices”
คำสั่งในส่วนนี้หลายคนก็คงรู้ว่าในระบบรีจีสตรีย์นั้นถ้าคุณจะติดตั้งโปรแกรมหรือทำให้โปรแกรททำานโดยอัตโนมัติต้องอาศัยคำสั่งเหล่านี้...ตัวแรก...คำสั่ง Runservices คำสั่งนี้โดยทั่วไปเอาไว้สำหรับติดตั้งโปรแกรมและบริการของระบบปฏิบัติการวินโดวส์แต่ไวรัสก็นำคำสั่งชุดนี้มาให้...เพื่อให้พวกมันทำงานได้ในระดับ Sevices จึงทำให้ไม่สามารถทำการ Kill Process ได้...จึงต้องเข้าไปปราบพวกมันผ่าน Safe Mode หรือปิด Services ของพวกมันอย่างเดียว...
3.2 REG.EXE Query HKLM/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “RunServicesOnce”
คำสั่งนี้ทำงานแบบคำสั่งที่แล้ว...กล่าวคือเป็นคำสั่งเรียกใช้โปรแกรมทำงานโดยอัตโนมัติแต่...มันพิเศษตรงที่...คำสั่งใน "ฮีฟ" นี้...มันจะถูกเรียกใช้งานครั้งเดียว...จึงทำให้ไวรัสอาศัยคำสั่งนี้เรียกทำงานในครั้งแรกที่มีติดเชื้อในระบบจากนั้นมันก็ซ่อนตัวเอง...แบบหายไปกับกลีบเมฆ
3.3 REG.EXE Query HKLM/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “Run”
คำสั่งนี้จะทำงานทุกๆ ครั้งที่เปิดเครื่อง รีสตาร์ท และ Logon ดังนั้นมันจึงมีซากไวรัสปรากฎให้พวกคุณเห็นในคำสั่ง Msconfig หรือ Hijack และถ้าลบคำสั่งไวรัสในส่วนนี้ทิ้งจะทำให้ไวรัสถูกแช่แข็งในเครื่อง...(ไวรัสกระจอก) จากนั้นก็ตามไปลบแฟ้มไวรัสที่ระบุใน "คีย์" ดังกล่าวได้ทันที
3.4 REG.EXE Query HKCU/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “RunServices”
จากตัวอย่างในข้อ 3.1 ที่กล่าวมาแล้ว "ฮีฟ" นี้ทำงานในแบบเดียวกัน...แต่ต่างกันตรงที่มันอยู่ในส่วนของ HKCU คือ ส่วนของ HKey_Current_User ซึ่งจะถูกเรียกใช้งานเฉพาะผู้ใช้งานที่กำลังเปิดอยู่เท่านั้น...จะไม่ไปยุ่งเกียวกับ User อื่น เช่น Administrator
3.5 REG.EXE Query HKCU/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “RunOnce”
คำสั่งนี้เหมือนในข้อ 3.2 แต่มันไม่ทำงานในยูสเซอร์อื่นนอกจากผู้ใช้งานที่ติดตั้งคำสั่งนี้...ที่สำคัญ...มันจะถูกเรียกใช้งานครั้งเดียวเท่านั้น...และไม่ติดตั้งโปรแกรมในระดับ Services
3.6 REG.EXE Query HKCU/SOFTWARE/Microsoft/Windows/CurrentVersion /v “Run”
เหมือนกับคำสั่ง 3.3 แต่ต่างกันที่มันถูกเรียกเฉพาะผู้ใช้งาน

4.เอ็กช์โพเลอร์สตาร์ทอัป (Explorer Startup)

5.โฟลเดอร์สตาร์ทอัป (Folders Startup)
5.1 REG.EXE Query HKLM...Explorer /v “ShellFoldersStartuUp”
5.2 REG.EXE Query HKLM...ExplorerUserShellFolders /v “ShellFoldersStartuUp”
5.3 REG.EXE Query HKCU...Explorer /v “ShellFoldersStartuUp”
5.4 REG.EXE Query HKLM...ExplorerUserShellFolders /v “ShellFoldersStartuUp”

6.เชลล์โปรแกรม (Shell Programs)
6.1 HKCU(นามสกุล)ShellOpenCommand /v @
6.2 HKLMSoftwareClasses(นามสกุล)ShellOpenCommand /v @

7.แอ็กทีฟเอ็กซ์คอมโพเน้นท์ (Active X Component)
REG.EXE Query HKLMSOFTWAREMicrosolftActiveSetupInstalled ComponentsKeyName /v “StubPath”


คุณคิดบ้างใหม...? บทภาพยนตร์ที่ถูกประพันธ์ โดยเราๆ ทุกคน...กำลังจะจบลงด้วยความเลวทรามของคนบางคนที่ชอบคิดว่าตัวเองคือผู้วิเศษและ สรรหาเชื้อโรคร้ายมาสู่จิตวิญญาณเราทุกคน...ไม่ใช่ในโลกแห่งชีวิต แต่ผมหมายถึงโรคแห่งจินตนาการ...โลกแห่งข้อมูล...โลกแห่งมายาทางคณิตศาสตร์ ที่เรามนุษย์ทุกๆ คน ภูมิใจที่ได้ใช้ชีวิตรวมไปกับมัน "คอมพิวเตอร์" คุณล่ะ...? คิดบ้างหรือเปล่า ทำไมคุณต้องมารับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์ ทำไมคนพวกนั้นเขาถึงต้องเขียนมันขึ้นมา...? สิ่งที่ผมสามารถจะตอบคำถามให้คุณได้ อยู่ในหนังสือเล่มนี้...และคุณเอง...คือผู้ปลดปล่อย...ผู้ที่จะทำให้โลกในคอมพิวเตอร์น่าอยู่ขึ้น...คุณไม่ใช่แค่ตัวละครในเรื่อง "Matrix" แต่คุณคือคนที่มีชีวิตอยู่อันพรั่งพร้อมด้วยสติปัญญา...ความกล้าหาญ...ความรับผิดชอบ...ที่จะใช้เวทย์มนต์ทางคณิตศาสตร์ด้วยโปรแกรมและคำสั่งเพียงไม่กี่คำสั่งที่จะทำลาย "มัลแวร์" ซึ่งเป็นโปรแกรมชั่วร้ายที่ไม่เคยละเว้นการทำลายเครื่องของใครเลย...เอาล่ะ...ถ้าคุณคิดว่าแน่กว่าพวกมัน...ก็ลองทำตามนี้เลย...



ปฐมบท...

กับผู้กล้าที่เราควรยกย่องพวกเขา "นักฆ่าอาร์ทีคีล ; RTKiller Antivirus" พวกเขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ที่เขียนโปรแกรมฆ่ามาเข่นฆ่า "ไวรัสคอมพิวเตอร์" เป็นกลุ่มแรกในประเทศไทยเรา แต่ต้องยอมรับว่าเขาเหล่านั้น ต้องเป็นเพียงตำนานไป เพราะไวรัสคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นถือว่าดุร้ายอันตรายอย่างมาก แม้แต่โปรแกรมฆ่าไวรัสเอง ก็ต้องกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัสเช่นกัน เป็นเพราะไวรัสชั่วร้ายเหล่านี้ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยเรา ...แต่มันมาจากทุกๆ แหล่งทั่วโลกซึ่งพวกแฮกเกอร์ชั่วร้ายเหล่านั้นเก่งเวทย์มนต์คำสั่งภาษาระดับต่ำอย่างมาก ทำให้ไวรัสในยุคแรก ไม่ใช่เป็นเพียงตำนาน แต่มันเหมือน "อสูรดึกดำบรรพ์" ที่มีความเก่งกาจกว่าไวรัสลูกๆ หลานยุคใหม่ๆ อย่างมาก ไวรัสที่ถูกเขียนด้วยภาษา Assembly และภาษา C นั้นมีความสามารถสูงและมีขนาดเล็ก มากๆ เพียงแต่คำสั่งในระดับนี้ต้องอาศัยผู้ที่เก่งกาจและเชี่ยวชาญด้าน DOS Interface อย่างมาก มันอาจหลับไหลอยู่ในจิตใจของคนพวกนั้นอยู่ แต่ถ้ามันถูกปลุกขึ้นมาเพื่อผสมรวมกับคำสั่งภาษารุ่นใหม่ๆ จะทำให้ไม่มีทางที่กำจัดพวกมันได้ง่าย อย่างที่หลายๆ คนคิดกัน "เหมือนตำนานแดร็กคิวล่า...บิดาแห่งผีดิบทั้งมวล"



ทุติยบท...



ผมเองครั้งหนึ่งเคยหลงไหลกับคำสั่งในสคริปแบทไฟล์ อย่างมาก เพื่อหาทางเขียนมันขึ้นมากลั่นแกล้งผู้อื่น เป็นความคิดของเด็กๆ คนหนึ่งที่มีปัญหาทางจิตใจ คำสั่งชั่วร้ายเหล่านั้นมันสามารถทำให้คนอื่นปวดหัว และสับสนในการใช้คอมพิวเตอร์อย่างมาก...เพราะเขาเหล่านั้นเองไม่เคยศึกษาการทำงานของพวกไวรัสเลย จึงเป็นจุดอ่อนของนักฆ่าไวรัสรุ่นใหม่ๆ ทุกคน...ที่คิดว่า นำไวรัสผู้อื่นมาทดลองฆ่า...แต่กับไม่รู้ซึ่งถึงคำสั่งของพวกมันเลย แต่ทุกวันนี้ผมอยู่ใน "เวทย์มนต์คำสั่งสายขาว" คือนำจุดอ่อนของนักฆ่าไวรัสมาปรับปรุงให้นักฆ่าไวรัสทุกๆ คน...รู้เท่าทันและปรับยุทธวิธีให้ฆ่า "คำสั่งชั่วร้ายเหล่านั้นได้...แม้มันจะเป็นคำสั่งที่กลายพันธ์ตัวมันเองได้"



ปัจจุบันนี้...ผมได้สร้างโปรแกรม "แคทอาย" ซึ่งเป็นฉายาของผมมาเข่นฆ่าไวรัสที่ตัวเองถนัดเขียนอย่างมาก คือ "ไวรัสสคริป" ผมหวังไว้ว่า..."ผู้ที่กล้าหาญอย่างพวกคุณ...จะเป็นบุคคลหนึ่งที่เห็นความสำคัญในการดูแลและปกป้องข้อมูลของตนและผู้อื่น...และทำให้ชื่อเสียงของพวกคุณถูกคนทั่วๆ ไปจารึกเอาไว้ใน สาระสนเทศแห่งข้อมูลที่ไม่รู้จบบนโลกใบนี้"



ตติยบท...

พร้อมหรือยัง...จะเป็นบุคคลหนึ่งที่ถูกจารึกชื่อเอาไว้...ในสาระบบทั้งมวล...อย่างนั้นมาพบกับผู้กล้า



คนแรก "ธีระยุทธ สินล้าน" นักฆ่าไวรัสรุ่นใหม่...นักศึกษา ม.ขอนแก่น ถนัดการกำจัดไวรัสจำพวก "RootKit" ได้แก่เครื่องมือฆ่า "ไวรัส BronTok" ด้วยโปรแกรมฆ่าไวรัสตัวนี้สามารถฆ่าไวรัสที่ฝั่งอยู่ที่เครื่องของพวกคุณ บน Explorer ได้เลย...ไม่ต้องเข้าสู่ Safe Mode แต่อย่างใด



คนที่สอง "เพรช ติยะพันธ์" นักฆ่าไวรัสรุ่นใหม่ ชาวนครศรีธรรมราช... ถนัดการกำจัดไวรัสจำพวก "AutoIt" ได้สร้างโปรแกรมตรวจสอบไวรัสที่สามารถทำลายไวรัสที่ฝั่งอยู่ในอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่สามารถเขียนได้ โปรแกรมของเขาสามารถทำงานได้ในระดับที่ดี...แต่ยังต้องพัฒนาต่อไปเพื่อแข่งขันกับการแข่งขันเชิงปฏิบัติการในสมรภูมิจริง กับเครื่องของพวกคุณ

คนที่สาม ... อาจเป็นคุณที่จะสร้างชื่อและความสามารถผ่าน Web 2.0 ด้วยการใช้เวลาว่างเป็น Bloger เพื่อเขียนทางแก้ไข หรือโปรแกรมฆ่าไวรัสผ่านเวปไซด์เพื่อให้เห็นกันไปเลยว่า "ใครจะอยู่หรือจะไป" ระหว่างนักฆ่าไวรัสและนักเขียนไวรัส แม้สงครามนี้จะยาวนานตราบสิ้นสงคราม แต่ชื่อและเกียรติประวัติของพวกคุณจะคงอยู่ต่อไป...ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มนี้...จะทำให้คนที่เล่นอินเตอร์เน็ตเพื่อแกล้งชาวบ้าน หรือนักเขียนไวรัส จะกลับตัวและหันมาสื่อสารข้อมูลที่เป็นเชิงสร้างสรรให้มากยิ่งขึ้น เพื่อความสงบสุขตราบที่เวลาจะมีให้ได้




Create Date : 27 ธันวาคม 2551
Last Update : 4 พฤษภาคม 2556 17:04:06 น. 8 comments
Counter : 1135 Pageviews.

 


โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ วันที่: 27 ธันวาคม 2551 เวลา:16:53:51 น.  

 
ดีมากเลยครับ ขอบคุณมากๆ


โดย: ksk วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:12:42:16 น.  

 
วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 96


03.29 น.

๏ อวยชัยปีใหม่ให้.............ฝันดี
ขวัญเทพจินตกวี...............เพิ่มให้
ร้อยกรองกวิสุนทรีย์...........รมย์รื่น
วิถีจิตสุขสงบไร้.................เรื่องเศร้าหมองศรี

๏ มิตรไมตรีหลากล้วน........สราญใจ
คิดประกอบการใด..............สะดวกได้
สุขภาพปลอดโรคภัย...........พยาธิเบียด เบียนแล
สินทรัพย์มากมีใช้...............จ่ายได้เหลือเฟือ

๏ ขึ้นเหนือล่องใต้ปลอด.......ภัยพาล
คณาญาติสุขสำราญ.............ทั่วหน้า
เรือนชานมโหฬาร................ร่มรื่น
เกียรติตระกูลก้องหล้า..........คู่ฟ้าเมืองสยาม...เจ้าเอย บารนี ๚ะ๛

03.48 น.

--------------------------------------------------------------
สุขสำราญ ขวัญดี มีโชคชัยตลอดปีใหม่ทั่วหน้ากันนะพี่น้องเรา





โดย: นกโก๊ก วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:3:50:38 น.


โดย: นกโก๊ก วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:4:26:59 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับ อ่านบทความของคุณแล้วทำให้หวนนึกถึงอดีต เมื่อก่อนต้องผจญภัยกับไวรัส อันร้ายกาจ ในความรู้สึกของผมนะครับ ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ที่ท่านได้กล่าวมา การแย่งชิงพิ้นที่ ฝังตัวในบูตเซกเตอร์ ซึ่งผลเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เล่น ๆ ผมคิดว่าจรรยาบรรณในการเขียนไวรัสคงมีมากขึ้นกระมังครับ (555)

ผมว่ามีบุคคลอีกคนนะครับที่น่าเอ่ยชื่อ คือ นายธงชัย แสงสว่าง ที่ต่อสู้กับไวรัส อย่างเปิดเผย อย่างน่าชื่นชม และไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นไงบ้าง เงียบหายไปเลย

บอกตรง ๆ นะครับว่าผมเองก็เป็นแค่ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ธรรมดา ๆ ไม่ได้เก่งกาจเรื่องเวทมนต์ คาถา แต่อย่างใด (เพียงแต่เคยเรียนสมัยยังเป็นนักศึกษาอยู่) ผมไม่ได้เรียนเอกคอมพิวเตอร์โดยตรงหรอกนะครับ แต่เป็น อิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ จะเรียนพวก การอินเตอร์เฟส กับฮาร์ดแวร์มากกว่า พวก controller อะไรเทือกนั้น พอได้มาอ่านบทความของคุณแล้วยอมรับว่า สนุกครับ ทำให้ได้คิดถึงอะไรที่เราลืมมาตลอดเลย ถ้าลองนึกดูจริงๆ แอสแซมบลี ที่เราเกือบจะลืมไปแล้ว จริง ๆ มันยังมีบทบาทความสำคัญอย่างเหลือคณา กว่าเวทมนต์ชั้นสุง แบทไฟล์ ของคุณ ทำให้ผมได้คิดจริง ๆ แต่ก็เป็นอันตรายนะครับ หากใครคิดเอาไปทำเรื่องไม่ดี จะน่ากลัวมากเลยทีเดียว หากอยู่ ๆ เครื่องเปิดไม่ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะเพียงมีคำสั่งไปแก้ค่าใน bios ( เอ๊ะ...ผมจะชี้ช่องให้ใครไหมครับนี่) ดีใจที่ได้มาอ่าน blog ดี ๆ ครับ


โดย: zerconia IP: 125.24.77.237 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:0:52:42 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณแคทอาย
ได้ยินชื่อเสียงของคุณแคทอายมานานแล้วค่ะ
แต่เพิ่งรู้จักบล็อกคุณแคทอาย ได้บล็อกดีๆเพิ่มมาอีกบล็อคค่ะ
ไม่ได้มาถามเกี่ยวกับ virus นะค่ะ แต่เข้ามาถามเกี่ยวกับคอม
เผื่อว่าคุณแคทอาย พอจะทราบค่ะ
อยากทราบว่าถ้าจะต้อง uninstall driver web cam
ใน device manager อยู่ตรงหมวดไหน ตัวไหนออกค่ะ
เพราะหาคำว่า web cam หรือ image ไม่เจอค่ะ
แล้วใส่ driver ไปใหม่ แบบนี้ใช่ไหมค่ะ หรือมีวิธีอื่นๆค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ


โดย: sea IP: 202.12.73.18 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:16:55:17 น.  

 
เออ...ผมไม่มีกล้อง...ติดเครื่อง...หรือเคยเล่นเวปแคม
ครับ...(จน) แต่ยังไงมันก็น่าจะ Uninstall ได้ครับ...
Start...Setting...Control Panel...Add/Remove Programs...
(หาเวปแคมไดร์ฟเวอร์ หรือ คำว่า Web cam และ Un install มันซะ ครับ)


โดย: แคทอาย (ปฐมเชทย์ ) วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:19:39:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ
โชคชะตาพามาค่ะ :D
เลยได้มาเจอคุณแคทอายถึงที่นี่เลย

จากที่คุณแคทอายได้แนะนำและแยกรายละเอียดต่างๆไว้ให้แล้ว
อิฉันก็กำลังค้นหาข้อมูลต่่างๆอยู่ค่ะ เสร็จแล้วจะทำการบ้านไปส่งนะคะคุณครู

แล้วจะต้องแวะมาอ่านบทความดีๆที่นี่อีกค่ะ


โดย: mrs.apple IP: 202.5.87.137 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:3:00:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ได้ข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์แล้ว
ได้ความรู้เพิ่มเติมด้วย


โดย: sasipas IP: 125.26.106.101 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:11:40:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธนัตถ์เดชน์
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




การเรียนรู้...ไม่มีวันจบสิ้น
Friends' blogs
[Add ธนัตถ์เดชน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.