ขูดมดลูก
วันนี้เป็นวันที่ 22 เมษายน 2555 คุณหมอที่ฝากครรภ์จะเข้ามาบ่าย 2 และเรากลัวว่าคนไข้จะเยอะเลยมาถึงที่ รพ บ่ายโมงครึ่่ง เข้าไปติดต่อเรื่องขอพบคุณหมอ เนื่องจากมีเลือดออก และได้บอกว่าที่โทรมาปรึกษาไว้เมื่อคืนนี้ โชคดีที่คุณหมอมาถึง บ่ายโมงครึ่ง เราได้คิวที่ 3 คุณหมอซาวน์ซ้ำอีกครั้งนึง เพื่อเป็นการยืนยันว่าลูกเราไม่อยู่จริงๆ วันนี้เหมือนเมื่อวันก่อน ไม่มีเสียงหัวใจ และไม่เห็นตัวเค้าแล้ว นั้นคือการฝ่อไปหมดแล้ว แต่ถุงการตั้งครรภ์ยังคงอยู่เกาะที่ผนังมดลูกเหมือนเดิม คุณหมอเรียกสามีเข้ามาพูดคุยว่าทำใจได้หรือยัง หมอต้องทำคลอดให้นะ เพื่อนป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวของแม่ เราบอกหมอว่าเราทำใจมาแล้ว คุณหมอตัดสินใจได้เลย คุณหมอให้เหน็บยาเร่งคลอดช่วงบ่าย 2ครึ่ง ระหว่างที่เหน็บยาไปแล้ว ไม่เกิน20นาที่ มันเริ่มปวดมาก มากขึ้นเรื่อยๆ จนมือเท้าเย็นไปหมด สามีให้กำลังใจเราตลอด แต่มันไม่ได้ผลอะไรเพราะการปวดมันมีมากเป็นร้อยเป็นพันเท่า ก็ได้แต่จับมือกันไว้ ได้เวลา 4โมงเย็น เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลเรียกให้เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดสร้อย คอนแทคเลนส์ และเจาะเลือด เราต้องไปนอนรอในห้องที่เตรียมการส่งตัวไปยังห้องผ่าตัด สามีมายืนข้างๆตลอด เราพยายามไม่ร้องไห้ แต่มันก็มีน้ำตาคลอมาเรื่อยๆ 16.30 น. จนท เข็นเตียงของเราไปยังห้องผ่าตัด มันปวดท้องมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ สามีก็เดินตามมาส่งจนกระทั่งเราเข้าไปในห้องเตรียมผ่าตัด ระหว่างที่นอนรอ เราอ้วกและรู้สุกเหมือนปวดท้องอยากจะถ่ายท้อง รู้สึกเหมือนปวดฉี่ ปวดหัว พยาบาลบอกว่านี่คืออาการปวดท้องคลอดลูก คนไข้จะแยกไม่ออกว่าปวดอะไร พยาบาลบอกว่าคสไขบิดขาได้นะคะ ดิ้นไปมาได้ ถ้าไม่ไหวให้ยกขา งอตัวได้ตลอด จะอ้วกให้เอียงหน้ามาพยาบาลจะคอยช่วยเหลือเรา เวลาในการอหมอมันนานมาก มากจนแถบจะตะโกนออกไปว่าให้ไปตามหมอมาเร็วๆ ฉันไม่ไหวแล้ว เรามองไปรอบๆห้องเห็นมีพยาบาลอยู่ 5 คน เราอยากบอกว่า ฉันมีแรงจะสู้กับพวกเธอได้นะ ให้ไปตามหมอมาซะที แต่เราได้เพียงนอนดิ้นไปมาเท่านั้น ทุบเตียงบ้างเมื่อตอนที่ปวดจริงๆ เราร้อนมากถึงกับบอกพยาบาลว่าร้อนมากๆค่ะ เปิดแอร์ได้มั๊ย พยาบาลก็ทำให้ (ใจดีจริงๆ) ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกัยว่าหมอมาแล้ว กำลังเตรียมตัว(น่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมใส่หน้ากากเข้ามา) พยาบาลมาถามชื่อ สกุล การแพ้ยา เป็นการถามที่ไม่จบสิ้น เราโมโหที่จะตอบ แต่ก็หลับหูหลับตาตอบๆๆไปให้จบๆ มีพยาบาลมาผูกแขนทั้งสองข้างไว้ด้วย จากนั้นมีคนมาบอกให้เราดมอ๊อกซิเจน แต่เราเชื่อว่าเป็นยาสลบแน่นอน ด้วยความที่กลัวว่าตัวเองจะตื่นระหว่างที่ทำการขูดมดลูก เราตั้งใจว่าจะสูดเข้าไปเยอะๆเท่าที่เราจะมีแรงสูดเข้าไป จำได้ว่าสูดไป2ครั้งแล้วพยาบาลบอกให้ยกขาขึ้นขาหยั่ง เราไม่รู้ว่าเรายกขาหรือเปล่า แต่พอตื่นออกมาอีกครั้ง เรามาอยู่ที่ห้องรอฟื้นซะแล้ว ตอนที่เราฟื้นเราเงยหน้ามองหานาฬิกา ตอนนั้น 18.10น.เราถามพยาบาลว่าชิ้นเนื้อเป็นยังไบ้าง ขอดูได้มั๊ย พยาบาลบอกว่าเราคลอดออกมาได้เองส่วนนึง แล้วที่เหลือคุณหมอจึงขูดทำความสะอาดมดลูกให้ เป็นเพราะว่าเราคลอดเองจึงทำให้ปวดมาก จากนั้นพยาบาลก็ไปปริ้นรูปมาให้ เห็นแล้วถึงกับตกใจ เพราะชื้นเนื้อมีขนาดยาว 15 cm รอเวลาฟื้นได้ดีแล้ว เราออกมาจากห้องผ่าตัด 1 ทุ่ม สามีรีบเข้ามารับเค้าร้องไห้ตลอดบอกว่ากลัวว่าเราจะเป็นอะไรไป และเล่าให้ฟังว่าหมอเข้าไปตอน 5โมง ออกมาประมาณ 5โมงกว่าๆ และบอกว่าเราปลอดภัยดีไม่มีปัญหาอะไร บุรุษพยาบาลเข็นเราไปที่ห้องจ่ายเงิน มี คชจ. ประมาณ 18,000 บาทกว่าๆ แต่ คชจ.ที่แพงขนาดนี้มันทำให้เรากลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ในวันจันทร์ที่ 23 และเรามีแรงไปรับปริญญาได้ในวันที่ 24 เมษายน 2555 ซึ่งรับจากพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ ขอบคุณความทรงจำตลอด 2เดือนที่ผ่านมา ขอบคุณลูกของแม่ที่ไม่ทำให้แม่เจ็บปวดเลย แม่ไม่เคยแพ้ท้อง ไม่เคยปวดท้องในตอนที่เลือดออก เป็นเพราะลูกของแม่เป็นเด็กดี แม่และพ่อตั้งชื่อให้ลูกว่า น้องเก่ง..... เมื่อลูกพร้อมแม่เชื่อว่าลูกจะมาหาแม่เอง...ขอบคุณช่วงเวลาที่ผ่านมา เราสองคนพ่อแม่ มีความสุขมากๆ แม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น
Create Date : 07 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 13:30:15 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1026 Pageviews. |
|
|
โมเพิ่งเสียลูกไปเมื่อวันที่ 1 พค นี้เองค่ะ เค้าอายุยังไม่ทันเดือนดี โมยังไม่เคยได้ยินเสียงหัวใจเค้าเลยค่ะ ยังไม่เคยเห็นตัวเค้า เห็นแต่ถุงน้ำเฉยๆค่ะ
น้องหลุดมาเอง ไม่ได้ทำให้แม่เจ็บปวดแต่อย่างใด แต่แม่ใจสลายค่ะ เพิ่งรู้ว่าความเสียใจเป็นแบบนี้นี่เอง