Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2561
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 กรกฏาคม 2561
 
All Blogs
 
Little Ida’s flowers ดอกไม้ของหนูน้อยไอดา


ดอกไม้ของหนูน้อยไอดา

“ดอกไม้ที่น่าสงสารของหนู มันกำลังจะตายเหรอจ๊ะ” หนูน้อยไอดาพูด “ก็เมื่อวานเย็นพวกมันยังสดสวย แต่ตอนนี้กลับเหี่ยวเฉา ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ” เธอถามพี่นักเรียนรุ่นโตกว่าที่นั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟา เธอชอบพูดคุยกับพี่คนนี้มาก เพราะเขาเล่าเรื่องน่ารัก สนุกสนานให้เธอฟังหลายเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่ขำๆ เช่นเรื่องหัวใจที่มีผู้หญิงตัวเล็กๆเต้นอยู่ข้างใน เรื่องดอกไม้ และยังเรื่องปราสาทใหญ่มีประตูเปิดอยู่ เขาเป็นพี่ที่ร่าเริงมาก

“พี่จ๋า ทำไมวันนี้ดอกไม้ดูไม่สบายจ๊ะ” เธอถามอีกครั้งพร้อมกับชี้ไปยังช่อดอกไม้ที่เริ่มเฉา
“อ้าว ไอดาไม่รู้รึ ว่ามันเป็นอะไร ดอกไม้พวกนี้น่ะไปงานเต้นรำกันเมื่อคืน นี่ก็เลยเหนื่อยอ่อน คอพับกันเป็นแถว” พี่นักเรียนตอบ
“ดอกไม้เต้นรำได้ด้วยเหรอจ๊ะ” หนูน้อยไอดาสงสัย
“ใครว่าไม่ได้ล่ะ พอตกค่ำนะ พวกเราเข้านอนกันหมด พวกนี้ก็จะกระโดดโลดเต้นกันอย่างสนุกสนาน แทบจะทุกคืนตลอดปีเลยก็ว่าได้” พี่เฉลย
“แล้วดอกไม้เด็กๆ ล่ะ ไปเต้นด้วยรึเปล่าจ๊ะ”
“แน่นอน ดอกเดซี่เล็กๆ ก็ไปด้วย แล้วยังมีดอกลิลีอีก”
“แล้วดอกที่สวยที่สุดจะไปเต้นรำที่ไหนจ๊ะ” หนูน้อยไอดาถามต่อ
“เธอคงเคยออกไปเที่ยวดูดอกไม้สวยๆ ในสวนของปราสาทใหญ่นอกเมืองบ่อยๆ นะ พระราชาจะไปพักเฉพาะช่วงหน้าร้อน ถ้าเธอมีเศษขนมปังนะหงส์จะว่ายมาหาเธอกันใหญ่ พี่บอกได้เลยว่าที่นี่น่ะเต้นกันสวยที่สุด”
“แม่พาหนูไปเที่ยวสวนเมื่อวานนี้เองจ้ะ แต่ใบไม้ร่วงหมดต้นเลย แล้วก็ไม่มีดอกเหลือแม้แต่ดอกเดียว ไม่รู้ว่าไปไหนกันหมด หน้าร้อนที่แล้วหนูยังเห็นเยอะแยะเลย”
“ก็ไปอยู่กันในปราสาทไง ทันทีที่พระราชาและข้าราชบริพารกลับเข้าเมือง พวกดอกไม้ก็วิ่งออกจากสวนไปงานฉลองกันในตึก เธอจะเห็นว่าดอกกุหลาบที่สวยที่สุด สองดอก ไปนั่งบนเก้าอี้ของพระราชาและพระราชินี ต้นหงอนไก่ดอกสีแดงเรียงเป็นแถว โค้งคำนับตลอดสองข้างทำหน้าที่เป็นองครักษ์น่ะ จากนั้นพวกดอกไม้สวยๆทั้งหลายก็มาเต้นรำกัน ดอกบลู ไวโอเลทเป็นทหารเรือตัวน้อย จะจับคู่เต้นรำกับสาวๆ ดอกผักตบชวาสีม่วง และดอกดิน ส่วนดอกทิวลิปและดอกลิลีสีเหลืองจะทำตัวเป็นป้าใหญ่ คอยตรวจตราให้ดอกไม้ประพฤติตัวให้เหมาะสมกับงาน

“อ้าว แล้วไม่มีใครไปดุดอกไม้ที่ไปเต้นรำในปราสาทของพระราชาเหรอจ๊ะ” หนูน้อยไอดาสงสัยอีกแล้ว
“ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก บางทีทหารยามประจำตึกก็เดินมาตรวจนะ แต่เขาพกกุญแจมาด้วย พอดอกไม้ได้ยินเสียงกุญแจกระทบกันกอกแกกๆ ก็จะรีบเงียบเสียงแล้ววิ่งไปซ่อนที่หลังผ้าม่าน โผล่ออกมาแต่หน้าเท่านั้น ทหารยามเล่าว่า “ฉันได้กลิ่นดอกไม้นะ แต่มองหาไม่เห็น”
“น่าสนุกจังเลย” หนูน้อยไอดาตบมือชอบใจ “แล้วหนูจะไปแอบดูบ้างได้มั๊ยจ๊ะ”
“แน่นอน หนหน้าไปก็อย่าลืมแอบเข้าไปทางหน้าต่างนะ ครั้งล่าสุดพี่เห็นดอกแดฟโฟดิลสีเหลืองช่อยาวนอนเล่นอยู่บนโซฟา เธอแสร้งเป็นนางสนองพระโอษฐ์”
“แล้วดอกไม้ในสวนพฤกษศาสตร์ล่ะ ไปด้วยรึเปล่าจ๊ะ”
“เอ่อ อาจจะไปด้วยนะ เพราะว่าพวกนั้นน่ะบินได้ล่ะ ไอดาเห็นผีเสื้อสวยๆ ใช่มั๊ย สีแดง สีขาว สีเหลืองน่ะ มันดูเหมือนดอกไม้มั๊ยล่ะ ก็มันเคยเป็นดอกไม้มาก่อนนั่นแหละ แต่พอมันกระโดดให้หลุดจากก้านกระโจนไปในอากาศ แล้วกระพือกลีบดอกแบบปีก ในที่สุดมันก็บินได้ และเนื่องจากมันทำตัวน่ารัก เป็นเด็กดี กลีบดอกก็จะกลายเป็นปีก บินเที่ยวได้ตลอดไป ไม่ต้องกลายเป็นดอกไม้อยู่นิ่งๆ กับต้นอีก แต่พวกดอกไม้ที่ในสวนพฤกษศาสตร์คงจะยังไม่เคยไปที่สวนของพระราชาหรอก เลยไม่รู้ว่ามันสนุกแค่ไหน ว่าแต่เธอรู้จักโปรเฟสเซอร์ของสวนพฤกษศาสตร์มั๊ยล่ะ เขาอาศัยอยู่แถวนี้แหละ เอางี้นะ ถ้าเธอได้เข้าไปในสวนของเขาละก็ ให้ไปกระซิบบอกดอกไม้พวกนั้นนะว่ามีงานเต้นรำที่ปราสาท เดี๋ยวมันจะบอกต่อๆ กันเอง แล้วก็บินไปร่วมงานตอนกลางคืน พอตอนเช้าโปรเฟสเซอร์มาถึงสวนก็จะพบว่าดอกไม้หายไปหมด แล้วก็นึกไม่ออกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“แล้วดอกไม้บอกต่อๆ กันได้ยังไงจ๊ะ มันพูดได้ด้วยเหรอ”
“ก็ไม่เชิงหรอกนะ มันเข้าใจกันด้วยท่าทางน่ะ ให้ไอดาลองสังเกตเวลาที่มีลมพัดนะ ดอกไม้จะพยักเพยิด ขยับใบ นั่นก็เหมือนกับว่ามันพูดคุยกันล่ะ”
“แล้วโปรเฟสเซอร์เข้าใจท่าทางของดอกไม้ด้วยมั๊ยจ๊ะ”
“พี่ว่าเขารู้นะ เพราะว่า เช้าวันนึงเขาไปที่สวนแล้วเห็นต้นตำแย หนามแหลมกำลังบอกกับใบของมันว่า “ดูดอกคาร์เนชันสีแดงที่น่ารักนั่นสิ ฉันชอบเธอจริงๆ” แต่โปรเฟสเซอร์รับไม่ได้กับเรื่องอย่างนี้ เขาก็จะย้ายต้นตำแย ออกไป พลันที่มือเอื้อมไปจับ เขาก็ถูกหนามตำแยทิ่มเอา จากนั้นเขาก็ไม่กล้ายุ่งกับมันอีกเลย”
“สนุกจริงๆ” ไอดาหัวเราะ
“เล่าเรื่องไร้สาระหลอกเด็กอีกแล้ว” ท่านเทศมนตรีชราที่มาเยี่ยมโรงเรียนพูดอย่างหัวเสีย ขณะที่มานั่งพักที่โซฟา เขาทนกับเด็กๆ ไม่ค่อยจะได้ โดนเฉพาะเมื่อเจอเด็กตัดภาพการ์ตูนที่ขบขัน เช่น คนห้อยหัวออกมาจากตะแลงแกง แต่มือกำหัวใจอยู่ เพราะเป็น คนขโมยหัวใจ หรือรูปแม่มดขี่ไม้กวาด โดยสามีของเธอเกาะอยู่บนจมูก และท่านเทศมนตรีก็จะพูดเช่นนี้ทุกครั้ง “เล่าเรื่อยเปื่อย ไม่เป็นสาระเลย”

แต่หนูน้อยไอดากลับขำอย่างที่สุดกับเรื่องดอกไม้ที่พี่นักเรียนเล่าให้ฟัง และยังเก็บมานึกต่ออีก ดอกไม้คอพับเพราะเต้นเหนื่อยทั้งคืน ไม่ผิดแน่นอน เธอจึงเก็บดอกไม้มารวมไว้กับของเล่นอื่นๆ บนโต๊ะ ตุ๊กตาของไอดาชื่อว่า โซฟี กำลังนอนหลับอยู่ในเตียงเล็กๆ ของมัน ไอดาพูดว่า “โซฟีจ๊ะ เธอต้องตื่นแล้วละ แล้วคืนนี้ก็ให้ย้ายไปนอนในลิ้นชักแทนนะจ๊ะ ดอกไม้ไม่สบาย ต้องนอนพักบนเตียงของโซฟีนะจ๊ะ เผื่อจะดีขึ้น” เธอหยิบตุ๊กตาขึ้น ซึ่งกำลังทำตาขวางเพราะถูกปลุกขึ้นมา
ไอดาวางดอกไม้ลงบนเตียงของโซฟี ห่มผ้าให้อย่างดี แล้วบอกว่าให้นอนนิ่งๆ เดี๋ยวจะไปชงชามาให้ วันพรุ่งนี้เช้าจะได้ดีขึ้น เธอปิดม่านคลุมเตียง แสงอาทิตย์จะได้ไม่แยงตา
ตลอดเย็นนั้น ไอดานึกถึงแต่เรื่องที่พี่นักเรียนเล่าให้ฟัง แล้วก็ถึงเวลาเข้านอน เธอยื่นหน้าออกนอกหน้าต่าง มากระซิบกับดอกไม้สวยๆ ที่แม่ปลูกไว้ มีทั้งไฮยาซิน และทิวลิป “ฉันรู้หรอกนะว่าคืนนี้เธอจะไปไหนกัน” แต่ดอกไม้แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ ไม่แม้แต่จะขยับใบ มีแต่หนูน้อยไอดาเท่านั้นที่รู้ดี

ขณะอยู่บนเตียง หนูน้อยไอดาคิดไปว่า มันคงจะน่าสนุกมากถ้าได้เห็นดอกไม้เต้นรำกันที่ปราสาท “อยากรู้จริงๆ ว่าดอกไม้บ้านเราจะไปด้วยรึเปล่าน้า” แล้วเธอก็ผลอยหลับไป ตกกลางดึกเธอตื่นขึ้นอีกครั้ง เพราะเธอฝันถึงดอกไม้ พี่นักเรียนและท่านเทศมนตรี ในห้องเงียบสงบ แสงเพียงเล็กน้อยลอดเข้ามา พ่อและแม่ยังคงนอนหลับอยู่
“เอ๊ ไม่รู้ว่าดอกไม้ยังนอนอยู่ที่เตียงโซฟีรึเปล่าน้า อยากรู้จัง” เธอลุกขึ้นนั่ง ทุกอย่างดูปกติ ดอกไม้ยังคงนอนอยู่พร้อมกับของเล่นอื่นๆ พลันเธอได้ยินเสียงเปียโนเบาๆ มาจากอีกห้องหนึ่ง ไพเราะมากๆ อย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
“ดอกไม้ต้องเต้นรำกันอยู่ที่นั่นแน่เลย อยากไปดูจัง แต่ก็กลัวว่าจะทำให้พ่อแม่ตื่น ถ้าดอกไม้มาเต้นในห้องนอนคงจะดี แต่ไม่มาแน่” เพลงยังคงบรรเลงต่อไป เธอค่อยๆ ย่องลงจากเตียง และแอบเข้าไปในห้องนั้น

ไม่มีแสงจากหลอดไฟ แต่เพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาก็ทำให้ห้องสว่างราวกับกลางวัน ทั้งไฮยาซินและทิวลิป ยืนเป็นแถวยาวกลาวฟลอร์ ไม่มีเหลือในกระถางแม้แต่ดอกเดียว ตอนนี้มันกำลังเต้นเป็นวงกลม เอาใบจับต่อกันเป็นวง แล้วก็หมุนตัว บนเปียโนมีดอกลิลีสีเหลืองนั่งอยู่ ไอดาจำได้แม่นว่าเจอเธอเมื่อหน้าร้อนที่แล้ว พี่นักเรียนยังพูดว่า “เหมือนครูลีนามั๊ย” ทุกคนพากันหัวเราะ และไอดาก็เห็นว่าดอกลิลีสีเหลืองเหมือนครูลีนาจริงๆ ด้วย เธอนั่งบนเปียโนท่าเดิม และหันหน้าไปมาตามจังหวะเพลง ไม่มีใครสังเกตเห็นไอดา
พลันเธอเหลือบไปเห็นดอกโรคัสสีน้ำเงินกระโดดไปยังโต๊ะที่วางของเล่น แล้วก็เปิดม่านคลุมเตียงออก ดอกที่ป่วยทั้งหลายลุกขึ้นนั่งทันทีและต่างพยักหน้าชวนกันออกไปเต้น ไม้กวาดปล่องไฟอันเก่า ซึ่งที่เก็บผงหักไปแล้วลุกขึ้นยืนแล้วโค้งคำนับให้แก่ดอกไม้แสนสวย ที่ตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าใครป่วยเลย แต่กลับกระโดดไปมา สนุกสนานเหมือนกับดอกอื่นๆ
ทันใดนั้นก็มีเสียงของหล่นจากโต๊ะ ไอดาพบว่ามันคือหวีเสียบที่เธอใช้แต่งผมตอนไปร่วมงานคาร์นิวัล มันกระโดดลงมาเพราะมันนึกว่าตัวมันเองก็เป็นดอกไม้ด้วย มันมีริ้วกระดาษประดับ ด้านบนเป็นตุ๊กตาขี้ผึ้งตัวเล็กๆ ติดอยู่ มันสวมหมวกปีกกว้างแบบเดียวกับที่ท่านเทศมนตรีสวม หวีเสียบมี 3 ซี่ เป็นซี่ไม้สีแดง มันกระโจนเข้ามากลางวง แล้วก็เต้นกระทืบเท้าแบบมาซูกา ซึ่งดอกไม้ทำไม่ได้เพราะมันบอบบางเกินกว่าจะทำท่าอย่างนั้น

และแล้วตุ๊กตาบนหวีเสียบก็ตัวโตขึ้นๆ และเต้นหมุนไปมาอยู่บนดอกกระดาษของมัน แล้วก็ตะโกนสุดเสียงว่า “เอาเรื่องไร้สาระมาหลอกเด็ก” มันดูเหมือนท่านเทศมนตรีมากๆ ซีดขาวและอารมณ์เสีย แล้วยังมีหมวกปีกกว้างเหมือนกันอีก ส่วนดอกกระดาษก็คลอเคลียอยู่ที่ขาเล็กๆ ของเขา ตอนนี้มันก็หดกลับไปเป็นตุ๊กตาขี้ผึ้งเหมือนเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นมันดูเพลินมากๆ หนูน้อยไอดาอดที่จะหัวเราะไม่ได้ หวีเสียบยังคงเต้นรำต่อไป ท่านเทศมนตรีเลยต้องพลอยเต้นไปด้วย ไม่ว่าเขาจะตัวโตขึ้นหรือหดเล็กลงอย่างเดิม เขาก็ต้องเต้น จนในที่สุดดอกไม้ต่างๆ โดยเฉพาะดอกกลุ่มที่ได้นอนเตียงตุ๊กตา ขอให้เขาหยุดเต้น หวีเสียบก็เลยต้องเลิก ขณะเดียวกันก็มีเสียงเคาะกอกๆ ชัดเจนมาจากลิ้นชักที่ตุ๊กตาของไอดาชื่อ โซฟี นอนรวมกับของเล่นอื่นๆ ไม้กวาดปล่องไฟ วิ่งอิงขอบโต๊ะ แล้วก็เอนตัวลงขยับลิ้นชักให้เปิดออก โซฟีลุกขึ้นนั่ง และมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ทำไมมีงานเต้นรำที่นี่ล่ะ แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย” เธอบ่น
“จะกรุณาเต้นรำกับกระผมมั๊ยครับ” ไม้กวาดปล่องไฟเชิญชวน
“ฉันคงอยากเต้นด้วยหรอกนะ หล่อตายละ” ว่าแล้วเธอก็หันหลังให้ เธอนั่งอยู่บนลิ้นชัก คิดว่าน่าจะมีดอกไม้มาชวนเธอไปเต้นด้วย แต่ก็ไม่มีใครมา เธอกระแอมอยู่หลายที “อะแฮมๆ” ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครมาชวนเธออยู่ดี สุดท้ายไม้กวาดปล่องไฟเลยฉายเดี่ยว ออกลีลาไม่แพ้ใคร
พอไม่มีใครสนใจ โซฟีก็เลยกระโดดลงมาที่พื้น เสียงดังปับ ดอกไม้ทั้งหลายพากันวิ่งมามุงดู พลางถามไถ่เผื่อว่าเธอจะเจ็บตรงไหนบ้าง ดอกไม้น่ารักกับเธอมาก โดยเฉพาะพวกที่ได้อาศัยเตียงของเธอ “ขอบใจมากนะจ๊ะ สำหรับเตียงที่น่ารัก” แล้วก็รุมหอมแก้มโซฟี และพาเธอมายังกลางห้อง พวกดอกไม้เต้นล้อมเธอเป็นวงกลม โซฟีปลื้มมาก จึงบอกดอกไม้ว่า ให้ใช้เตียงของเธอต่ออีกเพราะเธอนอนในลิ้นชักได้
ดอกไม้ตอบว่า “ขอบใจจ้ะ แต่พวกเราอยู่ได้ไม่นานหรอก ถึงแค่วันพรุ่งนี้เท่านั้น แต่เธอช่วยบอกหนูน้อยไอดาด้วยนะว่าให้ฝังเราในสวนที่ฝังนกขมิ้นนั่นแหละ แล้วฤดูร้อนหน้าเราก็จะแตกหน่อ ออกดอกที่สวยกว่าปีนี้อีก”
“โอ ไม่นะ เธอต้องไม่ตายสิ” เธอพูดพร้อมกับหอมดอกไม้ ทันใดประตูห้องก็เปิดออก ขบวนดอกไม้แสนสวยก็ตั้งแถวเต้นรำเข้ามา ตอนแรกไอดานึกไม่ออกว่าดอกไม้พวกนี้มาจากที่ไหนกัน แน่ละ พวกเขามาจากปราสาทพระ ราชา ดอกกุหลาบแสนสวย 2 ดอก สวมมงกุฏเล็กๆ เดินนำหน้ามา เป็นราชาและราชินีดอกไม้ ถัดไปเป็นพวกกิ่งไม้สวยๆ กับดอกคาร์เนชัน โค้งคำนับไปรอบๆ มีวงดนตรีมาบรรเลงด้วย ดอกปอปปี ดอกโบตั๋น พัดโบกไปมาบนฝักถั่วจนหน้ามืด ดอกกระดิ่ง และดอกสโนว์ดรอป เต้นแกว่งไปมาเหมือนกับเป็นกระดิ่งจริงๆ เพลงสนุกสนานมาก หลังจากที่ดอกไม้เข้ามากันหมดแล้วทั้งหมดก็เต้นรำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ดอกบลูไวโอเลท ดอกเดซีสีแดง ดอกตาวัวและต้นลิลีดอย มันดีมากๆ ที่ได้เห็นวิธีดอกไม้หอมแก้มกัน ท้ายที่สุดก็กล่าวราตรีสวัสดิ์ หนูน้อยไอดากลับไปนอนฝันต่อ

พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า เธอตรงไปที่โต๊ะทันที ดูว่าดอกไม้ยังอยู่ดีรึเปล่า เธอรูดม่านเปิดออก อา ทั้งหมดยังนอนอยู่ด้วยกัน แต่ว่าเหี่ยวมากกว่าเมื่อวานเสียอีก โซฟียังคงงังเงียลอยู่ในลิ้นชักที่ไอดาวางเธอไว้
“จำได้มั๊ยว่าเธอต้องบอกอะไรฉัน” หนูน้อยไอดาถาม แต่โซฟีไม่รู้เรื่องเอาเสียเลยแถมยังไม่พูดอะไรสักคำ
“เธอนี่ร้ายมากเลยนะ แต่พวกเขาก็ยังเต้นรำกับเธอ” ว่าแล้วไอดาก็เปิดฝากล่องกระดาษที่มีรูปนกแสนสวยออก เอาดอกไม้ที่เฉาแล้วทั้งหมดใส่ลงไป “นี่เป็นโลงที่สวยงามสำหรับพวกเธอ แล้วเดี๋ยวลูกพี่ลูกน้องชาวนอร์เวย์ของฉันมา ฉันจะขอให้เขาช่วยฝังเธอในสวนนะ ฤดูร้อนหน้าเธอจะได้แตกหน่อใหม่ แล้วออกดอกสวยกว่าเดิมอีก”
ลูกพี่ลูกน้องชาวนอร์เวย์ของไอดาเป็นเด็กชายที่น่ารัก 2 คน ชื่อ โจนาส และอดอล์ฟ พ่อของเขาทำธนูกับลูกดอกให้ พวกเขาจึงถือมาอวดไอดาด้วย ไอดาเล่าเรื่องดอกไม้ให้เขาฟังและขอให้ช่วยฝังด้วย เด็กชายทั้งสองเดินนำหน้าโดยคล้องคันธนูไว้กับไหล่ ไอดาถือกล่องดอกไม้เดินตาม พอถึงสวนพวกเขาช่วยกันขุดหลุมเล็กๆ ไอดาจูบลาดอกไม้ แล้ววางกล่องลงในหลุม เนื่องจากพวกเขาไม่มีปืนหรือปืนใหญ่ อดอล์ฟและโจนาสจึงแสดงความเคารพดอกไม้โดยยิงธนูแทน

แปลจาก Little Ida’s flowers ของ Han Christian Anderson

โดยพวงแสด
21 เมษายน 2550



Create Date : 28 กรกฎาคม 2561
Last Update : 30 กรกฎาคม 2561 9:54:30 น. 0 comments
Counter : 1606 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พวงแสด ลำปาง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add พวงแสด ลำปาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.