* * * * น้ำผึ้ง * * * * บล็อกที่ 760










* น้ำผึ้ง *




ข้อมูลในบล็อกวันนี้บางส่วนนำมาจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดชุมพร (ผึ้ง) ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้




น้ำผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น ฟรักโทส, กลูโคส, และเลวูโรส รวมกันประมาณ 79 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณน้ำตาลฟรักโทส มากกว่า น้ำตาลกลูโคสเล็กน้อย ทำให้น้ำผึ้งมักไม่ตกผลึก และมีรสหวานกว่าน้ำตาลชนิดอื่นๆ และประกอบด้วยน้ำประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ กรดชนิดต่างๆประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้น้ำผึ้งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย โดยกรดที่พบมาก คือ กรดกลูโคนิก นอกจากนั้นยังประกอบด้วย วิตามิน (ไรโบเฟลวิน, ไนอะซิน), เอนไซม์, และแร่ธาตุ (แคลเซียม, แมกนีเซียม, โปตัสเซียม, ฟอสฟอรัส) อีกประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ โดยน้ำผึ้งที่มีสีเข้มจะมีปริมาณแร่ธาตุสูงกว่าน้ำผึ้งที่มีสีอ่อน

















จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบหลักของน้ำผึ้งคือน้ำตาลและเป็นน้ำตาลชนิดโมเลกุลเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและร่างกายใช้ประโยชน์ได้ง่ายทันที โดยน้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 303 แคลอรี่




คุณสมบัติทางยา น้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ เพราะน้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง ซึ่งความเข้มข้นนี้จะช่วยกำจัดปริมาณน้ำที่แบคทีเรียต้องการใช้ในการเจริญเติบโต รวมถึงน้ำผึ้งมีความเป็นกรดและมีปริมาณโปรตีนต่ำ ทำให้แบคทีเรียไม่ได้รับไนโตรเจนที่จำเป็น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และสารแอนตี้ออกซิแดนด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเราใช้น้ำผึ้งทาบาดแผล จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้และทำให้แผลไม่เกิดอาการอักเสบ และอีกอย่างหนึ่ง เอนไซม์ในน้ำผึ้ง มีหน้าที่ช่วยย่อยคาร์โบโฮเดรตได้ น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ และแก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี





ขอเชิญชม การ์ตูนผึ้งดูดน้ำหวานดอกไม้ ความยาว 1.31 นาที

































































การเก็บรักษาน้ำผึ้ง




น้ำผึ้งที่มีความชื้นสูงเกิน 19% จะเก็บไว้ได้ไม่นาน ยิ่งน้ำผึ้งที่มียีสต์ปะปนอยู่มากจะยิ่งเกิดการหมักได้เร็วขึ้น น้ำผึ้งที่เกิดการหมักเมื่อดมดู จะได้กลิ่นของแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นของน้ำผึ้ง ฉะนั้นเพื่อป้องกันการหมักจึงควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทและมีลักษณะเป็นขวดคอแคบ เพื่อให้มีพื้นที่สัมผัสอากาศน้อยที่สุด เพราะเชื้อยีสต์และความชื้นจะมาจากอากาศ




หากรับประทานน้ำผึ้งเป็นประจำทุกวัน ควรเปิดรับประทานจากขวดเล็กจะดีกว่า เมื่อหมดแล้วจึงค่อยเติมขวดเล็กจากขวดใหญ่ หากน้ำผึ้งมีความชื้นสูงกว่า 21% ควรบริโภคให้หมดภายใน 1- 2 เดือน มิฉะนั้นจะเกิดการหมัก อย่างไรก็ตามน้ำผึ้งที่หมักไม่มาก บางคนจะชอบรับประทาน เพราะรสชาติแปลก




น้ำผึ้งที่เก็บไว้นานจะมีสีเข้มจนออกเป็นสีดำ ยิ่งเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนด้วยแล้ว จะยิ่งมีสีดำเร็ว เพราะมีสารเอชเอ็มเอฟ (HMF) สูง สารเอชเอ็มเอฟเป็นชื่อย่อของสารเคมี (hydroxy methylfur furaldehyde) ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จนเกิดปฏิกิริยาเคมีของการย่อยสลาย น้ำตาลฟรักโทส ในน้ำผึ้ง ความร้อนและแสงแดดจะเป็นตัวเร่งให้ปฏิกิริยานี้ ให้เกิดเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในที่มืดและเย็น แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น อย่างไรก็ตาม สารเอชเอ็มเอฟในน้ำผึ้งนี้จะมีปริมาณน้อยมาก ไม่ค่อยมีอันตรายต่อผู้บริโภคหากจะบริโภคน้ำผึ้งสีเข้มจนเกือบดำ




แต่นั่นแหละของสดใหม่ จะดีกว่าของเก่าเก็บ น้ำผึ้งใหม่จะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าน้ำผึ้งเก่าเก็บ เมื่อยังไม่รับประทานน้ำผึ้งก็พึงอย่าเพิ่งซื้อมาเก็บทิ้งไว้เฉยๆที่บ้าน เพราะเป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น เงินใช้สอยจะจมอยู่นิ่งๆ และสิ้นเปลืองสถานที่จัดเก็บ ยิ่งกว่านั้นน้ำผึ้งเก่าเก็บยังมีคุณสมบัติสู้น้ำผึ้งที่เพิ่งผลิตใหม่ออกมาขายไม่ได้ เมื่อต้องการจะรับประทานน้ำผึ้ง จึงควรซื้อแบบสดใหม่จะดีกว่า แม้ราคาจะแพงกว่าสัก 10-20 บาท แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากว่าการซื้อน้ำผึ้งมาเก็บไว้เฉยๆแม้ราคาจะถูกกว่า 10-20 บาท แต่เก็บที่บ้านเฉยๆนับ 2 - 5 ปี ปกติไม่ควรจะเก็บน้ำผึ้งที่บ้านนานเกิน 2 ปี เพราะน้ำผึ้งที่เก็บไว้นานคุณค่าทางอาหารจะลดลงเรื่อย ๆ



















ขอเชิญชม อุตสาหกรรมน้ำผึ้งในต่างประเทศ ความยาว 4.44 นาที









มีคนจำนวนไม่น้อย เข้าใจว่าน้ำผึ้งป่ามีประโยชน์มากกว่าน้ำผึ้งเลี้ยง โดยยังคงผูกติดอยู่กับคำว่า “น้ำผึ้งป่ามีเกสรร้อยแปด” จึงน่าจะมีคุณสมบัติดีกว่าน้ำผึ้งเลี้ยงที่ได้มาจากดอกไม้ชนิดเดียวกันหรือเพียงสองสามชนิด




จากผลการตรวจสอบทางวิชาการพบว่า ละอองเกสรที่มีในน้ำผึ้งป่าก็ไม่ได้มีร้อยแปดพันเก้าอย่างที่เข้าใจ มีอย่างมากเพียง 6 - 7 ชนิดเท่านั้น เช่นเดียวกับที่ตรวจพบในน้ำผึ้งจากรังผึ้งพันธุ์ ...และเมื่อนำรังผึ้งพันธุ์เข้าไปตั้งเลี้ยงบริเวณเดียวกับผึ้งหลวงทำรังอยู่ พบว่าน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งทั้งสามชนิด คือ ผึ้งป่า ผึ้งพันธุ์ และผึ้งหลวง เมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีกันแล้ว ก็ไม่มีความแตกต่างกัน




การแบ่งเกรดของน้ำผึ้ง จึงไม่ได้อยู่ที่เป็นน้ำผึ้งป่าหรือน้ำผึ้งเลี้ยง แต่อยู่ที่กลิ่น รส ความชื้น สี สิ่งเจือปน(ความสะอาด)ในน้ำผึ้ง น้ำย่อยหรือเอนไซม์ที่มีในน้ำผึ้ง ละอองเกสรในน้ำผึ้ง สัดส่วนของน้ำตาลฟรักโทสกับน้ำตาลกลูโคส .. โดยน้ำผึ้งที่มีน้ำตาลกลูโคสมากกว่าฟรักโทสจะตกผลึกง่าย ในกรณีที่พบเห็นน้ำผึ้งตกผลึก นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นน้ำผึ้งปลอมปนน้ำตาลทรายเสมอไป





อีกอย่างหนึ่งคือน้ำผึ้งยางพารา (น้ำผึ้งที่ผึ้งดูดน้ำหวานจากตุ่มใบยางพาราหรือจากซอกใบอ่อนยางพารา) เมื่อเราเก็บไว้นานๆหรือเก็บไว้ในที่อุณหภูมิต่ำ จะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นน้ำผึ้งตกผลึกได้ ซึ่งถือเป็นคุณลักษณะเฉพาะของน้ำผึ้งยางพารา เพราะมีน้ำตาลกลูโคสจะมากกว่าน้ำตาลฟรักโทสนั่นเอง แต่ผลึกของน้ำตาลกลูโคสจะเป็นตะกอนที่ละเอียดมาก เป็นตะกอนนุ่มๆ โดยปกติน้ำผึ้งทั่วไปจะไม่ค่อยตกผลึก เพราะมีน้ำตาลฟรักโทสมากกว่าน้ำตาลกลูโคส หากมีน้ำตาลฟรักโทสมากกว่าน้ำตาลกลูโคสถึงเท่าครึ่งแล้ว น้ำผึ้งจะไม่มีวันตกผลึก




การตกผลึกของน้ำผึ้ง อาจจะตกผลึกเป็นบางส่วน เช่น หนึ่งในสี่, หรือสองในสาม, หรือตกทั้งขวดก็ได้ อันนี้แล้วแต่สัดส่วนระหว่างน้ำตาลกลูโคสกับน้ำตาลฟรักโทส น้ำผึ้งที่ตกผลึกไม่ใช่น้ำผึ้งเสียเสมอไป เป็นเพียงการเปลี่ยนสถานะเท่านั้น น้ำผึ้งที่ตกผลึกง่ายมักจะขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ที่ผึ้งไปหาน้ำหวาน เช่น น้ำผึ้งจากตุ่มใบยางพาราหรือจากซอกใบอ่อนยางพารา, จากดอกทานตะวัน, จากดอกสาปเสือ, จากดอกลิ้นจี่ เป็นต้น พวกนี้จะตกผลึกง่าย .. ส่วนน้ำผึ้งที่ได้จาก ดอกลำไย, ดอกเงาะ, ดอกไม้ป่า (ประดู่, แดง, ปรู, นุ่น) มักจะไม่ค่อยตกผลึก ทั้งนี้คุณค่าด้านโภชนาการหรือด้านสารอาหารในน้ำผึ้งทั้งแบบตกผลึกกับแบบไม่ตกผลึก จะไม่แตกต่างกันมากนัก




อย่างไรก็ตาม หากจะแก้ไขปัญหาการตกผลึกของน้ำผึ้ง สามารถกระทำได้โดยนำขวดน้ำผึ้งนั้นไปแช่ในน้ำร้อนอุณหภูมิไม่เกิน 65 องศาเซลเซียส หรือตากแดดสักระยะหนึ่ง น้ำผึ้งก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำผึ้งใสได้ โดยคุณค่าของสารอาหารที่อยู่ในน้ำผึ้งที่ตกผลึกไม่ได้สูญเสียไป (ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้เท่านั้น)




ขอเสริมข้อมูลเรื่องน้ำผึ้งยางพาราอีกนิดหนึ่ง น้ำผึ้งยางพารา จะมีรสไม่หวานจัด และมีรสเปรี้ยวแฝง ซึ่งมาจากกรดที่เป็นส่วนประกอบนั่นเอง และจะไม่มีกลิ่นหอมของดอกไม้เหมือนน้ำผึ้งชนิดอื่น เช่น น้ำผึ้งลำไย น้ำผึ้งลิ้นจี่ แต่น้ำผึ้งยางพาราจะเหมาะกับการนำมาทำเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว เพราะจะให้รสชาติดีกว่า สำหรับคุณค่าทางอาหารก็ถือว่ามีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากน้ำผึ้งทั่วไป



































มีกระทู้สอบถามเรื่อง ‘วิธีดูน้ำผึ้งแท้’ แล้วมีกูรูด้านน้ำผึ้ง คือคุณ s.suk เข้ามาช่วยตอบกระทู้นี้


หากเพื่อนๆอยากจะอ่าน วิธีดูน้ำผึ้งแท้ ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่






น้ำผึ้งหลายยี่ห้อ วางขายในต่างประเทศ









ของแถม .. เมื่อวันก่อน จขบ.ได้ชมรายการตีสิบ ออกอากาศเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2554 คุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์


เชิญผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดชุมพร(ผึ้ง) มาออกรายการ ท่านผู้อำนวยการฯกล่าวถึง


การนำเหล็กไนผึ้งมาต่อยคนเพื่อบำบัดโรค ซึ่งเป็นการรักษาแนวแพทย์แผนทางเลือกที่อยู่ในช่วงกำลังทำวิจัย .. โปรดใช้วิจารณญาณในการชม





ขอเชิญชม เหล็กไนผึ้งต่อยคนเพื่อบำบัดโรค ความยาว 2.43 นาที













ขอขอบคุณที่ติดตาม


ขอขอบคุณมากๆ นะครับ ที่มีผู้กรุณาโหวตให้ ในสาขา Topical Blog



จาก สิน yyswim





Create Date : 11 พฤษภาคม 2554
Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 21:21:53 น. 9 comments
Counter : 15822 Pageviews.

 


บล็อกนี้ ยังต้องการข้อมูลประสบการณ์ของเพื่อนๆมาประกอบ

เช่น ประสบการณ์การเลี้ยงผึ้ง, ประสบการณ์การตีผึ้ง, ราคาน้ำผึ้งแถวๆบ้านของเพื่อนๆ หากเป็นราคาในต่างประเทศ ยิ่งดี, สูตรเครื่องดื่มน้ำผึ้งของเพื่อนๆ, ประสบการณ์การนำน้ำผึ้งไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ, รวมทั้งประสบการณ์การเก็บน้ำผึ้ง เป็นต้น

หากเพื่อนๆ มีประสบการณ์ กรุณาช่วยเล่าสู่กันฟังได้ไหมครับ บล็อกจะได้เป็นประโยชน์มากขึ้นต่อผู้อ่านรุ่นน้องๆในโอกาสต่อไป .. ขอขอบคุณ






โดย: yyswim วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:18:22 น.  

 
เริ่มหันมาทานน้ำผึ้งได้เกือบ 2 ปีแล้วค่ะ พอดีต้องลดน้ำหนักแล้วไม่อยากทานน้ำตาลทราย ก็เลยหันมาใช้น้ำผึ้งแทน ส่วนใหญ่จะใส่ในเครื่องดื่มค่ะ โดยส่วนตัวชอบน้ำผึ้งจากดอกลำไย รู้สึกว่ามีกลิ่นหอมกว่าน้ำผึ้งทั่วไป บางทีก็เอามามาร์สกหน้าค่ะ

สูตรเครื่องดื่มที่ทำเป็นประจำคือ น้ำึ้งผสมมะนาวค่ะ ดื่มทุกเช้าช่วยเรื่องขับถ่ายดี นอนกั้นก็ใส่ในเครื่องดื่มปกติ ผสมน้ำเต้าหู้บ้างอะไรแบบนี้ค่ะ


ขอบคุณสำหรับข้อมูลของน้ำผึ้งนะคะ


โดย: ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:43:11 น.  

 
รูปสวยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:53:48 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
ได้ความรู้เกี่่ยวก้บน้ำผึัง
มากมายค่ะ


โดย: newyorknurse (newyorknurse ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:4:07:33 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่สิน


ผมทานน้ำผึ้งแบบเดียวก็คือ น้ำมะนาวน้ำผึ้ง
ช่วยมากเวลาเจ็บคอและเป็นหวัดครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:5:44:54 น.  

 


คุณน้อย จากนิวยอร์ก ล็อกอินnewyorknurse กรุณาส่งเรื่อง ‘น้ำผึ้ง’ ฉบับภาษาอังกฤษมาเสริมข้อมูลในบล็อก

ผมขอขอบคุณมากๆไว้ ณ โอกาสนี้



Honey


Honey is the only food on the planet that will not spoil or rot. It will do what some call turning to sugar. In reality honey is always honey.. However, when left in a cool dark place for a long time it will do what I rather call "crystallizing". When this happens I loosen the lid, boil some water, and sit the honey container in the hot water, turn off the heat and let it liquefy. It is then as good as it ever was. Never boil honey or put it in a microwave. To do so will kill the enzymes in the honey.


Cinnamon and Honey

Bet the drug companies won't like this one getting around. Facts on Honey and Cinnamon: It is found that a mixture of honey and Cinnamon cures most diseases.


Honey is produced in most of the countries of the world.


Scientists of today also accept honey as a 'Ram Ban' (very effective) medicine for all kinds of diseases. Honey can be used without any side effects for any kind of diseases.

Today's science says that even though honey is sweet, if taken in the right dosage as a medicine, it does not harm diabetic patients.



Weekly World News, a magazine in Canada , in its issue dated 17 January,1995 has given the following list of diseases that can be cured by honey and cinnamon as researched by western scientists:


HEART DISEASES:

Make a paste of honey and cinnamon powder, apply on bread, instead of jelly and jam, and eat it regularly for breakfast. It reduces the cholesterol in the arteries and saves the patient from heart attack. Also, those who have already had an attack, if they do this process daily, they are kept miles away from the next attack. Regular use of the above process relieves loss of breath and strengthens the heart beat. In America and
Canada , various nursing homes have treated patients successfully and have found that as you age, the arteries and veins lose their flexibility and get clogged; honey and cinnamon revitalize the arteries and veins.


ARTHRITIS:

Arthritis patients may take daily, morning and night, one cup of hot water with two spoons of honey and one small teaspoon of cinnamon powder. If taken regularly even chronic arthritis can be cured. In a recent research conducted at the Copenhagen University, it was found that when the doctors treated their patients with a mixture of one tablespoon Honey and half teaspoon Cinnamon powder before breakfast, they found that within a week, out of the 200 people so treated, practically 73 patients were totally relieved of pain, and within a month, mostly all the patients who could not walk or move around because of arthritis started walking without pain..


BLADDER INFECTIONS:

Take two tablespoons of cinnamon powder and one teaspoon of honey in a glass of lukewarm water and drink it. It destroys the germs in the bladder.


CHOLESTEROL:

Two tablespoons of honey and three teaspoons of Cinnamon Powder mixed in 16 ounces of tea water, given to a cholesterol patient, was found to reduce the level of cholesterol in the blood by 10 percent within two hours. As mentioned for arthritic patients, if taken three times a day, any chronic cholesterol is cured. According to information received in the said Journal, pure honey taken with food daily relieves complaints of cholesterol.


COLDS:

Those suffering from common or severe colds should take one tablespoon lukewarm honey with 1/4 spoon cinnamon powder daily for three days. This process will cure most chronic cough, cold, and clear the sinuses..


UPSET STOMACH:

Honey taken with cinnamon powder cures stomach ache and also clears stomach ulcers from the root.


GAS:

According to the studies done in India and Japan, it is revealed that if Honey is taken with cinnamon powder the stomach is relieved of gas


IMMUNE SYSTEM:

Daily use of honey and cinnamon powder strengthens the immune system and protects the body from bacteria and viral attacks. Scientists have found that honey has various vitamins and iron in large amounts. Constant use of Honey strengthens the white blood corpuscles to fight bacterial and viral diseases.

INDIGESTION:

Cinnamon powder sprinkled on two tablespoons of honey taken before food relieves acidity and digests the heaviest of meals.


INFLUENZA:

A scientist in Spain has proved that honey contains a natural ' Ingredient' which kills the influenza germs and saves the patient from flu..


LONGEVITY:

Tea made with honey and cinnamon powder, when taken regularly, arrests the ravages of old age. Take four spoons of honey, one spoon of cinnamon powder, and three cups of water and boil to make like tea. Drink 1/4 cup, three to four times a day.. It keeps the skin fresh and soft and arrests old age. Life spans also increase and even a 100 year old, starts performing the chores of a 20-year-old..


PIMPLES:

Three tablespoons of honey and one teaspoon of cinnamon powder paste. Apply this paste on the pimples before sleeping and wash it next morning with warm water. If done daily for two weeks, it removes pimples from the root.


SKIN INFECTIONS:

Applying honey and cinnamon powder in equal parts on the affected parts cures eczema, ringworm and all types of skin infections.


WEIGHT LOSS:

Daily in the morning one half hour before breakfast on an empty stomach, and at night before sleeping, drink honey and cinnamon powder boiled in one cup of water. If taken regularly, it reduces the weight of even the most obese person. Also, drinking this mixture regularly does not allow the fat to accumulate in the body even though the person may eat a high calorie diet.


CANCER:

Recent research in Japan and Australia has revealed that advanced cancer of the stomach and bones have been cured successfully. Patients suffering from these kinds of cancer should daily take one tablespoon of honey with one teaspoon of cinnamon powder for one month three times a day.


FATIGUE:

Recent studies have shown that the sugar content of honey is more helpful rather than being detrimental to the strength of the body. Senior citizens, who take honey and cinnamon powder in equal parts, are more alert and flexible. Dr. Milton, who has done research, says that a half tablespoon of honey taken in a glass of water and sprinkled with cinnamon powder, taken daily after brushing and in the afternoon at about 3:00 P.M. when the vitality of the body starts to decrease, increases the vitality of the body within a week.


BAD BREATH:

People of South America, first thing in the morning, gargle with one teaspoon of honey and cinnamon powder mixed in hot water, so their breath stays fresh throughout the day.


HEARING LOSS:

Daily morning and night honey and cinnamon powder, taken in equal parts restores hearing. Remember when we were kids? We had toast with real butter and cinnamon sprinkled on it!


……………………………….


หมายเหตุ : ข้อมูลข้างบนมีประโยชน์มาก จขบ.ไม่แน่ใจว่า Cinnamon จะใช่ อบเชย หรือไม่? จขบ.ไม่กล้าแปล ...หากใครเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น จะช่วยแปลทั้งหมดให้ผู้อื่นอ่าน จขบ.จะขอขอบคุณ ไว้ ณ โอกาสนี้







โดย: yyswim วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:09:10 น.  

 
ผมอ่านแบบยิบๆเลย มีประโยชน์มากมายจริงๆครับพี่สิน ที่บ้านแม่ยายชอบซื้อที่ชาวบ้านไปตีมาจากบนเขา แบบมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ผสม คราวละหลายขวด เดี๋ยวนี้ถ้าแม่โขงกลมรู้สึกจะ 350 หรือ 400 นี่แหละครับ ก็กินกันจนดำนั่นละ ผมชอบผสมกับมะนาว และเมื่อไม่กี่วันมานี้ กล้วยเล็บมือนางตากแห้งพอดี ก็เอาน้ำผึ้งไปดองไว้ด้วยครับ อร่อย เหนียวหนึบเลยละ

และเป็นครั้งแรก เสียแรงที่คลุกคลีกับสวนยางซะเปล่าๆ เพิ่งรู้นี่แหละว่ามีน้ำผึ้งจากยางพาราด้วย

(เคยเห็นผึ้งไปตอมดอกยาง เวลามันบานนะครับ)

อยากแชร์ประสบการณ์อื่นๆ แต่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:48:30 น.  

 

รายการตีสิบตอนนี้อุ้มได้ดูเหมือนกันค่ะ
ว่าจะแวะมาขอน้ำผึ้งเดือน 5 ทานแถวนี้ค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:04:00 น.  

 
ชอบดื่มน้ำมะนาวใส่น้ำผึ้งค่ะ สดชื่น

พี่สินเคยกินปาท่องโก๋จิ้มน้ำผึ้งไหมคะ อร่อยกว่านมข้นหวานอีกนะ : )


โดย: Love At First Click วันที่: 12 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:01:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.