Group Blog
 
 
ตุลาคม 2566
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 ตุลาคม 2566
 
All Blogs
 

ตอนที่ 9 : การเริ่มต้นใหม่ ย่อมไฉไล กว่าเดิม เสมอ :)

          
          149 “ไปเถอะลูก อยู่บ้านมันไม่มีงานทำ ลูกมึงไม่ต้องห่วงหรอก ตัวมึงพ่อกับแม่ก็เลี้ยงมาได้ หลานคนเดียวทำไมแม่จะเลี้ยงไม่ได้”  คำพูดของแม่มันก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
   
 ….เพราะคำนี้ไง นึกถึงเมื่อไร ฉันโครตมีพลังเลย …ชีวิตใหม่ การเริ่มต้นใหม่ เริ่มขึ้นแล้ว  ฉันมาอาศัยอยู่กับพี่เด่นพี่ยุ้ย คู่สามีภรรยา ที่ฉันรักเหมือนญาติ ทุกครั้งที่ฉันเดือดร้อน เขาจะเป็นคนแรกที่ยื่นมือมาช่วยโดยไม่อิดออด ทั้งๆที่เขาเองก็ไม่ได้ร่ำรวย อะไร เขาช่วยเหลือเพื่อนฝูงทุกคนที่เขารู้จักที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งฉันก็ได้พึ่งพาเขาหลายครั้ง เขาเช่าบ้านไม้ชั้นเดียว มี 3 ห้อง แบ่งๆให้ฉันอยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งฉันก็จ่ายค่าห้องค่าน้ำไฟ ปกติตามที่เขาจะแจ้งมาว่าแต่ละเดือนเท่าไร อยู่ๆกันไปก่อน จนกว่าจะตั้งตัวได้  ฉันทำงานที่ 7-11 ไปก่อน และโชคดีที่ ผจก.ร้าน เป็นคนโคราช บ้านเดียวกัน เขาก็เอ็นดู ช่วยเหลือเรื่องงานดีทุกอย่าง จังหวะดี ฉันจึงหาโอกาสไปคืนสภาพนักศึกษาเรียนรอบค่ำที่ โรงเรียนพนิชยการราชดำเนิน ดรอปไว้ตอนท้อง เหมือนโชคชะตา คุยรายละเอียดเสร็จเรียบร้อย ก็ไปเจราขอ ผจก. อยู่รอบเช้าช่วงที่มีเรียน พอปิดเทอม ค่อย ย้ายไปอยู่รอบบ่ายกับรอบดึก  ทุกอย่างง่ายไปหมด ขออะไรได้หมด ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกความช่วยเหลือ ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่คอยช่วยเหลือฉันมาตลอด ขอบคุณพ่อแม่ที่ช่วยสนับสนุนทุกอย่างและคอยเป็นกำลังใจให้เสมอมา

          152 “นักศึกษาภาคค่ำ โรงเรียนพนิชยการราชดำเนิน เอกการจัดการ สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ  มารายงานตัวแล้วจ้า เย้ๆๆๆๆๆๆ”  338
         
เลิกงานจากฝั่งบรมราชชนนี ปิ่นเกล้า ก็รีบนั่งรถเข้ามาเรียน ฝั่งธนบุรี แล้วกลับห้อง ฝั่งบางพลัด เป็นมุมสามเหลี่ยม คนละที่กันเลย สักพักฉันก็เริ่มล้ากับการเดินทาง สุดท้าย ย้ายออกจากบ้านพี่เด่นพี่ยุ้ย มาเช่าหอใกล้ โรงเรียน แบบเดินไปกลับได้ ไม่ต้องนั่งรถ จ่ายค่าห้องเพิ่มอีกหน่อย แลกกับ การไม่ต้องนั่งรถไกลๆ  ก็ได้อยู่     376    

             “ นาง ไอ้มานะ กับ แม่ มัน โทรมาตามลูกมันคืน มันบอกจะแจ้งตำรวจมาจับ ขโมยลูกมันมา”  หลังจากวางสายจากแม่ ฉันก็รีบโทรหาพี่มานะ คุยกันดีๆ ฉันแค่อยากมีอิสระในการเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ถ้าอยากจะออกมาอยู่ด้วยกันก็มา แต่จะให้ฉันอยู่ที่บ้านนั้น ฉันไม่อยู่  และคำตอบของพี่มานะ ก็ไม่ผิดจากที่ฉันคิดไว้         “ พี่ขอถามแม่ก่อนนะ แม่จะให้พี่ไปอยู่ข้างนอกไหม ”  457436437433
         
ฉันจะไม่ให้พี่ต้องเลือกนะ เพราะฉันจะเป็นคนเลือกเอง และฉันก็เลือกแล้ว ยังไงพี่ก็อยู่ด้วยตัวเอง ยืนด้วยขาตัวเองไม่ได้ อายุขนาดนี้ละ แก่กว่าฉันตั้ง 14 ปี แต่พี่ไม่กล้าที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง กลัวลำบาก กลัวอดตาย พี่ก็อยู่กับพ่อแม่พี่ไปนะ ฉันก็อยู่คนเดียวทำงานไปเรียนไป หาเงินส่งค่านมลูก ฉันไม่ต้องการพี่ ฉันต้องการแค่ลูก ขอบคุณนะ ที่ยอมปล่อยฉันมาโดยดี ……. และตั้งแต่นั้นมา ฉันกับครอบครัวพี่มานะ ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย แม้แต่โทรหา ก็ไม่เคย ต่างคนต่างอยู่ ลูกก็จำหน้าพ่อไม่ได้ด้วยซ้ำ มีแค่รูปถ่ายใบเดียว ที่ฉันถ่ายคู่กับเขา เก็บไว้เผื่อวันหนึ่ง ลูกถามว่า “พ่อเป็นใคร”
         
            139137 วันที่รอคอย คือ วันนี้ วันที่จบหลักสูตร ปวส. อย่างทุลักทุเล อย่างน้อยก็ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ได้ละ หลังจากผิดหวังและเสียใจกับเรื่องชีวิตคู่ของฉัน ......ฉันเริ่มมองหางานใหม่ เพราะอยากจะเรียนต่อให้จบ ป.ตรี เป็นอย่างน้อย ในขณะที่ฉันยังมีไฟอยู่ ไล่ล่าหางาน จนในที่สุดก็ได้งานราชการที่กรมฯ แห่งหนึ่ง ในซอยโยธี ใกล้กับอนุสาวรีย์สมรภูมิ หยุดเสาร์ อาทิตย์ และทุกวันนักขัตฤกษ์  ตำแหน่ง พนักงานธุรการ ชั่งโชคดีจริง  และไม่รอช้า พอเริ่มงานปุ๊บ ฉันก็สมัครเรียน กับ มสธ. ทันที สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ  แน่นอน เพื่อให้ต่อเนื่องกับหลักสูตร ปวส.  งานก็ราบรื่น เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าใจดีทุกคน นี่ก็เป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ฉันเจอแต่คนรอบข้างดี ไม่มีพิษภัย งานออกสอบเทียบเครื่องมือตามโรงงานใหญ่ๆ ตามต่างจังหวัด เช่น โรงงานกระดาษ AAA  โรงงานฟินิกส์  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่อื่นๆ อีกมากมาย ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากงานก็เยอะแยะเกินกว่า งานในตำแหน่งจริงๆ ท้าทายความสามารถด้วย.......และวันหนึ่ง จู่ๆ ฉันก็หยุดอยู่ตรงเสาไฟ ต้นหนึ่ง ที่มีขยะกองเต็มเสา ทั้งกระดาษลัง ขวดพลาสติก และที่สะดุดตาจนฉันต้องเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาพินิจพิเคราะห์ก็คือ เศษพลาสติกหนาขุ่น ที่แพ็คขวดน้ำ มันเหนียวและหนา ดูแข็งแรงมาก ฉันถือไปที่ทำงานด้วย และไปนั่งหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับพลาสติกประเภทต่างๆ แล้วเอาเศษที่ฉันติดมาด้วย ไปทดสอบในห้องทดลอง สรุป มันคือ พลาสติกในกลุ่ม PE  และมีโรงงานรับซื้อ กก.ละ 33-36 บาท แล้วแต่เกรด โหหห ราคาสูงทีเดียว แล้วฉันก็ผุดไอเดีย นี้  และเริ่มตระเวนเดินสำรวจสังเกตุ ตามร้านค้าระแวกที่พัก ร้านท้อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำ บิ๊กซีมินิ ซึ่งเขาเอามากองทิ้งไว้เต็มเลย แม้กระทั่งลุงซาเล้งที่หาขวดหาลังตามกองขยะ ไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า พวกเขาไม่รู้ว่า พลาสติกนี้มันขายได้  ก็เสร็จฉันล่ะสิ……ฉันไม่รีรอ รีบมาปรึกษาพี่ๆหัวหน้าที่ทำงาน เอารายละเอียดมาคุย รวมถึงโรงงานที่รับซื้อและราคา ทุกคนเห็นด้วยกับฉัน และพร้อมช่วยเหลือลงทุนให้ ส่วนฉันก็ลงแรงเอา แล้วแบ่งกำไรกัน ตามสัดส่วน เมื่อตกลงกันได้แล้ว ฉันก็เริ่มงานเลยสิ ไปติดต่อขอซื้อที่ร้านท้อปซุปเปอร์มาเก็ต กก.ละ 50 สตางค์ เขาก็ขายให้ มันดีกว่าทิ้งนะ ได้ 5 สาขา ฉันไปรับเฉพาะวันเสาร์ วันเดียว ส่วนวันอาทิตย์ ฉันก็ไปแกะสติ๊กเกอร์ ทำความสะอาด คัดแยก และชั่งใส่กระสอบไว้ เช่าห้องสำหรับเก็บพลาสติกเหล่านี้โดยเฉพาะเลย ระหว่างนั้น ก็ติดต่อโรงงานรับซื้อ พร้อมกับของที่เรามีไปให้เขาประเมินราคาให้ด้วย เขาให้ฉัน กก.ละ 34  บาท อืมมมม ก็สูงเกินที่ฉันคาดไว้อยู่นะ 1231186
         
ป่ะกัน …. เยอะพอประมาณละ จ้างรถขนไปส่งโรงงาน ไปกลับ 800 บาท พลาสติกรอบนี้ได้ 180 กก. ขายได้เงินทั้งหมด 6,120 บาท หักค่าทุนซื้อ 90 บาท ค่ารถตุ๊กๆ ตระเวน 5 สาขา 300 บาท ค่ารถไปโรงงาน 800 บาท ค่าเช่าห้อง และค่าขยะ 450 บาท หักค่าแรงตัวเองและค่าเดินทาง 300 บาท ที่เหลือ 4,180 บาท คือ กำไร มาแบ่งกัน 3 คน  ว้าววววว คุ้มเหนื่อยอยู่นะ นี่ขนาดทำครั้งแรก และทำคนเดียวด้วย ได้ขนาดนี้โครตฉ่ำเลยเรา ปลื้มปริ่มเลย พี่ๆที่ลงทุนให้ก็ดีใจด้วย ทุกเสาร์ไปรับซื้อพลาสติก ทุกวันอาทิตย์ก็ไปแกะ ล้าง ทำความสะอาด ชั่ง แพ็คใส่กระสอบ จะจ้างคนไปช่วยก็ไม่อยากเสียเงินตรงนั้น เพราะ ของเราไม่ได้เยอะมากล้น จริงๆ ทำคนเดียวก็ได้ แต่ทว่า ทำไปได้แค่ 3 เดือน ฉันเริ่มล้า เพราะแทบไม่ได้หยุด จันทร์ถึงศุกร์ งานประจำ เสาร์อาทิตย์ งานเสริม สุดท้าย ฉันก็มาสารภาพกับพี่ๆ ว่าฉันไม่ไหวแล้ว จะเอาไงต่อดี พี่ๆเขาก็ไม่สะดวก และเห็นด้วยว่า ถ้าจ้างคนช่วย เราจะไม่เหลือกำไรเลย สรุป ว่าเดือนนี้เดือนสุดท้ายเนอะ ขายได้ 1,2000 บาท แต่ต้องจ้างรถ 2 คันไปส่ง แบ่งกำไรกันแล้ว ฉันก็ตัดสินใจ ยกกิจการนี้ให้ลุง ที่ฉันจ้างไปส่งที่โรงงานประจำ ให้เขาไปรับช่วงต่อ แบบชิวๆ ไปเลย สบายเฉิบ ลูกค้าก็หาให้ โรงงานก็หาให้ ลุงลอยตัว ยิ้มแฉ่งหน้าบานเลย เสียดายจัง กว่าจะหาข้อมูล กว่าจะติดต่อร้านค้า กว่าจะหาโรงงานรับซื้อ กว่าจะลงตัว แต่จะทำไงได้ ไม่ไหวก็ปล่อย ไม่ยื้อไม่ฝืน  เอานะอย่างน้อย ก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่า............................

420423426    เมื่อตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ทำได้จริงๆ แม้จะมีแค่สมองกับสองมือ  423470     ถือว่าทำบุญไป  และก็จบ

แต่ฉันไม่จบ มองหางานเสริมอื่นแทนต่อไป ดวงคนมันจะได้งานอ่ะนะ แล้วฉันก็มีงานวิจัยตลาด ของบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ที่ตึกยูไนเต็ด สีลม แค่เข้าไปบรีฟงาน อาทิตย์ละครั้ง ราคาก็ขึ้นอยู่กับชนิดของงาน ต่ำสุดก็ ทำแบบสอบถาม ชุดละ 5 บาท แพงสุดก็ งานทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ ชิ้นละ 250 – 300 บาท ทำมาเรื่อยๆ ว่างก็ทำ ไม่ว่างก็ไม่ทำ ไม่ผูกมัดใดๆ

             “ นาง พ่อมึงไส้ติ่งแตก ตอนนี้แอดมิดอยู่ โรงพยาบาล “   จบเสียงแม่เท่านั้นแหล่ะ  วิ่งน้ำตาไหลพรากเข้าไปหาหัวหน้า ต้องลางานกลับบ้านละ ไปดูพ่อก่อน หัวหน้าก็ไม่รีรอ บอกให้กลับบ้าน พร้อมกับ โอนเงินให้ทันที 15,000 บาท " อ่ะ พี่ให้ยืมก่อน เราต้องมีค่าใช้จ่าย มีเมื่อไรไว้ค่อยใช้คืนนะ ไปเถอะ! " ว้ายยยยย น้ำตายิ่งไหลไม่หยุด ซึ้งในน้ำใจจริงๆ จนพูดไม่ออก …….อยู่ดูแลพ่อจนแน่ใจละ ว่าหายดี ก็กลับมาทำงานปกติ ใช้หนี้พี่เขาจนครบหมดละ ก็สบายใจ  แต่แล้วก็.......

          “ยิ้มยิ้ม พี่เขียนโครงการใหม่ เพื่อต่อสัญญาให้เรานะ แต่ ผอ. ยังไม่อนุมัติ ให้มาแก้ใหม่ และมีโครงการของแผนกจัดซื้อ ที่ขอมาใหม่ ผอ. ลังเล ว่าจะไม่อนุมัติของพี่นะ แต่พี่จะแก้ใหม่ จะช่วยเราเต็มที่”  

น้ำเสียงของหัวหน้า ดูจริงจังและเป็นกังวลมาก สำผัสได้ว่าพี่เขาเครียดมากด้วย เดินเข้าเดินออกห้อง ผอ. หลายครั้ง เพื่อไปเสนอโครงการนี้  จริงๆ พี่เขาไม่ต้องคิดต้องทำโครงการอะไรเลยก็ได้ ก็มีงานประจำที่ต้องทำอยู่แล้ว ไหนจะ งานเขียนนิยาย เรื่องสั้น แต่งเพลง งานแปล งานอีเว้นท์อื่นๆเยอะแยะ พี่เขาเป็นนักเขียนนักแปล งานเหล่านี้แหล่ะคืองานประจำ งานที่ทำเงินให้พี่เขา  ส่วนงานที่กรมฯ นี้คืองานอดิเรก ทำเพื่อเอาเงินไปเป็นค่าน้ำมันรถเฉยๆ และไม่ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง เขียนโครงการพวกนี้ ขึ้นมาเพื่อจะให้ฉันได้ทำงานที่นี่ต่อ  ฉันซาบซึ้งจริงๆ แต่ต่อให้โครงการนี้ผ่าน ปีหน้า พี่เขาก็ต้องมานั่งคิดโครงการอะไรให้ฉันอีกล่ะ โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่นี่จะเปิดสอบ เพื่อที่ฉันจะได้สอบเป็นพนักงานราชการ เต็มตัว ไม่มีใครตอบได้ แม้กระทั่ง ผอ. เอง ก็ไม่รู้ว่าปีไหน ต้องรอโควต้าเหลือจาก กระทรวงฯ เท่านั้น   ฉันเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ระหว่างที่ครุ่นคิดไปคิดมา ก็กระเด้งข่าว เปิดรับสมัครงานด่วน โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง อยู่ตรงข้าม กรมฯ เรานี่เอง อ้าววววว วันนี้เปิดรับสมัครวันสุดท้าย  ลองไปดูหน่อยละกันนะ เดินข้ามสะพานลอยไปเอง  คิดปุ๊บ ก็ทำปั๊บ กรอกใบสมัครทิ้งไว้ก่อน ถ้าเขาติดต่อกลับมาค่อยไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมนะ

          หลังจากนั้น 2 วัน  “ พี่โทรจาก โรงพยาบาล นี้ค่ะ ที่น้องสมัครงาน ตำแหน่ง พนักงานคอมพิวเตอร์ ไว้ พรุ่งนี้มาสัมภาษณ์ งานนะคะ”  เมื่อวางสายสนทนา รู้สึกโล่งอกโล่งใจ บอกไม่ถูก รีบไปแจ้งพี่ๆหัวหน้างาน ทันที ทุกคนดีใจยกใหญ่ โล่งใจไปพอๆกัน
          
สอบสัมภาษณ์จบ ไปสอบคอมพิวเตอร์ต่อ เสร็จสรรพ กลับบ้าน มาฝึกทดลองงาน อีก 3 วัน ภาคปฏิบัติ จากนั้นรอฟังผล  และเมื่อผลออกมาว่า ผ่าน ให้เริ่มงานทันที เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้อย่างไม่ตั้งใจ ไม่คาดหวังว่าจะได้เลยนะเนี่ย ครึ่งวันสุดท้ายที่จะปิดรับสมัคร ก็ทำใจแล้ว แต่ได้เฉยเลย  เจ๋งอ่ะ 
😊

และแล้ว 105 
เมื่อมีพบ ก็ต้องมีจาก มันเป็นกฎของธรรมชาติ 284  พี่ๆหัวหน้าทุกคน ต่างเข้าใจดี และยินดีกับฉันด้วย  ห่วงก็แต่ กลัวฉันไม่ได้เรียน และเรียนไม่จบตามที่ตั้งใจไว้  ไม่เป็นไรหรอก ยังไงฉันก็ต้องให้งานเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยก่อน ไม่ให้การเรียนกระทบการงาน แน่ๆ เพราะงานคือ เงิน  เงินที่ต้องมาใช้จ่ายทุกสิ่งทุกอย่างในทุกๆวัน ถ้าจะไม่ได้เรียนจริงๆ ก็ drop ไว้ชั่วคราวได้ ไม่มีปัญหา  แต่ฉันกังวลไปเอง  ทุกอย่างลงตัวหมด งานใหม่ เพื่อนใหม่ หัวหน้าใหม่ ฉันใช้เวลาปรับตัวแค่ไม่ถึงเดือน ทุกอย่างเรียบร้อยดี ฉันก็เรียนด้วยทำงานด้วย ได้ปกติ 

"ฉัน จะระลึกถึงทุกๆคนที่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลานึงของชีวิตฉัน เสมอ"

                                                                                   
                     
## เพราะทุกๆวัน คือการเริ่มต้นใหม่ และต้องไฉไลกว่าเดิม  จริงๆสินะ ##     
 




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2566
0 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2566 21:51:35 น.
Counter : 502 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 5022081
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5022081's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.