My Sweet Kitchen
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
20 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Black Forest Gateau







ชื้อเชอรี่ กับ สตอร์เบอรี่ มาหลายวันแล้ว กินยังไง ก็ไม่หมดสักกะที จนต้องทิ้งไปบ้าง เพราะมันเสีย ก่อนที่จะต้องทิ้งหมด ก็เลยคิดว่าวันนี้ต้องกำจัดพวกเธอ ให้เป็นอย่างของหวานอย่างอื่นจะดีกว่า มีเหลืออยู่แค่เนี้ยะจริงๆ แต่ก็ทำเค้กได้นะจะบอกให้



สูตร ตัวเค้ก

เปิดเตาอบ 350 F

115 กรัม ชอคโกแลตแท่ง หรือ พวก Semichocolate ก็
ได้คะ
1/2 ถ. วิปปิ้งครีม
1/2 ถ. นมสด
1 ช.ต. วนิลลา

- ผสมทุกอย่าง ยกเว้นวนิลลา นำไปตุ่นในน้ำร้อน เมื่อส่วนผสมละลาย ก่อนยกลง เติมวนิลลา แล้วพักไว้



115 กรัม เนยสด อุณภูมิห้อง
3/4 ถ. น้ำตาลทราย
3 ฟอง ไข่ไก่เบอร์ใหญ่ (ไข่ตาฟองเล็กคะเลยใส่ 4)
2 ถ. แป้งสาลีเอนกประสงค์
2 ช.ช. ผงฟู
1 ช.ช. เบกิ้งโซดา
1/4 ช.ช. เกลือป่น
3 ถ. วิปปิ้งครีม
9 ช.ต. น้ำตาลไอซิ่ง
1 ช.ต. กลิ่นรัม หรือ เหล้ารัม หรือ เหล้าเชอรี่ หรือ Strawberry flavoured liquer

- ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และ เบกิ้งโชดา ร่อนรวมกันไว้
- ในสูตรนี้ ตีเนยกับน้ำตาลพร้อมกันเลยคะ จนขึ้น
- ค่อยๆ ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง จนเข้ากัน
- เติม ชอคโกเลตที่ผสมไว้ ค่อยใส่ลงไปในโถผสม
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ค่อยเติมแป้งที่ร่อนไว้ คนให้เข้ากัน
- เทใส่พิมพ์ ขนาด 8 นิ้ว 3 อัน นำอบ ประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งเค็กสุก





ที่นี้มาทำ Filling เอาไว้ทาตัวเค็กกันนะคะ ตอนรอเค็กสุก

1/2 ถ. เหล้าเชอรี่
1/2 ถ. แยมสตอเบอรี่แบบเนี้อหยาบ หรือ Strawberry Preserves (กระปุกนี้ทำเองคะ)
1 ถ. เชอรี่สดผ่าเอาเมล็ดออก

- ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วเข้าตู้เย็น รอเค็กสุก





พอเสร็จทำ filling แล้ว ก็มาตีวิปปิ้งครีมกันคะ

-สูตรจากข้างบน 3 ถ. วิปปิ้งครีม น้ำตาลไอซิ่ง 9 ช.ต. ตีให้ขึ้น แล้ว ใส่เหล้ารัม หรือ เหล้าเชอรี่ 1 ช.ต. แล้วนำเข้าตู้เย็นพักไว้ รอแต่งเค็กต่อไปคะ



พอเค็กสุก นำออกมาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วคว้ำ เอา filling ออกมาทาให้ทั่วเค็ก ยกเว้น เชอรี่ เราจะเอาใส่ตอนเอาเค็กประกบกันคะ ควรทา Filling ตอนเค็กร้อนๆ เพราะเค็กจะดูดเอาของเหลวได้ดี และเร็วกว่า จะทำให้เค็กนุ่มขึ้นด้วยคะ

แต่ถ้ารอจนเค็กเย็นสนิท แล้วมาทา ตัวเค็กจะไม่สามารถดูดซึม Filling ได้ดี และเมื่อทา Filling ลงไปที่เนื้อเค็ก จะทำให้เนื้อเค้กแฉะคะ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เค็กเย็นสนิท แล้วค่อยมาแต่งด้วย วิปปี้งครีมที่เราตีไว้ แต่งหน้าตามชอบคะ



ที่นี้มาดูเทคนิคในการยกเค็กมาประกบกัน

เมื่อเค็กเย็นสนิทแล้ว ถึงขั้นตอนที่เราจะต้องมาแต่งเค็กกัน ตาแนะนำให้หา ฐานรองเค็กที่แข็งหน่อย ที่สามารถรับน้ำหนักเค็กได้นะคะ อย่าใช้กระดาษอ่อนๆ

ใช้พิมพ์เค็กค่อยๆ ช้อนที่ก้นเค็ก แล้วยกขึ้น ทำแบบนี้ อย่างไงๆ เค็กไม่มีวันแตกหักแน่ๆ คะ ไม่ฉะเพราะ เค็กที่ตาสาธิตเท่านั้นนะคะ เพื่อนๆ สามารถทำได้กับเค็กทุกชนิด เวลายกเค็กคะ

ที่นี้ ในการวางเค็กลงฐานรองเค็ก หรือ จานเค็ก เราควรติดกาวให้ก้นมันก่อนนะคะ เพราะเวลาวางเค็กลงไปแล้ว สามารถ ป้องก้นไม่ให้เค็กเลื่อนไป เลื่อนมา หรือขยับที่ อาจทำให้เสียรูปทรงได้

ในการติดกาว ภาษาเบเบอรี่ เรียกว่า การ glue นั้นหมายถึง การใช้ น้ำเชื่อม , ครีม , น้ำตาลไอซิ่ง หรือส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเป็นตัวประสาน ในการหยึดติด หรือต่อส่วนต่างๆ ของ เค็ก พาย เครกเกอร์ ขนมปังต่างๆ พวกรูปทรงของ Ginger Bread ต่างๆ นะคะ

อันนี้เอาวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ มาแปะตรงกลางของที่รองเค็ก เพื่อหยึดเค็กให้อยู่กับที่

>


หลังจากนั้นก็ทำการตกแต่งเค็กคะ ชั้น ที่ 1 และ ชั้น ที่ 2 เอาเชอรี่ ที่แช๋เหล้าเชอรี่ไว้ มาวาง และทับด้วย วิปปิ้งครีม



**** เทคนิคการใช้เชอรี่ในน้ำเชื่อม และการขูดชอคโกแลต อยู่ใน ห้องสรรหามาฝากนะคะ*****


Create Date : 20 มิถุนายน 2550
Last Update : 20 มิถุนายน 2550 8:14:53 น. 0 comments
Counter : 2483 Pageviews.

ผ้าไหมไทย
Location :
The Natural State, United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 107 คน [?]




ช่วยแม่ทำอาหาร และ ขนมขาย ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่ตัวเองอายุ 12 ปี หลังจากเลิกเรียนมา ต้องช่วยแม่เตรียมทำกับขาวขายทุกวัน สิ่งที่แม่เลี้ยง ตัวเราและน้องๆ มาไม่ใช่เงินราชการที่แม่ได้รับทุกๆเดือน แต่เป็นเงินที่แม่ทำกับข้าวขายเลี้ยงพวกเรามา ในตอนนั้นบอกได้เลยว่าเกลียด การทำอาหาร และทำขนมมาก แต่ต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินไปเรียนหนังสือกัน แม่เป็นคนที่อดทนมาก และทำอาหารกับขนมอร่อย เป็นที่เลืองลือ จนมาบัดนี้ สิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้จากแม่ มันซึมเข้าไปในสายเลือดแล้ว ขอบคุณ คุณแม่ที่ให้ความรู้ต่างๆ รักแม่มากที่สุด ห้องนี้ทำให้แม่คะ .



Taste of Home's
New Comments
Friends' blogs
[Add ผ้าไหมไทย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.