W H I T E A M U L E T
Group Blog
 
All blogs
 
[@Tokyo] มื้อพิเศษ(นิดนึง)ฉลองวันเกิด + side story-เลิกเดินตามฉันซะที๊


ระหว่างนั่งเบื่อรอติดตั้งโปรแกรมอยู่ ขอเขียนบล็อคสั้นๆอีกสักอันก่อนจะไปเริ่มบรรเลงภาพจากทริปคันไซล่าสุด

เรื่องแรกเป็นภาพอาหารมื้อพิเศษนิดๆ เล็กๆน้อยๆจากวันเกิด จขบ ที่ผ่านมาแล้ว วันเกิดปีนี้ไม่ได้อยู่กะคุณแฟนไม่ได้อยู่กะที่บ้านเลยไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษ เก็บเงินไว้ไปเที่ยวสารพัดทริปที่แพลนไว้ในเทอมนี้ดีกว่า

แต่ไหนๆก็วันเกิดทั้งทีก็ขอจัดพิเศษกว่าวันปกติซะนิดนึง เลยไปลองกินร้านอาหารแถวบ้านที่เล็งมานาน ร้านนี้ขายอาหารที่ทำจากลิ้นวัวของขึ้นชื่อจากเซนได ป้ายหน้าร้านก็ดูเหมือนจะมีได้เหรียญรางวัลอะไรสักอย่างติดอยู่ด้วย (จขบ ไปติดอกติดใจติดหนึบกับ 牛タン Gyu-tan ของเซนไดเอามากๆจาก ทริปนี้ ณ เดี๋ยวนี้ยังร่ำๆอยากหาเรื่องไปเที่ยวแถวนั้นเพียงเพราะอยากไปกินร้านนั้นอีก แบบว่ามันอร่อยติดตรึงใจจริงๆ >,< )


ร้านนี้อยู่ตรงสี่แยก Ueno-hirokoji มีป้ายร้านวางอยู่ตรงฟุตบาทเลยหาร้านเจอได้ไม่ยาก เข้าหลืบเล็กๆตรงป้ายโฆษณาร้านเดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงหน้าร้านแล้ว แต่พวกร้านแนวญี่ปุ๊นญี่ปุ่นดั้งเดิมนี่ยังไงก็ไม่รู้ ปิดร้านเร็วกันทุกร้านเลย ประมาณ 2-3 ทุ่มก็ปิดกันหมดแล้ว จขบ เองก็แห้วมาหลายหนกว่าจะมาได้ทันกินก่อนร้านจะปิด


เข้าร้านมาตกใจเล็กน้อยว่ามีเราเป็นลูกค้าคนเดียวเลย (คือ ไปตอนใกล้ได้เวลาปิดร้านแล้วด้วย) ราคาแต่ละเมนูก็ไม่ได้แพงมากมาย(แต่แน่นอนว่าแพงกว่า อาหารในโรงอาหารและ lawson ที่กินประจำ) ไหนๆวันเกิดทั้งทีขอกินดีหน่อยเลือกเป็น 定食 Teishoku อันที่ดูน่ากิน(แพง)สุด ก่อนเข้าร้านเช็คเงินที่เหลือในกระเป๋าตังค์เรียบร้อย ชุดละประมาณ 2000 เยนนี้ยังเหลือเงินพออยู่ โอเคๆ หน้าตาของของกินฉลองวันเกิด จขบ ก็เป็นฉะนี้


ดูไฮไลท์ลิ้นวัวกันชัดๆ เทียบกับร้านที่เคยกินที่เซนไดอันนี้ดูจะแนวเรียบๆดั้งเดิมกว่า แล่มาเป็นแผ่นๆอย่างนี้นึกถึงตับมากกว่าลิ้นวัวซะอีกนะเนี่ย ส่วนรสชาตินั้นก็อร่อยโอเคเลยล่ะ แต่รสจะไม่เข้มข้นเท่าร้านที่กินที่เซนได อันนี้จะปรุงรสมาอ่อนกว่าประมาณว่าต้องค่อยๆกินเพื่อซึมซับรสชาติความอร่อย ก็แล้วแต่ใครชอบแบบไหนนะ ส่วน จขบ เป็นคนชอบทานรสจัดๆก็เลยจะชอบการปรุงรสแบบร้านแนวสมัยใหม่ที่เคยกินที่เซนไดมากกว่า (แต่อันนี้ก็อร่อยนะ แถมใกล้บ้านด้วยมากินได้ตลอดเวลา)


มื้อเย็นก็ทานไปแล้ว ก็ต้องตบท้ายด้วยเค้กวันเกิดมันถึงจะครบสูตร ซึ่งตรงนี้ขอแอบเม้าส์คุณแฟนนิดนึง เค้าเพิ่งสารภาพก่อนวันเกิดไม่กี่วันว่าจริงๆปีนี้เค้ากะจะทำเซอไพรซ์ จขบ เสียหน่อย กะว่าจะลองใช้บริการส่งเค้กเซอไพรซ์ของญี่ปุ่น(เดาว่าคงสั่งทางเน็ตจากไทยได้)ส่งเค้กวันเกิดมาให้ จขบ ถึงบ้านเลย แต่คิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ ซึ่งก็ฟังดูแล้วก็ได้แต่พยักหน้าตามหงึกๆหงักๆ ว่า อือ นะมันคงไม่เวิร์คจริงๆนั่นล่ะ แทนที่จะเซอไพรซ์ให้ดีใจ จะกลายเป็นเซอไพรซ์ให้ตกใจกลัวซะมากกว่า

หนึ่งคือ บริการเนี้ย เค้าจะต้องมีการโทรมาถามคนรับ(ก็คือ จขบ นี่ล่ะ)ก่อนว่า ณ วันที่เท่านี้ๆนี่จะอยู่บ้านไหม แต่ด้วยความที่มันต้องเป็นเซอไพรซ์ดังนั้นเค้าก็จะไม่บอกเลยว่าใครเป็นคงสั่ง หรือเค้าคือบริการอะไรยังไง แล้วคิดดู อยู่ๆ จขบ มีคนญี่ปุ่นที่ไหนไม่รู้โทรมาหา แถมมาถามอีกว่าวันนั้นวันนี้จะอยู่บ้านหรือเปล่า ใครมันจะไปยอมตอบล่ะเนอะ ขโมยโทรมาดูต้นทางหรือเปล่าก็ไม่รู้ จขบ ยิ่งอยู่บ้านคนเดียว แถมห้องก็เคยมีประวัติโดนขโมยขึ้นมาแล้ว จนบัดนี้ยังแอบผวาไม่หายอยู่เป็นระยะๆ

แล้ววันส่งของอีกล่ะ ปกติ จขบ ถือคติไม่เปิดประตูให้ใครทั้งสิ้น ไม่เปิดโอกาสให้เค้าแนะนำตัวด้วยซ้ำว่าเค้าคือใครมาจากไหน ยกเว้นว่าจะรู้กำหนดอยู่ก่อนว่าจะมีของมาส่งหรือมีใครจะมาถึงจะยอมเปิด (ก็คุณแฟนนั่นล่ะ ที่สอนมาแบบนี้) ดังนั้นถึงวันส่งเค้กจริง ต่อให้ จขบ อยู่บ้านก็เถอะก็คงไม่เปิดรับอยู่ดีนั่นล่ะ เห็นว่าบริการนี้เค้าจะมีการมาส่งซ้ำให้อีกครั้ง(หรือสองครั้ง?) ถ้าไม่มีใครรับสักครั้งก็จะเลิกไม่ส่งให้แล้ว แล้วของที่ส่งมันก็เค้กอ่ะนะเก็บไว้หลายๆวันได้ซะที่ไหน

วิธีเดียวที่จะทำให้ จขบ ยอมเปิดประตูรับของ คือต้องบอกความจริงมาเท่านั้น ว่าคุณแฟนใช้บริการส่งเค้กมาเซอไพรซ์วันเกิด ซึ่งถ้าบอกมาซะอย่างนั้นมันก็ไม่เซอไพรซ์แล้ว คิดสารตะดังนี้แผนเซอไพรซ์ของคุณแฟนก็เลยโดนพับเก็บไปโดยปริยาย แต่ก็นะ จขบ ก็แอบปลื้มใจอยู่ดี ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดได้อยู่เหมือนกัน

แห้วเค้กเซอไพรซ์ของคุณแฟนไปแล้ว ก็ทดแทนเอาด้วยเค้กก้อนเล็กๆสักก้อนหนึ่ง (จัดการซื้อเองกินเอง ฉลองให้ตัวเองเสร็จสรรพ) ซื้อจากร้านประจำ(ที่ท่าทางว่าจะดัง)สั่งเป็น Short Cake แบบเดิมๆเหมือนที่เคยกินตอนคริสมาสต์ปีก่อน (อ่านได้ ที่นี่) แต่ยังไงไม่รู้ทั้งๆที่เค้กก็ร้านเดิม Short cake เหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าหนนี้มันไม่อร่อยเท่าหนก่อนเลยอ่ะ รู้สึกว่าทั้งครีม ทั้งสตรอเบอรี่ ทั้งเนื้อเค้ก มันไม่เข้มข้นเท่าอันที่ขายตอนคริสมาสต์เลย (แต่คิดอีกทีอันที่ขายตอนคริสมาสต์เค้าก็ขึ้นป้ายว่าเป็น Special Short Cake หนินะ)


เรื่องของกินฉลองวันเกิดสั้นๆก็จบลงเพียงเท่านี้ side story อีกเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน จขบ ก็ไปแล็บเหมือนปกติ ขากลับก็เลยไปแวะซื้อพวกของใช้ในบ้านที่หมดจาก ドンキホーテ Donkihote แถวบ้านสักหน่อย ซึ่งเรื่องมันก็ไม่น่าจะมีอะไร(อยู่ญี่ปุ่นนี่ เดินไปไหนมาไหนตอนกลางคืนประจำ) จขบ ก็เสียบหูฟัง ฮัมเพลงเดินหาของอยู่แผนกน้ำยาซักผ้าและทิชชู่ใช้ในห้องน้ำ(กำลังยืนคิดเลขในใจอยู่เลยว่าทิชชู่แพ็คไหนคุ้มสุด) ไม่ได้มีความคิดจะมาเช็คเรตติ้งอะไรกันตรงนี้เล้ย แต่อยู่ดีๆก็มีฝรั่งที่ไหนก็ไม่รู้มาทัก(ภาษาอังกฤษ)และชวนไปกินข้าวด้วย (จะห้าทุ่มอยู่แล้วเนี่ยนะ) ด้วยความที่ไม่ทันคิดก็ดั๊นเผลอตอบภาษาอังกฤษไป

ผลคือซวยเลย เค้ารู้ว่าเราพูดอังกฤษได้เลยเดินตามเซ้าซี้ถามโน่นนี่อยู่นั่นล่ะ (แต่ก็คำถามทั่วๆไปนะ ไม่ได้มีอะไรแปลก เสียมารยาท หรือน่าสงสัยเป็นพิเศษ) พยายามไม่สนใจไม่หันไปคุยต่อ เดินแยกไปซื้อของทางอื่นจนคิดว่าสลัดหลุดแล้วก็ค่อยเดินช้อปต่อสบายอารมณ์เหมือนเดิม ตอนออกมาหน้าร้านก็มองซ้ายมองขวาแล้วนะว่าปลอดภัย ก็เลยมุ่งหน้ากลับบ้านเลย

ที่ไหนได้ อยู่ๆฝรั่งคนนั้นขี่จักรยานโผล่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาทัก จขบ อีกแล้ว T_T อีกแค่ประมาณสองบล็อคก็จะถึงบ้านอยู่แล้วแท้ๆ แถมเวลาก็นะ ห้าทุ่มกว่าๆ จากที่น่าจะเป็นเรื่องน่ารำคาญธรรมดาก็ชักจะเริ่มไม่ธรรมดาเสียแล้ว เริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆแล้วเนี่ย เพลงเพลิงอะไรก็เลิกฟัง คิดแต่ว่าจะทำไงเค้าถึงจะไปๆซะที ยิ่งเดินก็ยิ่งเข้าใกล้บ้านเราเข้าทุกที

ซึ่งท่าทาง จขบ ก็คงแสดงออกไม่เบาล่ะว่าไม่ชอบที่เค้ามาตาม แล้วพยายามชวนคุยอยู่นั่นล่ะ (โธ่ เห็นใจกันหน่อย ผู้หญิงคนเดียวนะ มาโดนผู้ชายที่ไหนไม่รู้เดินตามตอนดึกๆอย่างนี้ เป็นใครใครก็กลัวทั้งนั้นล่ะ) นึกอยู่แต่ว่ายังไงก็จะเดินเข้าบ้านทั้งๆที่โดนตามอยู่อย่างนี้ไม่ได้ ถ้าเค้าไม่เลิกตามจริงๆมีทางเดียวคือต้องเดินกลับไปมหาลัย

ในที่สุดเค้าก็ยอมแยกไปจนได้หลังจากเดินตาม จขบ มาซะตั้งไกล เห็นขี่จักรยานย้อนไปทางเดิมที่เดินมา แสดงว่าที่เค้ามาทางนี้นี่กะตาม จขบ มาโดยเฉพาะเลยสิ จขบ ก็หลบมุมแอบดูจนเห็นว่าทางสะดวกแล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้านไปเลย เฮ้อ เล่นเอาใจหายอยู่ได้เป็นสิบนาที

ซึ่งถ้าจะว่ากันจริงๆนี่ฝรั่งคนนั้นเค้าก็ไม่ได้ดูน่ากลัวหรือน่าสงสัยอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ ถ้าเรื่องมันเกิดตอนกลางวันที่ไหนสักแห่งที่ไม่ใช่แถวประตูหน้าบ้านตัวเอง จขบ ก็คงไม่นึกกลัวซะขนาดนั้นหรอกเนี่ย ที่จริงเค้าก็มีถามประมาณว่า "ท่าทางเราไม่ชอบให้ใครมาเดินตามอย่างนี้ใช่มั๊ย" ถามตรงเราก็ตอบตรงเช่นกันว่า "ใช่" แบบว่า ณ ตอนนั้นความกลัวมันมากกว่าจนไม่คิดจะมามัวระวังเรื่องพูดจาเสียมารยาทไปซะแล้ว จะว่าไปเค้าก็ดูเข้าใจอ่ะนะว่าโดนอย่างนี้ใครจะกลัวมันก็ธรรมดา สุดท้ายเลยยอมจากไปโดยดี (แต่ถ้าจะให้ดีกว่า ก็ไม่น่ามาตามแต่แรกเลยนะ ปฏิเสธไม่คุยด้วยหนเดียวก็น่าจะเข้าใจกันแล้ว)

---------------------------------------------------------------

ภาพทั้งหมดถ่ายง่ายๆด้วย iPhone 3GS ย่อ USM และใส่โลโก้ด้วย PS

>> คลิกเพื่อดูรายการบล็อคอัพใหม่ทั้งหมด



Create Date : 22 กันยายน 2553
Last Update : 3 ตุลาคม 2553 1:29:47 น. 4 comments
Counter : 1634 Pageviews.

 
อยากกินเค้กกกกกกกก


โดย: นกเผือก วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:19:14:46 น.  

 
ถึงจะไม่ได้เช็คแต่ก็ได้เรท SSS ไปแล้วนะครับ ^ ^


โดย: kirofsky วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:10:59:00 น.  

 
อันหลังนี่น่ากลัวจริงจังนะคะเนี่ย

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ


โดย: pikzy วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:11:02:59 น.  

 
เค้กน่าหม่ำๆ
พึ่งรู้ว่ามี stalker ด้วย @_@


โดย: Ping IP: 61.90.119.229 วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:8:31:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

White Amulet
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ

เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ

ค้นหาทุกสิ่งอย่างในบล็อคนี้

New Comments
Friends' blogs
[Add White Amulet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.