แต่ก่อน ผมไม่รู้ว่า จะมี ระบบเกษียณ ไปทำไม เพราะ ถ้าคุณมองไปยังบริษัทฯ เอกชน ใหญ่ๆ จะเห็นว่า มีแต่หนุ่มสาวทำงานกัน บริษัทฯเปิดมา 20-30 ปี จะมีคนที่อยู่นานเท่าที่อายุของบริษัทฯ ยกเว้นเจ้าของบริษัทฯแล้ว คงหาได้ยากมากๆ คนที่อยู่ทำงานได้จนเกษียณ แสดงว่า คนนั้นมีศักยภาพจริงๆ หรือ ไม่ก็อึดและทน อย่างมากๆ เพราะ ระบบเอกชน ต้องการพนักงานที่มีศักยภาพ และทำงานให้ได้มาก
แต่เนื่องจาก คนยิ่งอยู่นาน ก็ยิ่งได้เงินเดือนเยอะ ยิ่งรู้ทางหนีทีไล่ มีลูกล่อลูกชนเยอะ ก็จะยิ่งหาทางลดงานของตัวเองลง เมื่องานไม่เพิ่มขึ้น เงินเดือนก็ไม่เพิ่ม หรือ อาจจะต้องเพิ่มก็เพิ่มเพียงเล็กน้อย ถ้าคนที่สามารถทนการเพิ่มเงินเดือน ที่น้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อได้นานๆ ก็เท่ากับว่า เขากำลังลดเงินเดือนเขาลงทีละนิด แต่ตัวเลขเพิ่มขึ้น และ เด็กรุ่นใหม่ก็ได้รับเงินแซงหน้าเขาไป สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้คนที่มีอายุงานมากๆ อยู่ในองค์กรได้ยาก ถ้าอยู่ได้แสดงว่า เก่ง หรือ ไม่ก็ ทนสุดๆ
แต่เมื่อผมเข้าระบบราชการ ผมพบว่า การมีระบบเกษียณ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะ การที่เอาไม้ตากซาก มาอยู่เฉยๆ เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรถดถอย บางคนไม่ยอมอยู่เฉย กลับสร้างปัญหาโดยการยึดติดกับการทำงานเก่าๆ ไม่พัฒนาเลย หรือไม่ก็ เกษียณ ออกไปแล้ว แต่ก็หาทางกลับมาเป็นที่ปรึกษาในหน่วยงานต่างๆ หรือ สำนังานฯ(องค์การมหาชน) ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่มากนัก หรือ ยังคงใช้อำนาจเหมือนที่ตนเองเคยได้รับก่อนเกษียณ อีก ทำให้ผมเข้าใจว่า ระบบเกษียณ เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มี ระบบอุปถัมภ์ ยังคงเป็นคานงัดอยู่ดี...
พอผมเข้าไปอยู่ในวงการการศึกษา ผมได้เห็น ผู้อาวุโสหลายๆท่าน มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ที่ท่านได้สะสมไปอย่างดี การเกษียณของท่านเท่ากับการขาดทรัพยากรบุคคลคุณภาพไป เด็กใหม่ๆ ไม่สามารถสู้ได้เลย ซึ่งกว่าจะสู้ได้ก็คงต้องเสียเวลาอีก 10-20 ปีเป็นแน่... ความรู้อาจจะเรียนตามกันทัน แต่ประสบการณ์ของท่าน ลูกเล่น และ แนวทางการสอนของท่าน ไม่ใช่สิ่งที่เด็กๆรุ่นใหม่จะเข้าใจและเรียนรู้กันได้อย่างรวดเร็ว...
เมื่อผมคุยกับผู้อาวุโสหลายๆคน พบว่า ผู้อาวุโส ส่วนใหญ่เป็นโรคซึมเศร้า เหงา และ ปรับตัวยาก หรือ ความรู้ความสามารถของเขาได้ใช้ไปกับการทำงานเฉพาะด้าน เงินที่ได้มา เอามาลงทุนก็ขาดทุน จนเงินที่ได้รับมาหมดไป ก็มีหลายท่าน ระบบงานในปัจจุบัน จึงต้องใช้ "เวลาของชีวิต" เพื่อแลกมาเป็น รายได้ต่อเดือน โบนัส และ สวัสดิการ การแบ่งงานอย่างเป็นระบบ เป็นการฆ่าพนักงานทางอ้อม...
ดังนั้น การต่ออายุพนักงานที่เกษียณ ผมคิดว่า คงต้องแยกแยะเป็นรายๆไปว่า ควร เหมาะสม หรือ คุ้มค่า มากน้อยเพียงใด มีผลกระทบต่อระบบงาน การทำงาน และ นวัตกรรม มากน้อยเพียงใด และ คิดว่าคุ้มค่ากับองค์กร หรือ ต้องการให้ผู้สูงอายุได้มีงานทำ ได้มีเงินใช้ ผมว่า ก็ให้งานเขาไปทำเถอะ แต่ถ้ารับมาแล้ว มีเสีย มากกว่า ได้ ก็คงต้องพิจารณาให้ดีครับ...