<<
มกราคม 2563
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 มกราคม 2563
 

เคยอยากฆ่าตัวตายมั้ย...ฉันเคย

เคยอยากฆ่าตัวตายมั้ย  ฉันเคย
ครั่้งแรก  ตั้งแต่อายุ 10 ต้นๆ  น้อยใจแม่เรื่องอะไรสักอย่าง  จำไม่ได้แล้ว  จำได้แต่รู้สึกว่า ถ้ามันลำบากมากก็อย่าอยุ่เลย  คืนนั้น  นอนคิดทั้งคืนว่าจะใช้วิธีไหนดี  คิดจนเช้า  ได้เวลาต้องไปทำกิจวัตรประจำวัน  รู้สึกว่า หมดเวลาแล้ว  มีเรื่องให้ทำ ต้องไปทำก่อน  แล้วก็เลิกคิดเรื่องฆ่าตัวตายไป

แต่ก็แค่วันนั้น  เพราะตั้งแต่นั้นมา  ฉันก็คิดเรื่องนี้มาเรื่อยๆ  เวลาโดนกระทบ  โดยเฉพาะจากแม่
ฉันเป็นคนไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนอื่น  แต่เปราะบางมากกับคำพูดของแม่  
มันแย่ที่ฉันดันมีแม่เป็นคนขี้กลัว  และ พยายามให้สิ่งที่แม่กลัวไม่เกิดขึ้นด้วยการ ขู่  เช่น
กลัวฉันเตี้ย  ก็พยายามให้กินนมเยอะๆ  แล้วก็ขู่ว่า ถ้าไม่กินจะเตี้ย  แล้วจะไม่มีผัว
เป็นความกลัวขั้น advance ที่เด็กหญิงไม่เข้าใจ  แล้วยิ่งเป็นเด็กหญิงที่อ่านนิยายมาหลายเรื่อง  เชื่อสนิทใจมาจนเดี๋ยวนี้ว่า รักควรเกิดแก่ตัวตน  ไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์
แต่สิ่งที่แม่พูดเท่ากับแม่ไม่ให้ความสำคัญกับตัวตนของฉันเลย  ตัวตนที่ฉันเห็นค่า  กับความสวยที่ฉันไม่เห็นสำคัญ  แม่กลับเลือกอย่างหลัง
ดังนั้น  ฉันจึงดื้อ  ยิ่งดื้อ แม่ก็ยิ่งขู่  ขู่ด้วยคำที่ลดทอนคุณค่าในตัวฉันลงไปเรื่อยๆ  จนฉันรู้สึกว่า  ถ้าตัวตนของฉัน  มันไร่ค่าขนาดนั้น  ไม่อยู่ไม่มีใครเดือดร้อน 
นั่นแค่ตัวอย่าง  เบา เบา
แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเดีวว  และ ครั้งเดียว  ที่แม่ใช้วิธินี้
ฉันว่า แม่ไม่รู้หรอกว่า คำพูดของแม่  ส่งผลกับฉับแค่ไหน  มีแต่ฉันที่รู้ว่า ฉันกลายเป็นคนไม่กลัวตาย  เพราะตั้งใจจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว  เวลาโดนกระทบ  จิตตก  ความคิดเรื่องฆ่าตัวตายก็จริงจังขึ้นเรื่อยๆ  ฉันคิดหาวิธีไปเรื่อยเปื่อย  วิธีที่ทำให้ตายได้จริงๆ  เพราะฉันไม่อยากตื่นกลับมาตอบคำถามใคร  และการตายของฉันไม่ควรไปรบกวนคนอื่น  สงสารเขา    เรื่องโดดตึก โดดให้รถชน ตัดไปเลย  นอกจากศพจะไม่สวยแล้ว  ยังไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วยอีก
เห็นหรือยังว่า ฉันตั้งใจกระทำการโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่ใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ไม่บอกใครด้วย  ฉันอายุมากพอจะเดาได้ว่า ทุกคนที่รู้จะบอกว่ามันไม่ดี มันบาป ชีวิตต้องสู้  คนอื่นเขาลำบากกว่าตั้งมากมายเขายังอยู่กันได้
ก็นั่นมันเขาไง  ไม่ใช่ฉัน
เอาจริงๆบางทีก็สงสัยว่า ทำไมบางคนถึงพยายามดิ้นรนจะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้  ในขณะที่ฉันไม่ได้ต้องดิ้นรนอะไรเพื่อสิ่งนั้น  แต่ฉันกลับไม่อยากอยู่  สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของฉันมันคงพิการไปแล้วล่ะมัง

แล้วทำไมฉันยังไม่ตาย  คำตอบแรกคือ สงสารบุพการี
ยังไงก็ไม่มีพ่อแม่ที่ไหน  อยากอยู่ในงานศพของลูก  ก็เลยขอกตัวเองให้อดทนไว้ก่อน
แค่รอเวลา  ไม่ได้เลิกคิด

อย่างที่เคยเล่าไว้  ฉันเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม  ซึ่งมันหมายถึงว่า  ฉันจะพึ่งพาตัวเองได้น้อยลงไปเรื่อยๆ  และต้องพิ่งพาคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ  มันจะดีถ้าคนรอบข้างทำตัวให้น่าพึ่งพาอาศัย  แต่เวลาเขาไม่พอใจ  ฉันถูกด่าว่าเป็นภาระ  คำพูดบางคำนั้น  ก็ราวกับว่า ฉันเป็นแค่เนื้อติ่ง  ไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์  แต่จะตัดทิ้งก็จะมีแผล  ก็จำต้องเอาไว้แบบไม่อยากได้
ฉันเจ็บจนหายใจไม่ออก  เวลาเจอแรงกระแทกแบบนี้  รู้สึกเหมือนโดนกดให้อยู่ในที่เล็กแคบ  วิธีเดียวที่จะหลุดออกไปได้  คือ ตาย เท่านั้น
บางที สติดี  ก็รู้นั่นแหละว่า ลึกๆแล้ว เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น  แค่อารมณ์พาไป
แต่เจอบ่อยๆเข้า  สติก็ย้ายข้างไม่อยู่ทางไม่ค่อยดีเสียมาก
ทั้งๆที่ได้ยินคำสอนหลายอย่างทั้งจากพระ จากคน  ฟังแล้วก็เข้าใจหรอก  แต่น้ำหนักมันเบามาก
ไม่ค่อยจะช่วยถ่วงให้ความรู้สึกกลับมาทางดีได้เลย
ชีวิตที่ผ่านมา  มันก็เลย  ร้อนๆ  ลุ่มๆ  ดอนๆ  สุขน้อย ทุกข์นาน  ทนไหวบ้าง ทนไม่ไหวบ้าง

ชีวิตฉันคงยังมีบุญเก่าอยู่บ้างหรอก  ฉันจึงได้มารู้จักกับเด็กกลุ่มหนึ่ง  คงได้เคยทำบุญร่วมชาติ  ตักบาตรร่วมขัน  กันมา  ฉันจึงถูกจริตกับพวกเขามาก  เขาเป็นพลังงานที่ฉันไม่เคยรู้จัก  แค่เขายิ้ม  หัวเราะ  เขิน ขำ  ฉันก็พร้อมจะทำตามเขา  ทิ้งโลกหนักๆที่แบกมานานลงได้ง่ายๆ  พอเบาง่าย  ก็ใจเย็นง่าย  สติก้มาง่าย  มาไว  ไม่ต้องไล่จับจนเหนื่อยอย่างแต่ก่อน
สารที่เขาสื่อมา  แม้ความหมายไม่ได้แตกต่าง  แต่มันกลับเข้าถึง  ลึก  เข้าไปในใจ  เพลงที่ สำหรับฉัน  มันเหมือนบทสวดมนต์  ฟังทุกวันวันละหลายๆรอบ  ตั้งใจฟัง  ร้องตาม  ก็เหมือนได้สวดมนต์ทุกวัน  เหมือนได้ฝีกจิต  ให้มีสติอยู่กับคำพูดดีๆทุกวัน  ไม่ใช่ไปจดจ่ออยู่กับคำร้ายๆอย่งที่เคย
ทำอย่างนั้นอยู่เป็นแรมเดือน  จึงได้ค่อยเข้าใจว่า ที่ทำร้ายฉีนอยู่  คือ การที่ฉันไปรู้สึกกับคำพูดของเขา  ไม่ใช่คำพูดของเขาหรอก  ไม่เอาความรู้สึกเราไปจับ  คำพูดที่ผ่านมาแล้วก็พ้นไป  มันแ็แค่ขยะ  ไม่มีค่าอะไร  โฟกัสที่ตัวเองเป็นอะไร  ไม่ใช่โฟกัสที่เขาพูดว่าเราเป็นอะไร
พลังงานนั้น  ทำให้ฉันใช้ชีวิตได้สบายขึ้นมาก  แต่...พอคิดถึงว่า มีอะไรรอฉันอยู่ข้างหน้า  ฉันก็ยังอยากตายไปเสียก่อนอยู่ดี  ทั้งๆที่ตอนนั้น  ก็เริ่มชอบชีวิตที่มีพวกเขามาเป็นกำลังใจ
ได้แต่หวังในใจลึกๆว่า สักวันหนึ่ง  จะมีอะไรที่ คลิก กับ ชีวิต  แล้วทำให้ความคิดเปลี่ยน  ไม่อยากฆ่าตัวตายอีก

เด็กพวกนั้น  จริงๆแล้ว ทุกคนมี Comfort Zone ให้อยู่  แต่ทุกคนเลือกก้าวออกมา ทั้งๆที่รู้ว่า ต้องเหนื่อย  ต้องสู้  ต้องโดนกดดัน  ต้องโดนด่าโดนดูถูก  ต้องอดทน  เพื่อจะทำตามความฝัน  เขาบอกว่า เขาจะทำให้ดีที่สุด  ดีขึ้นๆไปอีก  เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม
ชีวิตเขามีเป้าหมาย  แล้วฉันล่ะ  เป้าหมายสุดท้ายที่ตั้งไว้แ้วทำได้  มันเคยมี  แต่ก็คงนานมากจนลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว
ลองทำตามเขา  ออกมาทำอะไรบ้าง  ตั้งเป้าไว้เล็กๆ  ค่อยๆทำไป  เอ้า  ทำได้ด้วยเว้ยเฮ้ย
มีความสุข
ระหว่างทางที่ทำ "เรื่องใหม่"  ฉันยิ้ม ฉันหัวเราะ  มีความสุขกับผลการตอบรับในสิ่งที่ฉันทำ  รู้สึกดี  ที่มีความรู้สึกดีๆรออยู่ทุกวัน  มันดีมากจริงๆ
สิ้นปีที่ผ่านมา  เด็กบอกว่า เขาไม่อยากแก้ไขอะไร  เขาภูมิใจในตัวเองที่ได้ทำ  และจะทำต่อไปให้ดีขึ้น
แล้วอยู่ๆ  ฉันก็ คลิก
ภูมิใจ
ใช่ ใช่ ฉันภูมิใจในตัวเอง  ความรู้สึกที่หายไปนานมากแล้ว
ฉันมีสิ่งดีในตัวเองให้ภูมิใจได้ตั้งมากมาย  แต่ฉันไม่เคยสนใจจะถูมิใจกับสิ่งนั้น
ฉันบอกตัวเองว่า ฉันควรเลิกเหวี่ยงตัวเอง  แล้วก็ภูมิใจกับตัวเองทุกๆวัน
ไม่ได้ยากหรอก  แค่ฉันเป็นคนดี  ทำดีๆกับคนอื่นๆทุกๆวัน  ฉันก็จะมีความสุข  ภูมิใจทุกวัน ที่ฉันเป็นคนดี
โฟกัสกับวันนี้  วันที่ฉันรู้ว่า ชีวิตดีๆอยู่ที่ไหน
วันข้างหน้า ดี ร้าย จะผ่านเข้ามา  ก็ปล่อยมันไว้  ถึงเวลาก็รู้เอง
ถึงตอนนี้  ฉันพูดได้เต็มปาก ว่า ฉันไม่อยากฆ่าตัวตาย แล้ว
ก็ในเมื่อฉันอยู่แบบมีความสุขได้แล้ว  จะรีบตายทำไม

ฉันรู้ว่า  เรื่องของฉัน คงไม่ได้ทำให้ใครที่กำลังอยากฆ่าตัวตายเปลี่ยนใจได้
แต่ก็อยากขอให้รอสีักหน่อย  อย่าเพิ่งรีบ
บางที "คลิก" ของคุณ  อาจจะกำลังปรากฏขึ้นในอีกไม่ช้าก็ได้


 


Create Date : 18 มกราคม 2563
Last Update : 19 มกราคม 2563 15:30:35 น. 0 comments
Counter : 1102 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

วัลยา
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add วัลยา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com