เสียเจ้า สามครั้ง
๏เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย......(ที่เหลือหาอ่านเอาเองนะครับ)

   ข้างต้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งในบทกวี เสียเจ้า ของท่าน อังคาร กัลยาณพงศ์ ครั้งแรกที่อ่านบทนี้จำได้ว่า มันอยู่ในวิชาภาษาไทย อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ แถมต้องแคะต้องคุ้ยให้ได้ว่า มันตีความอย่างไร กวีมีความรู้สึกอย่างไร อธิบายออกมาเพื่อแลกคะแนนในชั้นเรียน ซึ่งก็ทำออกมาได้....แย่มาก ผมจำได้ว่าผมตอบครูไปว่า กวีท่านนี้คงไม่เต็มเต็ง แสดงความโกรธแค้นมาจนเกือบจะจบอยู่แล้ว แต่ดันมาให้เจ้าเหยียบเล่นตอนสุดท้ายเสียอย่างนั้น ก็ไหนว่าจะไม่เจอกัน ไม่อยากเห็น ฯลฯ ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจแนวเกรียนๆของผมตอนสมัยเป็นเด็ก และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอ เสียเจ้า

   จวบจนผมมีแฟนคนที่สอง และมีอันต้องเลิกรากันอย่างที่ผมไม่คิดว่าตัวผมจะเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิต จำได้ว่ากลับไปที่มหาวิทยาลัยเก่า แล้วรอเพื่อนเพื่อไปกินข้าวกัน มีหนังสือรวมบทกวีของท่านอังคารฯ วางขาย ผมเองไม่ได้นึกถึงกวีบทนี้ด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะผมชอบลายเส้นการวาดรูปของท่านมาก เลยจับพลิกไปเรื่อยๆ ประมาณว่าดูแต่ภาพนั่นแหละครับ แล้วบังเอิญว่ามันมาสะดุดที่เสียเจ้า ผมอ่านบทนี้จนจบสองรอบ แล้วก็กวาดตามองกลอนบทนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้อ่านอีกเลย อยู่พักใหญ่ ในหัวผมคิดถึงแต่เรื่องความรักที่ล้มเหลวในครั้งที่สองขึ้นมาทันที ทั้งที่จริงมันก็ผ่านมานานแล้ว แต่ทุกบาท ทุกบรรทัด มันช่างกระแทกเข้าไปถึงจิตใจผม หนักอึ้ง หดหู่ แปลกตรงที่ผมรู้สึกว่ามันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ ทุกสิ่งอย่างมันชัดขึ้นมา ทั้งโกรธ แค้น รัก และ เจ็บปวด ผมเพิ่งมารู้ตัวเองว่า ผมไม่เคยปรกติเลยหลังจากที่ต้องเลิกรากับเธอคนนั้น เพียงแต่ตัวเองยังไม่รู้ตัว เมื่อมีสิ่งมากระทบและมันยินตรง แรง เข้าสู่ส่วนที่อยู่ลึกในจิตใจ ผมก็ไม่อาจจะปิดบังจากตัวผมเองว่า ชีวิตผมมไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลยนับแต่วันนั้น

ผมมาได้อ่านเสียเจ้าอีกครั้ง เมื่อสองอาทิตย์ก่อน จากกิจกรรม challenge ส่งต่อปกหนังสือ ในเฟสบุ๊ค เพื่อนผมขอ Challenge เจ็ดวัน เพื่อนผมส่งหนังสือกลอนของท่านอังคารฯมาให้ ครั้งแรกที่เห็นปกผมก็ เสียเจ้า อีกแล้ว ปกหนังสือไม่ได้สื่อถึงกวีบทนี้เลยครับ แต่ในหัวผมมันคิดไปเอง คิดไปถึงบทกวีนี้อีกครั้ง ก็เสิร์ชหาใน google นี่แหละ อ่านอีกครั้ง คราวนี้ผมไม่รู้สึกอะไรแล้วนะ ผมอ่านด้วยความรู้สึกปกติ ราบเรียบ อ่านจนจบสองรอบเหมือนเคย ไม่มีหน้าเธอลอยมา ไม่มีความแค้น ไม่มีโกรธ ไม่มีแม้แต่กระทั่งเกลียดด้วย รู้แต่แค่ว่า เอ..ตอนนี้เธอแต่งงานไปหรือยัง สบายดีหรือเปล่า สิ่งที่สัมผัสได้ตอนนี้เป็นความงามของภาษาที่อยู่ตรงหน้าผมเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเจือปนอีกแล้ว ผมค่อยๆแกะคำทีละคำที่ท่านฯเขียน และเข้าใจแล้วว่า กวีมีผลต่ออารมณ์คนก็ต่อเมื่อใจเรายังไม่คลายจากสิ่งนั้น มันก็เหมือนเพลง และ ภาพวาด ถ้าใจเราพร้อมจะเปิดรับ มันก็เข้ามาได้เร็วและแรง แต่ถ้าใจเราปิดตายไปแล้ว มันก็แค่ศิลปะที่น่ายกย่อง ทั้งการใช้คำ และการพรรณนาให้เราเห็นภาพพจน์ เมื่อเราผ่านมาทุกอย่างแล้ว มันก็จะเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น กาลเวลานี่สิแน่นอน โดยส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าเราจะแค้นใครไปได้ตลอด ถึงวันนี้เราจะทุกข์แสนสาหัสยังไง มันก็ต้องมีวันผ่านไปได้ เพียงแต่บางคนอาจจะช้าหน่อย  มันก็เท่านั้น




Create Date : 19 กรกฎาคม 2562
Last Update : 19 กรกฎาคม 2562 13:19:03 น.
Counter : 656 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณพันคม, คุณnewyorknurse

  
กี่ล้านความรักที่ว่าเลิศ
จะเกิดมากครั้งฤาไฉน
ครั้งเดียวก็ถมทั้งหทัย
สูญเจ้าเท่าเสียไปสิ้นทั้งปวง
โดย: พันคม วันที่: 21 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:55:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สระอะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]