Group Blog
 
 
ตุลาคม 2567
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 ตุลาคม 2567
 
All Blogs
 
กาพย์เห่เรือ ฝีพาย และการฝึกซ้อม

สุพรรณหงส์ทรงภู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม”

 

เมื่อพูดถึงบทเห่เรือ ที่ติดอยู่ในความทรงจำใครหลายคน โดยเฉพาะคาบวิชาภาษาไทย
ตอน ม.ปลาย กับกาพย์กลอนที่เราเคยทำความรู้จัก รวมไปถึงการสอบอ่านบทอาขยาน
หน้าชั้นเรียนแบบกลุ่ม สวมบทสมมติเป็นพนักงานเห่และฝีพาย กับการเกริ่นโคลง
และ
ร้องรับในจังหวะมูลเห่ หยิบยกมาจากพระนิพนธ์ของ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร(เจ้าฟ้ากุ้ง)
กวีแห่งยุคสมัยของกรุงศรีอยุธยา การหาต้นเสียงในการอ้างอิงความถูกต้องไม่ใช่เรื่องง่าย

บ้างก็เอื้อนเพี้ยน บ้างก็ลากเสียงกันผิดจังหวะ หรือเจอการไกด์ไลน์ที่ไม่ถูกต้อง
แล้ว
เถียงกันว่าตกหายไปจังหวะนึง ถึงเรื่องนี้จะเป็นสิ่งดูที่ไกลตัวไปหน่อย
ยกเว้นพวกที่ตั้งใจสอบเข้าทหาร อาจมีแพชชั่นฝันถึงในสักวันหนึ่ง ที่พวกเขาจะไป
เข้าร่วมคัดเลือกเป็นพลฝีพายฯ  แต่เชื่อว่านักเรียนไทย
สายสามัญ ต่างก็ต้องเคย
ผ่านการฝึกอ่านบทเห่เรือกันแทบทั้งนั้น

 

ในปีนี้ (2567) หลังจากมีประกาศอย่างเป็นทางการ เรื่องงานเรือพระราชพิธีฯ
ที่จะจัดช่วงเดือนตุลาคม เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 6 รอบ ของในหลวงรัชกาลที่ 10
และทางกองทัพเรือได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบหน้าที่นี้โดยตรง


ขั้นตอนการฝึก ครูฝึกฝีพาย การฝึกฝีพายบนเขียง ที่แยกฝึกตามหน่วยต่าง ๆ
ได้เริ่มกันมาตั้งแต่ช่วง
ต้นปี จนกระทั่งมาถึงขั้นตอนฝึกพายในน้ำ
บริเวณบ่อเรือแผนกเรือพระราชพิธี กองเรือ
เล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ
จึงได้ทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้กลุ่มจาก หน่วยงาน หมู่คณะ 

และประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าเยี่ยมชม

ที่ตั้งของสถานที่ฝึก กว่าเราจะหาเวลาเดินทางมาที่นี่ได้ ก็ช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ที่ตั้งของ กองเรือเล็ก 
พบว่าเคยมีกระทู้สอบถามการเดินทางยังสถานที่ดังกล่าวเยอะพอสมควร
(ทำให้เพิ่งรู้ว่ามี พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย)
บางคนก็มา
ทางสะพานปิ่นเกล้าและพบว่าเส้นทางค่อนข้างลึกลับ
ที่ง่ายสุดก็คือทะลุผ่าน รพ
.ศิริราชและข้ามสะพานอรุณอมรินทร์

 



⭗ ภาพที่ตั้งกองเรือเล็ก จากบนสะพานอรุณอัมรินทร์ 


รอบบ่ายของวันนั้น มีคณะเยี่ยมชมที่มาถึงก่อหน้ากำลังนั่งประจำที่กันอย่างเป็นระเบียบ 
ในเครื่อง
แบบทหารเรือสีกากีที่คุ้นตา ต่างไปจากที่เห็นในภาพข่าวรอบเช้าที่มักเป็นกลุ่มเด็กนักเรียน
วิทยากรกำลังเริ่มอธิบายถึง เรือพระราชพิธี จำนวนฝีพาย และความรู้เกี่ยวกับการเห่เรืออยู่พอดี
ไม่แน่ใจว่าท่านนี้เป็นหนึ่งในผู้ขับกาพย์เห่เรือด้วยมั้ย 
มาไม่ฟังช่วงบรรยายเริ่มแรก
เลยไม่ทันได้รู้ชื่อ ขณะนั้นเหล่าฝีพาย
ก็ได้นั่งเตรียมพร้อมอยู่บนลำเรือลอยน้ำที่ผูกโยงยึดไว้



 


ที่มาของภาพ เว็ปไซต์ พระลาน : Phralan.in.th
https://phralan.in.th//coronation/images/upload/images/Royal_Barge_Intro_008.jpg



รูปแบบการจัดตั้งริ้วขบวนเรือ
ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ปี
2567 นี้
อิงตามแบบแผนเดิมเหมือนครั้งล่าสุด (ปี 2562)

มีจำนวนเรือทั้งสิ้น 52 ลำ

จัดเป็น 5 ริ้ว โดยแบ่งเป็น 3 สาย กำลังพลฝีพายประจำเรือ 2,200 นาย
กำลังพลประจำเรือทุกริ้วขบวนมี ทั้งหมด รวม 2,412 นาย

 



⭗ พื้นที่การฝึก ที่บ่อเรือแผนกเรือพระราชพิธี กองเรือเล็ก เขตบางกอกน้อย


กาพย์เห่เรือ ถูกแบ่งออกเป็นสองแนวทาง
1. ทางกรมศิลปากร 
เน้นถึงความไพเราะ อ่อนหวาน ใช้เพื่อการแสดงหรือการละครเท่านั้น

2. ทางกองทัพเรือ มีจังหวะที่เน้นความเข้มแข็งและห้าวหาญ รูปแบบการเปล่งเสียงต่าง ๆ
ในบทเห่เรือ ใช้เพื่อกำกับจังหวะการพาย ให้เคลื่อนที่ไปตามที่ต้องการ


โดยประกอบด้วย โคลง 4 สุภาพหนึ่งบท และกาพย์ยานี 11
มี 4 จังหวะหรือทำนอง ดังนี้

1. เกริ่นโคลง : ส่วนนี้เป็นโคลง 4 สุภาพ หนึ่งบท เมื่อพนักงานเห่เริ่มเกริ่นโคลง
พนักงานพายจะอยู่ในลักษณะท่าเตรียมพาย ช่วงลำดับนี้ใช้เวลาประมาณ
2 นาที


2. ช้าลวะเห่ (ช้า-ละ-วะ-เห่) : เป็นการเห่จังหวะช้า ๆ และขบวนจะเริ่มทำการเคลื่อนที่
จังหวะนี้ขึ้นต้นคำว่า “เห่ เอ๋ย” เมื่อลูกคู่หรือฝีพายร้องรับก็จะพายเรือออกไปยังตำแหน่ง
ที่กำหนดไว้

 

3. มูลเห่ (มูน-ละ-เห่) : จะมีความไวกว่า ช้าลวะเห่ โดยจะแบ่งช่วงวรรคคำ
2 / 3 / 3 / 3 ลูกคู่หรือฝีพาย จะร้องรับว่า ชะ, ชะ, ฮ้าไฮ้
และ เฮ้ เฮ เฮ้ เฮ 
เฮ เห่ เฮ เฮ้ ฯ

 

การกำหนดให้มีความยาว-สั้นของ บทเห่เรือนั้นขึ้นอยู่กับระยะของขบวนด้วย
โดยที่รูปแบบปัจจุบันนี้จะเริ่มที่ ท่าวาสุกรี → วัดอรุณฯ เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
ประกอบกับจำนวนเรือที่มีทั้งหมด 52 ลำ รูปของขบวนเรือมีความยาว 1.2 กิโลเมตร
ความกว้างขบวน 90 เมตร บทมูลเห่อาจใช้เวลา 15 นาที ไปจนถึงหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
ตัวแปรของเวลาจะขึ้นอยู่กับ กระแสน้ำ กระแสลม ของแต่ละวันที่ทำการ
ซักซ้อม


4.สวะเห่ (สา-วะ-เห่) หรือ บทเก็บพาย : พนักงานเห่จะเริ่มบทนี้เมื่อขบวนเรือเคลื่อนมาถึง
ตำแหน่งก่อนถึง
ที่หมายระยะ 200 เมตร โดยจะขึ้นต้นว่า “ช้าแลเรือ”

 



⭗ วิทยากรผู้ทำหน้าที่บรรยายรายละเอียดเบื้องต้นในรอบบ่าย และบรรดาคณะเยี่ยมฯ
 



ภาพบางส่วน บริเวณบ่อซ้อมเรือ ตัวเรือจะยังคงใช้แบบผูกโยง เพื่อซักซ้อมท่าพายและสัญญาณ

⭗ โครงเหล็ก สำหรับวางในเรือพระราชพิธีตามลำต่าง ๆ ที่เป็นเหมือนกับหลังคา


ในวันนี้ยังคงเป็นการฝึกความพร้อมเพรียงของฝีพายจากบ่อฝึกซ้อมเรือ ในท่าทางต่าง ๆ
ทั้งท่านั่งประจำที่ การพายธรรมดา การพายท่านกบิน ท่าพลราบ ที่จะถูกใช้ตามประเภท
ของเรือ รวมไปถึง การวาด การคัด การขยับ การทวน ท่าสัญญาณและการใช้สัญญาณ


หลังจบคำแนะนำของวิทยากร ในลำดับถัดไปก็เป็นการสาธิตการเห่เรือประกอบการพาย
จากผู้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงานเห่ (ณ วันจริงตำแหน่งนี้ มีผู้ทำหน้าที่ 2 คน)
การเริ่มต้นนั้น ถูกนำด้วยเสียงของกรับพวง ที่เคาะเป็นจังหวะส่งสัญญาณต่อฝีพาย
กระทั่งหยิบไม้พายขึ้น
เตรียมตามขั้นตอน และเกริ่นโคลง ตามลำดับ



 

จำนวนของบทเห่ ในวันซ้อมนี้ยังคงไม่ได้ถูกใช้แบบเต็มฉบับ เพียงแค่เก็บทำนองทั้ง 4
เพื่อฝึกการพายตามจังหวะให้ครบ รวมถึงการร้องรับ ร้องทวน
ที่เหล่าฝีพายจะต้องทำหน้าที่เป็น
ลูกคู่ไปด้วย
ส่วนตัวคิดว่าจังหวะช้าละวะเห่ และสวะเห่ ค่อนข้างที่จะต้องใช้ความจำพอสมควร
แถมยังต้องคอยชะลอการพายให้ประสานไปกับเสียงที่ถูกกำกับไว้
เสียดายที่รอบนี้เอาที่
บันทึกเสียงใส่ในเป้ แล้วเดินไปมาตลอด 
กลายเป็นเสียงที่ขลุกขลัก ๆ ซะเยอะ เลยไม่
ได้ตัดเสียงมาลงประกอบตามที่คิดไว้





⭗ เตรียมพร้อม



⭗ ครูฝึก ยืนตรวจตราความพร้อมเพียง 



⭗ พ.จ.อ. พูลศักดิ์ กลิ่นบัว พนักงานเห่เรือ ที่เป็นต้นเสียงอ่านบทเห่ในวันนี้ 



⭗ มุมจากด้านหลัง ช่วงซ้อมรอบสอง ฝีพายกำลังยกไม้พายท่านกบิน ทำมุม 45ํ ํ 



⭗ ครูฝึก ที่คอยยืนกำกับอีกมุม 



 ท่าพาย ของเรือแต่ละลำที่ถูกกำหนดไว้ 
 

ในครึ่งแรกของบ่ายนี้ ถ้าไม่นับการบรรยายให้คณะเยี่ยมชม บทเห่เรือและการทวนท่าฝึก
ใช้
เวลาซ้อมราว 25-30 นาที (แต่ฝีพายก็ยังต้องอยู่บนเรือเพื่อรอซ้อมต่อ)
รอบครึ่งหลังเหลือผู้ชมแค่
ไม่กี่รายที่แวะเข้ามา ส่วนคณะเยี่ยมชมก็แวะไปชม 
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ที่ตั้ง
อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้กันต่อ
ในเวลานั้นยังคงมีเรือพระราชพิธีจัดแสดงอยู่ด้านใน
ส่วนเรายังสาละวน
อยู่ตรงบ่อซ้อมเรือ พอคนน้อยลงแล้ว เดินถ่ายรูปง่ายดี
(อย่าได้สงสัยว่าทำไมภาพบางส่วนถึงมีแต่เก้าอี้ขาว)

 ภาพประกอบบนบอร์ดที่ติดแจ้งการปฏิบัติขณะอยู่ในเรือพระราชพิธี

 

การฝึกซ้อมในน้ำกับเรือผูกโยงนี้ ถือเป็นขั้นตอนสร้างความคุ้นเคยกับเรือ
เนื่องจากงานพระราชพิธีนี้ไม่ได้ถูกจัดขึ้นบ่อยนัก อย่างครั้งล่าสุดคือ ปี 2562 นี่จึงอาจเป็น
ครั้งแรกของใครหลายคนที่ต้องมาหัดเรียนรู้ และถัดจากนี้กำลังพลฝีพายก็จะย้ายสถานที่
ไปฝึก
ยัง อู่ทหารเรือธนบุรี และใน แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเข้ารูปขบบวนและเดินทางเป็นรูปขบวน
ที่มีทั้ง
แบบซ้อมย่อย ไปจนถึงแบบเต็มรูปขบวนเสมือนจริง ในเดือนตุลาคมอีกสองหน

กำหนดการในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน
โดยขบวนพยุหยา
ตราทางชลมารค คือวันที่ 27 ตุลาคม 2567
หากนับตั้งแต่ต้นยุครัตนโกสินทร์มาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน

การจัดริ้วกระบวนเรือพระราชพิธีในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 30

 

เราคิดหาโอกาสกลับมาดูอีกครั้ง อยากเห็นผลลัพท์จากการฝึกที่ใช้เวลายาวนานหลายเดือน
ในรูปแบบเต็มชุด บรรดาเรือมีชื่อต่าง ๆ ที่เคยรู้จักจะถูกนำกลับมาโลดแล่นบน
แม่น้ำ
เจ้าพระยา เหล่ากำลังพล เจ้าพนักงานผู้ทำหน้าที่ต่าง ๆ จะสวมเครื่องแต่งกายที่จำลองมา
จากยุคโบราณ พร้อมเสียงบทเห่เรือที่ใช้กำกับจังหวะพาย โดยไม่ต้องทะลุมิติข้ามเวลา
แต่
เป็นราชประเพณีเก่าแก่ที่ได้ปรากฏผ่านในรูปแบบทางมรดกทางวัฒนธรรม

 

 

……..

 

*เนื้อหาบางส่วน
สรุปจากบันทึกเสียงการบรรยายจากวิทยากร ช่วงวันฝึกซ้อม : 27 มิ.. 2567
และการบรรยายในงานพระราชพิธีฯ : 27 ตุลาคม 2567

*ลำดับการฝึกซ้อม :
1. การฝึกครูฝีพาย  ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2567 รวม 20 วัน

2. การฝึกฝีพายบนเขียง ระหว่าง 18 มีนาคม - 16 พฤษภาคม 2567 รวม 40 วัน
โดยทำการแยกฝึกตามหน่วยต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่สัตหีบ

3. การฝึกฝีพายในหน่วย ในเรือ ในน้ำ ระหว่าง 28 พฤษภาคม - 30 กรกฎาคม 2567 รวม 40 วัน

การฝึกซ้อมเป็นขบวน
 ซ้อมย่อย เป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 10 ครั้ง  
วันที่ 1, 8, 15, 22 สิงหาคม
วันที่ 3, 12, 19, 26 กันยายน
วันที่ 1 และ 10 ตุลาคม

ซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง
ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม

และซ้อมเก็บความเรียบร้อย
วันที่ 24 ตุลาคม 


ข้อมูลอ้างอิง : 
 https://www.navy.mi.th/index.php/nst6hicbybtw
https://www.navy.mi.th/fplnuirk1qtv


*กระบวนพระยุหยาตราชลมารค ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
https://dev.prd.go.th/royal_barge/
 

*กาพย์เห่เรือที่ใช้ในขบวนพยุหยาตรา ปี 2567
ประพันธ์โดย พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
มีจำนวนทั้งสิ้น
4 บท ประกอบไปด้วย
1. บทสรรเสริญพระบารมี
2. บทชมเรือกระบวน
3. บทบุญกฐิน
4. บทชมเมือง


*ผู้ทำหน้าที่เป็นพนักงานเห่เรือ ครั้งนี้ มีจำนวน 2 คน
โดยนั่งตรงหน้าบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช

 




Create Date : 31 ตุลาคม 2567
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2567 22:24:19 น. 5 comments
Counter : 441 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณSweet_pills, คุณ**mp5**


 
ภาพเบื้องหลังเลยนะครับ ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ

ของจริงคนไปดูกันเยอะเหมือนกัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 ตุลาคม 2567 เวลา:21:21:47 น.  

 
อุ๊ยๆ อุ๊ย แถวนี้เวลาไปหาหมอที่ รพ อาจารย์เต๊ะ ผ่านประจำ
แต่ไม่ยักกะรู้ว่า เค้าให้ประชาชนเข้าไปชมการซ้อมข้างในได้
เสียง กาพย์เห่เรือนี่ไพเราะ เสนาะหูมากเลยนะครับ
พึ่งจะรู้ว่ามีทั้งแบบ หวาน กับแบบโหด เอ๊ยฮึกเหิม

ตอนวันซ้อมใหญ่ที่แม่น้ำเจ้าพระยานี่ พี่สาวมาชวนไปดูอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้ไปครับ ได้แต่ดูถ่ายทอดวันจริง จะได้ไปดูสดๆนี่ น่าจะได้บรรยากาศมากเลยนะครับนี่



โดย: multiple วันที่: 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา:13:49:09 น.  

 
555 ถ้าคนรู้จัก เน็ต tot 56k นี่ น่าจะต้องอายุ 40+ ขึ้นไป
สมัยนั้นต้องพ่วงกับ สายโทรศัพท์บ้านมาต่อเข้า
กว่าจะต่อติด มันจะร้อง หวอ วี้หว่อ อยู่ประมาณ 5 นาที
ถ้าจะโหลดไฟล์ซัก50mb นี่รอเป็น ชม กว่าจะเสร็จเลยเชียว555

ส่วนรูปน้องหมูเด้งนี่ วาดลองปากกาipad จ้า ว่ามันเขียนเส้นหนักเบาได้เหมือนดินสอมั้ย ไม่ได้เขียนนาน มือไม้แข็งโป๊กเลย แฮร่

ส่วนเรื่องตานี่ อาจารย์เต๊ะ รักษา รพ มงกุฎวัฒนะ ใกล้บ้าน
แต่หมอ อายุรกรรมนี่รักษาที่ ศิริราขจ้า อาจารย์หมออย่างดุ
ถ้าผลเลือดไม่ดี น้ำตาลขึ้นนี่ หมอแทบจะโดดกัดคอเลยเชียว 555

ส่วน จนท ยาม รปภ แถวนั้นนี่ ส่วนใหญ่จะเรียก อาจารย์เต๊ะ ว่าป๋า แทบทุกคน
เพราะ อาจารย์เต๊ะ สายเปย์ เวลาไปจอดรถ ชอบทิป จนท รปภ ยามแถวที่จอดรถประจำ แฮร่ 555



โดย: multiple วันที่: 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:47:56 น.  

 
เป็นประสบการณ์
ที่น่าสนใจมากค่ะ


โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 2 พฤศจิกายน 2567 เวลา:13:55:10 น.  

 
ริ้วขบวนเรือที่งดงามในวันจริง
อาศัยการฝึกซ้อมจากผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน
ขอบคุณสำหรับเบื้องหลังค่ะน้องฟ้า


โดย: Sweet_pills วันที่: 3 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:24:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
ออกเดินทางท่องเที่ยวตามโอกาส

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014

###ไม่ได้ใช้ Facebook แล้วนะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.