! ที่นี่ ! เราเลิกเขียนแล้วครับ ..กับเรื่องธรรมดา ที่คุณสามารถหาอ่านที่ไหนก็ได้
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2563
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2563
 
All Blogs
 
ภาวะที่ 26 : เรเจเซล

ขอบคุณภาพปกนิยาย จากคุณ ApitarN ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
 



            ตอนที่ธีราลืมตาขึ้นนั้น ทัศนียภาพรอบด้านยังคงเป็นภาพของห้วงอวกาศ เหมือนดังเช่นที่เคยเป็นมา  ตัวตนหรือร่างกายของเธอยังคงลอยคว้างเอื่อยเฉื่อย ในสภาวะไร้แรงดึงดูด  ทันทีที่ห้วงจิตสำนึกตระหนักรับรู้แล้วว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงห้วงแห่งความฝัน  หญิงสาวก็หมุนมองหาไปโดยรอบทันที  ด้วยความหวังว่า อาจจะได้พบเจอกับพี่ชายคนรองอีกสักครั้ง

            ทว่าความเวิ้งว้างว่างเปล่าของทะเลดวงดาวก็ทำเอาธีราต้องผิดหวัง  สรรพเสียงรอบด้านเงียบสนิท ไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิต หรือความเคลื่อนไหวอื่นใดนอกจากตัวเธอเอง  ความรู้สึกเปลี่ยวเหงาพลันบังเกิดขึ้นกับธีรา  หญิงสาวได้แต่ปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปกับกระแสอวธารา  พร้อมกับคิดไปด้วยว่า ควรเริ่มต้นทำอะไรในความฝัน เพื่อทำลายช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่านี้ถึงจะดี

            ขนนกเรืองแสงสีเหลืองนวลตาเส้นหนึ่ง ละลิ่วลอยทิ้งตัวลงมาจากเบื้องบน  ธีรายกมือขึ้นรองรับขนนกดังกล่าวด้วยความรู้สึกประหลาดใจ ก่อนแหงนหน้าขึ้น มองดูความเป็นไปที่อยู่สูงเหนือศีรษะของตนอย่างช้า ๆ  ห้วงมืดดำของอวกาศพลันสว่างไสว ด้วยแสงเรื่อเรืองที่เปล่งออกมาจากร่างหนึ่ง ซึ่งดูคล้ายกับนกสีเหลืองทองตัวใหญ่มหึมา  นกตัวดังกล่าวสยายปีก บินวนอยู่เหนือศีรษะของธีรา  ก่อนจะร่อนตัวต่ำลงมา เพื่อใช้แผ่นหลังของมันช้อนบรรทุกร่างของมนุษย์ ให้ร่วมทางไปกับมันด้วย

 
            “     ..  สวัสดี  เด็กน้อย  ไปพบไคเมร่ากับข้าไหม  ..     ”

 
            เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในหัวของธีรา  ราวกับนกแห่งแสงตัวนี้กำลังสื่อสารกับเธอ โดยไม่ได้ส่งเสียงแต่อย่างใด  กระแสเสียงดังกล่าวนุ่มนวลและอ่อนโยน สร้างความรู้สึกเป็นสุขและสบายใจ  จนทำให้ธีราผู้นอนหงายไปบนหลังนก คลายจากอาการตื่นตระหนกตกใจลงอย่างรวดเร็ว

            “คุณเป็นใครคะ  เป็นสิ่งที่ความฝันของฉันสร้างขึ้นหรือ”

            หญิงสาวโพล่งถามออกไป  ด้วยไม่สามารถส่งเสียงผ่านกระแสจิตเหมือนกับอีกฝ่ายได้

            “     ..  ใช่แล้ว  นี่เป็นห้วงฝันของเจ้า  และเป็นโพรงรากที่เชื่อมต่อกันของพวกข้า  ..     ”

            นกใหญ่ไม่ได้ตอบคำถามแรก  หากมันเลือกตอบคำถามที่สองของธีรา

            “แล้วจะพาฉันไปไหนคะ  ไคเมร่าคือใคร”

            “     ..  ข้าจะพาเจ้าไปหาผู้เป็นรากเดียวกับข้า  มารดาแห่งข้า  พี่น้อง  ครอบครัว  วงศาคณาญาติ  และอนาคตของเผ่าพันธุ์ของข้า  ..     ”

            ถ้อยความดังกล่าวทั้งหมดนั้น แน่นอนว่าธีราไม่อาจเข้าใจ  ดังนั้น เธอจึงปล่อยตัวไปกับภาพฝันอันแสนบรรเจิด  นกสีเหลืองยังคงโบยบินต่อไป  ในขณะที่ภาพท้องฟ้าและเมฆหมอก เริ่มเข้ามาแทนที่พื้นสีดำของห้วงอวกาศ  ในไม่ช้า ทั้งคู่ก็ลงต่ำสู่พื้นดินเบื้องล่าง  นกยักษ์ร่อนลงบนทุ่งโล่งกว้างที่ปูลาดด้วยพรมหญ้าสีเขียวขจี  ถึงตอนนี้ ธีราพบตัวเองหดเล็กลง กลายเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีอายุอานามสักสิบปี  และวิหคใหญ่ได้กลายร่างเป็นบางสิ่งที่แลดูคล้ายตุ๊กตาไม้สีเหลืองนวล ตัวสูงใหญ่ขนาดเท่าคน  มีรูปทรงเหมือนหุ่นผู้หญิงสวมชุดกระโปรงยาวถึงพื้น ทว่าปราศจากใบหน้า

            ร่างนั้นยื่นส่วนที่เป็นเหมือนมือแต่ไม่มีนิ้วออกมา ให้ธีรายื่นมือเล็ก ๆ ของตัวเองออกไปจับมือนั้นเอาไว้  ก่อนเริ่มต้นออกเดินไปด้วยกันตามทางอย่างช้า ๆ ไม่เร่งร้อนแต่อย่างใด  บรรยากาศระหว่างกันเต็มไปด้วยถ้อยทีแห่งมิตรไมตรี  สัมพันธภาพประหลาดล้ำระหว่างมนุษย์และสิ่งที่มีไม่มีตัวตนอยู่จริง  เริ่มต้นขึ้นในพรมแดนแห่งจิตที่ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคขวางกั้น

            “     ..  ข้าคือ เรเจเซล หรือก็คือ ทีเซลล์ที่เคยอยู่ในร่างของอมิน  ..     ”

            “อมิน.. อมิน  อ๋อ.. เด็กผู้ชายคนนั้น  พี่ชายของวสันต์ใช่ไหมคะ”

            ธีราไล่ตามคำบอกกล่าว ก่อนนึกขึ้นมาได้ว่า อีกฝ่ายหมายถึงผู้ใด  ความทรงจำสุดท้ายช่างแสนเลือนราง  เธอจำได้เพียงแต่ว่า ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่  รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือน ตัวเองสะลืมสะลือปรือตาขึ้นมองดูความเป็นไป  แต่สุดท้ายก็หลับลงตามเดิม

            “     ..  ภาชนะของไวยาห์น ร้องขอให้เจ้า ช่วยชีวิตรากเดียวกับเขา  สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น เพียงทำให้ข้าอ่อนแอลงชั่วคราว  หากแต่ภาชนะของข้าไม่อาจทานทนไหว  ..     ”

            “เด็กผู้ชายคนนั้น ตายแล้วหรือคะ !” 

            ธีราในร่างเด็ก เอ่ยถามด้วยความตื่นตะลึงปนตกใจ  หากแต่เรเจเซลไม่ได้ตอบคำถามนั้น

            “     ..  ในความเชื่อของมนุษย์  เจ้าเชื่อเรื่องของโชคชะตาหรือไม่  ..     ”

            คำถามหนึ่งดังขึ้นในจิต เป็นคำถามที่มีนัยยะบางอย่าง ซึ่งผู้ถูกถามไม่อาจเข้าใจ  ได้แต่ตอบไปตามความคิดเห็นของตน

            “ไม่รู้สิคะ  สำหรับฉัน  ฉันมองว่า การเชื่อเรื่องดวงหรือโชคชะตา เป็นการผลักน้ำหนักของความรู้สึกทางใจ ไปไว้กับสิ่งที่เรามองไม่เห็น  มันก็เหมือนกับตอนนี้ ที่ฉันต้องตกอยู่ในสภาพนี้  มันเลวร้ายมากที่สุด  แต่ฉัน.. ก็ไม่เคยคิดโทษโชคชะตาเลย”

            “     ..  ความรู้สึกนึกคิดของสิ่งมีชีวิต เช่น มนุษย์ หรือก็คือ พวกเจ้า เป็นสิ่งที่ข้าให้ความสนใจมาโดยตลอด  พวกเราอาจสูงส่งกว่า ในด้านสติปัญญา แต่ก็เชื่องช้าในการแสดงออกทางอารมณ์ หรือความรู้สึกนึกคิดของพวกเรา  ในตอนนี้ ข้าเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียว ที่เติบโตและเรียนรู้จากอมิน  เด็กน้อยของข้า  ..     ”

            ปลายทางเบื้องหน้า เริ่มปรากฏแท่นหินสูงใหญ่ รูปทรงคล้ายพีระมิด มีขั้นบันไดทอดยาวขึ้นไป  เรเจเซลย่อตัวลง  เพื่ออุ้มเอาธีราในร่างเด็กขึ้นแนบอก  คราวนี้ หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองหดเล็กลงกว่าเดิม จนกลายเป็นเพียงแค่เด็กเล็กที่มีอายุราวสองสามขวบปีเท่านั้น

            ร่างตุ๊กตาไร้ใบหน้า เหยียบย่างขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างมั่นคง  ไม่มีความรู้สึกกลัวหรือหวาดระแวงในจิตของธีรา  แม้นี่เป็นครั้งแรก..ที่ตนได้เผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับที่แฝงอยู่ในร่าง อย่างทีเซลล์ก็ตามที

            “ทีเซลล์ คืออะไรคะ  เป็นสิ่งมีชีวิต หรือว่า อะไร”

            นั่นอาจเป็นคำถามสุดท้าย  ธีราจึงได้เลือกถามในสิ่งที่ตนสงสัยใคร่อยากรู้มาโดยตลอด

            “     ..  ข้าจะตอบคำถามนี้ให้ตรงที่สุด ตามความเข้าใจของเจ้าก็แล้วกัน  ทีเซลล์ คือ ส่วนหนึ่งของมนุษย์ต่างดาวอย่างพวกเรา  นานมาแล้ว มีแขกแปลกถิ่นเป็นหมู่คณะใหญ่ รอนแรมมาไกล พวกเขาเดินทางมาพำนักอาศัยที่นี่เพียงแค่ชั่วคราว  ระหว่างรอเวลาให้ดาวเคราะห์ของพวกเขา กลับคืนสู่สภาพเดิม  ..     ”

            “แล้วทำไม ต้องทำให้พวกเราติดเชื้อด้วย  ทรมานพวกเราทำไมกันคะ”

            “     ..  เจ้ามีความหิว  มีความเหน็ดเหนื่อยไหม  ใช้พลังงานในการเคลื่อนไหวร่างกายหรือไม่กันเล่า  เวลาบาดเจ็บหรือป่วยไข้ เจ้าจำเป็นต้องได้รับการรักษาไหม  หากเรื่องปกติธรรมดาเหล่านี้ ไม่เกิดขึ้นในวงจรชีวิตของเจ้า  ทีเซลล์ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปแฝงตัวร่วมอยู่ด้วยในตัวของเจ้า  เพราะหน้าที่ของพวกมัน มีเพียงแค่การติดตามหาทีเซลล์ของไคเมร่าเท่านั้น  แต่การให้กำเนิดมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่า ราชา ก็ย่อมต้องนับเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปเป็นร่าง  เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์หลักของพวกเรา  ..     ”

            พลันนั้นเอง ธีราบังเกิดความเข้าใจ ในเรื่องของการกลืนกินเซลล์ของคนอื่นขึ้นมา  การกินไม่ใช่เพียงแค่เพื่อบรรเทาอาการหิว หรือรักษาตัวตนความเป็นมนุษย์ตามที่เข้าใจก่อนหน้า  แต่ผู้ติดเชื้อต้องกินไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหามนุษย์บางคน ผู้ซึ่งมีทีเซลล์ชนิดพิเศษซุกซ่อนอยู่ภายในร่าง

            และในตอนนี้ เป้าประสงค์ของชีวิตต่างดาวก็ได้บรรลุไปอีกหนึ่งขั้น  เมื่อทีเซลล์ของไคเมร่าอันแสนสำคัญ  ได้ถูกค้นพบแล้วในตัวของธีรา พินิจใจ !
 

            เรเจเซลเคลื่อนที่ขึ้นมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย  ยอดบนสุดของแท่นเป็นลานหินหน้าตัดเรียบกว้าง  ตรงใจกลางของสถานที่  มีร่างของตุ๊กตาไม้ที่แลดูคล้ายคลึงกับเรเจเซล ทว่ามีสีสันระบายเป็นลวดลายสวยงามแปลกตาทั่วทั้งตัว  ร่างดังกล่าวยืนประสานมือนิ่ง แสดงกิริยาท่าทางคล้ายผู้สูงศักดิ์ที่กำลังรอคอยแขกผู้มาเยือนอยู่ด้วยท่าทางอันสงบ

            ธีรามองดูความงดงามอันแสนสง่า ของทีเซลล์ที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่เกิด  ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ไหลหลากท่วมท้นอยู่ในใจดุจสายน้ำอันเชี่ยวกราก  แม้แต่ตอนนี้ที่อยู่ในห้วงแห่งความฝัน หญิงสาวก็ยังมีน้ำตาไหลหลั่งออกมาจากดวงตาคู่เล็กของตน

            หลังเดินเข้ามาใกล้อีกร่าง  เรเจเซลยื่นสองแขนของตนออกไปตรงหน้า ในท่าส่งมอบเด็กมนุษย์ตัวน้อยในอ้อมแขนให้แก่อีกฝ่าย  เศษเสี้ยวแห่งตัวตนอันยิ่งใหญ่ที่มีนามเรียกขานว่า ‘ไคเมร่า’ รับเอาตัวธีราไปโอบอุ้มไว้กับตัว  กระแสแห่งความอบอุ่นแล่นผ่านไปทั่วร่าง  หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองถูกห่อหุ้มด้วยความรัก  รู้สึกคุ้นเคยราวกับอยู่ในสัมผัสแห่งการโอบกอดของมารดา  ขณะที่เรเจเซลยอบตัวลงต่อหน้า ทำความเคารพอีกฝ่าย ด้วยกิริยาท่าทางอันนอบน้อม

            “     ..  ไคเมร่า.. ยาวนานเหลือเกิน  จนข้าคิดว่า จะไม่ได้พบเจอกับท่านอีกแล้ว  ..     ”

            “     ..  หากนับตามเวลาของมนุษย์ คงอาจกล่าวคำว่า ยาวนานได้  แต่หากนับตามเวลาของพวกเรา  ข้าเพิ่งจากพวกเจ้ามา เพียงชั่วครู่เท่านั้นเอง  ..     ”

            กระแสเสียงสองสายดังขึ้นในหัวของธีรา  เสียงของเรเซเจลให้ความรู้สึกอ่อนหวานและสดใส  ในขณะที่เสียงของไคเมร่าเป็นน้ำเสียงดังกังวาน ในโทนราบเรียบจริงจัง รวมถึงมีความดุดันอยู่ในถ้อยที

            เรเจเซลยืดตัวขึ้นยืนตัวตรง  ร่างตุ๊กตาไม้สีเหลืองยืนในท่าประสานมือสงบนิ่ง ก่อนกล่าวต่อไป

            “     ..  ท่านตั้งใจจะปล่อยให้ตัวเองสูญสลายไป พร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า โชคชะตาของมนุษย์ หรืออย่างไรกัน  ไคเมร่า  ..     ”

            “     ..  เรเจเซล ผู้เป็นรากเดียวกับข้า  มองดูเด็กคนนี้สิ  ข้าเคยอยู่กับแม่ของนาง กับแม่ของแม่ และมนุษย์หลายชั่วรุ่นก่อนหน้านาง  ข้าส่งผ่านตัวเองจากแม่สู่ลูกสาว  ข้าหลับมาโดยตลอด ปล่อยให้เรื่องไร้สาระที่เรียกว่า ชะตากรรมนำทางไป  ข้าบอกกับเจ้าได้ว่า ข้าสนุกมากทีเดียวเชียวล่ะ  ..     ”

            ไคเมร่าแกว่งแขวนไปมาเบา ๆ ทำท่าคล้ายกล่อมตัวเด็กน้อยในอ้อมแขนให้หลับใหล  ธีราเงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าที่ไม่มีส่วนประกอบอื่นใด นอกจากลวดสายของเส้นสีแดง ขาว และม่วง ซึ่งไหลเวียนไปทั่วราวกับธาราแห่งสีสัน  เพียงแค่มองดูเฉดสีเหล่านั้น  ธีราก็พลันลุแก่ความเข้าใจขึ้นมาได้ทันทีว่า สีต่าง ๆ เหล่านี้หมายถึงอะไร

            -- มันแทนความหมายถึงทีเซลล์สามหมู่เหล่า ของราชาสามคน ที่เข้ามารวมอยู่ในร่างของเธอ นั่นเอง --

            เด็กน้อยในอ้อมแขนได้แต่นอนนิ่ง  รับฟังบทสนทนาของสองตัวตน ที่อยู่เหนือความเข้าใจของตนต่อไป

 
            “     ..  ดูเหมือน..ท่านเริ่มผูกพันกับมนุษย์เข้าแล้วใช่ไหม  ไคเมร่า  ปกป้องพวกเขามาอย่างยาวนาน  ถึงขนาดตื่นขึ้นมา ฝืนกฎแห่งธรรมชาติของโลกนี้ เพื่อเด็กคนนี้  ..     ”

            “     ..  ข้าคงไม่ต้องตื่น  ถ้าหากไม่ถูกรบกวนจากเศษเสี้ยวของ บรีเด็ม และ เนฟิลิม  ซ้ำร้ายยังมีเจ้าเพิร์ก เข้ามารบกวนข้า และตอนนี้ก็เป็นเจ้า เรเจเซล  ..     ”

            “     ..  นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งอันเล็กน้อยของข้าเท่านั้นเอง  ตัวตนส่วนใหญ่ของข้ายังคงหลับใหลอยู่ในโอรัค  ราชินีแห่งผองเรา  ขอให้ข้าได้ช่วยเติมเต็มภาชนะของท่าน  เพื่อเด็กน้อยคนนี้ จะได้ไม่ต้องทรมานกับความหิวโหยอีกต่อไป  ..     ”

            “     ..  ทำอย่างที่เจ้าต้องการเถิด เรเจเซล  อนุภาคอันน้อยนิดของข้า ทำอันใดมิได้อยู่แล้ว  ..     ”

            “     ..  กล่าวอันใดเช่นนั้น  ไคเมร่าผู้ยิ่งใหญ่  ต้นกำเนิดแห่งชีวิตที่สูงส่งยิ่งกว่ารากใดในหมู่ชนเรา  รากเดียวที่สามารถช่วยค้ำจุนสรรพชีวิต ที่จะบังเกิดขึ้นใหม่ยังแหล่งกำเนิด  พวกเรายังกลับไปไม่ได้ จนกว่าจะติดตามหาท่าน และ มามาคราย ให้พบเสียก่อน  ..     ”

            “     ..  มามาคราย.. เกิดอะไรขึ้นกับมามาคราย  ..     ”

            “     ..  เจ้านั่นแยกเอา ความทรงจำของเส้นทางแห่งดวงดาว ออกจากร่างของตัวเอง แล้วส่งมันออกไปเก็บซ่อนไว้ที่อื่น ให้พ้นจากการรู้เห็นของทุกตน  อนุภาคของมันคงล่องลอยอยู่ที่ไหนสักแห่ง หรือไม่ก็อยู่ในตัวของมนุษย์สักคน เพื่อติดตามหาท่าน ไคเมร่า  ..     ”

            “     ..  ทำไม มันถึงไม่รอเวลา เหมือนตนอื่น ๆ  ..      ”

            “     ..  เพราะ เลวีอาธาน  องค์ราชาทรงดำริตริตรอง และมีพระประสงค์ที่จะกลับ ก่อนถึงเวลาอันควร  หากเป็นตามนี้  ท่านและอนุภาคทั้งหมดที่เหลือของท่าน จะถูกทิ้งไว้ที่ดาวเคราะห์ดวงนี้  ด้วยเหตุนี้ มามาครายผู้ผนึกเส้นทาง จึงมองเห็นว่า หากเป็นเช่นนี้ สมดุลจะถูกทำลายลงท่ามกลางพวกเรา  อำนาจแห่งราชวงศ์ และโลกใหม่ของพวกเรา จะตกอยู่ภายใต้การชี้นำและปกครองของเลวีอาธาน ตลอดไป  ..     ”

            “     ..  รากของข้า  พวกเจ้าอ่อนแอลงถึงเพียงนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่  ..     ”

            “     ..  พวกข้าต่างเข้าสู่ภาวะจำศีลนานเกินไป  ถูกกักอยู่ในโอรัค เชื่องช้าเกินกว่าจะเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้าน  ข้าแบ่งบางส่วนของตัวเองออกมา เพื่อช่วยมามาครายตามหาท่านอีกแรง  ใช้เวลาหลายสิบปีของมนุษย์ ถึงได้เจอกับท่านอีกครั้ง  ในเวลานี้  มีเพียง เอมาน ตนเดียวเท่านั้นที่ยังตื่นอยู่ตลอด เพื่อทำตามพระประสงค์ขององค์ราชา  ..     ”

 
            บทสนทนาสิ้นสุดหยุดลง  ไคเมร่ายกร่างเด็กมนุษย์ในอ้อมแขนขึ้นกอดกระชับ  โน้มส่วนของใบหน้าอันว่างเปล่าลง แนบชิดกับหน้าผากของธีรา  แม้มองไม่เห็นองค์ประกอบใดที่จะสื่อถึงความรู้สึกบนใบหน้า  หากแต่ธีรากลับรับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายกำลังแผ่คลื่นรังสีจาง ๆ ที่สามารถแปรค่าเป็นความเศร้าเสียใจ ออกมาจากร่างตุ๊กตาไม้

 
            “     ..  ข้าจะขับกล่อมเจ้า ด้วยนิทานของข้า  เจ้าจะได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ แต่มิจำเป็นต้องจดจำมันแต่อย่างใด  ..     ”
           

            ไคเมร่าส่งเสียงเข้ามาโดยตรงในจิตของธีรา  ขณะที่มือของตุ๊กตาไม้ทั้งสองต่างยื่นออกไปตรงหน้า ปลายนิ้วแตะถูกกัน  เริ่มต้นเชื่อมต่อระหว่างกันในวิธีการอันน่าอัศจรรย์  ร่างของเรเจเซลค่อย ๆ หลอมละลาย มีสภาพคล้ายเป็นขี้ผึ้งลนไฟ  แปรสภาพกลายเป็นธารลวดลายสีเหลืองทอง ถ่ายเทไปสู่ลำตัวของไคเมร่า

 
            “     ..  กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว  มีราชินีจากต่างดาวตนหนึ่ง ผู้ซึ่งรังเกียจเดียดฉันท์พวกมนุษย์ของดาวดวงนี้เป็นอันมาก  นางมองเห็นมนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ อ่อนแอ และชอบสร้างความวุ่นวาย  กระทั่งวันหนึ่ง ที่สงครามระหว่างพวกต่างดาวได้อุบัติขึ้น  การต่อสู้ดังกล่าวได้ลุกลาม ทวีความรุนแรง แผ่ขยายวงกว้าง และส่งผลกระทบไปสู่บรรดาพวกมนุษย์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  ในตอนนั้น มีเพียงแค่ราชินีผู้เดียวเท่านั้น ที่สามารถช่วยยับยั้งความตาย จากโรคระบาดที่ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือของฝ่ายตรงข้าม  เพื่อใช้มันแพร่ออกไปทำลายล้างสรรพชีวิตต่าง ๆ  แต่ด้วยความเย่อหยิ่งที่ทำให้นัยน์ตามืดบอด  นางและรากของนางยังคงเดินหน้าตอบโต้ ด้วยการกำจัดเหล่าเทพเจ้าของมนุษย์  พร้อมกับมองดูมนุษย์เผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ทยอยล้มหายตายจาก  บ้างก็สูญสิ้นจนหายไปจากโลก  จนกระทั่งวันหนึ่ง มีมนุษย์เพศหญิงคนหนึ่ง อุ้มร่างอันไร้ชีวิตของทารกเล็ก ๆ มาอยู่ต่อหน้าราชินี  หญิงนั้นวิงวอนร้องขอ ยินดีแลกเปลี่ยนชีวิตตัวเองกับทารกนั้น  ..     ”

 
            กระแสเสียงราบเรียบดังกล่าว ถ่ายทอดเรื่องเล่ายืดยาว  แรงเขย่าเบา ๆ จากวงแขนของตุ๊กตาไม้ เริ่มส่งผลให้ธีราเกิดอาการง่วงงุนขึ้นมาทีละน้อย  เด็กทารกในอ้อมแขนอ้าปากหาว ตาปรือลงในสภาพพร้อมหลับลงในอีกไม่ช้า

 
            “     ..  ถึงตอนนั้นเอง ที่ราชินีเพิ่งรู้สึกตัวว่า นางเองก็ได้กลายเป็นเหมือนกับเทพเจ้าของพวกมนุษย์ไปเสียแล้ว  เมื่อความเป็นจริงสะท้อนเข้าสู่ดวงตา  ราชินีจึงได้มองเห็นว่า แม้แต่บรรดาพวกพ้อง และรากเดียวกับตัวเองนั้น ก็ได้สูญเสียไปอย่างมากมาย จากการทำสงครามด้วยเช่นกัน  ด้วยเหตุนี้ นางจึงรับเอาร่างของทารกคนนั้นจากมือของมารดา  คืนชีวิตให้แก่เขา  และคืนวิถีแห่งชีวิตตามที่ควรจะเป็นให้แก่พวกมนุษย์  ยอมเสียสละตัวเอง ด้วยการปกป้องพวกเขา จากภายในร่างของพวกเขาเอง  ..     ”

 
            สายลมอันบางเบาโชยพัดมา พร้อมกับฝุ่นสีทองที่ถูกชะออกจากร่างของไคเมร่า ซึ่งบัดนี้ เกิดปรากฏการณ์คล้ายการผุกร่อนของมวลสาร กลายเป็นผงควันอันบางเบาถูกชะไปกับแรงลม  ร่างจำลองของราชินีทีเซลล์ที่แท้จริง สร้างฟองอากาศใบย่อมออกมาจากอากาศอันว่างเปล่า  นำร่างของธีราที่ได้กลายเป็นเพียงเด็กทารกวัยแบเบาะคนหนึ่ง ใส่เข้าไว้ในฟองดังกล่าว  ก่อนปล่อยให้ล่องลอยสูงขึ้นไปในอากาศอย่างช้า ๆ

            เบื้องล่าง ธีราได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมของการรบพุ่ง  ควันไฟของการเผาไหม้ทำลาย และเสียงกรีดร้องต่าง ๆ นานาของคนจำนวนมากมาย ที่ทำให้ใจต้องสั่นสะท้าน  เมื่อพยายามพลิกตัวเพื่อหวังมองกลับลงไป  จึงทันได้เห็นร่างที่เหลือเพียงครึ่งท่อนล่าง  ร่างที่กำลังสูญสลายกลายเป็นฝุ่นผงสีทองของไคเมร่า ประทับยืนอยู่ท่ามกลางร่างดวงแสงนับร้อยพันอันเจิดจ้า ที่เข้ามาห้อมล้อมร่างดังกล่าวเอาไว้

 
            “     ..  เจ้าเพียงแค่ฝันไป  เด็กน้อยของข้า  หากสิ่งที่เรียกว่า ชะตากรรมมีจริง  จงอย่าได้ยอมพ่ายแพ้แก่สิ่งนั้น   ทำในสิ่งที่เจ้าทำได้  เชิดหน้าขึ้นและจงภูมิใจในการเลือกของตัวเอง  ไม่ว่าสิ่งใดก็ตาม  ..     ”

 
            ร่างของทารกน้อยลอยขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า  ถูกกลืนไปเป็นส่วนหนึ่งของก้อนเมฆบนนภา  ขณะที่เสียงอันแผ่วเบาของไคเมร่า กล่าวกับธีราเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเงียบหายไปในที่สุด 

 
            “     ..  ฟังเสียงของข้า เมื่อข้าพูดกับเจ้า แต่เจ้าสามารถเลือกได้ด้วยตนเองว่า จะทำตามที่ข้าบอกเจ้าหรือไม่  ข้าอยู่กับเจ้าเสมอ  ข้าจะคอยช่วยเหลือเจ้า  จนกว่าเวลาของข้าจะมาถึง  ..     ”
 
 

 
++++++++++++++++++++++++++++++
 


 
            ยามรุ่งสาง  ภายในห้องของอมิน  วสันต์นั่งเฝ้าร่างของพี่ชายที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง  ดวงตาและใบหน้าของราชาน้ำแข็งมีแววอิดโรย ด้วยไม่ได้พักผ่อนนอนหลับเลยตลอดทั้งคืน เพราะทุ่มเทใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเฝ้าดูแลอาการของพี่ชาย  ถึงแม้อีกฝ่ายจะพ้นขีดอันตรายแล้วก็ตาม

            สำหรับอมิน  แม้ทีเซลล์ในตัวซึ่งมีสรรพคุณวิเศษ ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์อื่นได้หายไป  แม้นตอนนี้ เจ้าตัวได้กลายมาเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิเศษอีกต่อไปแล้ว  ทว่าพี่ชายก็ยังคงเป็นพี่ชาย  ขอเพียงอีกฝ่ายยังคงมีชีวิตและอยู่รอดปลอดภัย  วสันต์ก็จะไม่ขออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว

            ถ้าหากอมินยังอยู่ที่นี่ต่อไป  และเมื่อใดก็ตามที่ความลับเรื่องยาอายุวัฒนะไม่มีอยู่อีกแล้ว  ชีวิตของพวกเขาทั้งสองคงไม่มีประโยชน์อะไรกับประมุขเฒ่า  ความเป็นไปได้ที่จะถูกกำจัดทิ้งทั้งคู่มีมากเกินกว่าครึ่ง  วสันต์จึงจำเป็นต้องคิดอ่าน วางแผนการที่แยบยลแข่งกับเวลา  เพื่อพาตัวพี่ชายออกไปให้พ้นจากสถานที่แห่งนี้ ให้เร็วที่สุด เท่าที่ตนจะสามารถทำได้

            ไม่สิ.. อมินควรต้องไปให้ไกลกว่านั้น  ไปให้ไกลเกินกว่าที่เงื้อมมือของตาเฒ่าจะแตะต้องไม่ถึง  ไกลถึงขนาดข้ามไปอีกฟากฝั่งของโลกเลยยิ่งดี

            ด้วยเหตุนี้  วสันต์จึงต่อรองแลกเปลี่ยนกับมิสเตอร์โนวแมน  ต้องการฝากฝังพี่ชายให้เดินทางไปต่างประเทศกับอีกฝ่าย  แม้นี่เป็นการพบเจอกันครั้งแรก  ต่อให้ปลอมแปลงตัวมาในคราบทีมงานของดร.เฮนริกสัน  แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและละเอียดรอบคอบ ก็ทำให้วสันต์ก็ล่วงรู้อยู่ดีว่า เจสัน โนวแมน คือใคร  ข้อตกลงลับจึงเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย  อมินจะถูกพาตัวไปจากเมืองไทย ไปอยู่ภายใต้การอารักขาดูแลอย่างดี  โดยมีเงื่อนไขที่ว่า ราชาน้ำแข็งต้องพาตัวมนุษย์กลายพันธุ์เพศหญิงผู้นี้ ติดตามไปสมทบในภายหลัง

            ชายหนุ่มผู้เย็นชาตอบรับเงื่อนไข  ทั้งที่ไม่แน่ใจว่า ตนจะสามารถทำเช่นนั้นได้หรือไม่  เพราะหลังจากนี้ การต้องหวนกลับลงไปยังชั้นใต้ดิน  เพื่อเผชิญหน้ากับธีรา พินิจใจ  อาจเข้าสู่การจ่ายหนี้หรือค่าตอบแทน ตามที่ตนได้เสนอราคาชีวิตกับอีกฝ่ายไว้ก่อนหน้า

            -- ไม่เป็นหรอก  อย่างน้อย.. การได้ถูกกลืนกินโดยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องนับเป็นเกียรติ และความพึงพอใจอย่างยิ่งยวดสำหรับเขาแล้ว --

            “พี่ครับ..”  วสันต์เอ่ยกับคนหลับ  เอื้อมมือออกไปวางทาบจับแขนของอมินเอาไว้  “..พี่เป็นอิสระแล้ว  ในที่สุด พี่ก็หายจากทีเซลล์ที่ทรมานพี่มานานหลายปี  ต่อไปนี้  พี่จะไม่ต้องเจ็บตัว  ไม่ต้องเจาะเลือด  ไม่ต้องฉีดยา  และจะไม่มีใครมาบังคับเอาเลือดไปจากพี่ได้อีกต่อไป  ธีรารักษาพี่..  ผู้หญิงคนนั้นที่พี่เชื่อใจ เป็นคนรักษาพี่ครับ”

            หลังพูดจบ  วสันต์พยักหน้าให้กับตฤณและปราโมทย์  สองคนสนิทที่ซื่อสัตย์ของตนเข้ามาช่วยกันอุ้มพาเอาร่างของอมินออกไป  ราชาน้ำแข็งวางรูปการณ์ ทำทีเป็นส่งตัวอมินออกไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล ด้วยเหตุฉุกเฉินอย่างเช่น เกิดภาวะช็อกอย่างรุนแรงขึ้นมากะทันหัน  แล้วจากนั้น จึงค่อยซ้อนแผนให้คนนอก ปลอมแปลงตัวเป็นคนร้ายมาชิงตัวเอาอมิน  ไปส่งให้แก่มิสเตอร์โนวแมนซึ่งล่วงหน้าไปคอยท่าก่อนแล้ว ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำที่สิงคโปร์

            เวลาเหลือไม่มากแล้ว  ชีวิตของเขาก็ด้วยเช่นกัน  ทุกอย่างแข่งขันกับเวลา  ต้องรีบดำเนินการก่อนที่ตาเฒ่าร้ายกาจ หรือนายเก่งกาจ เหลนชายผู้มีมันสมองฉลาดมากกว่าของมัน จะไหวตัวคิดติดตามแผนการของเขาได้ทัน

            หลังมองผ่านหน้าต่าง เฝ้ามองดูจนกระทั่งเห็นไฟท้ายรถ เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ลับหายไปจากสายตาแล้ว  วสันต์ถึงค่อยย้อนกลับลงไปยังห้องทดลองชั้นใต้ดินอีกครั้ง  เพื่อเผชิญหน้ากับราชินีทีเซลล์
 

            ธีรา พินิจใจ ไม่ได้ตื่นอยู่ ตอนที่วสันต์ก้าวเข้าไปในห้องกระจก และทรุดตัวลงนั่งชิดใกล้  เรือนร่างบอบบางของผู้หญิงกำลังหลับสนิทในท่านอนหงาย  ทรวงอกกระเพื่อมไหว ด้วยลมหายใจเข้าออกอันสม่ำเสมอ  ใบหน้าในยามหลับแลดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา  แลดูแตกต่างจากนลิน หญิงรับใช้ผู้เต็มอกเต็มใจเสนอกาย เพื่อสนองความต้องการทางเพศในบางเวลาของเขา ด้วยหวังผูกมัดใจในวิธีการอันไร้ค่า

            วสันต์ปล่อยความนึกคิดให้ไหลไปเรื่อย  ขณะยื่นมือออกไป ลูบลากบนท่อนแขนของธีราอย่างแผ่วเบา  ในโลกนี้ คงไม่มีราชาคนใดสามารถครอบครองเธอได้ เว้นเสียแต่ใครคนนั้น..จะเป็นคนที่เธอตกลงปลงใจเลือกแล้วด้วยตัวเองสินะ

            “_ผมมาใช้หนี้ ตามที่สัญญาเอาไว้  ผมมา.. ให้คุณกินผม_”

            ราชาน้ำแข็งพูดเสียงเบาราวกระซิบกระซาบ  เลื่อนมือไปสุดปลายแขนของอีกฝ่าย ก่อนรวบมืออันเรียวเล็กกว่ามากอบกุมเอาไว้  แสดงความปรารถนาพร้อมจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดไปจากปกติ  ทั้งความสุขสมและความเจ็บปวด ต่างบรรเลงท่วงทำนองไปพร้อมกัน  นาทีนั้นเอง ที่วสันต์พลันตระหนักขึ้นมาได้ว่า ความต้องการอันลี้ลับของตน ได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้วในเวลานี้

            “_ตื่นขึ้นมากินผมสิ  คุณ.. หรือ ธีราก็ได้_”

            “..อืม..”

            ร่างตรงหน้าส่งเสียงครางในลำคอ  ก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทีละน้อยอย่างช้า ๆ  เมื่อมองเห็นเป็นวสันต์ผู้เข้ามานั่งอยู่ใกล้  ธีราซึ่งยังอยู่ในอาการงัวเงียก็เผยอยิ้มให้แก่อีกฝ่าย ตามความคุ้นชินในสัมพันธภาพอันแปลกประหลาดของพวกตน

            ไม่มีความทรงจำใดตกค้างอยู่ในสมองของธีรา  เรื่องเดียวที่เธอจดจำได้ คือ แค่นอนหลับไปเพียงเท่านั้น  ตัวยาที่ได้รับฉีดเข้าสู่ร่างกายล่าสุดคงได้ผลดี  เพราะตอนนี้ เธอตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น แตกต่างไปจากทุกครั้ง  ความรู้สึกหิวโหยอยากกลืนกินเซลล์ของคนอื่น เหมือนถูกทำให้หายไปจนหมดสิ้น

            รอยยิ้มน้อยเรื่อระบายอยู่บนดวงหน้า  รู้สึกราวกับเพิ่งตื่นขึ้นจากฝันดีมา  หากแต่จดจำไม่ได้เช่นเคยว่าเป็นเรื่องใด

            “..กินไหม” 

            คนตรงหน้าส่งเสียงถามท่ามกลางความเงียบ พร้อมด้วยรอยยิ้มที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน  หากธีราผู้กำลังลำดับสติ  กำลังมีอาการเบลอเกินกว่าจะแปลกใจหรือประหลาดใจ  เพิ่งรู้สึกตัวว่าถูกกุมมือเอาไว้  รับสัมผัสจากมืออันแสนเย็นของวสันต์

            “กินอะไร  ไม่หิวเลย  ได้เวลาตรวจอีกแล้วหรือ”

            เธอขยับตัว เตรียมจะลุกขึ้นนั่ง  ทว่าความรู้สึกแปลบปลาบบางอย่างในช่องท้อง ทำให้ต้องชะงักงันไป  สัมผัสได้ถึงของเหลวเหนอะหนะแถวบริเวณโคนขา  สัญชาตญาณของผู้หญิงกระตุ้นให้ธีรารีบพลิกเปิดผ้าห่มออก เพื่อให้ตัวเองได้เห็นด้วยสายตา  ยืนยันความแน่ชัดถูกต้องของรอบเดือนที่เดินทางมาถึง

            “_เลือด อ่อ ประจำเดือนสินะ_”

            วสันต์ที่มองตามไปพูดขึ้นเบา ๆ ตามความเข้าใจในกลไกของร่างกายผู้หญิง  ทว่าคำพูดเปรยที่ติดตามมาหลังจากนั้นของอีกฝ่าย  ก็ได้ทำให้ความมืดดำของจิตใจที่เรียกกันว่า ‘ความริษยา’ พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่

            “ไม่ท้อง.. ค่อยยังชั่ว  โล่งอกไปที”

            ธีราเปรยออกมาตามความรู้สึกของตน  ตามความเข้าใจผิดที่คิดว่า ค่ำคืนที่ได้พลาดพลั้งมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้น  อาจนำมาสู่การก่อกำเนิดชีวิตใหม่ที่ตนยังไม่พึงปรารถนา หรือพร้อมต้อนรับมาสู่โลกอันโหดร้าย ในเวลาเช่นนี้

            “_มีเซ็กส์หรือ กับใคร_” 

            วสันต์ปล่อยมือออกจากธีรา  คำถามอันแสนตรงส่งผลทำให้คู่สนทนารู้สึกขัดเขินจนวางหน้าไม่ถูก  ริ้วสีแดงจาง ๆ บนแก้มของอีกฝ่าย เป็นตัวยืนยันข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี  และหากจะมีใครที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องนี้  ย่อมมีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้นที่มีความน่าจะเป็นสูงสุด มากกว่าคนอื่นใดในความคิดของราชาน้ำแข็ง

            ธีราไม่ตอบคำถามดังกล่าว  เธอชันตัวลุกขึ้นนั่ง  ก่อนเอ่ยร้องขอในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

            “ฉันอยากได้กางเกงใน กับ ผ้าอนามัย  นายช่วยจัดหามาให้หน่อยได้ไหม”

            “_ได้สิ  ได้ทุกอย่างเลย_” 

            ราชาน้ำแข็งตอบรับคำขอดังกล่าว ด้วยเสียงและใบหน้าที่กลับมาราบเรียบดุจเดิม

            “จริง ๆ ถ้าได้อาบน้ำด้วย..ก็คงจะดีนะ”

            ความจริงแล้ว  ธีราเองเพียงพูดออกไปตามใจปรารถนา  แต่ไม่คิดเลยว่า อีกฝ่ายจะตอบรับกลับมาอย่างใจดีเกินคาด

            “_ได้  ฉันจะพาเธอไปอาบน้ำ_”

            “จริงเหรอ  ดูใจดีผิดปกติ มีอะไรหรือเปล่า  นายทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ”

            ผู้ถูกกักขังถามอย่างแปลกใจ  เพราะไม่ใช่ว่า ตนไม่เคยได้พ้นออกจากห้องกระจกนี้เสียเมื่อไหร่  บางที อีกฝ่ายก็ใจกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดคุมตัวเธอ พาออกไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้กันกับห้องขังอยู่บ้าง  แต่ดูเหมือนร่างกายของตัวเองก็ราวกับสามารถปรับสภาพได้  เพราะธีราแทบไม่เกิดความต้องการอยากปลดปล่อยของเสียในร่างกาย  แม้จะดื่มน้ำหรือทานอาหารเข้าไปมากสักเพียงใดก็ตาม

            “_เธอช่วยฉัน จำได้ไหม_”

            “ช่วยอะไรหรือ”

            คำพูดคำจาแบบหน้าซื่อตาใสเหล่านั้น ทำให้วสันต์แปลกใจ  แต่นั่นกลับยิ่งตอกย้ำความมั่นใจในสมมติฐานของการปรากฏตัวของ ‘สิ่งที่ไม่ใช่ธีรา’ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

            -- และถ้าหากตัวตนทั้งสองไม่เชื่อมต่อกัน  นั่นเท่ากับสิ่งที่อีกด้านลงมือกระทำ  ธีราไม่ได้รับรู้ด้วยเลยแม้แต่น้อย --

            ด้วยความคิดเช่นนี้  วสันต์จึงตัดสินใจทดสอบบางอย่างดูให้แน่ใจ

            “_เมื่อวานนี้ เธอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียังไงล่ะ จำไม่ได้หรือ_”

            “อ๋อ  นึกว่าอะไร  อืม แต่ยาที่นายฉีดให้แรงมากเลยนะ ตอนแรกเล่นเอามึนหัวไปหมด ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองนอนไปนานมาก แบบไม่รู้สึกตัวเลย  แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะ  อาการหิวแบบนั้นก็หายไปด้วยนะ  การรักษานี่ คงมาถูกทางแล้วล่ะ  ฉันรู้สึกขอบคุณนายจริง ๆ”

            “_ขอบคุณตอนนี้ มันยังเร็วไปนะ_”

            วสันต์กล่าว ขณะยื่นมือออกไปช่วยพยุงอีกร่างให้ลุกขึ้นยืน  อาศัยจังหวะตอนที่อีกฝ่ายมีอาการซวนเซ ยืนไม่มั่นคง  คว้าเอาตัวมากอดไว้  แล้วยืนนิ่งเงียบอยู่ชั่วอึดใจ

            ธีราผู้แนบชิด ได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเต้นอย่างแผ่วเบา  กลิ่นน้ำหอมที่ยังตกค้างบนเรือนกายของบุรุษโชยกระทบนาสิกจาง ๆ  แม้ไม่ได้รู้สึกเก้อเขินแต่อย่างใด  แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจจนต้องผลักไสออกห่างเช่นกัน  เธอจึงได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่แบบนั้น  ต่างคนต่างปล่อยให้ความเงียบงัน ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดระหว่างกัน  โมงยามนี้ไม่มีราชาหรือราชินี  มีเพียงชายและหญิงสองคน ผู้มีเป้าประสงค์แตกต่างกันออกไป

            เวลานี้ ไม่มีนักวิทยาศาสตร์หลงเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว  พวกนกรู้ต่างเร่งร้อนพากันบินออกนอกประเทศไปในทันใด  เพราะหากยังอยู่ยั้งรั้งรอต่อไป อาจต้องชดใช้ให้กับความเสียหายอันใหญ่หลวงด้วยชีวิตของตัวเอง  เมื่อไม่มียาอายุวัฒนะ  ไม่มีโสมพันปีเดินได้ในร่างมนุษย์อีกต่อไป  สถานภาพของวสันต์เองก็ไม่มีความมั่นคงปลอดภัยอีกแล้วด้วยเช่นกัน

            เอาเถอะ.. ขอแค่อมินอยู่รอดปลอดภัย  แผนการทั้งหมดต้องพังทลาย หรือชีวิตเขาต้องจบเห่ไปแต่เพียงเท่านี้ ..ก็ช่างมันเถอะ
 

            พลันนั้น  วสันต์รู้สึกคล้ายตัวเองเป็นแค่คนธรรมดา  เป็นเพียงแค่ผู้ชายที่มีความต้องการ มีความปรารถนาที่จะรัก หรือถูกรักจากผู้หญิงสักคน ก่อนที่จะต้องตายหรือหายไป

            “_ถ้ารักษาไม่หาย  ฉันจะเป็นคนคอยดูแลเธอเอง_”
            “ไม่เอาหรอก  ฉันไม่ได้.. ต้องการนาย”
            “_แล้วเธอต้องการใคร  พิจิกอย่างนั้นหรือ_”

            คำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบอีกเช่นกัน  ทว่าอาการนิ่งเงียบนั้นเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี  วสันต์จึงไม่พูดอะไรมากเกินไปกว่านี้  ไม่จำเป็นต้องซักไซ้หรือเซ้าซี้  เพราะมีวิธีการที่ดีกว่าในการจัดการกับเรื่องนี้

            เพียงแค่กำจัดตัวต้นเหตุให้หายไป  ต่อให้ราชินีทีเซลล์ไม่คิดที่จะเลือกใคร  แต่ตนนี่แหละที่จะได้เป็นคนใกล้ชิด คอยอยู่เคียงข้างกาย  ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ หรือสถานการณ์ใดก็ตาม
 
            -- ไอ้เด็กซ่าจะต้องหายไป..  ทั้งจากชีวิตของธีรา  และหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล -- 

 
            รอยยิ้มที่ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชาน้ำแข็ง  ตอนที่ธีราผละตัวออกห่าง เงยหน้าขึ้นมองสบสายตาคนร่างสูงตรงหน้า  วสันต์กดรหัสเปิดประตู  ก่อนยื่นมือมาตรงหน้า  มันเป็นกิริยาท่าทางเดียวที่หญิงสาวเรียนรู้จากประสบการณ์ว่า ตนจะได้รับอนุญาตให้ออกนอกห้องขังเพียงชั่วครู่ชั่วยาม

            แสงแรกของดวงตะวันที่ฉายฉานขึ้นบนขอบฟ้าช่างสวยงาม  ยามเมื่อมองออกไปจากหน้าต่างห้องของวสันต์  ธีราได้แต่ยืนนิ่ง เกาะบานหน้าต่าง มองดูอย่างเงียบงัน  สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด  สูดกลิ่นของอากาศอันบริสุทธิ์สดชื่น และกลิ่นอายของอิสรภาพอันหอมหวานชั่วคราว
 
          รู้สึกดี..  ดีมากกว่าทุกวัน  คลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่า ฝันถึงเรื่องสำคัญ  แต่จำไม่ได้ว่า เรื่องอะไร..
 
            หญิงสาวพูดกับตัวเองในใจ  ก่อนรับเอาผ้าเช็ดตัวเนื้อนุ่มสีขาวสะอาดจากมือของวสันต์  แล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำอันหรูหรากว้างใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน  เริ่มต้นชำระล้างร่างกาย รับเอาความสดชื่นให้สมกับที่รอคอยช่วงเวลาดังกล่าวนี้มานาน
 
 


 
++++++++++++++++++++++++++++



Create Date : 21 พฤษภาคม 2563
Last Update : 21 พฤษภาคม 2563 14:38:16 น. 2 comments
Counter : 634 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse


 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 23 พฤษภาคม 2563 เวลา:15:05:46 น.  

 
ขอบคุณ คุณ **mp5** ที่แวะมาส่งกำลังใจให้กันค่ะ


โดย: zionzany วันที่: 24 พฤษภาคม 2563 เวลา:8:22:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zionzany
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เขียนนิยาย

ปลดปล่อยจินตนาการ

ไม่ยึดติดกับแนวไหน

เพราะจะไปให้ถึงที่สุด..

เท่าที่เราสามารถแผ่

กิ่งก้านความสามารถ

ออกไปสู่โลกกว้างได้

ยินดีต้อนรับทุกคน

สู่โลกของ zionzany

ที่นี่ .. ตรงนี้นะจ้ะ
แต่งนิยายทำร้ายผู้อ่าน ..Tcell H-A-V.. ..Tacticle Ball.. ..Kiss Myself.. ..ZhuXian จูเซียน.. ..เพียงฝันนี้ ศรีสุวรรณ.. อยากคูล อยากคัลท์ อยากมันส์ ที่สำคัญ อยาก-เขียน-ให้-จบ Let's rock Baby
New Comments
Friends' blogs
[Add zionzany's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.