วิธีการลี้ยงลูกสุนัข ให้มีสุขภาพที่ดี และ แข็งแรงนั้น จำเป็นต้องใส่ใจ และ ให้ความสำคัญกับลูกสุนัขเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วหากแม่สุนัขทำการคลอดลูกตามสัญชาตญาณของการเลี้ยงลูกก็จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรามีเพียงหน้าที่ในการคอยจัดหาอุปกรณ์ และ คอยให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับแม่สุนัข แต่หากว่าแม่สุนัขไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ หรือ นำลูกสุนัขที่ยังแบเบาะมาเลี้ยง งานนี้ก็จะต้องตกเป็นหน้าที่ของเราโดยอัตโนมัติ หรือ ที่เรียกว่าคุณแม่จำเป็นนั่นเอง วิธีการลี้ยงลูกสุนัข มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ - ควรจัดเตรียมสถานที่ก่อนนำลูกสุนัขมาเลี้ยง โดยการหาห้องไว้ซักห้อง หรือไม่ก็อาจหามุมใดมุมหนึ่งในบ้านไว้สักมุม สิ่งสำคัญ คือ ต้องเป็นมุมที่ค่อนข้างเงียบสงบไม่มีคนพลุกพล่าน หรือ เดินไปมาตลอดเวลา ทีสำคัญจะต้องเป็นพื้นที่ที่สะอาด
- ควรเตรียมที่นอน และ อุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆไว้ก่อนนำลูกสุนัขมาเลี้ยง ซึ่งที่นอนของลูกสุนัขอาจจะเป็นตะกร้าที่ปูด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ หรือ จะเป็นที่นอนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะที่มีวางขายตามร้านสัตว์เลี้ยงก็ได้ เพราะร่างกายของลูกสุนัขยังควบคุมอุณหภูมิร่างกายของตัวเองไม่ค่อยดี จึงควรได้รับความอบอุ่นอย่างทันที ซึ่งหากในช่วงที่มีอากาศหนาวก็อาจจะต้องทำการเพิ่มไฟกก เพื่อทำให้อุณหภูมิของลูกสุนัขไม่ลดต่ำมากเกินไป อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยงลูกสุนัข เช่น ขวดนมสำหรับลูกสุนัข กรงแบบกระเป๋า และ ชามอาหา รชามใส่น้ำ เป็นต้น
- ทำการเตรียมนม และ อาหารไว้สำหรับเลี้ยงลูกสุนัข ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทราบในการเลี้ยงลูกสุนัข คือ ลูกสุนัขห้ามกินนมวัวโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะลูกสุนัขที่ยังไม่หย่านม เพราะในนมวัวนั้นมีปริมาณสารอาหารที่ไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกสุนัข และ ร่างกายของลูกสุนัขบางตัวก็ไม่มีเอนไซม์ในการย่อยแลคโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลในน้ำนมวัว จึงอาจทำให้ลูกสุนัขเกิดอาการท้องเสีย รวมไปจนถึงนมผงสำหรับเด็ก นมกล่อง หรือ นมข้นหวาน ก็ห้ามนำมาให้ลูกสุนัขรับประทานเด็ดขาด ควรเลือกเป็นน้ำนมทดแทนสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ และ ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารของลูกสุนัข 2 เดือนไว้เพื่อทำการเตรียมความพร้อม เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกสุนัขเริ่มหย่านม และ กำลังหัดกินอาหารเม็ดนั่นเอง
- ควรทำการประเมินเวลา และ ค่าใช้จ่ายไว้ด้วย เนื่องจากการเลี้ยงลูกสุนัขนั้นจำเป็นต้องมีเวลาค่อนข้างมาก เมื่อตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงลูกสุนัขแล้วก็อาจจะต้องทำการแบ่งเวลาหรือ ตกลงกับสมาชิกในครอบครัว เพื่อมาทำการผลัดเปลี่ยนดูแลลูกสุขนั่นเอง เพราะการเลี้ยงสุนัขย่อมตามมาด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นเราจำเป็นต้องเตรียมค่าใช้จ่ายไว้ทั้งในเรื่องของค่าอาหาร ค่าฉีดวัคซีน และ รวมไปจนถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆเมื่อลูกสุนัขโตขึ้นด้วย
- เมื่อถึงอายุครบกำหนดควรพาลูกสุนัขไปทำการฉีดวัคซีน และ ทำการถ่ายพยาธิ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการดูแลสุขภาพลูกสุนัข ซึ่งในปัจจุบันสามารถพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป โดยคุณหมอจะทำการเลือกโปรแกรมวัคซีนให้เหมาะสมกับลูกสุนัข และ ไม่ควรฉีดวัคซีนเร็วกว่า 6 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้วัคซีนไม่ได้ผล และ อาจส่งผลข้างเคียงต่อลูกสุนัขได้
- ทำการเช็คน้ำหนักของตัวลูกสุนัขอยู่เสมอ โดยการนำลูกสุนัขมาชั่งน้ำหนักทุกวันเพราะในช่วง 2-3 เดือนแรกลูกสุนัขจะมีการเจริญเติบโตที่เร็วมาก ซึ่งน้ำหนักของลูกสุนัขนั้นควรเพิ่มขึ้นทุกวัน หากทำการเช็คแล้วพบว่าลูกสุนัขน้ำหนักลดลงให้ดูว่าลูกสุนัขนั้นได้รับอาหารเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ หากมีอาการเบื่ออาหาร และ มีอาการซึมร่วมด้วยให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยทันที
- ให้ระวังเรื่องท้องเสีย หรือ ถ่ายเหลว เนื่องจากอาการท้องเสียในลูกสุนัขถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าลูกสุนัขท้องเสีย หรือ มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำมีกลิ่นเหม็น หรือ มีมูกเลือดปน ให้ทำการพาลูกสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะมีโอกาสที่ลูกสุนัขอาจจะติดเชื้อไวรัส มีพยาธิ หรือ แพ้อาหารต่างๆได้ โดยสัตวแพทย์จะเป็นผู้ตรวจ และ ทำการวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกที ซึ่งปัญหาท้องเสียในลูกสุนัขนั้น ไม่ควรมองข้าม และ ประมาท เพราะอาจจะทำให้ลูกสุนัขถึงขั้นเสียชีวิตได้
Create Date : 09 สิงหาคม 2565 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2565 17:22:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 306 Pageviews. |
|
|