Group Blog
All Blog
|
สงครามเชื้อมรณะ บทที่ 2 หน้า 3 อิงดาวออกจากห้องเพื่อไปเข้าพบอธิการ เสียงเคาะประตูเบาๆ เป็นการขออนุญาตก่อนเข้าไป อธิการเงยหน้าจากกองเอกสาร “อ้าวหนูอิง มีอะไรหรือเปล่ามาหาลุง” อีกฝ่ายพูดจาอย่างเอ็นดูเธอมาก “ท่านคะอิงมีเรื่องอยากจะปรึกษาค่ะ” “มีอะไรเหรอ นั่งก่อนสิ” ผู้สูงวัยเอ่ยอย่างใจดี มองหน้าลูกน้องสาวที่มีแวววิตกกังวล “เมื่อวานคุณพ่อเล่าเรื่องประเทศเพื่อนบ้านเรามีโรคระบาดเกิดขึ้นค่ะ” “ฮืม” ผู้สูงวัยหันมาสนใจข่าวที่อีกฝ่ายมานำเสนอ “มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยเหรอ” “ค่ะ และหนูคิดว่า เราต้องเตรียมการณ์สำหรับเรื่องนี้” “เป็นเรื่องจริงค่ะ ตอนนี้ทางโน้นเขาค่อนข้างปิดข่าว ไม่ให้รั่วไหล แต่สายของแต่ละประเทศเริ่มไหวตัวแล้วนะคะ โดยเฉพาะไต้หวัน” “เราควรเตรียมบุคลากรให้พร้อม สิ่งจำเป็นสำหรับห้องแล็บ สิ่งจำเป็นสำหรับพนักงาน อย่างพวกแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ แมสอนามัย ควรมีการสำรองอย่างน้อย 6 เดือน” “ 6 เดือนเลยเหรอ ลุงว่าเราเช็คข้อมูลให้ชัวร์ก่อนดีไหม ถ้าสำรองทุกอย่างไว้ถึง 6 เดือน งบจะบานปลายโดยใช่เหตุ หากมันไม่ได้เรื่องร้ายแรงอะไร” อีกฝ่ายพูดเตือนสติสาวน้อยที่ดูเริ่มดูวิตก “ใช่ค่ะ เราไม่รู้ว่าเราควบคุมมันได้ขนาดไหน อิงคิดว่าเราควรจะสำรอง” “ลุงว่าเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมก่อนดีกว่า แล้วอีกอย่างลุงคิดว่าควรจะเช็คข้อมูลให้ดีก่อน” อิงดาวดูท่าทีอีกฝ่ายออก ว่าเขาอาจจะไม่เชื่อ “ได้ค่ะ หนูจะรวบรวมข้อมูลมาให้ท่านนะคะ” อิงดาวออกมาจากห้องอธิการ พลางถอนหายใจ การเตรียมของไว้สำหรับ 6 เดือน เป็น เรื่องใหญ่ เธอต้องเตรียมหลักฐานให้มากกว่านี้ ถ้าจะเอาพ่อเธอมาอ้างโดยไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักพอ ทางผู้ใหญ่คงไม่อนุมัติการตุนของไว้ครึ่งปีอย่างแน่นอน และอีกอย่างไม่มีใครตอบได้ว่า มันเป็นเรื่องจริงเท็จกี่เปอร์เซ็นส์ แล้วการระบาดจะกินระยะเวลานานขนาดไหน อธิการครุ่นคิดกับคำพูดอิงดาว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อ เขาเองก็ได้ข่าวลือมาเช่นกัน และเขาเชื่อการพยาการณ์ของอิงดาว แต่สิ่งที่เขายังไม่มีข้อมูลมากพอ การอนุมัติการซื้อของตุนมากขนาดนั้น ย่อมมีปัญหากับงบส่วนกลางเป็นแน่ อธิการโทรหารัฐมนตรีเพื่อปรึกษาเรื่องนี้เงียบๆ อิงดาวกลับมาที่ห้อง อันโทรมาหาเธอ “น้องอิง พี่ว่ามันน่าจะยากนะ ผู้ใหญ่ไม่อนุมัติซื้อของตุน 6 เดือนแน่ๆ ค่ะ” “ค่ะพี่อัน อิงเพิ่งคุยกับท่านมา ท่านมองว่าไม่มีเหตุที่ต้องตุน” “ก็ใช่น่ะสิ แล้วยังไงทำยังไงดี พี่จำเป็นต้องตุนของไหม?” อันถามเธอ เหมือนเธอไม่ได้ช่วยคิดอะไรเลย “งั้นถ้าไม่ได้ถึงครึ่งปี พี่อิงปรับเพิ่มเดือนละ 5 เท่า เป็นเวลา 3 เดือนก่อน ขอท่านดูว่าช่วงนี้ใช้ทำความสะอาดเพิ่ม” “อ้อ งั้นพี่จะลองดูนะคะ เพิ่มเดือนละ 5 เท่า เท่ากับ 100 ลิตร 3 เดือน ก็ 300 ลิตร แต่เวลาเขาขายยกถังละ 200 ลิตรนะคะ” “พี่อันสั่งเลยค่ะ 2 ถัง” อันคิดให้อย่างเรียบร้อย. “งั้นก็ได้ค่ะ” อันนาวางสายไปแล้ว เมษาเอารายงานที่คำนวนการใช้ต่อเดือนและยอดสต๊อคคงเหลือมาให้เธอ “1 เดือนเราใช้ เอธิล แอลกอฮอล์ 30-40 ลิตร มากกว่าส่วนกลางอีกน่ะ ส่วนเมทธิล ใช้ 10 ลิตร แค่สำหรับจุดตะเกียง สำหรับห้องแล็บ เราอาจจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณ เพราะเราใช้อย่างปกติอยู่แล้วทั้งการเช็ดพื้นที่ ส่วนเอธิล ต้องใช้กับเครื่องมือและก็เราเองที่ต้องใช้เช็ดมือก่อนทำแล็บ งั้นเพิ่มมาเดือนละ 10 ลิตร สำหรับผสม 75/25 ใช้เช็ดมือ เป็นเดือนละ 50 ลิตร 3 เดือน 150 ลิตร ก็น่าจะเพียงพอสำหรับห้องแล็บ แต่เขาขายถังละ 200 ลิตร เราสั่ง 1 ถังก็น่าจะพอ ตอนนี้สต๊อกเหลือ 50 ลิตร ถ้าสั่งมาตอนนี้ก็คงได้อีก 4 เดือน ” “แมส เราใช้ เดือนละ กล่องครึ่ง ยอดสั่ง 3 เดือน 5 กล่อง สต๊อกมี 1 กล่อง สั่ง เพิ่มจากปกติ 10 กล่อง” “ชุด PPE มี 10 ชุด สำรองเพิ่ม 15 ชุด” “ถุงมือยาง เพิ่มอีก 5 กล่อง” “มีอะไรอีกไหมเมษา” อิงดาวถามเมษา “คุณอิงคะ มันน่ากลัวขนาดไหนกันคะ โรคที่ว่านี้” เมษาถามเธออย่างสงสัย “ตอนนี้อิงก็ตอบไม่ได้ค่ะ เราแค่เตรียมตัวให้พร้อม พอถึงเวลานั้นเราจะได้ผ่านมันไปได้ค่ะ” “เรามีอะไรที่จะสั่งเพิ่มไหมนะ อ้อ อาหารเลี้ยงเชื้อด้วยนะคะ เมษา เผื่อเพิ่มไปเลย 3 เดือนค่ะ” “แล้วจะเอาอาหารตัวไหนเพิ่มค่ะ” “เอาเพิ่มทุกตัวค่ะ ยังไงอายุ 1 ปี เราเก็บไว้ใช้ได้นานค่ะ” เมษารับทราบแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน อิงดาวหันไปมองจอคอมพิวเตอร์แล้วเสริชหาข้อมูลเพิ่มเติม ห้องปฏิบัติส่วนกลางมีหน้าที่สนับสนุนงานวิจัยของรัฐ และงานตรวจสิ่งส่งตรวจทั่วราชอาณาจักร ทั้งของเอกชนและรัฐบาล บุคคลากรมีเพียง 9 คน รวมอิงดาวที่เป็นผู้อำนวยการของห้องปฏิบัติการขึ้นตรงต่ออธิการของกระทรวง ห้องปฏิบัติการถูกแยกออกมาจากงานด้านอื่นๆ เนื่องจากเพื่อความปลอดภัยและความลับขององกรณ์ ผู้อำนวยการแต่ละรุ่นนั้น จะถูกฝึกให้เป็นผู้เก็บซึ่งความลับอย่างแยบยล และเป็นคนที่อธิการไว้วางใจได้ เมื่อต้องทำงานที่มีความเสี่ยง หรือความลับของชาติ อิงดาวจึงเป็นคนสันโดดโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เริ่มงานที่นี่ เธอก็หายหน้าจากเพื่อนที่ติดต่อกันมานาน มีติดต่อทางโซเซียลบ้างเป็นบางครั้ง แต่ทุกคนแทบจะหาตัวเธอไม่พบ เธอย้ายมาอยู่คอนโดแยกจากครอบครัว แม้แม่จะไม่เข้าใจในตอนแรก เพราะนางห่างจากลูกที่หนีไปเรียนต่างประเทศตั้ง 8-9 ปี นานๆ ทีนางไปเยี่ยม ลูกสาวตัวดีซัมเมอร์ก็ไม่ค่อยกลับมาหาพ่อแม่ พอเรียนจบกลับมาอิงดวงยังปลีกตัวหนีไปอยู่คอนโดอีก แต่เวลาผ่านไปนางก็ทำใจได้ เพราะอิงดาวใช้วิดีโอคอลหาทุกวัน และเธอก็กลับบ้านทุกสัปดาห์ เย็นนั้นอิงดาวกลับคอนโด ทางเข้าคอนโด ถูกประดับตกแต่งด้วยไฟหลากสี พรุ่งนี้เป็นวันคริสต์มาสแล้วสินะ เธอลืมเสียสนิท อีกไม่กี่วันก็สิ้นปีแล้ว อิงดาวเริ่มทำงานที่ห้องปฏิบัติการส่วนกลางเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เผลอแป๊ปเดียวเอง เวลาผ่านไปเร็วเป็นปี แม่บ้านเดินเข้ามาทักอิงดาว “สวัสดีค่ะคุณอิง เมอรี่คริสต์มาสค่ะ” เธอยื่นคุกกี้ให้อิงดาว “ขอบคุณมากค่ะ พี่สายใจ” อิงดาวไหว้แล้วรับมา “เมอรี่คริสต์มาสค่ะ” เธอยิ้ม รู้สึกผิดในใจที่ตัวเองไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้แม่บ้านเป็นการตอบแทน ถ้าสั่งคุ๊กกี้กับพี่แพรก็คงจะได้ก่อนปีใหม่ คิดแล้วเธอก็กดไลน์เพื่อสั่งคุ๊กกี้กับเค้กปีใหม่กับแพร แพรรับออเดอร์จากหญิงสาวแล้วก็รีบลงลิสต์ให้แม่ทันที่ ที่บ้านแพรเป็นร้านเบเกอรี่เล็กๆ มีแม่กับน้องสาวช่วยกันทำ ส่วนแพรทำงานที่หน่วย ตั้งแต่เรียนจบ แต่ก็ได้ช่วยแม่ทำเค้กกับคุ๊กกี้ในวันเสาร์อาทิตย์ บางทียังเอาเบเกอรี่ไปฝากพี่ๆน้องๆ ที่ห้องแล็บบ่อยๆ อีก 5 วันก็จะสิ้นปีแล้ว งานราชการหยุด เสาร์ อาทิตย์แล้ว ยังหยุดต่ออีก 2 วัน วันที่ 30 ตามที่นัดหมาย สาวๆ หนุ่มๆ เตรียมตัวไปกินเลี้ยงปีใหม่ประจำปีตามที่อิงแจ้ง เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี ได้โอกาสปลดปล่อย กันก่อนจะหยุดยาวพักผ่อน อิงได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่ทุกคนสนุกสนาน หนุ่มๆ สั่งเครื่องดื่มมานั่งดริ้งค์กันพอหอมปากหอมคอ พอดึกสักหน่อยก็พากันไปต่อ ส่วนสาวๆ แยกกันกลับบ้าน ยังไม่ตื่นเต้นเลยค่ะ
โดย: หอมกร วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:9:11:40 น.
|
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] | ||