แสงเทียนแห่งชีวิต เรื่อง แสงเทียนแห่งชีวิต(เตือนใจคนติด ไฮโล)แสงไฟสลัวในยามค่ำคืนทำให้หัวใจที่กำลังเปราะบาง และเหนื่อยล้าทวีความอ่อนแอมากขึ้นทุกวินาที ภัทรนั่งจมอยู่กับความคิดบางอย่างซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ มันยากจริง ๆ กับการดึงตัวเองออกจากจุดที่ดำดิ่งของตัวเอง “พี่ภัทร ๆ ทานข้าว” เสียงของภรรยาปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ เธอเรียกซ้ำ ๆ แต่ภัทรก็ทำหูทวนลม เพราะตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอใครจริง ๆ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ เธอก็เดินจากไปเงียบ ๆ ไร้เสียงตะโกนดุด่าอย่างที่ผ่านมา ภัทรออกมาจากห้องใต้หลังคาตอนเที่ยงกว่า ๆ หลังจากที่เก็บตัวอยู่คนเดียวมา 2 วันเต็ม ๆ ความหิวสะกิดให้เขากลับมาอยู่กับปัจจุบันอีกครั้ง แต่เมื่อออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงก็พบว่าลูกและภรรยาได้หายไปจากบ้าน เสื้อผ้าและของใช้บางส่วนก็หายไปด้วย จดหมายเล็ก ๆ เขียนด้วยลายมือง่าย ๆ ของณิชาผู้เป็นภรรยาส่งถึงภัทรผู้เป็นสามีว่าเธอคงไม่สามารถทนอยู่กับผู้ชายที่ไม่คิดถึงอนาคต และไม่ยอมลุกขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้ เธอกับลูกขอไปตามทาง เพื่อทำตามความฝันที่วางเอาไว้ ภัทรอ่านจดหมายในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย เป็นอีกครั้งที่เขาผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับครอบครัว ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีก่อนขณะที่ประสบปัญหาทางการเงิน และหันไปพึ่งการหาเงินด้วยการเล่น การพนัน และยังติดเหล้างอมแงม จนทำชีวิตครอบครัวพังมาหลายรอบ และครั้งนี้ดูเหมือนว่าณิชาเธอคงจะมาถึงจุดที่ไม่สามารถให้อภัยเขาได้อีกแล้ว เมื่อเธอจากไปโดยไม่มีถ้อยคำล่ำลาจากปากของเธอ ไม่มีการทะเลาะต่อว่าเหมือนอย่างที่เคยเป็น แม้จะมีจดหมายที่มีข้อความสั้น ๆ ว่า “ลาก่อนนะ เรา 3 แม่ลูกขอไปตามทาง” นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเธอหมดแล้วซึ่งความอดทนที่เคยมีมา ทำให้ภัทรนึกถึงคำพูดของผู้เป็นแม่ที่เคยพูดไว้ว่า ‘ผู้หญิงเมื่อถึงจุดที่เข้มแข็งนั้นช่างเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญจริง ๆ’ มือของภัทรที่ถือจดหมายนั้นสั่นเทาเบา ๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ณิชาและลูก ๆ หนีออกไปจากชายคาหลังนี้ แต่ลึก ๆ ก็หวั่นใจไม่น้อย เพราะบัดนี้ท่าทีของณิชานั้นช่างแสนเย็นชาเหลือเกิน “อีก 2 วันจะถึงวันนัดคืนเงินแล้ว งวดนี้ห้ามผิดนัดล่ะ” ข้อความจากทินกิจผู้เป็นเพื่อนที่ให้ภัทรยืมเงินมาใช้จ่าย แต่ภัทรกลับนำไปเล่น ไฮโล จนหมดเกลี้ยง หนำซ้ำยังเลี้ยงสุรายาเมาเพื่อน ๆ ในวงจนไม่เหลืออะไร เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็ได้บอกกับณิชาอย่างตรงไปตรงมา และเธอก็ดูจะไม่ได้โกรธเขาด้วยซ้ำ และเมื่อวานตอนเย็นก็ยังคุยกันปกติ มาวันนี้เธอได้ตีจากเขาไปแล้ว “ถ้านายยังคิดว่าเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ ก็เห็นแก่เราบ้างเถอะว่ะ เงินก้อนนั้นคือเงินเก็บทั้งชีวิตของเราเลยนะ” ทินกิจส่งข้อความมาอีก ภัทรได้แต่อ่านข้อความแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ภัทรออกไปหาเพื่อน ๆ ที่บ่อนตามเคย แต่สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะมีเรื่องมากมายติดอยู่ในหัว คนในวงให้ภัทรหยิบยืมเงินมาจำนวนหนึ่ง ภัทรหวังว่าเงินก้อนสุดท้ายนี้จะช่วยให้เขากลับมามีเงินอีกครั้ง ภัทรมีสีหน้าจริงจังกับการวางเงินในแต่ละรอบ เวลาผ่านไปไม่นานเงินที่มีก็เริ่มร่อยหรอลงไปทุกที ตอนนี้จิตใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความร้อนรนกระวนกระวาย “โอ๊ย! อะไรว่ะ นี่แกล้งกันป่ะเนี่ย ไม่เข้าสักตาเลย” ภัทรเริ่มโวยวาย เสี่ยสินชัยเจ้าของบ่อนลอบมองอยู่ห่าง ๆ จึงเดินเข้ามาตบไหล่ของภัทร 2-3 ที “อย่าพาลสิไอ้น้อง เรื่องอย่างนี้ดวงใครดวงมันอย่าโทษคนอื่น” เสี่ยสินชัยกระซิบบอกภัทร “แต่มันก็เกินไปนะเสี่ย ผมลงกี่รอบ ๆ ก็ไม่โดนสักรอบอ่ะ” ภัทรเริ่มโวยวายเสียงดัง “พูดแบบนี้จะหาว่าพวกข้าโกงเหรอว่ะ” ลูกน้องเสี่ยสินชัยเอ่ยขึ้น “ก็เออสิว่ะ แล้วมันใช่ไหมล่ะ” ภัทรตอบกลับอย่างไม่เกรง แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคดี เขาก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นเพราะถูกลูกน้องเสี่ยสัญชัยกำหลาบ 2 วันต่อมา ภัทรยังนอนซมอยู่กับร่องรอยฟกช้ำจากการถูกซ้อมปางตาย โดยฝีมือของลูกน้องเสี่ยสัญชัยนั่นเอง อาการของภัทรเริ่มแย่มากขึ้นทุกวันเพราะรอยฟกช้ำเริ่มปูดนูนจนน่ากลัว แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะพาตัวเองไปหาหมอ จึงตัดสินใจโทรศัพท์หาณิชา แต่ก็ไร้เสียงตอบรับของปลายสาย ณิชาออกมาอยู่กับลูก ๆ ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกันกับบ้านของผู้เป็นแม่ เธอใช้ความคิดอยู่ 2 วันในการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไรดี และเริ่มด้วยการสานต่ออาชีพที่เคยเคยทำมาหาเลี้ยงชีพเมื่อครั้งยังใช้ชีวิตอยู่กับภัทร นั่นคือการขายข้าวมันไก่ เธอยังจดจำภาพที่ลูกค้าต่างชื่นชอบรสชาติข้าวมันไก่ และสูตรลับของเธอก็คิดค้นมานานพอสมควร เงินทุนในการเปิดร้านข้าวมันไก่ณิชาได้หยิบยืมมาจากผู้เป็นมารดาอีกที เธอจึงตั้งใจที่จะทำร้านข้าวมันไก่ออกมาให้ดีที่สุด ชีวิตที่ไร้ภัทรเหมือนจะยากแต่เธอก็ต้องหยัดยืนให้ได้อีกครั้ง ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของณิชา เธอเองทนเก็บความรู้สึกเสียใจมานาน จนวันหนึ่งที่ภัทรผู้เป็นสามีเดินมาบอกเธอหน้าตาเฉยว่าเขาได้นำเงินที่ยืมมาจากทินกิจไปเล่น ไฮโล บางวันเค้าก็เล่น เกมยิงปลา จนหมดเกลี้ยง เขาคงเห็นเธอเป็นคนไม่มีปากไม่มีเสียงสินะ คงคิดว่ายังไงเธอก็คงยอมให้เขาทำร้ายซ้ำ ๆ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งณิชาก็ยังให้อภัยเขาเสมอมา “โอ๊ย!” ภัทรร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เมื่อเผลอขยับตัวอย่างแรง อาการฟกช้ำทั่วร่างกายยังไม่หายดี จึงทำให้เขาทรมานกับความเจ็บปวดนี้ “ภัทร ๆ” เสียงเรียกชื่อภัทรดังขึ้นจากหน้าบ้าน ภัทรได้ยินแต่ก็ไม่สามารถเดินไปเปิดประตูหรือแม้แต่จะชะโงกหน้าไปดูว่าใครที่มาส่งเสียงเรียกเขาที่หน้าบ้าน “ภัทรอยู่ไหม” เสียงของผู้หญิงที่น้ำเสียงนั้นช่างแผ่วเบา เป็นเสียงของนางผกาผู้เป็นมารดาของภัทรนั่นเอง ‘แม่มาที่นี่ได้อย่างไรกัน’ ภัทรได้แต่ตั้งคำถามในใจ เพราะไร้เรี่ยวแรงจะเอื้อนเอ่ย “นี่ทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้เนี่ย” หญิงชรายังตั้งคำถามที่ไร้คำตอบ “แค่ก ๆ ๆ” ภัทรกระแอมไอก่อนจะตอบเบา ๆ ภายหลัง “แม่มาได้ไง” ภัทรเอ่ยถามขึ้น “ก็มีคนบอกมาว่าแกโดนซ้อมปางตายไงล่ะ” ผกาตอบอย่างประชดอยู่ในที แต่ก็ไม่วายเดินไปเทข้าวต้มใส่ชามและยกมาวางตรงหน้าลูกชายที่ไม่รู้จักโตคนนี้ ภัทรคุยกับผู้เป็นแม่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเป็นครั้งแรกที่เขาร้องไห้สำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะมันเลวร้ายเกินกว่าที่จะให้อภัย “ถ้ารู้สึกผิดจริง ๆ แกก็ต้องลุกขึ้นมาทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ใช่จะมานั่งก่นด่าชีวิตของตัวเองแบบนี้” ผกาบอกกับลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาของภัทรนั้นดูเศร้าและสิ้นหวังจนเธอต้องพูดอะไรบ้าง เป็นการปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาสู้กับโลกแห่งความเป็นจริง “แล้วใครเขาจะให้โอกาสคนอย่างผมล่ะ แม้แต่ลูกกับเมียยังทิ้งผมได้” ภัทรบอกอย่างหมดอาลัย “ก็ใครจะไปทนให้แกทำร้ายซ้ำ ๆ ล่ะ นี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้ว” ผกาสวนกลับ แต่ก็ยังลอบสังเกตสีหน้าของภัทรอยู่ “คนเรามันมีโอกาสให้เริ่มใหม่ได้ แต่ก็อย่าใช้โอกาสเปลือง ไม่งั้นคนให้โอกาสเขาก็ไม่เชื่อใจเราอีกแล้ว” ผกาเอ่ยจบก็เดินจากไป ภัทรจึงได้แต่มองตามหลังผู้เป็นแม่ไปจนสุดสายตา ภัทรครุ่นคิดทบทวนไปมาหลายรอบ แต่ก็หาทางออกของปัญหาไม่เจอสักทาง เขาจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลวแหลกนี้อย่างไรดี ‘มันจบแล้วจริง ๆ’ หรือ ‘หรือว่ายังเริ่มใหม่ได้’ ภัทรคิดซ้ำไปซ้ำมา และก่อนจะนอนจึงได้พยายามหาทางสงบสติอารมณ์ที่ผุดขึ้นไม่หยุด ด้วยการนั่งสมาธิ ทว่าจิตที่ยังฟุ้งซ่านของภัทรทำให้เขาสมาธิหลุดอยู่หลายรอบ “ถึงจะยังหาทางออกไม่เจออย่างน้อยที่สุดเราก็ควรลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง” ภัทรบอกกับตัวเองขณะที่กำลังเก็บกวาดบ้านอักแสนรกที่เขาทำไว้ จากนั้นก็เริ่มมองหาสิ่งที่จะช่วยให้จิตใจของเขาเขาที่เข้าทาง จึงเริ่มโทรศัพท์ไปหาเพื่อน ๆ สมัยเรียนที่ยังนับว่าเขาเป็นเพื่อนอย่างไมตรี ไมตรีแนะนำให้ภัทรลองฝึกทำสมาธิง่าย ๆ ด้วยการตามดูตามรู้จิตใจ อย่าเพิ่งไปบังคับว่าต้องสงบ หรือเราต้องหายเศร้าในทันที ภัทรลองทำตามคำแนะนำของไมตรีอยู่หลายวัน มีหลุดบ้างแต่ก็ไม่ลดละความพยายาม ผกามาเยี่ยมภัทรในรอบสามเดือน และพบว่าภัทรดูมีสีหน้าดีขึ้น แม้จะยังไม่เข้าที่เข้าทางแต่ก็เห็นว่าภัทรลุกขึ้นมาทำสิ่งใหม่ ที่ไม่ขลุกอยู่กับความกลัว ความเศร้า และไม่กลับไปเล่น การพนัน อีก ภัทรเริ่มกลับไปทำงาน โดยกลับไปสานต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่างที่เคยทำ ช่วงแรก ๆ ลูกค้ายังไม่ไว้ใจว่าภัทรจะทิ้งงานเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ด้วยฝีมือและความสามารถของภัทรก็ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการเขาอีกรอบ ธุรกิจร้านข้าวมันไก่เล็ก ๆ ของณิชาก็เริ่มดีวันดีคืน เธอพอจะรับรู้ข่าวเกี่ยวกับภัทรอยู่เรื่อย ๆ เพราะผกายังส่งข่าวของภัทรให้เธอทราบอยู่เสมอ ทุกคนมองดูสิ่งที่ภัทรทำอยู่ห่าง ๆ ช่วงหลัง ๆ ณิชาจึงยอมคุยกับภัทรอีกครั้ง เขาบอกว่าอยากกลับมาหาเธอกับลูก แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเขารู้ดีว่าตนเองยังดีไม่พอที่เธอและลูกจะยอมให้อภัย ภัทรเริ่มหันหน้าเข้าทางธรรม เขาดูใจเย็น และใช้ธรรมะนำทาง จนเมื่อครั้งหลังสุดที่ภัทรแวะมาหาณิชาและลูก ๆ เธอก็พบว่าเขาดูเป็นผู้เป็นคนกว่าแต่ก่อน เงินทองที่เคยไปหยิบยืมเพื่อน ๆ มา ก็นำไปใช้คืนได้เกือบครบ เพื่อนฝูงที่เคยเลิกคบกันไปก็หันหน้ากลับมาคุยกันได้บ้าง จนตอนนี้ณิชาเห็นถึงพัฒนาการในตัวเขามากขึ้น ณิชารู้ดีว่าการที่จะปลงใจเชื่อว่าภัทรเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ อาจพิสูจน์ไม่ได้ในทันทีทันใด เพราะเธอก็ยังเจ็บปวดกับความเสียใจในอดีตได้ไม่ลืมเลือน หากแต่จะปิดทางภัทรไปเลยก็อาจจะทำให้ภัทรเสียผู้เสียคนไปอีกก็เป็นได้ เธอยอมรับว่ายังรักเขาอยู่ แต่หากใจอ่อนในตอนนี้ก็คงจะไม่ได้สามีที่เคยแสนดีเอาการเอางานคนเดิมกลับมาได้แน่ ภัทรเองยังเดินหน้าทำงานอย่างแข็งขัน ดูแลจิตใจด้วยการใช้ธรรมะ และพยายามรักษาชีวิตครอบครัวของตนให้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง จนเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี เขาถึงยอมเอ่ยปากกับณิชาให้กลับมาเป็นครอบครัวดังเดิม และเธอก็ยินยอมที่จะกลับมาเป็นครอบครัวอย่างเต็มใจ ครอบครัวของภัทรกลับมาได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะทุกคนทุกฝ่ายต่างช่วยกัน ภัทรนึกขอบคุณที่เขามีแม่กับภรรยาที่คอยสนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวของเขา และยังนึกขอบคุณไมตรีเพื่อนรักที่พยายามดึงเขาเข้าหาธรรมะ ทุกคนจึงเปรียบเสมือนแสงเทียนแห่งชีวิตของภัทรจริง ๆ ขอบคุณบทความจาก stopgamblingforyoufamily.com |
สมาชิกหมายเลข 6701337
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog | ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |