....OUR FAMILY'S JOURNEY....
สุวรรณภูมิ-ปักกิ่ง



สุวรรณภูมิ-ปักกิ่ง
(96 ชม. ที่ปักกิ่ง ตอนที่ 1 )


อ่านตอนที่ 2 : คล๊กที่นี่



ช่วง ที่บ้านเรากำลังร้อน มหาร้อนเลยถือโอกาสพักร้อน ไปรับลมเย็นๆที่ปักกิ่ง แบบว่าที่นั่นกำลังเข้าช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ยังมีลมเย็นจากอากาศที่หนาว 3 - 15 องศาเซ็นเซียส แม้ว่าจะไม่หนาวนักสำหรับคนที่นั่น แต่เราที่ไปจากเมืองร้อน ก็หนาวเอาการอยู่เหมือนกัน

ถ้าจะไปเที่ยวเมืองหนาวผมก็จะเลือกเอาช่วงนี้แหละส่วนใหญ่ คือป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของเขา คืออบอุ่นเขา และไม่หนาวมากสำหรับเรา ....

คงต้องทยอยลงเป็นตอนๆให้ท่านผู้อ่านรำคาญอีกแล้วล่ะครับ ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะ อยากลงภาพเยอะๆ คือให้ภาพสื่อความหมายแทน เพราะความสามารถที่จำกัดของผู้เขียนเลยต้องใช้วิธีนี้ คงไม่ว่ากันนะครับ..


เตรียมตัวเดินทาง

ทุกปีช่วงปลายมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กนักเรียนเขาปิดเทอมใหญ่กัน ครอบครัวเราก็ถือโอกาสในช่วงนี้แหละที่จะเดินทางไปพักผ่อนพร้อมกัน ซึ่งก็มีบางครั้งที่เราไม่ได้ไปหมดทุกคน เพราะเจ้าลูกชายมักจะใช้เวลาว่างช่วงนี้ไปเรียพิเศษพร้อมกับเพื่อนๆ ครั้งนี้ก็เช่นกันเขาจะไปเข้าค่ายฟิสิกส์-ดาราศาสตร์โอลิมปิก ของ ส.อ.ว.น. เราจึงเหลือกันสองคน ซึ่งคนหนึ่งทำหน้าที่ถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่ง และเคลื่อนไหว ส่วนอีกคนหนึ่งก็ถือโอกาสเป็นแบบให้...

ตกลงกันเสร็จสรรพว่าปลายมี.ค. นี้ เราน่าจะไปเยี่ยมปักกิ่ง หรือฝรั่งเขาเรียกว่า Beijing หรือเผยจิง นี่แหละ.. เราค้นหารายการที่เราชอบ คือเที่ยวหลายๆที่ (ถึงจะโฉบ ก็เอาน่า..) ซื้อของน้อยๆ พอดีมีรายการ Promotion รายการหนึ่งเดินทางด้วย TG ช่วง 22- 26 มี.ค. ดูจะเข้าท่ากว่ารายการอื่น เราก็เริ่มจองล่วงหน้าไว้ประมาณ 1 เดือน เริ่มจากการวางมัดจำ ส่ง passport เพื่อดำเนินการขอวีซ่า และจ่ายค่าเดินทางที่เหลือทั้งหมดตามเงื่อนไข สุดท้ายก็ได้รับการนัดหมายจากเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ถึงสถานที่จะเจอกันที่สุวรรณภูมิ


Day 1..สุวรรณภูมิ ถึง ปักกิ่ง

เที่ยวบินที่ TG 614 สุวรรณภูมิ-ปักกิ่ง
เราเจอกันที่ counter D ของสายการบินไทย หลังจากที่เราติด Tag ที่สัมภาระการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปทำการเช็คอินเมื่อเวลาประมาณ 0900 น ที่ counter D11 และเข้าไปรับการตรวจเอกสารขาออกที่ ตม. เมื่อทุกอย่างเรียร้อยก็เหลือกระเป๋ากล้องใบเล็กติดตัว และเดินตัวปลิวเข้าไปสู่ท่าจอดของสายการบินไทยที่แถวหลุมจอดที่ E8
.




สนามบินสุวรรณภูมิ





นักเดินทางรอเช็คอิน





ภายในบริเวณรอขึ้นเครื่อง





เห็นศาลานี้ อยากถ่ายภาพทุกครั้ง คราวนี้ถ่ายด้วยไวด์ 10-20 ซิกม่า




1030 น.เจ้าจำปีก็พาเราเหินฟ้าสู่มหานครปักกิ่งที่มีผู้คนอาศัยอยู่กว่า 13 ล้านคน และเป็นมหานครอันเก่าแก่ของประเทศจีน เครื่องบินพาเราเหินฟ้าอยู่ 4.10 ชม ก็ถึงสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง ซึ่งตรงกับเวลาที่นี่ 1611 น. ซึ่งเร็วกกว่าที่กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง





สนามบินนานาชาติปักกิ่ง





ทางขึ้นจากเครื่องที่สนามบินนานาชาติปักกิ่ง




สนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่ง หรือที่เรียกกันว่า Beijing Capital International Airport (BCIA) เป็นสนามบินที่ทันสมัย สามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 43 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 55 ล้านคนในปี 2015 โดยมีพื้นที่ 1 ล้าน ตารางเมตร เป็นฝีมือการออกแบบของ Foster & Partners บริษัทสถาปนิกชื่อก้องโลกของ Sir Norman Foster ผู้ออกแบบอาคารที่สำคัญหลาย ๆ อาคารในอังกฤษ รวมทั้งอาคารสนามบินอย่างสนามบิน Chek Lap Kok ในฮ่องกง





เดินต่อไปที่ ตม.






ผ่าน ตม. มาได้ก่อนไปขึ้นรถไฟฟ้า จะเจอแผ่นภาพนี้ (ภาพสะท้อนกระจกมาก แต่อยากให้ดูกรอบภาพที่สวยมาก)





Foster สถาปนิกนักเดินทางที่เข้าถึงจิตใจผู้โดยสาร ได้ออกแบบทางเดินแต่ละส่วนให้สั้นที่สุด ฟอสเตอร์ได้แบ่งอาคารที่กว้างขวางทอดตัวจากทิศใต้ไปสู่ทิศตะวันออก เพื่อช่วยลดไอร้อนจากแสงอาทิตย์ แต่ติดสกายไลท์ให้แสงแดดละมุนละไมได้ฉายส่องเข้ามาพร้อมทั้งใช้นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนภายในตัว .....

ที่เทอร์มินอล 3 ที่เราไปถึงเพิ่งเปิดใหม่เมื่อ กุมภาพันธ์ 2008 เพื่อต้อนรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ ฉะนั้นความหรูหราของที่นี่จึงไม่แพ้ที่ใดๆในโลก

พอเครื่องแตะรันเวย์ เหลือบมองไปเห็นที่จอมอนิเตอร์ของเครื่องบอกเราว่า เวลาท้องถิ่น 1611 น และอุณหภูมิภายนอก 11 องศาเซ็นเซียส จึงเห็นผู้โดยสารหลายคนเอาเสื้อแจ๊คเก็ตมาใส่ แต่เราดูพยากรณ์อากาศของ Yahoo ไปจากบ้านแล้ว เลยเดาเอาว่าคงหนาวแน่ๆจึงเตรียมเอาเสื้อออกมาไว้ตั้งแต่ตอนที่ขึ้นเครื่องแล้ว





ตามทางเดินในสนามบิน




เราออกเครื่องเข้าสู่ตัวอาคาร เพื่อผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งที่ปักกิ่ง ไม่ค่อยจะเสียเวลามากนัก ไม่เหมือนเมืองอื่นๆ เช่นที่โอซาก้า จะเสียเวลามากกว่า นี่อาจจะเป็นอานิสงฆ์จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่ผ่านมาก็ว่าได้

หลังจากผ่าน ตม. เสร็จก็เดินไปรอขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อไปส่งต่อทีจุดรับกระเป๋า ซึ่งเจ้ารถไฟฟ้าจะพาเราทั้งมุดดิน และขึ้นบกไม่นานก็ถึงสถานีที่ลงเพื่อรับกระเป๋า (ซึ่งก็มีเพียงสถานีเดียวนั่นแหละ)


รับกระเป๋าเสร็จก็ลากไปรอรถบัสที่จะมารับที่หน้าอาคาร มองเห็นโดมกระจกสวยงามมาก นี่คงเป็นวิธีทีจะรับแสงด้านนอกให้มากที่สุด เพื่อการประหยัดพลังงานนั่นเอง





รอรถมารับตรงนี้




เราขึ้นรถบัสเพื่อเข้าเมืองปักกิ่ง ซึ่งมีไก๊ด์สาวชื่อ ลีน่า เป็นคนนำทาง ลีน่าใช้ภาษาไทยได้คล่องแคล่วมาก จะมีบ้างที่เธอยังไม่อินท์ก็คือ คำราชาศัพท์ ที่แม้แต่คนไทยเราแท้ๆยังใช้ไม่ค่อยจะถูกกัน แต่ก็ดีมากสำหรับการเรียนภาษาไทยที่ปักกิ่งเพียงแค่ 2 ปี

ลีน่า เธอก็เริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆที่เป็นที่มาของสนามบิน และเมืองปักกิ่ง ช่วงก่อนและหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้เราฟัง ไม่นานนักรถก็มาถึงด่านเก็บเงินสำหรับทางด่วนซึ่งออกแบบหลังคาแปลก และสวยดี





ด่านเก็บเงิน




ตามเส้นทางที่เราผ่านเข้าเมืองปักกิ่ง จะเห็นสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอยู่ทั่วไป... ต้นไม้ตามเส้นทางที่เหลือแต่กิ่งก้าน ปราศจากใบเต็มไปหมด บางต้นก็กำลังแตกตาเตรียมจะผลิใบในอีกไม่นานวัน ฉะนั้นสีสรรของปักกิ่งวันนี้จึงเต็มไปด้วยสีน้ำตาล คล้ายๆหญ้าแห้ง รอวันที่จะเพิ่มชีวิตชีวาเมื่อหน้าหนาวผ่านไป...





ยังมีภาพที่เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาให้เราได้ชมตลอดข้างทางเข้าปักกิ่ง




พอเราเข้าเมือง ก็เจอรถรามากมายไปหมด ปักกิ่งเปลี่ยนไปแล้ว จากการขับขี่จักรยานที่เราเคยเห็นภาพในอดีต กลายเป็นรถรามากมายในถนน แถมความเป็นระเบียบเรียบร้อยยังไม่ค่อยมี การขับสลับเลนส์ยังก็ทำกันตามสบายโก๋อยู่ เราจึงได้ยินเสียงแตรดังลั่นไปทั่ว

แต่ก็ยังดีที่ทางการเขาตีเส้นทึบไว้ข้างทาง เพื่อให้ชาวบ้านขี่จักรยานได้เหมือนเดิม และเลยเส้นช่องขี่จกรยานเข้าไปจนถึงฟุตบาท จะให้รถจอดได้





อาคารในปักกิ่ง




สามสิ่งที่ลีน่าบอกเราว่าในปักกิ่งจะหาดูได้ยากคือ หญิงท้อง มอเตอร์ไซด์ และสุนัข .....

การคุมกำเนิดประชากรที่เมืองจีน โดยเฉพาะที่ปักกิ่ง เข้มข้นมากเพราะประชากรทั่วประเทศที่มีมากกว่า 1400 ล้านคน กฏที่ว่า 1 คนต่อครอบครัวก็ยังถูกนำมาใช้อยู่ เราจึงไม่ค่อยเห็นคนท้องเดินในถนน

มอเตอร์ไซด์ ถือเป็นตัวทำให้เกิดมลพิษ ทางการจึงไม่อนุญาติให้มี คือใครที่มีอยู่ก่อนหน้า ถ้าหมดอายุก็จะไม่ต่อทะเบียนให้ ก็คือยกเลิกโดยปริยาย ส่วนรถจักรยานที่ใช้แตเตอรี่มีให้เห็นมากมายครับ





ปักกิ่ง




ส่วนสุนัข ก็อย่างที่เราท่านรู้ๆกัน คือ จีน เกาหลี และเวียดนาม เขานิยมทานเนื้อสุนัข...แต่ลีน่าบอกเราว่าการที่ใครจะเลี้ยงสุนัขได้ต้องฐานะดี เพราะจะเสียค่าดูแลรักษา เช่นฉีดยา แพงมาก แต่ จขบ. เข้าใจว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องสถานที่ด้วยแหละ เพราะค่าที่พักที่เช่าเป็นห้องๆที่ปักกิ่งแพงมาก..... แต่เช้าๆก็พอมองเห็นคนจูงสุนัขมาออกกำลังกายเหมือนกัน

ลีน่าพูดเชิงตลกว่า ถ้าเมื่อไหร่เจอหญิงท้องขับขี่มอเตอร์ไซด์ไปพร้อมสุนัข ก็ให้รีบถ่ายภาพเก็บไว้ เพราะเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งในปักกิ่งว่างั้น..





อาคารในปักกิ่ง









รถบัสพาเราวนไปเพื่อชมอาคารสำนักงานใหญ่ CCTV ที่กรุงปักกิ่งที่สร้างด้วยเหล็ก และออกแบบสวยงามมาก เสียดายภาพที่ถ่ายมารีบมาก เพราะถ่ายบนรถ เลยออกมาไม่ดีนักเลยขออนุญาติท่านผู้อ่านนำภาพจาก website มาลงให้ชมครับ

อาคารนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ha เริ่ม project เมื่อเดือน กันยายน 2004 ซึ่งวางแผนให้แล้วเสร็จก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2008 ค่าใช้จ่ายประมาณ 750 million USD ใช้เหล็กทำเป็นโครงสร้างทั้งหมด เมื่อแล้วเสร็จจะรองรับเจ้าหน้าที่ได้ 10,000 คน.. ลีน่าเธอพูดเชิงตลกว่า สาเหตุที่เหล็กในโลกขึ้นราคา เพราะจีนเอามาสร้าง สนามกีฬารังนก และอาคาร CCTV แห่งนี้แหละ




อาคาร CCTV (ภาพจาก web)




หลังจากวนชมเมืองปักกิ่งอยู่ซักพัก เขาก็พาเราไปทานอาหารมื้อแรกที่มาถึงปักกิ่ง อาหารออกรสจืดๆ มีมันเยอะ ถ้าท่านใดมีปัญหาเรื่องอาหารรสจืด แนะนำให้พกพวกพริกนรกไปด้วยก็จะดีครับ ..... แต่เที่ยวนี้คุณนพ หัวหน้าทัวร์เราเตรียมไปเผื่อทั้งพริกน้ำปลา และพริกนรก

สิ่งหนึ่งที่ปรากฏบนโต๊ะอาหารทุกมื้อคือ เบียร์ Yanjing ซึ่งผลิตที่ปักกิ่ง รสชาดเบาๆ ทานแทนน้ำได้เลย ซึ่งเขาจะมีให้โต๊ะละ 2 ขวดเป็นประจำ (ทุกมื้อจะเห็นแบบนั้น)





อาหารมื้อแรกที่ปักกิ่ง





เบียร์ Yanjing ของปักกิ่ง




ทานมื้อเย็นเสร็จเขาก็พาเราเข้าที่พักที่ Holiday Inn Epress สาขา The Temple of heaven ใกล้ๆกับหอฟ้าเทียนถาน ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงแรมบอกว่าเดินประมาณ 10 นาที่ก็ถึง... แต่คงไม่มีใครไปหรอก เพราะหนาวก็หนาว อีกอย่างหนึ่งเขาคงปิดไปแล้ว

บริเวณที่เราไปพัก เห็นลีน่าบอกว่าเป็นย่านกลางเมืองปักกิ่ง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลางขนาดไหน เพราะถ้าจะดูจากแผนที่ๆตั้งของโรงแรม ฮอลิเดย์อินน์ซึ่งมีกว่า 18 แห่งในปักกิ่งก็น่าจะไกลจากใจกลางเมืองพอควร





เข้าที่พักที่ Holiday Inn Express











ห้องพัก













สภาพห้องพักพอใช้ได้ ตามมาตรฐานของโรงแรมขนาด 3 ดาว สิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกนิดของที่นั่นคือ เรื่องกระดาษที่ใช้ในห้องน้ำ คือแข็งและกระด้างไปหน่อย ซึ่งคุณภาพต่างจากบ้านเรามาก

บริเวณไม่ห่างจากที่พักเรามากนักจะมีทั้งภัตราคาร และซูเปอร์มาร์คเก็ต แต่ที่นี่จะปิดแค่ 3 ทุ่มเท่านั้น อีกอย่างพนักงานที่ขายของจะสื่อภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้

ซึ่งวันหนึ่งเจ้าของบล๊อกไปซื้อของ เมื่อเขาคิดเงินเสร็จ ก็ไม่เห็นเขาเอาของใส่ถุงพลาสติคให้เราซักที เลยชี้ไปที่ถุง เธอส่งภาษาจีนคล้ายๆจะบอกว่า "ถ้าอยากได้ถุงใส่ของกลับบ้าน แบบนี้ก็ต้องจ่ายอีกคึ่งหยวน".... กว่าจะรู้เรื่องก็เมื่อยมือเหมือนกัน เพราะครึ่งหยวนนี่เธอบอกเราไม่ได้ เราต้องใช้วิธีส่งแบ๊งค์ 5 หยวนให้ ฌะอบอกว่า ไม่ จึงส่ง 1 หยวนให้ เธอบอกว่า ฮ้อๆ แล้วทอนมาให้เราเป็นแบบเจียว

Guide ; - สกุลเงินของจีนเรียกว่า เหรินหมินปี้ (renminbi) โดยรู้จักกันในตัวย่อว่า RMB ที่เวลาเรารูดบัตรเขาจะเขียนว่า RMB = xxx นั่นแหละครับ
- ส่วนคำว่าหยวน (Yuan) จะเป็นหน่วยเงินพื้นฐานของเหรินหมินปี้ครับ ซึ่ง 1 หยวน จะมี 10 เจียว (Jiao) และ 1เจียวจะมี 10 เฟิน (Fen)
- ธนบัตรของจีนจะมี 100 หยวน 50 หยวน 20 หยวน 10 หยวน 5 หยวน 1 หยวน 5 เจียว และ 1 เจียว.... แต่ถ้าเป็นเหรียญจะมี 1 หยวน 5 เจียว 1 เจียว 2 เฟิน และ 1 เฟิน.





ถนนด้านหน้าโรงแรม




อากาศวันที่ไปถึงเย็นมาก หลังจากเก็บของเสร็จออกไปเดินที่ถนนได้ซักพัก ต้องรีบกลับเข้าโรงแรมเพราะหนาว อาบน้ำอุ่นสบายๆแล้วพักเอาแรงไว้เดินพรุ่งนี้ดีกว่า



อ่านตอนที่ 2 ll

_____________








Create Date : 31 มีนาคม 2552
Last Update : 24 กรกฎาคม 2556 22:27:09 น. 7 comments
Counter : 4556 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ คุณ wicsir

เรื่องที่ไกด์ทัวร์เล่า เหมือนที่คุณแม่กลับมาเล่าให้ฟังเลยค่ะ รู้สึกว่าจะมีห้าอย่างนะคะ นอกจากหญิงท้อง สุนัข มอเตอร์ไซด์ แล้วก้อจะเป็นพวกรถบรรทุก และอะไรอีกอย่างนึงน๊า ลืทไปแล้วค่ะ อิอิ

อากาศช่วงที่ไปยังเย็นมากอยู่เลยใช่มั๊ยคะ แต่ท่าทางคงเดินเที่ยวสนุก ไม่เหนื่อยดีนะคะอากาศอย่างนี้

รอติดตามตอนสองต่อเลยละกันนะคะ


โดย: nLatte วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:12:40:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ เกาะจอรอเหมือนกัน


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:13:59:27 น.  

 
ตามรอตอนต่อไปด้วยคนค่ะ จะตามรอยไปช่วงสงกรานต์ค่ะ แต่ยังเตรียมเสื้อผ้าไม่ถุกเลยอ่ะค่ะ บางคนก็ว่ายังหนาวมากอยู่ บางคนก็บอกว่า เย็นๆ แบบทนได้


โดย: ให้ตายก็หาไม่เจอ IP: 202.12.118.61 วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:16:57:02 น.  

 
สวัสดีครับ nLatte.... เรื่องเล่าของไกด์ ผมว่าน่าจะเป็นที่มุขขำๆของแต่ละคนนะครับ อย่างน้องคนนี้ก็ได้อารมณ์ขันจาก กรุ๊ป อบต. ทางภาคตะวันออกมา

หวัดดีครับคุณตุ๊ก..... จากหนาวมาเป็นร้อน ทำให้ไอคร๊อก ไอแคร๊กอยู่ครับ แต่คงพยามนำมาลงให้เพื่อนๆได้ดูในวัน สองวันนี้ครับ

หวัดดีครับ ให้ตายก็หาไม่เจอ ........ อากาศที่ปักกิ่งช่วงสงกรานต์ไม่น่าต่างกันมาก น่าจะอยู่ที่ 4-18 องศา ควรเตรียมเสื้อแจคเก็ตไปด้วย ตามประสาชาว กทม. เมืองที่มี 2 ฤดู คือ ร้อน กะ ร้อนมากครับ แต่เพื่อความชัวร์ ดู Yahoo ก่อนไปก็ดี เพราะอากาศแปรปรวนมาก..

ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านนะครับ


โดย: wicsir วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:18:25:55 น.  

 
กลับถึงมาบ้านก็มาชมภาพสวยๆ อีกรอบค่ะคุณ wicsir

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
ปล. รีบลงตอน 2 ไวไวนะคะ


โดย: ให้ตายก็หาไม่เจอ วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:23:01:44 น.  

 



คุณ wicsir...
สวัสดีปีใหม่ไทย...นะคะขอให้มีความสุข...มากๆค่ะ

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

เล่นสงกรานต์ให้สนุกนะคะ...

***เพลงเพราะจังค่ะ...


โดย: คนชุมแสง วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:12:59:08 น.  

 
หวัดดีครับ คนชุมแสง..... ขอบคุณที่แวะมา พร้อมดอกคูณ ขาดเพียงเสียงแคนน่ะ..เที่ยวให้สนุกเช่นกันครับ


โดย: wicsir วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:8:17:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.