....OUR FAMILY'S JOURNEY....
++ พาชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ เยอรมัน ++






อ่านโรแมนติกเยอรมัน: ตอนค้างแรมที่มิวนิค




วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เราเดินทางในแคว้นบาวาเรียของเยอรมัน โดยออกเดินทางจากมิวนิค (Munich) ในช่วงเช้าโดยมีโปรแกรมที่การเยี่ยมชมปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) ใกล้ๆกับเมืองฟุสเซ่น ซึ่งว่ากันว่าเมืองฟุสเซ่นนี้โรแมนติกมากๆ แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาสแวะเก็บภาพมาฝากกัน.






เส้นทางสู่ปราสาทนอยชวานสไตน์




เส้นทางที่จะไปสู่ปราสาทนอยชวานสไตน์ต้องผ่านพื้นที่ชนบทของเยอรมัน โดยลงไปทางใต้จากเมืองมิวนิค ระยะเวลาการเดินทางก็ประมาณ 1 ชั่วโมง ... นาที ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีฉากเทือกเขาแอลป์ที่เคลือบยอดเขาไว้ด้วยสีเงินของหิมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เวลานั่งรถยิ่งเข้าใกล้บริเวณปราสาทที่ตั้งอยู่เชิงเขาสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก






แผนที่การเดินทางวันนี้




บ้านเรือนในชนบทของเยอรมันแยกออกจากภูมิทัศน์ของเมืองยากมาก เพราะความเจริญของเขาไม่ต่างกันเลย แถมพื้นที่ยังสะอาดสะอ้านปราศจากขยะเหมือนบ้านเรา (มีคำประชดประชันในบ้านเราว่า ถ้าเห็นขยะพวกถุงพลาสติกมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าใกล้จะเข้าเขตเมืองแล้ว) นั่นอาจเป็นเพราะคนในประเทศของเขารักษาระเบียบวินัยได้ดีมาก แถมยังเครพกฏหมายอย่างเคร่งคัดอีกต่างหาก และนั่นคงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ประเทศเขาพัฒนาไปได้ดีมากด้วย.








ใบไม้ที่กำลังผลิใบแถมมีดอกด้วยในบางต้น สลับกับทุ่งหญ้าสีเขียวกับหลังคาบ้านสีสด ทำให้ภาพที่เห็นสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก อยากมีเวลาลงไเดินหรือปั่นจักรยานเล่นแถวนั้นจัง ฉากหลังที่เป็นเทือกเขาสูงฉาบด้วยสีเงินของหิมะ เมื่อต้องแสงแดดทำให้ภาพส่องประกายระยิบระยับ สวยงามสุดบรรยาย.













ผ่านพื้นที่ชนบทในเยอรมัน




รถเราแวะจอดตรงใกล้ๆโบสถ์ที่อยู่บนเส้นทางที่ไปปราสาท แต่ห่างจากบ้านผู้คนพอสมควร ไกด์บอกเราว่า ณ ที่ตรงนี้สามารถชมวิวเทือกเขาหลังปราสาท และมองเห็นตัวปราสาทเล็กๆในเบื้องหน้าได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการเก็บภาพไปเป็นที่ระลึก ... เราลงไปกดชัตเตอร์กันอย่างสนุกสนาน เพราะมองมุมไหนๆก็สวยๆทั้งนั้น เสียดายที่ฝีมือการถ่ายมีอยู่แค่นั้น.






วิวจากจุดชมวิวก่อนถึงตัวปราสาท












มุมนี้จะเห็นปราสาทนอยชวานสไตน์อยู่ด้านหลังไกลๆ







จุดชมวิวจะอยู่ใกล้ๆกับโบสถ์นี้




เมื่อปี 2006 ผู้เขียนเคยมาที่นี่กับคณะครั้งหนึ่ง แต่สภาพวันนี้เปลี่ยนไปจากคราวที่แล้วแทบจำไม่ได้ อะไรๆดูดีขึ้นกว่าเก่าเยอะ อาจเป็นเพราะว่าปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของบาวาเรียเขาก็ได้ โดยดูได้จากปริมาณผู้คนที่เข้าเยี่ยมชมในแต่ละปี แถมต้องจองเวลามาเพื่อเข้าชมด้วย
(อ่านเรื่องเที่ยว เยอรมัน - ออสเตรี - สวิตส์ ในบล๊อก)






ถึงแล้วบริเวณทางขึ้นปราสาท







ทะเลสาบชวาน (Schwansee)




ถ้าจะตามรอยปราสาทของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ต้องเริ่มกันที่ปราสาทนิมเฟนบูร์กในเมืองมิวนิคอันเป็นที่ประสูติของพระองค์ จากนั้นจึงมาที่ปราสาทโฮเฮนชวานเกา ซึ่งพระองค์ใช้ชีวิตวัยเยาว์ ทำเลที่ตั้งของปราสาทโฮเฮนชวานเกาอยู่บริเวณทะเลสาบชวาน (Schwansee) และทะเลสาบแอลป์ (Alpsee) ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงหงส์ (หรือ Schwan ในภาษาเยอรมัน) สัตว์แห่งโชคลาภในสมัยกลางและสัตว์โปรดของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2






ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) อยู่ด้านล่าง




จุดเด่นของปราสาทโฮเฮนชวานเกาซึ่งพระเจ้าแมกซิมิเลียนที่ 2 ทรงบัญชาให้สร้างอยู่ที่ภาพวาดเรื่องราวอัศวินแห่งหงส์ Lohengrin บนผนังห้อง Schwanrittersaal ปราสาทแห่งนี้เราไม่ได้เดินขึ้นไปชมเนื่องจากเรามีน้อย จึงต้องเลือกที่จะไปชมปราสาทนอยชวานสไตน์ด้านบนกัน






เข้าคิวรอรถบัสขึ้นปราสาท







รถจะมาส่งที่ทางเดินเข้าสะพานมาเรียนท์บรู๊ค







ซ้าย: ป้ายประวัติของสะพานมาเรียนบรู๊ค ขวา: ป้ายบอกทางไปปราสาทและสะพาน







ภาพปราสาทนอยชวานสไตน์จากสะพานมาเรียนบรู๊ค



สะพานมาเรียนบรู๊ค (Marienbrucke หรือ Mary’s bridge)

เมื่อคุณไปชมปราสาทนอยชวานสไตน์ สิ่งหนึ่งที่ไม่น่าพลาดคือการไปยืนชมวิวที่สะพานมาเรียนบรู๊คครับ สะพานมาเรียนบรู๊คเป็นสะพานเหล็กสร้างข้ามโตรกเขา Pollat ที่มีหน้าผาหินสูงชัน ซึ่งพระเจ้าลุ๊ควิคที่ II ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสะพานนี้ขณะสร้างปราสาทนอยชวานสไตน์







ช่องเขาตรงนี้ได้ถูกพบในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าแมกซิมิเลียนที่-II (Maximillian-II) พระบิดาของลุ๊ควิคที่-II ผู้ซึ่งในวัยเยาว์ได้ใช้ชีวิตที่ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangua) และพระองค์ทรงชื่นชอบความงามของทิวทัศน์รอบๆปราสาท รวมไปถึงน้ำตก Pollatschlucht (Pollat Gorge) ที่อยู่เหนือปราสาทขึ้นไปเป็นอย่างมาก



ขณะที่ลุ๊ควิคที่-II สร้างปราสาทนอยชวานสไตน์อยู่นั้น พระองค์ก็ได้สร้างสะพานด้วยไม้ข้ามโตรกเขาแห่งนี้ได้วย ซึ่งต่อมาสะพานนี้ได้ถูแทนที่ด้วยสะพานเหล็กอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ในปี 1881 ลุ๊ควิคได้เขียนบรรยายว่า “the view from up above is enchanting, especially the view from the Marienbrücke of the castle, which will far outshine the Wartburg for all its acknowledged merits of location, architectural splendour and magnificent paintings”

ซึ่งน่าจะแปลความหมายได้ว่า ทิวทัศน์ด้านบนนั้นมีเสน่ห์งดงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองจากสะพานมาเรียนบรู๊คของปราสาท ซึ่งความงามนั้นได้บดบังรัศมีของปราสาทวาเบิร์ก (Warburg) ที่ได้ชื่อว่าสวยงามอยู่แล้วไปสิ้น (wicsir).






ก่อนออกมาถ่ายระยะไกลอีกซักภาพ







สายหน่อยคนมากันมากมาย







ทะเลสาบชวาน (Schwansee) จากบนเขา เราขึ้นมาจากตรงนั้น







ถึงแล้วแต่ต้องอ้อมไปด้านหน้า




ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle)

ปราสาทนอยชวานสไตน์แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1868-1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ที่ได้จากละครโอเปร่าของริชาร์ด วากเนอร์เรื่อง Lohengrin และ Tannhauser ส่วนการออกแบบตกแต่งภายในปราสาทนั้น รับผิดชอบโดย Julius Hoffmann ในปี 1880






ทางเข้าไปรอคิวเข้าชม ด้านหน้า




ปราสาทนอยชวานสไตน์ มีรูปทรงดุจปราสาทในเทพนิยาย (วอลท์ ดีสนีย์จึงนำไปเป็นต้นแบบของปราสาทซินเดอเรลล่าในดิสนีย์แลนด์) สีขาวเด่นกลางเนินเขาสูงทำให้มองเห็นได้แต่ไกล หอคอยตระหง่านภายในวิจิตรบรรจงด้วยภาพวาดฝาผนังเรื่องราวจากละครโอเปร่าของริชาร์ด วากเนอร์ เครื่องเรือนไม้แกะสลักเสลา






ภาพด้านนอกปราสาทจากด้านหน้า





ห้องบัลลังก์ (Throne Room)ได้รับแรงบันดาลใจจากบาซิลิกาแบบไบแซนไทน์ประดับประดาด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่เคลือบไปด้วยสีทอง โมเสค และโคมไฟแก้วเจียระไนขนาดใหญ่






ถ่ายภาพรอเวลา




แม้จะใช้เป็นที่ชมการแสดง แต่ห้องนี้ยังไม่เคยได้ใช้เลย (ว่าไปแล้ว พระองค์มีเวลาประทับอยู่ในปราสาทแห่งนี้เพียง 172 วัน) ขณะที่ทุกซอกมุมของปราสาทมักปรากฎรูปหงส์ที่พระองค์โปรดปราน ในภาพเขียน เครื่องเรือน แม้แต่ท่อน้ำสรงพระพักตร์








แม้ปราสาทนอยชวานสไตน์จะโด่งดังที่สุด แต่ก็ไม่ใช่หลังที่สวยงามที่สุด หากสำคัญด้วยเป็นสถานที่ที่พระองค์ประทับในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะถูกจับกุมไปยังปราสาทแบร์ก และสิ้นพระชนม์อย่างปริศนาในที่สุด

ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ถึงปีละ 1.3 ล้านคน โดยมากถึงวันละ 6,000 คนในช่วงฤดูร้อน






แบบปราสาทจำลองตรงทางออก




ปราสาทนอยชวานชไตน์มีที่ทางให้ถ่ายรูปไม่มากนัก โดยเฉพาะในปราสาทนั้นห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด ที่อนุญาตก็เป็นห้องที่ไม่สวยงามอะไร ใครต้องการถ่ายรูปปราสาทในมุมที่สวยพอใช้ได้ แนะนำให้ไปที่สะพาน Marienbrucke สะพานเหล็กข้ามโตรกผาด้านหลังของปราสาท แต่หากต้องการภาพปราสาทในมุมที่สวยสุดๆ เหมือนในโปสการ์ด ต้องถ่ายจากเคเบิลคาร์ที่นำไปสู่ยอดเขา Tegelberg (สถานีอยู่ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 2 กิโลเมตร คือถ้ามากับทัวร์หมดสิทธิขึ้นแน่ๆ)







เด็กๆกำลังรอคิวเข้าชม





พระเจ้าลุดวิกที่ 2 กษัตริย์แห่งแคว้นบาวาเรีย เป็นพระราชโอรสแห่งพระแมกซิมิเลียนที่ 2 พระองค์ทรงมีรูปโฉมงามดุจเจ้าชายในเทพนิยายหากมีอารมณ์อ่อนไหว สำรวยและทรงโปรดน้ำหอมและไวน์หวานเช่นเดียวกับลูกกวาด และต้องขึ้นครองราชย์ในวัยยังไม่ครบ 19 ชันษา กลับสนพระทัยในวรรณกรรม และการละครมากกว่าการปกครองแผ่นดิน พระองค์ทรงเบื่อหน่ายราชการหากหลงใหลในโคลงกลอน ดนตรี และในตัวริชาร์ด วากเนอร์ผู้ประพันธ์อุปรากร จนเป็นที่ครหาทั่วแผ่นดิน เนื่องจากเห็นว่าพระองค์ทรงมี






ก่อนออกจากตัวปราสาท ถ่ายอีก




ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งแนบแน่นกับวากเนอร์เกินความเป็นเพื่อน และทรงทุ่มเทเงินในท้องพระคลังให้กับงานของวากเนอร์ ซึ่งส่งผลให้เขาผลิตงานชิ้นสำคัญๆ ที่ยืนยงจนทุกวันนี้ เมื่อวากเนอร์ถูกกำจัดออกจากราชวงศ์ พระองค์เหมือนอยู่ในโลกอันเปล่าเปลี่ยว จึงหันไปทุ่มเทเวลาให้กับงานสร้างปราสาทราชวังเพื่อเติมเต็มความฝันในจินตนาการให้เป็นรูปเป็นร่าง

พระองค์ทรงห่างหายจากสังคมเมืองหลวง ไปประทับท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบในปราสาทที่ทรงเนรมิตขึ้น คือ นอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein), ลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) และแฮร์เร่มคีมเซ (Herrenchiemsee) ทั้งทรงสบายพระทัยที่จะสนทนากับชาวชนบทมากกว่าจะเสวนากับขุนนางบาวาเรียและชนชั้นกลางในเมืองหลวง







ขาเดินลงเจอรถม้า น่าจะเก็บคนละ 2 ยูโร




หากฉากสุดท้ายของพระองค์หาได้มีความสุขเช่นนิยายไม่ เมื่อมีผู้พบศพของพระองค์ในทะเลสาบใกล้ๆ กับนายแพทย์ผู้ลงความเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นบ้านั้นเอง






ภาพนี้ถ่ายตอนลงไปถึงพื้นราบแล้ว




เราเดินลงจากปราสาทมาที่พื้นราบบริเวณที่เราขึ้นรถขึ้นมา แต่มีบางคนที่เขาไม่อยากเดินลงก็สามารถนั่งรถม้าลงมาได้ โดยราคาค่าโดยสารคนละ 2 ยูโร โดยเขาจะรอจนเต็มรถคือประมาณ 10 คน (เมื่อก่อนในปี 2006 เราเคยเหมานั่งลงมาแค่ 10 ยูโรเท่านั้น)

วันนี้เราทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหารบริเวณนั้น ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของเยอรมัน และสั่งเบียร์ดำมาดื่มแก้เมื่อยทำให้มื้อเที่ยงวันนั้นมีรสชาดเพิ่มขึ้น ลืมความเค็มของขนมปังเยอรมันไปได้










เก็บบรรยากาศรอบๆร้านอาหารที่เราทานมื้อเที่ยงมาฝาก















ชนบทริมทางก่อนเข้าเขตออสเตรีย




เดินทางออกมาได้ซักพักเจอดอกอะไรก็ไม่รู้เหลืองอร่ามตามรายทาง ทำให้วัยรุ่น (ทั้งแรกรุ่นและรุ่นแรก) อยากเก็บภาพไว้เชยชม เลยขออนุญาติคนขับลงไป พอดีบริเวณ 3 แยกตรงนั้นมีร้านเล็กๆและที่จอดรถสำหรับลูกค้าอยู่ เลยถือโอกาสกันไปแอคท่าถ่ายภาพกันมา ดูแล้วก็แปลกดีเลยเอามาฝากครับ






เห็นดอกไม้สวยเลยขอรถหยุดถ่ายภาพ










อ่านภาษาไม่ออกแต่ก็เก็บมาให้ชม




เราเดินทางข้ามพรมแดนและแวะเข้าห้องน้ำกันที่ร้านลุงแมค (แมคโดนัล) ก่อนที่จะเข้าสู่ดินแดนออสเตรีย ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมันบนเทือกเขาแอลป์ ตอนนั้นเป็นช่วงบ่าย รถบนออโต้บานขาเข้าซาร์ลบวกติดมาก (นึกว่ามีแต่เมืองไทย) เลยทำให้เราเข้าถึงร้านอาหารเย็นช้าไปนิดหนึ่ง... บล๊อกต่อไปจะพาท่านไปชมความสวนยงามของออสเตรีย ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายที่เราทัวร์ยุโรปฝั่งตะวันออกในครั้งนี้ ขอบคุณที่ตามอ่านครับ






ลาด้วยภาพนี้ครับ







_____________








Create Date : 28 กรกฎาคม 2557
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2561 17:57:22 น. 15 comments
Counter : 15314 Pageviews.

 
วนารักษ์ Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
ดูภาพ เพลิน สวย งดงาม ฟังดนตรีประกอบ โห...สุดยอดจริง ๆ เลยรีบ
โหวตให้ครับ

สีเสื้อผ้าสดใสดีจัง อยากให้ไทยมีอากาศเย็นแบบนี้บ้าง จะได้ใส่เสื้อสีสดใส
กันบ้างครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 28 กรกฎาคม 2557 เวลา:10:48:19 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่า
คุณขึ้นทั้งทางประสาท กับสะพานเลย สุดยอดมาก
วิวข้างประสาทนั่น วันที่ไปฟ้าเน่าสุด
ฟ้าดีก็มีชัยไปแล้วเนาะ


โดย: schnuggy วันที่: 28 กรกฎาคม 2557 เวลา:14:50:30 น.  

 
ช่างถ่ายภาพได้งดงามจริงๆ
งามจนน่าอยากทำโปสการ์ด แจก และขายน่ะสิ
คงเพราะมองธรรมชาติงาม จึงถ่ายภาพออกมาได้งดงามปานนี้


โดย: นารา IP: 101.108.55.109 วันที่: 28 กรกฎาคม 2557 เวลา:15:40:45 น.  

 
เห็นความงามของปราสาทแล้วไม่แปลกใจเลยค่ะ
ว่าทำไมปราสาทแห่งนี้ถึงมีคนมาเยี่ยมชมมากมาย
วันละประมาณ 6000 คนไม่ใช่น้อยเลยนะคะ
น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นภาพภายในตัวปราสาท
แต่แค่เห็นทิวทัศน์ช่วงการเดินทางและรอบๆตัวปราสาท
ก็ทำเอาประทับใจจนต้องโหวตแล้วค่ะ ^_^

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
วนารักษ์ Dharma Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog




โดย: ฝากเธอ วันที่: 28 กรกฎาคม 2557 เวลา:21:07:56 น.  

 
ไม่เคยไปถึงปราสาทค่ะ ไปแค่สะพาน
แต่มีแต่พวกเรา 8 คน ตอนนี้คนเที่ยวล้านแปด


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 29 กรกฎาคม 2557 เวลา:16:31:57 น.  

 
ภาพสวยเช่นเคยค่ะ คุณ wic

ภาพแนวนอน ใหญ่โต เต็มตา อิ่มวิวมากค่ะ

นักท่องเที่ยวปีละ 1.3 ล้าน วันละ 6 พัน ในช่วงหน้าร้อน คงเป็นช่วงไฮมังคะ ป๊าด....




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 30 กรกฎาคม 2557 เวลา:17:47:06 น.  

 


โดย: ไร้แสงย่อมไร้เงา วันที่: 30 กรกฎาคม 2557 เวลา:20:56:09 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ wic

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Book Blog ดู Blog
สมาชิกหมายเลข 750163 Food Blog ดู Blog
wicsir Photo Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 31 กรกฎาคม 2557 เวลา:6:27:24 น.  

 

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 สิงหาคม 2557 เวลา:11:46:30 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
เที่ยวหรูดูดีมีระดับอย่างกับไฮโซเลยเชียวหละคุณวิก


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
wicsir Travel Blog ดู Blog



โดย: หอมกร วันที่: 1 สิงหาคม 2557 เวลา:13:50:34 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่า ขอให้พรดีๆกลับสู่ผู้มอบให้เช่นกันนะคะ
ปราสาทนี้เป็นเหมือนปราสาทในเทพนิยายจริงๆนะคะ บรรยากาศโดยรอบก็สวยงามชวนฝันมากๆ ถ้ามีโอกาสได้ไปชมใกล้ๆสักครั้งคงจะดีมากเลย


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:17:53:41 น.  

 
วันนี้แวะมาส่งกำลังใจค่า

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: schnuggy วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:17:44:19 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Food Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog


โดย: อุ้มสี วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:23:53:19 น.  

 
ขออนุญาต save ภาพ ได้ไหมคะ ภาพที่เป็นรถอยู่บนถนนสวยๆ หนะค่ะ


โดย: cowboystoon IP: 171.96.170.159 วันที่: 6 กันยายน 2558 เวลา:17:14:37 น.  

 
cowboystoon ... ได้ครับ


โดย: wicsir วันที่: 7 กันยายน 2558 เวลา:18:17:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2557
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.