....OUR FAMILY'S JOURNEY....
เที่ยวสวิส day 5 .... ยอดเขาทิตลิส และ ริกิ











บล๊อกที่แล้วเราพาท่านไปชมเมืองลูเซิร์นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเมืองที่ว่าสวยงามมากที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์มานะครับ มาบล๊อกนี้เราก็ยังพักที่เมืองลูเซิร์นต่อ แต่จะพาคุณๆออกไปเที่ยวด้านนอกเมืองบ้าง โดยมีเป้าหมายที่ยอดเขาทิตลิส (Titlis) ครับ 



สถานีรถไฟ Engelberg


Mount Titlis ตั้งอยู่ที่เมือง Engelberg ต้องนั่งรถไฟออกไป ซึ่งก็มีรถไฟให้เราได้โดยสารออกไปทุกๆนาทีที่ 6 และนาทีที่ 35 ของทุกๆชั่วโมง และใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาทีเท่านั้น สะดวกมากๆครับ ... วันนี้เราได้รถไฟขบวน IR (Inter Region) เป็นขบวน Luzern - Engelberg Express นั่งสบายๆ ชมวิวข้างทาง ผ่านทุ่งหญ้าที่ยังเขียวขจี รอเจ้าของฟาร์มมาตัดเพื่อเก็บเป็นอาหารปศุสัตว์ในหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง .... บ้านเรือนชาวชาวฟร์าม (วัว และแกะ) จะอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ปลูกบ้านทรงสวิสที่เรียกว่าชาเล่ท์ สังเกตุดูทั่วไปจะมี 3 ชั้นครับ หลังคาเป็นจั่วแหลมเพื่อให้หิมะไหลลงได้สะดวกครับ





หน้าสถานีรถไฟ Engelberg

เมืองเอนเกลเบิร์ก เป็นอีกหนึ่งเมืองรีสอร์ทชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ที่น่าหาโอกาสมาเยือนสักครั้ง โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้ๆกับ "ภูเขาทิตลีส" (Mount Titlis) ภูเขาที่มียอดสูงจากระดับน้ำทะเลหนึ่งกว่า 10,000 ฟุต หรือ 3,020 เมตร ปัจจุบันเมืองเอนเกลเบิร์กได้กลายเป็นอีกหนึ่งอัลไพน์รีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ .... เอนเกลเบิร์กมีพื้นที่ประมาณ 41 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 4100 คน ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 1013 เมตร แต่มีรีสอร์ทและโรงแรมหรูๆมากมาย





 นอกจากนี้แล้วเมืองเอนเกลเบิร์กยังเป็นเสมือนแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ทั้งในช่วงฤดูร้อนทั้งสองและฤดู​​หนาว โดยเมืองใหญ่ๆที่อยู่ใกล้เมืองเอนเกลเบิร์กคือเมืองลูเซิร์นและเมืองซูริค สำหรับบรรยากาศภายในเมืองนั้นค่อนข้างเงียบสงบ โดยในช่วงฤดู​​ร้อนจะมีกิจกรรมท่องเที่ยวสำคัญๆได้แก่ การเดินทางไกล, ขี่ม้า และขี่จักรยานภูเขา ส่วนในช่วงฤดูหนาวจะเป็นการเล่นสกี การลากเลื่อนหิมะ และอื่นๆ 



ข้ามคลองไปสถานีกระเช้า (Cable car)

เมื่อถึงสถานีรถไฟเอนเกลเบิร์ก (ชื่อเมืองมาจากคำว่า Angel ซึ่งหมายถึงนางฟ้า) จะมีป้ายบอกว่าไปสถานี Cable car โดยการเดิน 10 นาที...แต่หนาวมากๆ แถมฝนอีกต่างหาก ... รีบๆเดินผ่านคลองไปตามป้าย แล้วก็ถึงลานจอดรถที่ค่อนข้างใหญ่ ถ่ายภาพด้านนอกได้ 2-3 ภาพก็รีบเข้าไปในสถานี



สถานีกระเช้าขึ้นยอดเขาทิตลิส

การขึ้นสู่ยอดทิตลิส ต้องซื้อตั๋วกระเช้าไฟฟ้า หรือ Cable car นะครับ ราคาไป-กลับ คนละ 96 สวิสแฟรงค์ (เขาออกเสียงแฟรงค์) แต่เรามี Swiss Travel Pass เลยได้ลดครึ่งหนึ่งครับ .... ส่วนเวลาที่เขาเปิดบริการคือ 8.30 น เที่ยวสุดท้าย 15.40 น. ส่วนขาลงจากยอดเขาเที่ยวสุดท้าย 16.50 น. 



แผนที่เส้นทางขึ้นเขา



มีเอกสารแจกรวมทั้งภาษาไทยด้วย


ซื้อบัตรเรียบร้อยก็เอาบัตรไปสแกนที่เหล็กกั้นทางเข้า แล้วเข้าไปเลือกกระเช้าที่ว่างๆ ตัวกระเช้าจะมีหมายเลขและธงชาติในหลายๆประเทศด้วย รวมทั้งของไทย .... เอกสารที่แนะนำนักท่องเที่ยวแจกฟรี มีหลายภาษาเช่นกัน หยิบเอาได้ที่สถานีกระเช้าด้านล่าง ... ประมาณปลายๆเดิือน พ.ย หรือต้น ธ.ค. เขาจะมีช่วงหยุดเพื่อซ่อมบำรุงประมาณ 2 อาทิตย์นะครับ (ตรวจเช็ค Schedule Maintenance ก่อนไปครับ) สอบถามได้ที่ Information Center ทั่วไปได้ครับ



ผ่านช่องสแกนตั๋วก่อนขึ้นกระเช้า


ขึ้นกระเช้าไปที่ระดับความสูง 1800 เมตร แล้วเปลี่ยนเป็นกระเช้าหมุนรอบทิศทาง (Titlis Rotair) ถ้าสภาพอากาศเปิดเราจะเห็นวิวสวยงาม แต่วันนี้ทั้งเขาขมุกขมัวไปด้วยฝนและหิมะ หนาวก็หนาว ไม่เห็นอะไรเลย 




มองกลับลงมาที่เมืองเอนเกลเบอร์ก


เราถึงสถานีบนสุดในชั้นที่ 1 ก็ออกไปเดินชมของฝาก เพื่อวอร์มอัพร่างกานก่อนไปเดินที่ลานหิมะ .... ขาดไม่ได้คือถ้ำน้ำแข็งหรือ Gracier Cave เดินในนั้นไม่หนาวมากนะเพราะไม่มีลม .... เดินจนจบเส้นทาง แล้วออกไปหาอาหารทานกัน ราคาก็ต่างจากด้านล่างไม่มาก แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ดีสำหรับคนไทยเรา



เข้าชมนิทัศการที่ถ้ำน้ำแข็งก่อน






Gracier Cave

ขึ้นลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 5 สู่ทางออกไปเดินในลานหิมะ ออกมาจะเจอป้าย Mount Titlis Switzerland 3020 M, 10000 feet ... เขากั้นเชือกไว้ตามทางลงเขาหรือหน้าผาไว้ เว้นช่องให้พวกนักสกีได้เล่น downhill ลงไปด้วย เลยลานไปจะเห็นสะพานทางเขาของกระเช้านักสกีแบบเปิดขาโล่งๆ ติดป้าย Ice Flyer 3040 เมตร ด้านข้างจะเป็นสะพานเดินบนหน้าผ้า และหอชมวิว (แต่หอปิด)



ออกไปสู่ลานหิมะบนความสูง 3020 เมตร























กระเช้าพวกนักสกี




เดินบนสะพานแขวนท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ -7 องศา







ถ่ายกับชุดชาวสวิส

ประมาณบ่ายโมงครึ่งเราลงจากเขาทิตลิสเพื่อเดินทางกลับลูเซิร์น ... ถึงลูเซิร์นยังไม่มืด เอาแผนที่ออกมาดูว่าพอจะไปไหนได้อีกบ้าง ... ที่อยากไปที่สุดตอนนี้คือเขาริกิ ... ไม่ยากไปกันเลย


💘💘💘💘






รถไฟขาว-ฟ้า ขึ้นสู่ยอดเขา Rigi

เพราะไไปกัน 3 คน พ่อ-แม่-ลูก จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจเดินทางมากนัก ชนะ 2 ใน 3 เป็นอันว่าไป เรานั่งรถไฟสายที่ออกเร็วที่สุดในเวลานั้นไปสู่สถานี Arth-Goldau ซึงต้องใช้เวลาประมาณ 28 นาทีจากลูเซิร์น แล้วต้องไปต่อรถไฟไต่เขา หรือ Cogwheel ขึ้นสู่ยอด Rigi Kulm อีก 44 นาที

รถไฟที่ขึ้นสู่ยอด Rugi Kulm มีอยู่ 2 ทางนะครับ คือ 

1. ขึ้นไปจากสถานี Arth Goldau ไป ใช้เวลา 44 นาที  และ
2. ขึ้นจาก Vitznau ไป ใช้เวลา 32 นาที (สถานีนี้ต้องมาทางเรือจากลูเซิร์น ซึ่งเรือจะใช้เวลา 51 นาที)

เราเลือกทางที่ 1 เพราะต้องทำเวลา และจะกลับทางที่ 2 



เบาะนั่งแบบคลาสสิค




เมือง Ath-Goldau ด้านล่าง











ผ่านเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขึ้นไป







สถานีสูงสุด Rigi-Kulm ระดับ 1797 เมตร


ขึ้นสู่ยอดริกิได้ตามเวลาคือถึงประมาณ 15.50 น. แต่ไปเจออากาศปิดเข้า พายุหิมากำลังมาเลยทีเดียว เลยตัดสินใจ ลงอีกด้านไปที่ Vitznau เพื่อไปต่อเรือกลับลูเซิร์น...รถไฟขาลงไปที่ Vitznau จะเป็นสีขาวแดง



ขากลับลงมาอีกด้าน



สถานีวิทซ์เนา (Vitznau) หน้าท่าเรือ


ลงมาถึงสถานีวิทซ์เนาก็มืดแล้วประมาณ 4 โมง 40 นาที ... รีบเดินตามฝรั่งไปรอเรือที่ท่า ... ถ้าเรามีบัตร Swiss Travel Pass ไม่ต้องจ่ายค่าเรือครับ ฟรี แต่เวลาขึ้นต้องดูชั้นด้วย ชั้นบที่เห็นวิวดีๆจะเป็น 1 class นะครับ ส่วนเราจองชั้น 2 ไปก็ต้องนั่งด้านล่าง ซึ่งคนก็เยอะพอควร ... แต่มืดๆแบบนี้จะไปมองเห็นอะไร นอกจากแสงสีตามชายฝั่ง




รอเรือที่ท่าเรือวิทซ์เนา



เรือล่องทะเลสาบ


บนเรือล่องทะเลสาบ จะจอดตามท่าเรือต่างๆเช่นเดียวกับรถ บนเรือก็เหมือนเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเรา มีพวกเครื่องดื่มขาย บางกรุ๊บเขไปกันหลายคน เขาสำรองที่นั่งและจองอาหารไปด้วยก็มี เรือแล่นสู่ลูเซิร์นใช้เวลาประมาณ 50 กว่านาทีก็เข้าเทียบท่าที่หน้าสถานีรถไฟที่ด้านหน้าและสะพานข้ามแม่น้ำรอยส์ที่ประดับประดาด้วยหลอดไฟแสงสี เพราะใกล้วันเทศกาลคริตส์มาสและปีใหม่...ลงเรือได้ก็ไปนั่งรถเมล์กลับที่พัก เอาแรงไว้ไปลุยต่อที่ Zermatt ในวันรุ่งขึ้น.



การเดินทางท่องเที่ยวในหลายๆที่ได้ทั้งประสบการณ์ ความรู้ ความคิด และความแตกต่าง ที่ต่างกันออกไป เช่นไปในประเทศที่เจริญหรือพัฒนาแล้ว เราก็จะได้เห็นวิถีชีวิตที่ผู้คนเคารพกฏกติกา ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น มองคนอื่นแบบเข้าใจและให้ความสำคัญ ... แต่ในขณะเดียวกัน ไปบางประเทศก็เจอผู้คนที่ดิ้นรน เห็นแก่ได้ ไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร แม้มีกฏก็ข้ามกฏนั้นไป เมื่อมีโอกาสก็มักไขว่คว้าหาประโยชน์ส่วนตนตลอด ..... โลกแม้จะใบเดียวกัน แต่ความสำคัญของชีวิตต่างกันราวฟ้ากะดิน  อยากเห็นโลกทั้งใบเป็นดินแดนที่สงบสุข ผู้คนไม่แบ่งแยก รักและเคารพกฏกติกาที่ธรรมชาติได้สร้างไว้ เข้าใจซึ่งกันและกันตลอดไป.



💘💘ขอบคุณที่ติดตามครับ💘💘




ลาด้วยภาพ Water Tower @ Chapel Bridge @ Luzern



_________________







Create Date : 28 มกราคม 2561
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2561 17:20:05 น. 8 comments
Counter : 2750 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณJinnyTent, คุณkae+aoe, คุณชมพร


 
สวยมากๆ ขาวไปหมด


โดย: kae+aoe วันที่: 31 มกราคม 2561 เวลา:13:51:28 น.  

 
เวลาได้เดินทางไปเที่ยว สุขใจทุกครั้งเลยนะคะ


โดย: kae+aoe วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:16:11:31 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอ๊อด
หลายภาพชุดนี้ ผ่านตากจากเฟชบุ๊คบ้างแล้ว
ตอนนั้นเห็นแล้วกรี๊ดด หิมะ พอไล่ดูรูปไป
ตาย ๆ ติดลบเยอะมาก จินไปแข็งตายแน่ 5555

แต่ว่าถ้ำน้ำแข็งนั่น อากาศเย็นแค่ไหน
ก็ยอมเน้อ อยากไปเดิน อยากเห็นของจริง
น้ำแข็งไม่ละลาย ทำได้ยังไงเนอะ

เห็นคุณพี่ผู้หญิงยืนถ่ายรูปกับสาวสวิส
เนียนมากค่ะ มองผ่าน ๆ เออ ๆ คล้ายอยู่ 5555

สะพานสวยค่ะ น่าไปเดินที่สุด
แต่ต้องไม่ใช่ตอนติดลบ 7 องศานะคะ 555
ดีจริงที่มีโปรชัวส์ภาษาไทยด้วย
แสดงว่าคนไทยไปเที่ยวที่นี่เยอะแน่ ๆ เลย

เป็นทริปที่น่าอิจฉาที่สุดเลยค่ะ
จากพม่า ก็ไปสวิตฯ เลย ภูมิประเทศ สภาพอากาศ
และก็การกินอยู่แตกต่างกันมาก คุณอ๊อดปรับตัวยังไงนิ


โดย: JinnyTent วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:19:13:59 น.  

 
วันนี้มาโหวตให้ค่ะ อยากไปยืนท่ามกลางหิมะจังเลย


โดย: kae+aoe วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:13:06:28 น.  

 
ตามมาเที่บวฟื้นความทรงจำ เคยไปเที่ยวนานมาแล้ว

มาแปะ ให้กับคุณ เรียบร้อยแล้วนะคะ

โหวตค่ะ


โดย: ชมพร วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:11:40:57 น.  

 
คุณได้ทำการแปะ
ให้กับคุณ wicsir เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 9 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ


โดย: นกสีเทา วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:23:14:14 น.  

 
พวกข้าวของต่างๆ เช่นชุดสำรอง ต้องเตรียมไปมะคะ
และ เก็บไว้ที่ไไหนหรอคะ เค้ามีล็อคเกอร์ให้ฝากมะคะ


โดย: Jiab IP: 49.228.103.36 วันที่: 7 ธันวาคม 2565 เวลา:6:42:50 น.  

 
Khun Jiab
เที่ยวสวิสโดยนั่งรถไฟเที่ยว เราจะเช่าที่พักในเมืองที่เป็นชุมทาง
ส่วนเวลาไปสถานที่เที่ยวที่เป็น day trip เราจะใส่เป้ไปสำรองนิดหน่อย
ตามที่คาดว่าจะใช้ .... หรือถ้าลากกระเป๋าไป ก็ฝากตาม Locker สถานีได้ครับ.


โดย: wicsir วันที่: 12 ธันวาคม 2565 เวลา:17:36:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
มกราคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 มกราคม 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.