พาเที่ยวยุโรปตะวันออกวันนี้มาถึงกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเชก ซึ่งนำเสนอเป็นตอนที่ 3 แล้วนะครับ วันนี้เรายังคงอยู่ที่ปราสาทปรากที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถูกใช้งานต่างกรรม ต่างวาระมาจนถึงปัจจุบัน

วันนี้เราจะพาท่านเข้าไปชมด้านในปราสาท ซึ่งเป็นบางส่วน แล้วทะลุออกไปสู่ย่านเมืองเก่า และจะไปทะลุออกสะพานชาร์ลครับ

ตึกหนึ่งในนี้ใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี

ว่ากันว่าปราสาทปรากนี้มีคนค้นพบเมื่อปี คศ.880 โน่นแล้ว โดยตัวปราสาทเองเป็นเสมือนกับเมืองน้อยๆ เมืองหนึ่ง และตามที่หนังสือกินเนสส์ (Guinness Book of World Records) ได้บันทึกไว้ว่า เป็นปราสาทที่มีการเชื่อมโยงกัน ระหว่างส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ถึง 70,000 ตารางเมตร (437.5 ไร่) และยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้

น้ำพุใหญ่ตรงทางเข้าสู่วิหาร St. Vitus cathedral

สิ่งที่ดึงดูดและสะดุดตาสำคัญๆ ต่อนักท่องเที่ยวคือ "มหาวิหารเซนต์วิตัส แคทเทอร์ดรอล" (St. Vitus cathedral) มหาวิหารหลังนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยศัตวรรษที่ 14 เป็นการสร้าง แบบสถาปัตยกรรมโกธีก (Gothic) ที่ได้ตกแต่งประดับประดาไปด้วยหัวสัตว์ประหลาดมากมายที่ทำด้วยหินตั้งอยู่บนหลังคาและปากท่อรางน้ำฝน

ยอดวิหาร St. Vitus cathedral

วิหาร St. Vitus cathedral จากด้านข้าง

ด้านใน

ถ่ายจากด้านนอก

จากระเบียงเขาด้านนอกปราสาทมองเห็นสะพานชาร์ลส์ด้านหน้า

จากตัวปราสาทเราเดินลงจากเขา (ที่ตั้งปราสาท) ลงไปตามทางที่ลดหลั่นกันเป็นขั้นๆ ลงสู่พื้นราบ ซึ่งทางนั้นไม่กว้างนัก จึงมีผู้คนเบียดเสียดกันมาก ช่วงนี้ต้องระวังเรื่องของมีค่า เช่นกระเป๋าสะตังค์ อุปกรณ์กล้อง (ซึ่งมักจะสะพายไว้ด้านหลัง) เพราะที่ปรากขึ้นชื่อเรื่องพวกนี้มากครับ ซึ่งทางไกด์ได้แนะนำเอาไว้

เดินลงจากปราสาทเข้าตัวเมือง

ระหว่างทางไปสะพานชาร์ลส์

อาคารบ้านเรือนเขาไม่สร้างสูงมากนัก ประมาณว่าซัก 6 ชั้นเป็นอย่างมาก สีที่ใช้สำหรับกระเบื้องมุงหลังคาส่วนมากจะเป็นสีแดง อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าเพราะอะไร เขาถึงชอบสีนี้นัก เห็นเกือบทุกเมืองในเชกครับ ... ทางที่เราผ่านจะเห็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่มากมาย ไม่ว่าโบถส์วิหาร หรืออาคารสีสดๆ

สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge)

สะพานชาร์ลส์ ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือแห่งนี้ทอดตัวข้ามแม่น้ำวัลตาวา (Vltava River) ในกรุงปราก และสะพานได้เชื่อมต่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างยุโรปตะวันออกและตะวันตก และทำให้กรุงปรากเป็นเมืองสำคัญในฐานะเมืองแห่งเส้นทางการค้าขาย ตัวสะพานดั้งเดิมเคยถูกขนานนามว่า สะพานหิน หรือ สะพานแห่งกรุงปราก แต่ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “สะพานชาร์ลส์” “Charles Bridge” เมื่อปี ค.ศ. 1870

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ทรงโปรดให้สถาปนิกและช่างก่อสร้างชื่อ ปีเตอร์ พาร์เลอร์ (Peter Parler) ให้สร้างสะพานที่ทันสมัยในยุคนั้น ในความคิดเริ่มแรกคือการสร้างแล้วสามารถที่จะใช้ประโยขน์ในการแข่งขันการต่อสู้บนหลังม้า และหลายปีผ่านไปการตกแต่งสะพานแห่งนี้มีเพียงแค่กางเขนที่มีรูปหุ่นพระเยซูถูกตรึงอยู่เท่านั้นเอง หลังจากนั้นความปรารถนาของชาวคาทอลิคที่มีต่อการประดับประดาตกแต่งสะพานให้ดูสวยงามขึ้น ก็ได้ลงเอยกันด้วยการจัดสร้างรูปปั้นเพิ่มเติม 30 รูป และเริ่มสร้างตั้งแต่ปี (ค.ศ.1600 ถึงปี 1800)

บนสะพานชาร์ลส์

ตัวสะพานมีความยาวทั้งสิ้น 516 เมตร ประกอบด้วยตอม่อ 16 ต้น และหอสะพานสามแห่ง หนึ่งในจำนวนหอสะพานคือหอสะพานเมืองเก่า (Old Town Bridge Tower) ที่ได้รับการพิจารณายกย่องให้เป็นหอสะพานที่สวยที่สุดในยุโรป เป็นเพราะการตกแต่งผลงานการปั้นแกะสลักหรือรูปหล่อที่สวยงามสมบูรณ์แบบ หอสะพานนี้ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการชมทิวทัศน์จากดาดฟ้าของหอคอยสะพานเพื่อชื่นชมกับสุดยอดของแสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าด้วย

ข้างสะพาน

ที่ถ่ายภาพยอดนิยมบนสะพานก็คือตามรูปปั้นเก่าๆ ที่มีอยู่หลายที่บนสะพานนั้นล่ะครับ ใครมีเวลาหน่อยก็เข้าคิวรอกันไป เพราะอยากได้ภาพที่ไม่มีคนอื่นมาแจมด้วย ถ้าใครอยากได้ภาพแบบนั้น ก็เข้าไปอาศัยคนที่เขากำลังแอ๊คชั่นถ่ายอยู่นั่นแหละตั้งกล้อง วัดแสง พอถึงคิวเราก็กดแชะได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาก อย่าลืมนะครับบนนั้นคนเยอะมากๆ เลยช้าไม่ได้

มหาวิหารเซนต์วิตัส แคทเทอร์ดรอล และปราสาทปรากมองจากสะพาน Charles Bridge

ริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวา (Vltava River)

วิวแม่น้ำวัลตาวา

ถ่ายผ่านสะพานไปที่ปราสาท

บนสะพานอีกด้าน

ริมฝั่งแม่น้ำอีกด้านของสะพาน

เราใช้เวลาเดินผ่านสะพานที่มีผู้คนคับคั่งในตอนสายของวัน อากาศค่อนข้างหนาว ผู้คนมากมายบนสะพาน ทำให้เหมือนกับว่าเขามีงานฉลองอะไรซักอย่าง ซึ่งจริงๆแล้วคือผู้คนแห่มาชมบรรยกาศและเก็บภาพกันบนนี้ตามปกติต่างหาก ....

ภาพเรือที่ล่องลอยในสายน้ำของแม่น้ำวัลตาวามีให้เห็นเป็นระยะๆ เราใช้เวลาพอสมควรบนสะพานแห่งนี้ ก่อนที่จะเดินผ่านเข้าสู่ย่านจตุรัสกลางเมืองปราก โดยมีเป้าหมายว่าจะไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารจีน และช้อปปิ้งในบริเวณนั้นในตอนบ่าย...วันนี้ใส่ภาพไว้มาก ขอจบตอนแค่นี้ละกันครับ ไว้ชมภาพจากปรากในตอนต่อไป ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของเมืองนี้แล้ว ขอบคุณที่ตามอ่านครับ

ลาด้วยภาพนี้ครับ